เริงร่ากลางทุ่งคอสมอส สวมกอดฟักทองยักษ์กองโตที่ Jim Thompson Farm
หลายคนคงได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของ Jim thompson Farmกันมาบ้างแล้ว การท่องเที่ยงเชิงวัฒนธรรมและการเกษตรที่น่าสนใจ อวบอวลด้วยวัฒนธรรมแบบอีสาน เสพงานศิลป์ และความงดงามของธรรมชาติ ที่ปีนึงจะเปิดให้เข้าชมกันเพียงครั้งเดียว สำหรับกำหนดการการเปิดให้เข้าชมของปีนี้ออกแล้ว คือ 17 ธ.ค. 54 - 8 ม.ค. 55 สิริรวมกันไม่ถึงเดือนเอง ใครอยากไปชมเตรียมล็อค scheduleไว้ได้เลย
Source: ภาพจาก //1081009.tourismthailand.org/news-detail.php?id=941
นี้ก็เหลืออีกเพียงสิบกว่าวันที่จะเปิดให้เข้าชม เรามาดูกันซิว่าภายในJim thompson Farm มีอะไรให้น่าดูชมกันบ้าง แมวน้ำเลยขอรำลึกความหลังครั้งที่ไปเยือนเมื่อปีที่แล้ว (ธ.ค. 53) มาฝากกัน คาดว่าการจัดวางหรือสวนต่างๆคงจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก (ยกเว้นค่าเข้า) ยังไงดูเป็นไกด์ไลน์เผื่อปีนี้จะมีโอกาสไปเที่ยวกันนะง๊าบ หงืดๆๆๆ
แต่ก่อนที่จะไปชมจิม ทอมป์สัน กัน โปรแกรมท่องเที่ยงเชิงเกษตรของแมวน้ำในครั้งนั้นไม่ได้ทีแค่ที่นี่ แต่จะมีไปชมงานฟลอร่าที่วังน้ำเขียว แถมด้วยไปเยี่ยมญาติคุณหมีขาวที่ปักธงชัย ที่เพาะพันธุ์กระต่ายและแฮมสเตอร์ด้วย พร้อมรึยัง ออกสตาร์ทแบบนอนสต๊อปกันเลย ...
ออกจากกทม.มุ่งหน้ามาวังน้ำเขียวเพื่องานฟลอร่ากันเห็นโปรโมทกันใหญ่โต เลต้องขอแวะซะหน่อย
ช่างเป็นงานดอกไม้เมืองหนาวที่ร้อนตับแล่บเสียนี่กระไร พอเสียค่าบัตรผ่านประตูเข้าไปก็พบกับการจัดวางดอกไม้ที่จะว่าสวยก็สวยๆแต่มันดูไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่
ที่ขัดใจสุดคงจะเป็นท่อน้ำเลี้ยง พีวีซีสีฟ้าที่โผล่ออกมาท่ามกลางมวลบุปผชาติสะอาดหอม เลยทำให้ให้ภาพรวมดูขัดลูกหูลูกตาชอบกล หวังว่าปีนี้ที่มีจัดงานคงไม่มีท่อสีห้าโปล่มาขโมยซีนนะง๊าบ
ที่ถ่ายมาพยายามจะหลบมุมท่อสีฟ้าสุดความสามารถ ที่นี่เลยลองมาโคลสอัพดอกไม่กันดีกว่า ขึ้นชื่อว่าดอกไม้ย่อมมีความงามในตัวของมันอยู่แล้ว
