Group Blog
 
 
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
5 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
>> TWSSG >> รวบรวมความคิดเห็นจาก Pantip.com : 6




เครดิตตามรูปเลยนะจ๊ะ



=== จากกระทู้ A6613009 ===


!!!***ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์***!!!TheLegend>>> TWSSG ตอน เปิดตัวซอโร เจ้าป้อมกวอนมี{แตกประเด็นจาก A6597582}


Create Date : 05 มิถุนายน 2551
Last Update : 13 กันยายน 2551 13:15:31 น. 18 comments
Counter : 1196 Pageviews.

 
ความคิดเห็นที่ 3

From : echoficy [16 พฤษภาคม 2551 09:41]
ขอบคุณที่ช่วยตอบคำถามเรื่องซอโรกับจูมูจีนะค่ะ (^_/l\\_^)
อ๋อ แล้วซูจีนีล่ะคะ ทัมต๊อกจะรู้ว่าเป็นผู้พิทักษ์ไหม?
ขอบคุณสำหรับคำตอบด้วยนะคะ

-----------------------------------------------------------

คุณดวงไปเจอคำถามนี้มา เลยมาถามต่อค่ะ


-----> เท่าที่พิ้งค์จำได้ แต่ไม่แน่ใจนะคะ ทัมด็อกน่าจะรู้ค่ะ เพราะตอนซูจีนีหายไปเนี่ย ฮยอนโกบอกถึงสาเหตุที่ทำให้ซูจีนีต้องไปให้ทัมด็อกรู้ คือประมาณว่าบอกทัมด็อกว่าซูจีนีมีวี่แวว --โอกาสที่จะเป็นวิหคเพลิงทมิฬ อ่ะค่ะ ซูจีนีถึงต้องไปเพื่อความสงบสุขของทุกคน----บอกขนาดนี้ทัมด็อกน่าจะ get นะคะ ว่าซูจีนีเป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์


-----> คุยมาถึงตอนนี้แล้วนึกออกอีกอย่างคือครั้งแรกที่ดวงจิตหงส์ไฟ (สัญลักษณ์วิหคเพลิงนั่นแหล่ะ) เปล่งประกายออกมาก็คือตอนที่อยู่ในลานตีคลีแล้วทัมด็อกกับซูจีนีเดินผ่าน แดจังโรที่แฝงตัวอยู่ตรงที่นั่งคนดู

ดวงจิตหงส์ไฟ จะเปล่งประกายได้ด้วยความรักที่ผู้พิทักษ์มีต่อราชาจูชิน ดังนั้นซูจินีอาจจะเริ่มปิ๊งทัมด็อกตั้งแต่ตอนนั้นแล้วก็ได้ แต่แค่เริ่มๆ ดวงจิตเลยเปล่งประกายจิ๊ดจิ๊ด

แต่ตอนที่คีฮาคิดถึงทัมด็อกเนี่ย เป็นความรักที่แรงกล้ามาก อิทธิฤทธิ์เลยมากมาย (ไม่ว่าจะโดนสะกดยังไงส่วนลึกของจิตใจคีฮาเวลาทำให้ดวงจิตแสดงพลังเนี่ยจะคิดถึงแต่ทัมด็อกตลอดเลย)

จากคุณ : lovelypinky - [ 16 พ.ค. 51 13:34:26 ]


โดย: เจ้าการเวกเสียงหวาน วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:12:45:32 น.  

 
ความคิดเห็นที่ 11

^__^ เข้ามาในบ้านนี้เจอคำถามของเราด้วย อิอิ ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ (คล้ายๆ นางงามแฮะประโยคขอบคุณอันนี้)

ไม่เข้าใจค่ะว่าตกลงแล้วคีฮาหรือซูจีนีกันที่เป็นหงส์ไฟ เห็นเขาว่ากันมาอีกทีอ่ะคะ ว่าคีฮาเป็นแม่ของแผ่นดินได้รับพลังอัคคีแถมบอกแดจังโร(??)ว่าตัวเองไม่ใช่หงส์ไฟ (เอ๊ะ! ยังไง?) ขอ งง (=__=?? รึเราเข้าใจผิดกันหว่า? (=__=a

ช่วยไขข้อข้องใจหน่อยเถอะค่า พลีสสสส
แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 51 14:48:35

จากคุณ : ech (echoficy) - [ 16 พ.ค. 51 14:47:39 ]


โดย: เจ้าการเวกเสียงหวาน วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:12:46:23 น.  

