ลองเขียนดู
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
6 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
ถึงซะที

หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จก็เริ่มเดินทางอีก กูสังเกตเห็นว่า พอเที่ยง ๆ จะมีเด็กนักเรียนเลิกเรียน ขี่รถจักรยานบ้างเดินบ้างเต็มถนน สรุปได้ความว่าโรงเรียนที่นี่เขาเรียนกัน 2 กะ กะเช้า 7 โมงกับกะบ่าย ให้เด็กเลือกเอาว่าจะเรียนกะไหน พอวิ่งมาได้สัก 80 กว่ากีโล เสียระเบิดก็ดังขึ้นอีกคราวนี้ดังขึ้นดังกว่าเดิมจนรถเป๋ออกไปอีกข้างหนึ่ง โชคดีที่ถนนยังเป็นลูกรังวิ่งไม่ค่อยสะดวก รถจึงวิ่งอยู่ประมาณ 60 กม/ชม จึงจอดได้ทัน ลงไปดูปรากฏว่ายางแตกอีก คราวนี้ 2ล้อเลย เป็นล้อหลังที่เปลี่ยนเข้าไปใหม่กับล้อคู่กันด้านใน เอาละซิ ล้ออะไหล่ก็หมดซะแล้ว เลยปรึกษากันว่าให้โทรไป(วิทยุ)ไปบอกรถอีกคันซึ่งวิ่งไปไกลแล้วเนื่องจากไม่ต้องวิ่งกลับไปเติมลม ให้กลับมาแล้วเอาล้ออะไหล่ใส่คันนี้ล้อเดียวพอจะวิ่งปุเรงปุเรงไป ขณะเดียวกันให้โทรไปบอกที่เสียมราฐให้ส่งรถอีกคันมารับผู้โดยสารที่นี่ กว่ารถอีกคันจะวิ่งมาถึงก็ครึ่งชม.กว่า ๆ พอได้ล้อมาเปลี่ยน บ.ทัวร์ก็ขออาสาสมัคย้ายรถ ขอให้มายังรถที่วิ่งได้สัก 5-6 คน ให้วิ่งไปก่อน ส่วนรถที่ยางแตกก็ให้รอรถมาเปลี่ยน กูรีบอาสาสมัครเป็นคนแรกเพราะกูหัวไวกว่าเพื่อน คนอื่นอาจจะนึกภาพต่อไปไม่ออกว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีก ขณะที่กูมองเห็นภาพชัดเจนแล้วว่าขืนอยู่ต่ออาจจะได้กินข้าวกับลิงข้าง ๆ ทาง กูกับเมียรีบเปลี่ยนรถทันทีเพราะอยู่แถวหน้าสุดลงรถได้สะดวกกว่าคนอื่น

เปลี่ยนรถวิ่งมาได้สักสี่สิบห้านาที่ก็เห็นรถบัสเปล่าวิ่งสวนมา เป็นอันใจเย็นได้แน่ว่ารถคันนั้นคงไม่ต้องกินข้าวกับลิงแน่ ตลอดการเดินทางไกด์ชาวเขมรก็ยังยืนยันว่าได้จัดรถที่ดีที่สุดให้กับกรุ๊ปทัวร์กรุ๊ปนี้เนื่องจากแกก็ได้ยินกิติศัพท์อ.วีระเหมือนกัน เหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดกับรถของแกเลย ตลอดเส้นทางนับสะพานได้เป็น 100 สะพาน พี่แกไม่คิดทำเป็น box culvert วางแล้วทำถนนไปชนเหมือนของพี่ไทยเรา พี่แกทำสะพานทุกจุด ไม่แน่พี่แกอาจคิดถูกก็ได้ ไม่ต้องแก้ปัญหาน้ำท่วมเพราะทางระบายน้ำธรรมชาติไม่พอเหมือนเมืองไทยก็ได้ พอรถวิ่งถึงสะพานที่กำลังก่อสร้างก็ต้องลงทางเบี่ยงด้านข้างทุกจุดไป
ลืมบอกไปว่ารถที่นี่เขาพวงมาลัยซ้ายวิ่งคนละทางกับไทย ฉะนั้นถ้าเป็นรถพวงมาลัยขวาแบบไทยละก็วิ่งลำบากมาก เพราะเวลาแซงจะมองไม่เห็นรถคันข้างหน้าว่าว่างหรือเปล่า ต้องถามคนที่นั่งข้างตนขับเอาว่าถนนว่างหรือไม่ มีเรื่องโจ๊กเขมรเล่าให้ฟังว่า มีรถแท็กซี่พวงมาลัยขวารับส่งคนระหว่างจังหวัดคันหนึ่ง วันหนึ่งก็รับผู้โดยสารตามปกติ ข้างซ้ายของคนขับก็มียายแก่คนหนึงนั่งมาด้วย พอมาถึงกลางทางแท็กซี่ขับตามหลังรถบันทุก ก็อยากจะแซง แต่มองทางไม่เห็นเพราะพวงมาลัยแกคนละทาง จึงถามยายว่า มีรถไหม ? ยายแกก็ตอบว่าไม่มี คนขับก็เลยเบี่ยงซ้ายออกแซงทันที ปรากฏว่าเจอเข้าให้กับรถที่วิ่งสวนมา ชนกันเข้าอย่าจัง หลังจากเจรจาความกันเรียบร้อยแล้ว คนขับก็หันมาโวยยายว่า ยายทำไมบอกว่ารถไม่มีนั่งอยู่ริมหน้าต่างน่าจะมองเห็นอยู่แล้ว ยายก็ตอบว่า กูไม่ได้โกหก ถ้ากูมีรถกูจะมานั่งรถแท็กซี่มึงเหรอ

