Maybe I'm just a fool
I should keep to the ground,
I should stay where I'm at
Maybe everyone has hunger like this and the hunger will pass
But I can't think like that
: Flight - Craig Carnelia
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2548
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
8 กรกฏาคม 2548
 
All Blogs
 
[รีวิวหนังสือ] It’s in His Kiss: Julia Quinn

นานๆ จะมาแนะนำหนังสือที ก่อนอื่นขออธิบายว่าเราเป็นแฟนงานเขียนของ Julia Quinn (เป็นแฟนแบบที่เรื่องสั้นเรื่องยาวที่ออกมา ขอแค่เธอเขียนจะตามซื้อทุกเล่ม) เธอเป็นคนที่ทำให้เราพูดได้เต็มปากว่าเราชอบนิยาย Historical Romance และเธอเป็นคนที่ทำให้เรารู้สึกว่า นิยายโรมานซ์ไม่ได้งี่เง่า เพ้อฝัน น้ำเน่า หรือเน้นแต่เรื่องวาบหวิวสักหน่อย เธอเขียนเก่ง วางคาแรกเตอร์ได้ฉลาด ใช้คำได้คม รู้จักหยอดคำลงมาตรงที่ควรหยอด และทำให้เราฮากระจายไป

และ “ความรัก” ในนิยายของเธอไม่ใช่แค่เรื่องราวของคนสองคนเท่านั้น

It’s in His Kiss เป็นนิยายเรื่องที่เจ็ดใน Bridgerton Series นิยายชุดเอกของเธอ ชุดโปรดของเรา และตอนนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่เราชอบที่สุดของเธอ

แกเร็ธ พระเอกเรื่องนี้ ดูแวบแรกเหมือนจะค่อนข้าง Typical หนุ่มหล่อเสเพลผู้มีชื่อเสียงอื้อฉาว แต่อ่านแล้วจะรู้ว่าไม่มีอะไรที่ Typical เลยสำหรับเรื่องนี้ พระเอกเป็นหนุ่มหล่อเสเพลที่รักยาย(ที่ไกลจากความเป็นคุณยายผู้อ่อนหวาน)มาก มาก มาก (ใครที่เคยอ่านชุดนี้ คุณยายที่ว่าคือ Lady Danbury ค่ะ ได้ยินชื่อก็หนาวแล้วละสิ) ค่อนข้างจะถังแตก (ไม่ใช่ความผิดของพระเอก ซึ่งไม่เคยแต่งตัวฟู่ฟ่า ซื้อของหรูๆ อยู่บ้านใหญ่ๆ ใช้เงินเกินตัว หรือเล่นพนัน แกเขียมสุดชีวิตแล้วจริงๆ นะ) และเอ่อ...ค่อนข้างจะปากจัด ^^" และ...มีความสุขกับการได้ยั่วให้นางเอกทำปากพะงาบๆ เหมือนปลาเกยตื้น - -"

ไฮยาซินธ์ (นางเอก) ก็เหมือนกันแหละ ^^" จอมบงการ พูดมาก (และพูดไม่หยุด) ปากร้าย ไม่ยอมคน เธอเป็นสาวที่ทำให้ชายเข็ดขยาดหวาดกลัวทั่วทั้งลอนดอน และไม่น่าอัศจรรย์ที่เธอขายไม่ออก - -"

แต่ธีมของเรื่องไม่ได้อยู่ตรง หนุ่มปากร้าย-สาวปากจัด (แม้จะมีสีสันตรงนั้นด้วย) ถ้าอย่างนั้น นิยายเรื่องนี้ก็คงเป็นแค่อีกเรื่องที่สนุก และผ่านไปโดยไม่อยู่ในความทรงจำ

ธีมของ It’s in His Kiss คือความหมายของคำว่าครอบครัว

โทนของเรื่องนี้เป็นคอเมดี้ มีฉากที่ทำให้เราหัวเราะกลิ้งมากมาย อย่างฉากที่แอนโธนี่ พี่ชายผู้เคร่งขรึมแสนเก๊กของนางเอกดีใจจนหลุดคาแรกเตอร์ แทบจะโดดขึ้นมาเต้นระบำตอนรู้ว่าในที่สุดน้องสาวก็ขายออกนั้นสุดยอดมาก และที่พระเอกนั่งอึ้งกิมกี่พูดไม่ออกกับปฏิกิริยาพี่แก (พลางคิดไปว่า พระเจ้าช่วย นางเอกรู้หรือเปล่าว่าพี่ชายตัวเองเป็นบ้า) สุดยอดกว่า