 
ความคิดเห็นที่ 12

ไม่เข้าใจค่ะว่าตกลงแล้วคีฮาหรือซูจีนีกันที่เป็นหงส์ไฟ เห็นเขาว่ากันมาอีกทีอ่ะคะ ว่าคีฮาเป็นแม่ของแผ่นดินได้รับพลังอัคคีแถมบอกแดจังโร(??)ว่าตัวเองไม่ใช่หงส์ไฟ (เอ๊ะ! ยังไง?) ขอ งง (=__=?? รึเราเข้าใจผิดกันหว่า? (=__=a

ช่วยไขข้อข้องใจหน่อยเถอะค่า พลีสสสส


จากคุณ : ech (echoficy)

-----------------------------------------------------------


ตอบตามความคิดของพิ้งค์นะคะ
=====================


ความสงสัยอันนี้ก็เกิดขึ้นกับหมู่บ้านโกมุล --ซึ่งช่องสามเรียกว่าหมู่บ้านไม้อะไรซักอย่าง จำไม่ได้ซักที (หมู่บ้านทีฮยอนโก กับซูจีนีอยู่ค่ะ) ตอนที่ซอคีฮา แสดงอิทธิฤทธิ์ที่จวนยอนค่ะ ประมาณว่าหมู่บ้านเชื่อว่าซูจีนีเป็นผู้พิทักษ์วิหคเพลิง ซึ่งอาจจะกลายเป็นวิหคเพลิงทมิฬเผาผลาญบ้านเรือนและชีวิตผู้คนได้ถ้าอยู่ในภาวะอารมณ์เคียดแค้นจนไม่สามารถควบคุมพลังของตนได้อยู่

แต่พอรู้ข่าวซอคีฮาปุ๊บ ก็อ๊ะ หมายความว่าอย่างไร

ซึ่งคำตอบนี้ฮยอนโกบอกไว้ว่าเมื่อสองพันปีก่อนมีตำนานเล่าว่าพลังอัคคี (ย้ำว่าพลังอัคคีนะคะ ไม่ใช่ล็อกเก็ตที่เป็นดวงจิตวิหคเพลิง) มีผู้ครอบครองในช่วงสุดท้ายสองคน (ไม่นับธิดาเสือของเผ่าเสือคนก่อนๆ คาจิน)

คือคาจินครอบครอง และใช้พลังอัคคีในฐานะธิดาเผ่าเสือ

และเซโอ เป็นผู้ที่เทพฮวานอุงเลือกให้เป็นผู้พิทักษ์ดวงจิตวิหคเพลิงซึ่งเป็นที่บรรจุพลังอัคคีซึ่งเทพฮวานอุงดึงมาจากคาจิน เวลาจะใช้พลังอัคคีเซโอต้องใช้มือหนึ่งสัมผัสดวงจิตหคเพลิงด้วย

สรุปได้ว่า

ผู้ที่ใช้พลังอัคคีได้ทั้งชาติที่แล้วและชาตินี้ คือซอคีฮา (คาจิน) และซูจีนี (เซโอ)

สังเกตมั้ยคะว่าเวลาซอคีฮาใช้พลังอัคคีก็ไม่เคยต้องใช้มือหนึ่งสัมผัสดวงจิตวิหคเพลิงเลย

แต่ผู้ที่ถือได้ว่าเป็นผู้พิทักษ์ที่แท้จริง ที่เทพฮวานอุงเลือกให้เป็นผู้พิทักษ์ก็คือซูจีนี (เซโอ) แต่ชาติที่เป็นซูจีนีเนี่ยไม่ได้สัมผัสดวงจิตวิหคเพลิงเลย


(สัญลักษณ์อื่นๆ เป็นผู้เลือกผู้พิทักษ์สัญลักษณ์เอง เพราะชาติที่แล้วยังไม่มีผู้พิทักษ์ แต่สัญลักษณ์วิหคเพลิงมีผู้พิทักษ์ที่เทพฮวานอุงเลือกให้แล้วจึงไม่ต้องเลือกผู้พิทักษ์เองอีก)


จากคุณ : lovelypinky - [ 16 พ.ค. 51 15:16:07 ]


โดย: เจ้าการเวกเสียงหวาน วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:12:47:37 น.  

 
ความคิดเห็นที่ 16

ถ้านับตามเรื่องเนื้อเรื่องสมัยเทพฮวางฮุงยังไม่มีนกไฟ
มีแต่ธิดาเพลิงของเผ่าเสื้อ(คิฮา) ชาติที่แล้วชื่อ คาจิน

แล้วเทพฮวางฮุง เห็นคาจินฆ่าคนมากเกินไป เลยเอาพลังเพลิงมาเก็บไว้ในแก้วผลึก
>>>> เรียกเป็นดวงจิตแห่งหงส์ไฟ
>>>> มอบให้เซโอ(ซูจินี) เป็นผู้พิทักษ์

แล้วก็สอนวิธิใช้พลังจากดวงจิตแห่งหงส์ไฟด้วย
(ส่วนตัวแล้ว คิดว่ายังกะของหมั้น โดยเฉพาะฉากสอน -///- อายแทนเซโอ )

= คนใช้ได้มี 2 คน ทั้งคาจินและเซโอ

คนที่คลุ้มคลั่งเมื่อตอนนั้นคือ เซโอ เพราะคิดว่าลูกตาย ถึงจะรู้ตัวแล้วแต่ควบคุมพลังไม่ได้
เทพพิทักษ์ทั้ง 3 ก็ทำอะไรไม่ได้ จนฮวางฮุงต้องลงมือเอง


