|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
หนุ่มอัฟกัน
อีกกลุ่มที่เข้าไปนั่งคุยด้วย ก็เป็นกลุ่มมาจากอัฟกานิสถาน กลุ่มนี้จะสนิทด้วยมากหน่อย เพราะว่าเรียนสอนกันหลายสัปดาห์แล้ว และมีกิจกรรมร่วมกันหลายอย่าง สนิทพอจะถามไถ่เรื่องราวได้มากหน่อย
ช่วงแรกๆ ก็ให้ไวยกรณ์หนักๆ ไป เพราะเห็นว่ากลุ่มนี้พูดได้ค่อนข้างดี แต่ขัดตรงที่ต้องเพิ่มศัพท์ให้มากขึ้น กลุ่มนี้มีหลักๆ 4 คนที่มาที่โต๊ะทุกวันเสาร์และอีก 3-5 คนผลัดกันไป-มา เพราะว่าบางคนก็มีกิจกรรมส่วนตัว ที่น่าสนใจคือกลุ่มนี้จะชอบเล่นกีฬา เช่นฟุตบอล เทควันโด มวยไทย และวอลเล่ยบอล เล่าว่าไปตามค่ายหรือคอร์สต่างๆ ทุกสัปดาห์
สี่คนหลักๆ ที่มา ส่วนใหญ่จะมาจาก Ghazni และพูดเปอร์เซียนหรือฟาร์สี บางคนมาจาก Kunduz, Badakhshan ซึ่งพูดอีก dialect แต่เข้าใจฟาร์สีดี ทุกคนรู้ภาษาอังกฤษดีใช้ได้ คนหนึ่งเป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์ จบจากมหาวิทยาลัยใน Kabul อีกคนเรียนเศรษฐศาสตร์ แต่ออกมาเสียก่อน อีกสองคนเป็นอาชีพรับจ้างทั่วไป
ผู้อพยพจากอัฟกานิสถาน จะมีที่มาคล้ายๆ กันคือเส้นทางไปอิหร่าน ตุรกี กรีซ มาซิโดเนีย เซอเบียร์ ฮังการี ออสเตรีย คนหนึ่งเล่าว่าจ่ายค่านั่งเรือยาง (ที่เห็นล่มๆ ในข่าวนั่นแหละ) 500 ยูโรเพื่อข้ามไปเอเธนส์ แล้วอีกที่คือมาซิโดเนียไปเซอเบียร์โดยรถโดยสาร ค่าเดินทาง 70 ยูโร บอกได้ว่างานนี้มีคนร่ำรวยจากกิจกรรมเศร้านี้ พอมาถึงเวียนนา ตำรวจถามว่าจะไปไหน แล้วก็จับคนแยกกลุ่มฝั่งเยอรมันหรือสวิตเซอแลนด์ แกก็บอกไปว่าสวิตเซอแลนด์ รออีกวันก็ได้ตั๋วรถไฟ พอได้ตั๋วก็ขึ้นรถไฟจากเวียนนามาที่ St.Gallen ที่นี่ก็เจอกับ immigration ของสวิตเซอแลนด์แล้วก็ทำการลงทะเบียนแล้วส่งตัวไปตามศูนย์ผู้อพยพต่างๆ ย้ายศูนย์อพยพประมาณ 2 ครั้ง และจนมาถึงที่นี่ แต่อีกไม่กี่เดือนก็คงต้องย้ายอีก เพราะโรงพยาบาลจะทุบทิ้งสร้างใหม่ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะถูกย้ายไปไหน หรือเมื่อไรต้องไป
คนที่เล่าเส้นทางนี้ชื่อ อาลี Ali คนที่เรียนไม่จบเศรษฐศาสตร์น่ะแหละ แกบอกว่าเส้นทางเดินเท้าในอิหร่านจะน่ากลัวที่สุด เพราะถ้าทหารเจอก็จะยิงทันที ข้ามเรือยางมาถึงฝั่งแล้วจะลำบากแต่ไม่ถึงกับตาย คือที่หนีมานี่คือกลัวตายเพราะพวกตาลีบันจะเหี้ยมมาก อาลีเล่าว่าที่หมู่บ้านจะมีคนถูกทำร้ายทุกสัปดาห์ อาลีเลยหนีเพราะไม่อยากตาย ฟังๆ ดูแกไม่ชอบพวก Pashtun (ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่) บอกว่าพวกนี้ขี้เกียจและคลั่งศาสนา อาลีทิ้งแม่กับน้องสาวไว้กับลุงๆ ปัจจุบันนี้ติดต่อกับครอบครัวด้วย Viber อาลีไม่เล่น Instagram แต่มี Facebook แต่ไม่ค่อยได้อัพเดท
อาลีอยากได้ใบอนุญาตอยู่ที่สวิตเซอแลนด์และอยากทำงานมีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ตอนนี้แกก็อยากหางานทำแต่หาไม่ได้ ใน Kanton ที่อยู่นี่ คนอพยพจะได้รับ Permit N และสามารถทำงานได้ แต่ปัญหาคือหางานทำไม่ได้ ลูกชายเคยไปถามที่ร้านซ่อมจักรยานว่าจะรับคนทำงานไหม แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ ตอนนี้แกก็อยากได้ประกาศนียบัตรรับรองภาษาเพื่อจะไปหางานทำและเรียนต่อ ที่สวิตเซอแลนด์จะไม่เหมือนกับในสหรัฐอเมริกาหรือประเทศไทย (ใครจักใคร่ค้าช้าง ค้า ใครจักใคร่ค้าม้า ค้า) คนจะทำงานก็ต้องมีหลักฐานการศึกษาที่นี่จะทำเบเกอรี่ก็ต้องมีใบรับรองหรือผ่านฝึกงาน ปานนั้น แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ก็แล้วแต่ว่าจะได้รับใบอนุญาตให้อยู่ในประเทศหรือไม่
Create Date : 04 มิถุนายน 2559 |
|
1 comments |
Last Update : 4 มิถุนายน 2559 14:14:51 น. |
Counter : 1212 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|
อ่านแล้วได้รู้อะไรเยอะขึ้น
อยู่เมืองไทย แต่ชอบอ่านเรื่องรอบโลก