|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
:: ลูกติดการดูดนิ้ว
โดย รศ.นพ.อัมพล สูอำพัน
เรื่องลูกติดการดูดนิ้วนี้ยังคงเป็นพฤติกรรมที่ทำให้พ่อแม่กังวลมาทุกยุคทุกสมัยและทุกครั้งที่ไปบรรยายเรื่องการเลี้ยงดูเด็ก ก็จะมีคำถามเรื่องลูกติดการดูดนิ้วว่าจะแก้อย่างไร ถามผมอยู่เสมอ เราลองมาทำความเข้าใจเรื่องการดูดนิ้วของเด็กกันดีไหมครับ ความจริงเด็กทุกคนจะมีพฤติกรรมดูดนิ้วโดยเฉพาะใน 2 ขวบแรก
:: มีเหตุผลและหลักการในการอธิบายไว้ดังนี้คือ ::
ในขวบปีแรกของชีวิตเด็ก จิตแพทย์ที่มีชื่อเสียงมากชื่อว่า นพ.ซิกมันด์ ฟรอยด์ อธิบายว่า ในขวบปีแรกเด็กมีจุดแห่งความพึงพอใจอยู่ที่ปาก คือเด็กจะรู้สึกมีความสุข สบาย และสงบ เมื่อมีการกระตุ้นหรือการสัมผัสกับผนังเนื้อเยื่อในช่องปาก ซึ่งเด็กจะเรียนรู้โดยอัตโนมัติว่ามือของตน นิ้วของตน สามารถทำให้เกิดความพึงพอใจที่เกิดขึ้นกับช่องปากของตนได้ เด็กก็จะทำซ้ำๆ จนเป็นความเคยชินและติดในพฤติกรรมนั้น
และไม่เพียงแต่นิ้วเท่านั้นที่เด็กเกิดความรู้สึกพึงพอใจ เมื่อดูดสัมผัสวัตถุอื่นๆ เด็กก็เกิดความรู้สึกเป็นสุขและพึงพอใจได้ เช่น หัวนมยาง หัวนมแม่ เป็นต้น
มีบางภาวะที่เร่งเร้าหรือเป็นปัจจัยที่ทำให้เด็กดูดนิ้วมากขึ้นอีกได้เช่นกัน ภาวะเหล่านั้นคือภาวะที่ทำให้เด็กรู้สึกอ่อนล้า รู้สึกไม่สบาย รู้สึกหงอยเหงาและโหยหาหรือรู้สึกเจ็บปวด เนื่องจากภาวะเหล่านี้ทำให้เด็กเกิดความรู้สึกไม่มีความสุขสบาย การดูดนิ้วจะทำให้เด็กรู้สึกสบายขึ้น มั่นคงในใจมากขึ้น ถ้าภาวะเหล่านี้เกิดขึ้นเรื่อยๆ บ่อยๆ เด็กก็จะดูดนิ้วถี่ขึ้น มากขึ้น จนติดเป็นความเคยชิน แม้ว่าภาวะแห่งความไม่สุขสบายได้หมดไปแล้วก็ตาม
ตัวอย่างของภาวะเหล่านี้เช่น ช่วงเวลาที่เด็กง่วงนอน เป็นไข้ไม่สบาย ถูกทอดทิ้ง ปล่อยให้อยู่ตามลำพัง รู้สึกเจ็บปวด หรือรู้สึกตกใจ กลัว หวาดหวั่นจากอารมณ์ของพ่อแม่ที่มีเสียงดังกับเขา จับหรืออุ้มเขาอย่างรุนรง แม้แต่แม่ที่มีอารมณ์เศร้าหมองที่พยายามอุ้มเด็กอย่างระมัดระวัง ความทุกข์ใจในตัวแม่ก็ยังถ่ายทอดให้ลูกรู้สึกไม่เป็นสุขได้ ตัวอย่างของภาษาเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ทำให้เด็กดูดนิ้วได้
ในการพัฒนาการตามปกติของเด็กนั้นเมื่อเด็กอายุเกิน 1 ปีขึ้นไปแล้ว การดูดนิ้วของเด็กจะค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ (ไม่ใช่หยุดได้ในทันที) จนกระทั่งเมื่อเข้าวัยอนุบาล คือประมาณ 3 ปี เด็กจะไม่ค่อยดูดนิ้วแล้วแต่ก็ยังมีดูดต่อเป็นบางคน ซึ่งมักจะดูดตอนก่อนนอนก็มีได้ครับ ไม่ต้องกังวลใจอะไรมากมาย
และเมื่อเลยวัยอนุบาลแล้ว คือเมื่อขึ้น ป.1 แล้วเด็กเกือบทุกคนเลิกดูดนิ้วไปเอง แม้แต่ในรายที่เคยมีปัญหาดูดนิ้วอย่างมาก เมื่อพ้นวัยอนุบาลก็หยุดได้เอง แม้จะไม่ได้ไปรับการเยียวยาแก้ไขจากที่ไหนมาเลย