แมวน้ำเลยขอไปแทรกตัวอยู่ท่ามกลางดอกไม้บ้าง
ซูมอินซะใกล้ขนาดนี้ หน้าบานกว่าดอกไม้อี๊ก
ส่วนใหญ่ดอกไม้ที่จัดแสดงก็จะเป็นพวกไม้ดอกไม้ประดับที่เอากระถางมาวางเป็นชั้นๆแล้วจัดให้เหมือนทางเข้าวงกต ซึ่งก็จะมีดอกไม้น่าตาประมาณนี้
ขึ้นชื่อว่าพืชเมืองหนาว จึงได้เห็นฟักทองซึ่งแมวน้ำก็ไม่รู้พันธุ์อะไร ขอเรียกว่าฟักทองฮาโลวีนแล้วกัน คาดว่าเอามาแกงบวดไม่น่าจะอร่อย
ภาพสุดท้ายก่อนเดินทางต่อ
โอ่ย ร้อน ร้อนมาก ร้อนที่สุด ไม่ไหวแล้ว เป็นงานดอกไม้เมืองหนาวที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยไปเยือน รวมๆแล้วงานไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ เพราะมันไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ เรียกว่าเสียเวลาพอสมควร อย่ารอช้าดีกว่าีบกระโจนขึ้นรถเปิดแอร์แรงสุดแล้วมุ่งหน้าไปจุดหมายต่อไปที่ปักธงชัย ซึ่งการเดินทางค่อนข้างไกลพอสมควร ก่อนที่จะไปฟาร์มจิมฯ ขอแวะสวัสดีคุณลุงคุณป้าและคุณพ่อของหมีขาวก่อน ณ บ้าแห่งนี้มีฟาร์มกระต่ายและแฮมสเตอร์ขนาดย่อมเพาะส่งขายที่กทม.ด้วย ใครสนใจขอเบอร์หลังไมค์ได้เลยง๊าบ
มาดูความน่ารักของเจ้ากระต่ายกันดีกว่า ดูสิว่าแมวน้ำหรือกระต่ายที่ตาหวานกว่ากัน
ตัวอ้วนกลมเชียว เหมือนตัวที่อยู่บนพระจันทร์เลย ^^
ส่วนเจ้าแฮมสเตอร์ก็น่ารักมาก เสียงร้องของมันพอดังพร้อมกันเหมือนเสียงดนตรีแบบcosmic มันวิ้งแบบอวกาศยังไงบอกไม่ถูก
ก็ไม่รู้ว่าเค้าเลี้ยงกันยังไง ต้องดูแลประคบประหงมแค่ไหน เพราะไม่สันทัดกรณี ปกติเลี้ยงแต่มะหมา
เอ่า..เพลินเลย นะแมวน้ำ เห็นสัตว์เลี้ยงไม่ได้ต้องเข้าไปตีซี้คลุกคลีด้วยตลอด ไปฟาร์มจิมได้แล้ว จั่วหัวว่าไปฟาร์มจิมแต่หร่อนมัวแวะโน่นแวะนี่อยู่ได้ คนอ่านเค้าปิดบลอกหนีไปแล้ว
โอเค ไงไปก่อนนะเจ้ากระต่ายและแฮมสเตอร์ไว้มีโอกาสจะมาเยี่ยมใหม่นะแต่คงไม่เจอตัวเดิมแล้งม้าง เพราะเค้าคงรับไปขายแล้วล่ะป่านนั้น
อย่ามัวโอ้เอ้ลีลา ฟาร์มจิมทอมป์สัน ไฮไลต์ของทริปนี้รออยู่ ไปกันเล้ย
เดินทางอีกราวๆ20 นาที ก็มาถึงแล้ว Jim Thompson Farm
รีบซื้อบัตรผ่านประตูแล้วเข้าไปเลย