รถคันแรกกว่าจะถึงเสียมเรียบก็ประมาณเกือบ 3 โมง ทางโรงแรมเตรียมข้าวเที่ยงตั้งแต่ 12 โมงแล้ว (เดิมกะว่าจะถึงประมาณไม่เกินบ่าย) อ. วีระ กับอาจารย์ สุเนตร ซึ่งเอาเปรียบลูกทัวร์คนอื่นโดยนั่งเครื่องบินแต่เช้ามาลงที่สนามบินเสียมเรียบมายืนรับ กล่าวปลอบใจว่า ต้องอย่างนี้แหละเขมรแท้ สมัยนี้ยังดีกว่าเมื่อปีที่แล้วแยะ อีกสัก 5-6 เดือน น่าจะสะดวกกว่านี้มาก ทุกคนรวมทั้งไม่รอฟังอ. วีระพูด รีบเดินเข้าห้องอาหารไปเสวยอาหารเที่ยงเสียก่อน เนื่องจากหิวจนท้องร้องแล้ว อาหารโรงแรมนี้ก็งั้น ๆ แหละ อาศัยหิวก็เลยอร่อย กินไปได้สักครึ่งชั่วโมงรถคันที่ 2 ก็มาถึง กล่าวโดยสรุปคือใช้เวลาประมาณ 8.30 ออกจากปอยเป็ต ถึงเสียมราฐประมาณ 5 ชม. ทุกคนที่นั่นถือว่าเป็นเรื่องปกติ

ความจริงแผนการเที่ยวในวันแรกจะต้องไปเที่ยวดูสะพานโบราณสร้างเมื่อ 800 ปีมาแล้วขวางแม่น้ำสายหนึ่ง ปัจจุบันยังคงใช้งานอยู่ ยาวประมาณ 100 ม. กว้างประมาณ 10 ม. ทำด้วยศิลาแรง แต่ก่อนรถ 10 ล้อวิ่งข้ามอยู่แต่เดี๋ยวนี้ห้ามรถ 10ล้อผ่านแล้ว กับอีกโปรแกรมหนึ่ง จะไปดูบาราย(คือสระน้ำขนาดใหญ่ สร้างด้วยมนุษย์)ดูพระอาทิตย์ตกดินในบาราย แต่ดูแล้ววันนึคงไม่ได้ดูสะพานแน่เพราะอยู่นอกเมืองออกไปไกล ดูได้แต่บารายอย่างเดียว

ก่อนอื่นขออธิบายคำว่าบารายก่อน บารายคือสระน้ำขนาดยักษ์ที่ขาวขอมโบราณสร้างขึ้นเมื่อ1000ปีที่แล้ว ที่ว่าขนาดใหญ่นี้เราพูดกันขนาด 8 กิโลคูณ 2 กิโล บารายนี้เป็นการเก็บน้ำที่ผิวดินไม่ใช่ขุดเป็นบ่อลงไป พูดง่าย ๆ คือทาเขื่อนดินสูงขึ้นมาเพื่อเก็บน้ำโดยอาจจะขุดเอาดินข้าง ๆ บริเวณที่จะทำคันดิน เอามาพูนดิน คันดินที่ว่านี้เขาบอกว่าบางแห่งก็สูงถึง7 ม ก็มี บางแห่งก็เป็นคันถนนที่รถวิ่งอยู่ทุกวันนี้ กูไม่ทันได้สังเกตว่าคันนี้กว้างเท่าไหร่ บารายทั้งหมดที่เขมรโบราณสร้างไว้มีปรากฏให้เห็นอยู่ 4 แห่ง 3แห่งน้ำแห้งหมดแล้วเหลืออีกแห่งที่กำลังจะไปดูยังไม่แห้ง ยังมีน้ำขังอยู่ประมาณ ครึ่งหนึ่ง ความสูงของน้ำที่ขังอยู่ ไกด์บอกว่าถ้าหน้าน้ำก็สูงประมาณ 3 ม. ถ้าหน้าแล้งก็ประมาณ 2เมตร การผันน้ำเข้าตัวบารายนี้เขาคาดว่าจะผันเอามาจากแม่น้ำเสียมเรียบซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบารายนัก ไกด์บอกว่าเดี๋ยวนี้พวกตะกอนดินมาปิดทางน้ำเข้าหมดแล้วจึงเหลือน้ำอยู่เพียงครึ่งเดียว ( อันนี้กูมีทฤษฏีของกูต่างหาก หลังจากที่ได้ประมวลภาพทั้งหมดที่ได้เที่ยวมา )
งานนี้ท้าทายความรู้ความสามารถของจารย์เอ็กเป็นอย่างยิ่ง ถ้ามันเกิดเป็นนายช่างสมัยเมื่อ 1000 กว่าปีที่แล้วมันจะมีปัญญาคำนวณ-สร้างอ่างเก็บน้ำขนาด จุน้ำ 50 ล้านคิว ได้อย่างไร โดยที่ไม่ได้อาศัยรถ back hoe ไม่มีกล้อง servey เลย กูคิดไม่ออกว่า เขาจะเช็คระดับที่ดินได้อย่างไร กูว่าระดับจารย์เอ็กสมัยนั้นคงได้เป็นแค่ ทาสใช้แรงงานขนดินทำเขื่อนเท่านั้น


ยังมีต่อนะครับ




Create Date : 06 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2552 10:18:51 น. 0 comments
Counter : 703 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

วรรณเกษม
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ลองเขียนเล่น ๆ ดูครับ
ลองดุ .........
Friends' blogs
[Add วรรณเกษม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.