:: ข้อแนะนำเกี่ยวกับการแก้ไขเด็กที่ติดการดูดนิ้ว ::
ถ้าเป็นเด็ก 6 เดือนแรกของชีวิต การดูดนิ้วถือว่าเป็นไปตามปกติของพัฒนาการ ผมแนะนำว่าไม่ต้องไปทำอะไรหรือแก้ไขอะไรเป็นพิเศษ แต่ผู้ที่ดูแลเด็กก็ควรสังเกตและเรียนรู้จากลูกด้วยว่า เขาดูดนิ้วเพราะเขามีความต้องการอะไรเป็นพิเศษนอกเหนือไปจากการดูดนิ้วตามธรรมชาติ เพื่อว่าเราจะได้ตอบสนองความต้องการของเด็กได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม เช่น ถ้าสังเกตได้ว่าเขาดูดนิ้วเพราะหิวนม เราก็ควรจัดนมให้ หรือถ้าดูดนิ้วเพราะง่วงนอน เราก็ควรพาไปนอนเป็นต้น
อย่างไรก็ตาม แม้จะรู้ว่าการดูดนิ้วของเด็กวัยนี้เป็นไปตามธรรมชาติ แต่ถ้าเราไม่อยากให้เขาดูดนิ้ว ก็สามารถฝืนไม่ให้เขาดูดได้ แต่ต้องทำอย่างละมุนละไม ค่อยเป็นค่อยไป
สมมุติว่าเด็กเล็กๆ กำลังดูดนิ้วอยู่ต้องระวังอย่าใช้กำลังยื้อยุดดึงมือเขาออกมา เด็กจะหงุดหงิดและฝืนเอาไว้ เรายิ่งดึงออก เด็กก็จะยิ่งฝืนไม่ให้ดึงออก แม้จะเป็นเด็กเล็กๆ ก็ฝืนเป็นแล้ว ดังนั้นเราควรใช้วิธีที่จะทำให้กล้ามเนื้อของเด็กผ่อนคลายโดยการลูบหลังมือ (ที่เด็กกำลังดูดนิ้ว) ลูบเบาๆ ลูบไปมาสักพักหนึ่ง เราจะพบว่าดึงมือเด็กออกจากปากของเขาง่ายขึ้น มีการฝืนน้อยลง
ทุกครั้งที่เราเห็นเด็กดูดนิ้วก็ขอให้เพียรพยายามทำไปเรื่อยๆ ในที่สุดเด็กจะไม่ดูดนิ้วแต่เราก็ต้องตอบสนองความต้องการของเด็กด้วยนะครับ เช่น ถ้าเขาดูดนิ้วเพราะหิวเมื่อเราดึงมือของลูกออกมาแล้วเราต้องเตรียมนมและอาหารให้เขาด้วย
สำหรับในเด็กที่โตขึ้นมาประมาณ 2 ขวบขึ้นไป ผมก็ยังขอแนะนำว่าไม่ควรไปฝืนดึงดันเอากับเด็กเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้เราไม่ควรใช้วิธีลงโทษดุว่าหรือคอยย้ำเตือนอยู่ร่ำไป เพราะวิธีการเหล่านี้จะไมสามารถทำให้เด็กเลิกดูดนิ้วได้ แต่กลับจะทำให้เด็กมีความคับข้องใจหงุดหงิดกังวลและดูดนิ้วยิ่งขึ้นไปอีก
ในเด็กกลุ่มนี้ควรใช้วิธีเบี่ยงเบนความสนใจ ให้เด็กไปสนใจบางสิ่งบางอย่างรอบตัวเขา โดยเฉพาะเป็นกิจกรรมที่ทำให้เขาต้องใช้มือทั้ง 2 ข้าง เด็กก็จะหันมาทำและสนใจกิจกรรมนอกตัว ซึ่งทำให้เด็กเลิกดูดนิ้วได้ไม่ยาก
ที่สำคัญที่สุดคือ การให้ความรักความอบอุ่นการให้เวลาและมีปฏิสัมพันธ์กับเด็กอย่างคงเส้นคงวาด้วยความสุข เด็กก็ไม่จำเป็นต้องคลายทุกข์ด้วยการดูดนิ้ว
*******************************
Create Date : 16 พฤษภาคม 2554 |
Last Update : 16 พฤษภาคม 2554 14:03:14 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1713 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|