พอเข้าไปแล้วทางเจ้าหน้าที่ก็จัดให้เราขึ้นรถรางเพื่อเข้าเยี่ยมชมภายในฟาร์มซึ่มีเนื้อที่กว่า 600 ไร่ และจะแบ่งเป็นโซนต่างๆ โดยเริ่มแรกเป็นแหล่งผลิตไข่ไหมจำหน่ายให้สมาชิกเกษตรกรเพื่อรับซื้อรังสดในการผลิตเส้นไหมและเป็นพื้นที่ปลูกหม่อนอันเป็นอาหารหลักของหนอนไหม ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าJim Thompson มีชื่อเสียงทางด้านผ้าไหม แล้วหลังจากนั้นก็เปิกที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เกษตรและวัฒนธรรม ใครสนใจเข้าไปอ่านๆเพิ่มเติมได้ที่เวบนี้ง๊าบ //www.jimthompsonfarm.com/
ร่ายยาวเลย เอ้า กระโดขึ้นรถไปยังที่จุดแรกกันเลย
ในขณะนั่งรถก็จะมีผู้บรรยายประวัติต่างๆและสองข้างทางที่พบเห็นก็จะเป็นทิวสนและทุ่งดอกปอเทือง และก็มาปล่อยให้เดินเล่นตรงลานฟักทองยักษ์และทุ่งดอกคอสมอส
จุดนี้มีสิ่งน่าสนใจหลายอย่างทั้งกองฟังทอง ดอกคอสมอส ดอกทานตะวันและงานศิลปะด้วย
โดยเฉพาะซีนที่ประทับใจที่สุดก็คือทุกดอกคอสมอสสีสันสดใสให้อารมณ์ยืนอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ที่ฮอกไกโด
ส่วนเจ้าฟักทองกองโต นี่ก็น่าสงสัยว่าเค้าไปทำอะไรน้า...ลืมถามมาอ่ะ
Pumpkin by Jim thompson
ซิ่งรถฟักทองไปรับซินเดอเรลล่าไปงานเลี้ยงคืนนี้ ^ ^
ออกไปกอดฟักทองให้หายเหนื่อย
สนุกสนานกับกองฟักทองมาก เป็นพร็อพสีสดที่เหมาะกับการถ่ายรูปที่สุด จุดหมายต่อไปเราจะไปหมู่บ้านศิลปินกัน วางฟักทองแล้วกระโดขึ้นรถต่อ ตามลูกศรนี้ไปเลยง๊าบ
ในโซนหมู่บ้านศิลปินและหมู่บ้านอีสาน ก็จะมีการแสดงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนอีสานไว้ให้เรียนรู้ศึกษา ทั้งเรื่องการทอผ้าไหม การดำรงชีวิต ศิลปะต่างๆ เรามาดูในโซนเกี่ยวกับการทอผ้าไหมกันดีกว่า ที่นี่เลย
กว่าจะได้ผ้าไหมสักผืนนึงไม่ใช่ง่ายๆเลย ที่นี่ก็เลยสาธิตวงจรการเจริญเติบโตของตัวไหม เพื่อให้ได้รู้ขั้นตอนต่างๆ อยากรู้ลึกถึงรายละเอียดขอเชิญไปศึกษาดูงานกันเองนะง๊าบ เพราะมีพี่เจ้าหน้าที่คอยให้ความรู้อยู่ประจำทุกฐาน
รอยไหม...