พอมาถึงสมัยนี้ คนที่น่าจะเป็นวิหกทมิฬก็น่าจะเป็นซูจินี
ตอนที่ได้สัมผัสอำนาจหงส์ไฟก็ทำท่าจะคลุ้มคลั่ง
แต่ด้วยนิสัยพอรู้ว่าตัวเองจะเป็นเลยหนีหายไป ไม่อยากทำให้คนอื่นเดือดร้อน

โมจิว่าเรื่องอำนาจไม่มีดีมีชั่วจริงๆ นะ
มีแต่คนแหละที่จะทำให้มันดี หรือเลว

จากคุณ : MOMIJI_99 - [ 16 พ.ค. 51 15:33:10 ]


โดย: เจ้าการเวกเสียงหวาน วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:12:48:25 น.  

 
ความคิดเห็นที่ 67

...ต้นฉบับบทละครครั้งแรก...



ละครเรื่อง ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์ เดิมผู้อำนวยการสร้างต้องการให้ออกมาเป็นละครอิงประวัติศาสตร์ เนื้อหาเดิมจะพูดถึงประวัติความเป็นมาของการกำเนิดชนชาติเกาหลี...


พร้อมทั้งความยิ่งใหญ่ของกษัตริย์ผู้ทีได้รับการสถาปนาให้เป็น "มหาราช" ผู้เป็นที่รักของมวลชนทั้งหลาย...ชื่อเสียงเกียรติศักดิ์ที่เลื่องลือไปไกลขจรขจายไปทั่วโลก


ด้วยในรัชสมัยของพระองค์เจริญรุ่งเรืองทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้าและทรงชำนาญในเรื่องของการคมนาคมกทางทะเลเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังทรงเป็นนักปฎิรูประบอบการปกครองโดยการชำระกฎหมายของแต่ละแว่นแคว้นให้มาอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันเพื่อเป็นบรรทัดฐานแห่งการอยู่ร่วมกันด้วยความสันติสุข...


หัวเมืองและแว่นแคว้นต่าง ๆ ล้วนมีความจงรักภักดีต่อพระองค์เป็นอย่างมาก การได้ดินแดนต่าง ๆ มาอยู่ภายใต้การปกครองของโคคุเรียวในสมัยนั้นนับได้ว่า...ทรงใช้นโยบายการทำสงครามทางการค้าเข้ามาแทนทีการทำสงครามด้วยการรบแบบเดิมที่มักใช้กองกำลังทหารเป็นสำคัญ...อาจกล่าวได้ว่าในรัชสมัยของพระองค์การแผ่ขยายอิทธิพลไปยังดินแดนต่าง ๆ นั้น มีการเสียเลือดเนื้อน้อยที่สุด...


และด้วยความเมตตาที่ทรงมีต่อประชาชนทั่วหล้า...ทรงช่วยเหลือคนยากคนจนด้วยการบริจาคและให้สิทธิทางการค้าแก่ชนกลุ่มน้อยในเผ่าต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน...


จนทำให้อาณาจักรโคคุเรียวกลายเป็นศูนย์กลางแห่งการค้าและอารยธรรมต่าง ๆ ของเอเซียตะวันออกในสมัยนั้น...


หลังจากที่พระองค์สวรรคตแล้ว...จึงได้รับการสถาปนาจากสถาบันกษัตริย์จากทั่วโลก ให้เป็น "มหาราช" หรือ "The Great" หรือ บางตำราอาจใช้คำว่า "Emperor" โดยชื่อที่พระองค์ได้รับจาการสถาปนานั้นคือ King Gwanggaeto The Great หรือ Kwanggaeto The Great of Goguryeo ทั้งนี้จะใช้ ตัว G หรือ K สะกดพระนามก็ไม่ผิดนะคะ...

จากคุณ : lovelypinky - [ 18 พ.ค. 51 20:04:13 ]


โดย: เจ้าการเวกเสียงหวาน วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:13:34:19 น.  

 
ความคิดเห็นที่ 69

...สาเหตุที่ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนบทละคร...





การปรับเปลี่ยนบทละครมีสาเหตุหลัก 3 ประการ


1. เนื่องจากอาณาจักรโคคุเรียวสมัยโบราณนั้น ปัจจุบันตั้งอยู่ในอาณาเขตของประเทศจีน ทำให้ระหว่างการถ่ายทำละครนั้น ได้มีกลุ่มคนชาวจีนได้ออกมาต่อต้านทางเวปไซต์รวมทั้งมีการกล่าวอ้างจากทางการจีนว่า...โคคุเรียวเป็นของประเทศจีนมาก่อน...จนเกิดเป็นกรณีพิพาทขึ้นระหว่างรัฐบาลจีนและรัฐบาลเกาหลีใต้...จากเหตุการณ์นี้ทำให้เกิดคณะกรรมการกลางเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของอษณาจักรโคคุเรียวร่วมกัน โดยคณะกรรมกลางชุดนี้มีทั้งบุคคลจากรัฐบาลเกาหลีและรัฐบาลจีน...สาเหตุหลักของข้อพิพาทดังกล่าวก็คือ...จีนไม่ต้องการให้มีการกล่าวอ้างถึงประวัติศาสตร์เดิมของเกาหลีและกลัวการทวงสิทธิ์ความเป็นชนชาติของประเทศเกาหลี...