แต่ขณะเดียวกัน เรื่องนี้ก็มีฉากที่ทำให้เราซึ้งหลายฉาก เราชอบฉากที่แม่ของไฮยาซินธ์พูดกับเธอมากๆ ว่าตอนที่สามีตาย เธอคิดว่าเธอเสียทุกอย่างไปแล้ว แต่เมื่อลูกคลอด เมื่อไฮยาซินธ์ร้องออกมา เธอยิ้มออกมาได้เป็นครั้งแรก “ลูกเป็นคนที่ช่วยแม่เอาไว้”)

แต่ที่ดีที่สุด คนเขียนทำให้เรายิ้มตามไปกับแกเร็ธและไฮยาซินธ์ ทำให้รู้สึกว่าสองคนนี้สมกัน(แม้จะสมกันเหมือนกิ่งหมามุ่ยกับใบตำแยมากกว่ากิ่งทองใบหยก ^^") และแม้แต่ละคนจะห่างจากคำว่าเพอร์เฟ็คต์ การผ่อนสั้นผ่อนยาวและยอมรับกันทำให้ชีวิตคู่เพอร์เฟ็คต์สำหรับทั้งคู่ เราชอบคำบอกรักของแกเร็ธที่สุด “You are the most maddening, frustrating--- And you never know when to stop talking. But God help me, I love you, anyway---”

อ่านแล้วรู้สึกว่า ทำไมชีวิตจะไม่ดีที่สุดสำหรับทั้งคู่ล่ะ ตลอดทั้งเรื่องมีมากมายหลายครั้งที่พระเอกบ่นว่านางเอกจะทำให้เขาตายเข้าสักวันหนึ่ง และครึ่งหนึ่งของเวลาที่อยู่ด้วยกัน นางเอกจะทำให้เขาเป็นบ้า แต่สุดท้ายหลังจากบ่นก็ยอมๆ กันไป ก็...รักไปแล้วนี่ รักทั้งๆ ที่เป็นแบบนั้นแหละ

ความรักของสองคนนี้ค่อยๆ ดำเนินไป ไม่ใช่ความรักแบบหน้ามืด จากความเป็นเพื่อน ความเข้าใจ มาถึงการเป็นคู่รัก จากการเห็นแต่เปลือกนอกมาถึงการเห็นตัวตนข้างในของกันและกัน ในช่วงต้นของเรื่อง สองคนนี้ปิ๊งกัน กัดและปิ๊ง ปิ๊งและกัด แต่วันที่นางเอกบ่น(แบบไม่จริงจัง)ว่าครอบครัวของเธอทนรอเคะเธอออกไปไม่ไหวแล้ว วันที่พระเอกบอกว่า นางเอกยังไม่เข้าใจว่าการไม่มีใครเลยเป็นอย่างไร และการที่ได้รู้ว่าคนเดียวที่เขารักและเหลืออยู่ในโลก อีกไม่กี่ปีก็จะไม่อยู่กับเขาแล้ว เป็นอย่างไร วันนั้นต่างหากเป็นวันที่นางเอกได้ “มองเห็น” พระเอกจริงๆ เป็นวันแรก

อีกฉากที่เราชอบ คือฉากที่พระเอกเต้นรำกับนางเอกครั้งแรก และถูกนางเอกเหยียบเท้า และเขาก็แอบคิดในใจว่า เขาน่าจะรู้อยู่แล้ว ว่านางเอกจะต้องพยายามเต้นนำ ^^" แต่แทนที่จะทำร้ายจิตใจนางเอกด้วยการบอกว่า อย่าเต้นนำ หรือบอกว่า เต้นไม่ได้เรื่อง เขากลับยิ้มและพยายามคุยให้นางเอกลืมว่าตัวเองเต้นรำอยู่ เพื่อให้นางเอกปล่อยให้เขานำ (นางเอกน่ะไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองพยายามเต้นนำผู้ชาย ^^")