เมื่อเจ้าตัวหนอนไหมถูกแปรรูปจนกลายเป็นเส้นไหม ก็จะเอามาย้อมสีให้สวยสดใสแล้วนำไปใช้ในการทอต่อไป
ได้ความรู้เรื่องผ้าไหมไว้ประดับปัญญาแล้วในระดับหนึ่ง ต่อไปเราไปเดินเล่นท่ามกลางไร่นาสไตล์อีสานคลาสสิคกันหน่อยดีกว่า ลมเย็นๆแดดร่มลมตก แสงช่วงตะวันล้อยต่ำเหมาะแก่การถ่ายรูปมากมากมาย เป็นแสงของความอบอุ่นทนบรรยากาศแบบพื้นบ้านที่คนเมืองอย่างเรานานๆจะได้เห็นซะที
กอดฟ้า กอดต้นข้าว กอดหุ่นไล่กา ...พรีเซนเตอร์ททท. อู๊ย..ปีนี้เค้าเปลี่ยนแคมเปญไปแล้วหร่อน (ทำไม..ก็แมวน้ำไปปีที่แล้วนี่)
นอกจากนี้ก็มีการละเล่นแบบพื้นบ้าน ที่เป็นภูมิปัญาชาวบ้าน เอาของที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาประยุกต์ก็สนุกได้ อยากเช่นไม้กระบอกที่ใช้ต่อขาเดิน ชื่อสั้นๆเค้าเรียกว่าอะไรง่ะ แต่เล่นยากเหมือนกันนะเนี่ย หัวทิ่มลงมาอายเค้าตายเลย หงืดๆๆ
ของเล่นไทยแท้ๆแต่คนไทยกลับเล่นไม่เป็น กลับกลายว่าคุณลุงชาวต่างชาติซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวคนนี้ ต้องสอนวิธีการเล่น แกคงเคยเป็นโบโซ่อยู่คณะละครสัตว์ circus มาก่อน ใช้วิธีการเดินต่อขาแบบเดียวกัน อิอิ
ในโซนนี้ยังมีการจัดบ้านที่เป็นวัฒนธรรมชาวอีสานอีกมากมายแล้วยังมีร้านอาหารอีสานไว้ให้บริการด้วย แต่แมวน้ำไปตอนเค้าเก็บแล้วเพราะเย็นมากใกล้ปิด เลยอด ไม่เป็นไร แก้เก้อด้วยการขอวิ่งเล่นไปมาก็สนุกได้เหมือนกัน
กระสวยอวกาศ เอ้ย กระสวยทอผ้าก็เอามาdecorateบ้านได้เก๋ๆ
นอกจากนี้ยังมีงานศิลปะที่มีศิลปินมาตั้งจัดแสดงโชว์ให้ด้วย เป็น Art Gallery ที่มีคอนเซปต์แบบอบอุ่น ลูกทุ่งและภูธร
อ่านกันออกมั้ยเอ่ย
จบโซนนี้นั่งรถรางต่อไปโซนสุดท้ายเพื่อชมตลาดจิมทอมป์สันและแปลงผักปลอดสาร ไว้เป็นของฝากกันนะง๊าบ
แปลงผักไฮโดรโปนิกส์งามๆ
นังแมวน้ำศัตรูพืชแอบมาแงบผักเค้าได้ไง
หรือจะซื้อฟักทอง ที่เหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ของจิม ทอมป์สันฟาร์มไปแล้ว ก็ซื้อไปได้เหมือนกันนะง๊าบ
ซื้อเสร็จก็เดินเล่นดูพระอาทิตย์ตกดิน ที่นี่เหมาะกับการพาครอบครัวมาท่องเที่ยวมากมายง๊าบ ทั้งสวยงามและได้ความรู้ พาเด็กที่วันๆอยู่แต่ในเมือง เล่นเกมคอมพิวเตอร์ ตื่นแต่ตีห้าไปนอนในรถติด มาเที่ยวแบบสโลว์ๆซึมซับวัฒนธรรมท้องถิ่น การละเล่นพื้นบ้านและหาความรู้รอบตัว ที่นี่ก็คุ้มค่ามากๆ
แอบเห็นบางคนมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันด้วยน่ารักดี อิอิ แต่ตอนนี้ใกล้มืดแล้วที่นี่ก็จะปิดแล้วยังไงนั่งรถรางกลับไปยังที่จอดรถข้างหน้าดีกว่าง๊าบ
สนุกจัง วันเดียวเที่ยวซะหายอยากเลย ยังไงใครอยากมาชมฟาร์มจิมก็ดูวันเวลาดีๆนะงีาบ ปีนึงมีแค่ครั้งเดียว มาเที่ยวกันนะง๊าบ ^^
Create Date : 04 ธันวาคม 2554 |
|
10 comments |
Last Update : 4 ธันวาคม 2554 15:16:21 น. |
Counter : 9452 Pageviews. |
|
|
|
ปล.ฉากก็สวย นางแบบก็สวยเนอะ แบบนี้ต้องชมช่างภาพด้วยรึป่าว ^ ^