2. นักเขียนบทการ์ตูนของประเทศเกาหลีใต้ท่านหนึ่ง ได้มีการฟ้องร้องถึงเรื่องลิขสิทธิ์ว่าผู้เขียนบทละครเรื่อง The Legend ได้คัดลอกบทบางส่วนมาจากหนังสือการ์ตูนที่เขาได้เขียนไว้...การฟ้องร้องต่อศาลครั้งนี้ศาลได้ตัดสินความและมีบทสรุปว่า...บทละครที่เขียนขึ้นใหม่ไม่ได้คัดลอกมาจากที่ใดหากแต่เป็นการเอาเรื่องประวัติศาสตร์ของชนชาติเกาหลีและความเชื่อตามทัศนคติดั้งเดิมของชนชาติเกาหลีเขามาใช้ในการบทประพันธ์...ซึ่งถือเป็นความรู้สาธารณะอยู่แล้ว...



3. การบาดเจ็บอย่างหนักจาการถ่ายทำละครของนักแสดงหลักของเรื่องนี้ ทำให้ในตอนจบนั้นมีการเปลี่ยนแปลง...อย่างไรก็ตามยังคงไว้ซึ่งบทสรุปผลงานอันสำคัญของพระเจ้ากวางเกโตมหาราช กษัตริย์องค์ที่ 19 ของอาณาจักรโคคุเรียว

จากคุณ : lovelypinky - [ 18 พ.ค. 51 20:10:12 ]


โดย: เจ้าการเวกเสียงหวาน วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:13:36:19 น.  

 
ความคิดเห็นที่ 70

...ต้นฉบับละครหลังการปรับเปลี่ยน...



บทละครซึ่งเดิมได้อ้างอิงถึงบทบาทและผลงานทางประวัติศาสตร์ของพระเจ้ากวางเกโตมหาราชได้ถูกตัดทอนให้เหลือเพียงบางส่วนและกลายเป็นละครกึ่งแนวแฟนตาซี...


ภาพการถ่ายทำละครบางส่วนที่สวยงามถูกเก็บไว้...รวมทั้งบทเพลงบางเพลงที่ไพเราะเสนาะโสต...และมี Music Melody ที่งดงาม ได้ถูกเก็บไว้ภาพ Animation บางส่วนไม่ได้ถูกนำมาใช้...


อย่างไรก็ดี...ผลงานละครเรื่องนี้ในท้ายที่สุดก็ยังคงไว้ซึ่งประวัติศาสตร์ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้ากวางเกโตมหาราชได้อย่างดีและค่อนขางลงตัวแม้จะไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของการทำละครที่ตั้งใจไว้ในเบื้องต้นก็ตาม...


-----------------------------------------------------------

อย่างว่าล่ะค่ะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากๆ ยังไงก็ต้องระวังไว้

จากคุณ : lovelypinky - [ 18 พ.ค. 51 20:15:18 ]


โดย: เจ้าการเวกเสียงหวาน วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:13:36:52 น.  

 
ความคิดเห็นที่ 74

เรื่องของสัญลักษณ์กับผู้พิทักษ์ค่ะ

-----------------------------------------------------------

1. ดวงจิตวิหคเพลิง มีผู้พิทักษ์ที่เทพฮวานอุงเลือกให้ตั้งแต่ต้อนสร้างดวงจิตวิหคเพลิงแล้วคือเซโอ เพียงแต่สองพันปีต่อมาซูจีนีไม่มีโอกาสได้สัมผัสดวงจิตวิหคเพลิงเลย

2. เต่างู เลือกผู้พิทักษ์เองเป็นรุ่นๆ โดยเลือกให้เป็นผู้พิทักษ์สัญลักษณ์เต่างู และเป็นผู้นำเผ่าโกมุล แต่ฮยอนโก เป็นคนที่สัญลักษณ์เต่างูเลือกตอนที่ราชาจูชินมาเกิดพอดี

3. มังกรน้ำเงิน เลือกผู้พิทักษ์เองจริงๆ ก็ฉากที่แดจังโรจะทำร้ายทัมด็อกที่จวนยอน แล้วซอโรจังเข้าป้องกันความมุ่งมั่นที่จะปกป้องทัมด็อกของซอโรทำให้สัญลักษณ์มังกรน้ำเงินเลือกซอโรเป็นผู้พิทักษ์

4. พยัคฆ์ขาว เลือกผู้พิทักษ์คือจูมูชิ ในฉากที่ยอนโฮเกจะลอบทำร้ายแทงข้างหลังทัมด็อก จูมูชิเอาตัวเข้าบัง ความจงรักภักดีต่อทัมด็อกของจูมูชิทำให้สัญลักษณ์พยัคฆ์ขาวเลือกจูมูชิเป็นผู้พิทักษ์

จากคุณ : lovelypinky - [ 18 พ.ค. 51 21:13:13 ]


โดย: เจ้าการเวกเสียงหวาน วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:13:37:25 น.  