และเมื่อเต้นจบ เขาปล่อยให้นางเอก “นำ” ด้วยการลากเขาไปข้างฟลอร์

เราคิดว่า...เราเห็นความสัมพันธ์ของคนคู่นี้ได้ในฉากเต้นรำนั้น คนสองคนที่ฉลาด อยากจะนำและหัวดื้อพอๆ กัน ถ้าพยายามนำทั้งคู่ ก็ไปด้วยกันไม่ได้ แต่ถ้าค่อยๆ ประนีประนอมอย่างใจเย็น ผลัดกันนำในเวลาที่เหมาะสม ก็ไปได้สวย

โดยรวมแล้วมันโรแมนติกสุดๆ เลยนะ

เรื่องนี้มีอีกหลายฉากที่เราประทับใจมาก แต่เล่าไม่หมด และบางฉากถ้าเล่าก็จะเป็นสปอยเลอร์ แต่เราว่า...คนเขียนนิยายเรื่องนี้รู้จักคน ฉากสุดท้ายของความสัมพันธ์ของพระเอกกับ “พ่อ” ของเขา เราคิดว่าปฏิกิริยาของพ่อเขาตรงนั้น เขียนได้ลงตัวที่สุดแล้วจริงๆ

ถ้าใครไม่เคยอ่านนิยายของ Julia Quinn เราแนะนำให้ลองหามาอ่านดู นิยายของเธอสนุกและอ่านง่าย แต่ในขณะเดียวกันก็ขบขันแบบมีสาระ เป็นนิยายที่อบอุ่นในความรักความเข้าใจ มิตรภาพ และสถาบันครอบครัว ทำให้เราหันมามองตัวเองและคนที่เรารัก และทำให้เห็นว่าครอบครัวในฝันไม่ใช่ครอบครัวที่ทุกคนดีเลิศ แต่เป็นครอบครัวอย่างเราๆ นี่แหละ ที่ปกติค่อนแคะ จ้ำจี้จ้ำไช จุ้นจ้าน ทะเลาะ จิกกัดกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่ก็ทำไปด้วยความรัก และพร้อมจะรับฟัง ช่วยเหลือกัน เวลาที่มีปัญหา

และทำให้เราเห็น ว่ามันดีแค่ไหนที่มีพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนฝูง ปู่ย่าตายาย ที่เวลาเกิดปัญหา เราไม่ได้อยู่คนเดียว อย่ามองข้ามสิ่งที่เรามีอยู่ไปและคิดว่ามันไม่สำคัญ

ลองหามาอ่านดูสักเล่มค่ะ อย่าเพิ่งอคติกับคำว่า โรมานซ์ รับรอง ไม่เปลืองเงินเปล่าแน่นอน



Create Date : 08 กรกฎาคม 2548
Last Update : 22 กรกฎาคม 2548 23:13:42 น. 4 comments
Counter : 5058 Pageviews.

 
อ่านจบแล้วเหรอ เรายังอ่านที่ซื้อมาไม่หมดเลย แล้วจะยืมอ่านนะ


โดย: แนน IP: 203.107.212.93 วันที่: 12 กรกฎาคม 2548 เวลา:13:09:06 น.  

 
อ่านจบแล้วสิ ภายในวันเดียว แต่เราว่าเล่มนี้จะเอากลับไปเมกาด้วยนะ (แบบว่าชอบมากอะ แหะๆ ^^")


โดย: วัสส์ IP: 203.209.127.122 วันที่: 13 กรกฎาคม 2548 เวลา:15:08:29 น.  

 
I saw it yesterday in supermarket (Shaw). I want to get it so bad but I have my exam coming up next Friday. I'll get it after that.

Anyway, have you read Harry potter yet?


โดย: Apiradee IP: 128.197.51.129 วันที่: 28 กรกฎาคม 2548 เวลา:1:37:35 น.  

 
ไปซื้อมาอ่านแล้วจ้า น่ารักดีมากมากเลย ชอบ


โดย: apiradee IP: 168.122.147.68 วันที่: 9 สิงหาคม 2548 เวลา:18:37:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

วัสส์
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]






ฝากนิยายแปลเล่มล่าสุดด้วยนะคะ Dexter Is Delicious ออกกับแพรวสำนักพิมพ์ค่ะ


Friends' blogs
[Add วัสส์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.