 
ความคิดเห็นที่ 75

ฉากของตอนที่ 17 ที่จะออกอากาศอาทิตย์หน้านี้ เป็น ฉากมหาโหด เพราะมีตัวแสดง บาดเจ็บ เริ่มจาก จูมูชิ ที่ใช้ลวดสลิง ดึงตัวขึ้นไป บนขอบประตู ของพระราชวังชั้นนอก พอปล่อยลวดสลิงลงมา จูมูชิ ลงมาผิดท่า บนเบาะที่รองรับ ทีมงาน ต้องฉีดยาชา แบบที่นักฟุตบอลใช้ ให้ที่หลัง ต้องเรียกรถพยาบาลมา ท่าทางจ็บมากหน้าตาเหยเก


รวมทั้ง แดจังโร ที่ใช้ลวดสลิงดึงตัวตอนทำท่ากระโดด หงายหลังหัวกระแทกอะไรสักอย่าง ดูไม่ชัด ต้องเอามือคลำหัวตัวเอง ( เป็นจอมขมังเวทย์แต่ในบทละคร)


ที่สำคัญ ทัมด็อก ตอนที่ตะโกนห้ามผู้นำแคว้นที่จะฆ่าตัวตายเป็นคนที่ 2 แล้ว จังหวะที่โผออกจากที่ยืน ถูกอาวุธของ ตัวประกอบทหาร ฮวาซอง เอ็นนิ้วชี้ขวา ฉีก เลือดหยด หลายหยด ลงพื้น แดจังโร (ชอยมินซู)ที่อยู่ใกล้ วิ่งมาช่วยจับนิ้ว แล้ว ทีมงานก็เข้ามารุม ยงจุน ต้อง พันนิ้วชี้ขวานี้ไว้ จนแสดงจบ ตอน ที่ 24 มิหนำซ้ำ มีตัวละคร ตกจากลวดสลิง หล่นมาที่คอ ของยองจุน จนยงจุน เงยคอขึ้นไม่ได้ แต่ไม่มีภาพเผยแพร่ และข่าวนี้ครึกโครมต่อเนื่องนานทีเดียว


ก่อนหน้านี้ในตอนที่ จูมูชิ ไปช่วยทีมโปโลสีดำ ออกจากคุก ซูจินี ก็โดนขวานของจูมุชิ ฟาดหัว ทั้ง เจ้าหมูป่า โซวดูรู และจูมุชิ ตกใจ มาช่วยคลึงหัวให้


สำคัญที่สุด หลังจากฉากนี้ ยองจุน เจ็บหัวเข่า อีก ดูเบื้องหลังการถ่ายทำตอนจบ แฟนคลับยงจุน น้ำตาซึมกันถ้วนหน้า เลิกสนใจ บทจบไปเลยทีเดียว

----------------------------------------------

เครดิต twssg บล็อกสป็อต ค่ะ

จากคุณ : lovelypinky - [ 18 พ.ค. 51 21:27:45 ]


โดย: เจ้าการเวกเสียงหวาน วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:13:37:50 น.  

 
ความคิดเห็นที่ 76

เกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับมังกรน้ำเงินค่ะ

-----------------------------------------------------------------

มังกรน้ำเงิน (อุนซา) เทพผู้พิทักษ์เมฆแห่งทิศตะวันออก

...มังกรน้ำเงิน หรือจะเรียก มังกรเขียว ก็ไม่ผิด เนื่องจากสีของเกล็ดมังกรนี้จะมีสีเหลือบคือฟ้าอมเขียว ซึ่งมรชื่อเรียกตามภาษาต่าง ๆ ดังนี้ คือ ชิงหลง ในภาษาจีน เซริว ในภาษาญี่ปุ่น หรือ ชุง รวอง ในภาษาเกาหลี เทพผู้พิทักษ์แห่งทิศตะวันออกของจักรวาล ถือเป็นเทพแห่งเมฆและท้องฟ้า

จากคุณ : lovelypinky - [ 18 พ.ค. 51 21:35:40 ]


โดย: เจ้าการเวกเสียงหวาน วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:13:38:27 น.  

 
ความคิดเห็นที่ 77

เป็นตัวแทนแห่งฤดูใบไม้ผลิ สีประจำคือสีฟ้า (หรือเขียว) เป็นเทพพิทักษ์ ธาตุไม้ แสดงถึง คุณงามความดี ความเหมาะสม ความสงบสุขและมั่นคงของบ้านเมือง (ควบคุมดินฟ้าอากาศ และ เป็นสัญลักษณ์แห่งจักรพรรดิ) ตามตำราจีนโบราณ เชื่อกันว่า มังกรน้ำเงิน เกิดจากทองสีน้ำเงินอายุแปดร้อยปี สีของมังกรจะเหมือนสีของท้องฟ้ายามฟ้า

จากคุณ : lovelypinky - [ 18 พ.ค. 51 21:37:47 ]


โดย: เจ้าการเวกเสียงหวาน วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:13:38:55 น.  

 
ความคิดเห็นที่ 78

เมื่อถึงสมัยฉินและฮั่น สัตว์เทพทั้งสี่ก็เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปในฐานะตัวแทนของฤดูกาลและสีสันทั้งสี่ ในช่วงเวลาดังกล่าว สัตว์เทพทั้งสี่ได้ปรากฏในศาสตร์วิทยาการของจีนหลากหลายสาขา อาทิ ดาราศาสตร์ และภูมิศาสตร์ และการทหาร ดังเช่น ในตำราพิชัยสงครามบทหนึ่ง ได้กล่าวถึงการกำหนดทิศทางเดินทัพไว้ว่า “การเคลื่อนทัพนั้น ซ้ายเป็นมังกรเขียว ขวาเสือขาว ทัพหน้าคือหงส์แดงและเต่าดำคุมหลัง บัญชาการจากเบื้องบน นำปฏิบัติสู่เบื้องล่าง”

จากคุณ : lovelypinky - [ 18 พ.ค. 51 21:41:12 ]


โดย: เจ้าการเวกเสียงหวาน วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:13:39:25 น.  

 
ความคิดเห็นที่ 79

เนื่องจากผู้คนในสมัยนั้นต่างคุ้นเคยกับตำแหน่งของสัตว์เทพทั้งสี่เป็นอย่างดี ภายหลังจึงได้รับการประยุกต์ให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของธงนำทัพไป

cr : twssg บล็อกสป็อต

จากคุณ : lovelypinky - [ 18 พ.ค. 51 21:47:39 ]


โดย: เจ้าการเวกเสียงหวาน วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:13:39:57 น.  

 
ความคิดเห็นที่ 82

เข้ามาดีใจที่เทพฮวางฮุง ไม่ออกมาแนวแกนดาฟค่ะ
ไม่อยากคิดถึงฉากสอนแซโอใช้พลังวิหกเพลิง (._. ?

โมจิเครียดเลยนะเนี่ย

เรื่องกรณีพิพาทระหว่างประเทศนี่ยากจะแก้ไข ค่ะ
การยึดครองอาณาเขตสมัยโบราณ นี่เปลี่ยนไปตามความเข็มแข็งของอาณาจักร
พอผลัดแผ่นดิน ก็มีเรื่องทีนึง
กรีฑาทัพแย่งดินแดน การติดต่อซื้อขาย ผสมอารยะธรรม
มันยากที่จะบอกว่าแผ่นดินไหนเป็นของใคร
อาณาเขตก็แค่ของที่คนสร้างขึ้น อย่าไปยึดติดว่าเป็นของใครให้มาก นึกถึงคนที่อาศัยอยู่แถบนั้น ว่าเค้าอยากอยู่แบบไหนไม่ดีกว่าเหรอ

มาคุยเรื่องเครียดๆ ซะงั้นเลยโมจิ

จากคุณ : MOMIJI_99 - [ วันวิสาขบูชา 10:18:58 ]


โดย: เจ้าการเวกเสียงหวาน วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:13:40:59 น.  

 
ความคิดเห็นที่ 113

มีเกร็ดความรู้จาก twssg บล็อกสป็อตมาฝากค่ะ

-----------------------------------------------------------------

จากละครที่กล่าวว่า ชิลลามักจะถูกรุกรานจากชาติอื่น และจะมีการจัดตั้งกองบัญชาการใหญ่ที่ คายา

และคายานี้ได้รับการสนับสนุนจากแพคเจ ( คายานี้ นับเป็นอาณาจักรที่สำคัญ อาณาจักรหนึ่งมีกษัตริย์ปกครอง ไม่ใช่ระดับแคว้น เป็นอาณาจักรในช่วงปี ค.ศ.42-532 มีกษัตริย์ 10 พระองค์


ในช่วงเวลาของทัมด๊ก (391-413) ตรงกับ คายาในสมัย กษัตริย์องค์ที่ 5-6 ( 346-407 และ 407-421)


ส่วนชิลลา ทัมด๊ก จะคาบเกี่ยว กับกษัตริย์ชิลลา องค์ที่ 17-18 (356-402 และ402-417 ) ชิลลามีกษัตริย์ 54 พระองค์ (King 52 พระองค์ และ Queen ที่ปกครองประเทศ 2 พระองค์ องค์ที่ 27 และ องค์ที่50


ส่วนแพคเจ จะเป็นช่วงกษัตริย์ 3 พระองค์ คือ องค์ที่16 Jinsa (385-392) องค์ที่ 17 Asin (392-405) องค์ที่ 18 Jeonji (405-420)


ถ้าเทียบกับราชวงศ์ของจีน น่าจะเป็น ปลายราชวงศ์ฮั่น ซึ่งมีอายุของราชวงศ์ ถึงประมาณ ปี พ.ศ .969 หากลบด้วย 543 เป็น ค.ศ. คือ 426 ซ้อนกับราชวงศ์จิ้น (ค.ศ. 317-420 )

จากคุณ : lovelypinky - [ 21 พ.ค. 51 11:34:33 ]


โดย: เจ้าการเวกเสียงหวาน วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:13:43:56 น.  

 
ความคิดเห็นที่ 114

ความเห็นของคุณอมร ในบล็อกสป็อตค่ะ น่าสนใจดี

-----------------------------------------------------------------

ความเห็นส่วนตัว หากเป็นสมัยปัจจุบันต้องบอกว่า ทัมด๊ก ทรงใช้วิกฤตเป็น โอกาส ทันสมัยเลิศหรูเลย นอกจากนี้ ยังมีวิสัยทัศน์กว้างไกล เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า แถมได้มิตรไมตรีอีกต่างหาก


ความเป็นไปได้ ของยุคนั้น ก็น่าเป็นไปได้ เพราะในละครที่อิงประวัติศาสตร์ของเกาหลีเกือบทุกเรื่องที่มาบ้านเรา ไม่ว่า จะยุค กษัตริย์ จูมง คิงมูของแพคเจ (ซอดองโย) บนดินแดนโบราณของเกาหลี มีชนเผ่าอิสระ เผ่าใหญ่ ๆ เผ่า เล็ก มากมายนับไม่ถ้วน การเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้าของ ทัมด๊ก น่าจะทรงใช้กับเผ่าเหล่านี้


ส่วนที่เป็นอาณาจักรใหญ่ ทัมด๊ก ก็ทรงใช้ทั้ง 2 วิธี คือ วิธี การเจริญ สัมพันธ์ไมตรี รวมทั้งการใช้กำลังกองทหาร แล้วแต่กรณี แล้วแต่สถานการณ์ ของคู่ต่อสู้ ละครเรื่องนี้คงต้องการสื่อว่า ทัมด๊ก ไม่ทรงโปรดการทำสงคราม


เพราะ ทรงเป็นเทพฮวานอุงกลับชาติมาเกิด ฮวานอุง ทรงปรารถนานำความร่มเย็นเป็นสุข อยู่กันอย่างสันติมาสู่ชาวโลก และทรงให้อภัยกับผู้หลงผิด เสมอ ไม่ว่า คาจิน หรือโซคีฮา รวมทั้ง ยอนโฮแก


ไม่ได้มีพระประสงค์ จะฆ่า ยอนโฮแก อย่างที่เสนาบดียอน เข้าใจพระองค์ผิดเลยแม้แต่น้อย ทรงบอกสิ่งที่ดำริไว้ในพระทัยกับเสนาบดียอน เพราะต้องการให้เสนาบดียอน หาทางออกที่ดีสำหรับยอนโฮแก


ทรงยอมรับกับองค์เองว่า เสนาบดียอน เป็นคนดี เฉลียวฉลาด สุขุมรอบคอบ แม้จะหลงผิด แต่ทรงเดาน้ำใจและความคิด ของเสนาบดียอน ผิดไป เพราะ เสนาบดียอน ไม่เข้าใจในน้ำพระทัยของทัมด๊ก ก็เลยน่าเศร้า ทรงลืมไปว่า การจะรู้ใจกันได้นั้น ต้องมีสายสัมพันธ์ของ ความรัก ความหวังดี ความจงรักภักดี เป็นสื่อกลาง อย่างเช่น ทัมด๊ก กับขุนพลโก ทัมด๊ก กับฮยอนโก เป็นต้น


ชาตินี้ ทรงเป็นมนุษย์ปุถุชน ไม่ใช่ท่านฮวานอุง

และละคร เรื่องนี้ดีมากสำหรับการเป็นตัวอย่างของการไม่พูดปด เท่าที่มีมีเพียง 2 ครั้ง คือ ทัมด๊ก ใช้วิธี ให้ทหารและประชาชนแพคเจ พูดถึงจำนวนทหารโคคุเรียว ว่ามีจำนวนเกินจริงเพื่อให้ไม่ต้องเกิดการสู้รบทหารล้มตาย และบาซอน ปฎิเสธ บุลโดล ว่าไม่ใช่พี่ชายของตนเองเพื่อไม่ให้พี่ชายตนเองเกิดอันตราย ทั้ง 2 กรณี เป็น การมุสา ที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนแต่เป็นผลดีเสียมากว่า นอกนั้นแล้ว ตัวละครทุกตัวแม้แต่ตัวร้าย แทจังโร และซารยางก็ไม่พูดปด มีศักดิ์ศรีของผู้กล้า อย่างเลวร้ายที่สุด คือ การใช้สถานการณ์ให้คนอื่นคิดไปเอง ไม่ได้เอ่ยปากด้วยตัวเอง

จากคุณ : lovelypinky - [ 21 พ.ค. 51 11:38:30 ]


โดย: เจ้าการเวกเสียงหวาน วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:13:44:50 น.  

 
ความคิดเห็นที่ 157

ไม่รู้ว่าบ้านเรามีใครดูแล้วคิดแบบนี้รึเปล่า แต่เข้าไปอ่านจากเวบจีนมา
มีคนดูจบแล้ว หาว่าซูจีนีในสองตอนสุดท้าย คือ 23-24 เห็นแก่ตัวด้วยอะ ทีแรกก็คิดว่าเป็นความคิดส่วนบุคคลซึ่งยอมรับได้นะ
แต่พอเขายกตัวอย่างฉากมาประกอบเหตุผล ทำให้เราอึ้งจริงๆ ไม่รู้เขาคิดไปแบบนั้นได้ยังไง เริ่มจากที่ซารยางขอให้ซูจีนีเอาอาชิกไป
แล้วดูแลจนกว่าหัวใจอาชิกจะเติบใหญ่ เป็นสาเหตุให้ซูจีนีต้องหนีหายไปถึง 8 ปี โดยไม่ได้ส่งข่าว หรือไม่มีใครได้ข่าวเลย
เขาบอกว่าซูจีนีเห็นแก่ตัว กลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นวิหคเพลิงกาฬจึงไม่ยอมเอาอาชิกมาให้ทัมต๊อก พาอาชิกไประหกระเหินถึง 8 ปี
ซึ่งทำให้อาชิกมีอันตรายมากกว่าอยู่กับพ่อ เขาว่าอาชิกจะปลอดภัยมากกว่า ถ้าอยู่กับทัมต๊อกน่ะค่ะ และหลังจากที่ทัมต๊อกตามมาเจอซูจีนีกับอาชิกแล้ว
ทำไมซูจีนีถึงไม่บอกว่าอาชิกคือลูก ปิดบังความจริงต่อไปเพื่ออะไร จนเกิดเรื่องอาชิกถูกลักพาตัว เขาก็โทษว่าเป็นเพราะซูจีนีไม่ยอมบอกความจริง
แล้วก็ตบท้ายว่าที่จริงแล้วซูจีนีไม่ได้จิตใจดีอย่างที่พูดๆ กันเลย เราอ่านแล้วก็ออกจะสงสัยในความคิดของเขาจริงๆ
ว่าทำไมคิดได้แบบนี้ ทั้งที่จริงๆ แล้ว พอเจอทัมต๊อกตะหากถึงได้เกิดเรื่อง รู้ๆ กันอยู่ว่าอาชิกจะปลอดภัยกว่า ถ้าไม่มีใครรู้ชาติกำเนิดของเขา

บ่นด้วยความอัดอั้นตันใจไป อย่าถือสานะคะ ดูคลิปเปิดตัวผู้พิทักษ์คนที่ 2 ที่ได้รับเลือกกันอีกรอบดีกว่า เราว่าชอโรในฐานะผู้พิทักษ์สัญลักษณ์ชองยองเปิดตัวได้เจ๋งสุดแล้วอะ

จากคุณ : Kitsunegari - [ 21 พ.ค. 51 16:38:48 ]


โดย: เจ้าการเวกเสียงหวาน วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:13:47:30 น.  

 
ความคิดเห็นที่ 179

สวัสดียามใกล้เที่ยงค่ะ

คุณโมจิ - ขอบคุณสำหรับชื่อพี่จูมูชิกะดัลบีนะคะ

เห็นภาพน้องฟิลถ่ายกะเจ๊พาซอนแล้วอยากกรี๊ดดดอะ เจ๊เล่นเอียงมาอิงไหล่น้องฟิลเลยเรอะ 555

ส่วนฉากขี่ม้าเข้ามา ตอนตามมาเจอซูจีนีนั้น เราคิดว่าที่ถ่ายด้านหลัง จนกระทั่งเดินไปหาซูจีนีเป็นสแตนอินนะคะ เป็นป๋าเฉพาะตอนถ่ายด้านหน้า แถมซูมใกล้ด้วย นั่งถ่ายรึเปล่าก็ไม่รู้ เพราะลำพังจะยืนโดยไม่ใช่ไม้ค้ำป๋าก็คงลำบากแย่แล้ว ดังนั้นฉากไหนพอจะเซฟป๋าได้ ผกก.คงให้ทำล่ะมั้ง

จากคุณ : Kitsunegari - [ 22 พ.ค. 51 11:55:26 ]


โดย: เจ้าการเวกเสียงหวาน วันที่: 5 มิถุนายน 2551 เวลา:13:59:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจ้าการเวกเสียงหวาน
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




สิ่งไหนยากกว่ากันระหว่าง
การหาคำตอบ
กับ
การพิสูจน์ว่าคำตอบ
ที่คนอื่นหามาได้นั้นถูกต้องหรือไม่
Friends' blogs
[Add เจ้าการเวกเสียงหวาน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.