การเลือกซื้อบ้านถือว่าเป็นอะไรที่น่าปวดหัวอยู่ไม่น้อย เพราะต้องดูรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย และยังมีตัวเลือกให้ได้เลือกเยอะแยะเต็มไปหมดจนไม่รู้ว่าจะต้องเลือกบ้านแบบไหนดี บ้านเดี่ยว บ้านแฝด
ทาวน์เฮ้าส์ หรือแบบคอนโดดี ดังนั้นหากใครที่กำลังซับสนและยังไม่รู้ถึงความต้องการของตนเองก็จะมองว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี แต่สำหรับคนที่รู้ถึงความต้องการของตนเองเป็นอย่างดี ก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายมาก ๆ เพราะมันจะทำให้คุณสามารถหาข้อมูลของบ้านแบบนั้น ๆ ได้อย่างเต็มที่ เช่น ถ้าคุณอยากได้บ้านแบบ
ทาวน์เฮ้าส์ คุณก็ศึกษาหาข้อมูลบ้านแบบ
ทาวน์เฮ้าส์อย่างเดียวโดยที่ไม่ต้องไปหาข้อมูลบ้านแบบอื่น ๆ ให้วุ่นวาย ซึ่งถ้าคุณสนใจและคิดที่จะซื้อบ้านแบบทาวน์เฮ้าส์จริง ๆ สิ่งแรก ๆ ที่คุณต้องคำนึงก็จะมีดังนี้
สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงก่อนเป็นอันดับแรกในการซื้อ
ทาวน์เฮ้าส์1.งบประมาณการเงิน
ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการจะมีบ้านเลยก็ว่าได้ แม้ว่าเราจะเจอบ้านที่ถูกใจ ในโครงการที่ใช่ มีทุกอย่างพร้อม แต่หากขาดปัจจัยด้านการเงินไปก็คงถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะในปัจจุบันมักมีราคาเริ่มต้นที่ 1 – 3 ล้าน แล้วแต่ความใกล้ไกล จากตัวเมือง และลักษณะโครงการบ้าน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราไม่จำเป็นต้องมีเงินเป็นหลักแสนหลักล้านในการซื้อบ้าน ร้อยละ 90 ของคนมักจะซื้อบ้านผ่านการกู้จากทางธนาคาร มองหาธนาคารที่สามารถให้สินเชื่อบ้านที่มีเงื่อนไขเอื้อประโยชน์กับเราให้มาที่สุด เช่นอัตราดอกเบี้ยถูก วงเงินครอบคลุมราคาบ้าน ระยะเวลาผ่อนชำระ ทั้งหมดจะต้องไม่เกินภาระที่จะสามารถผ่อนได้ในระยะยาว
2.ตั้งโจทย์การใช้ชีวิต
เหมือนการซื้อบ้านโดยทั่วไป ผู้ซื้อต้องตั้งโจทย์ในใจอยู่เสมอว่า บ้านที่จะซื้อนั้นสามารถตอบความสนองต้องการอะไรได้บ้าง ปัญหา และความต้องการที่ว่า อาจจะเป็นในเรื่องของ
• ขนาดของบ้าน กับจำนวนของผู้อยู่อาศัย เช่น หากกำลังเริ่มต้นสร้างครอบครัว ควรเลือกทาวน์โฮม ที่เป็น 3 ห้องนอน เพื่อรองรับสมาชิกใหม่ หรือหากต้องการอยู่แค่สามี-ภรรยา หรืออยู่กับพ่อแม่ ก็อาจจะลดจำนวนห้องลงมา ยิ่งบ้านไหนมีสมาชิกมาก ควรจะมีห้องน้ำที่มากขึ้น (อาจจะตามจำนวนห้องนอน) และสามารถใช้อาบน้ำได้ทุกห้อง เป็นต้น
• ความห่างไกล เพราะเดี๋ยวนี้ทาวน์เฮ้าส์ ส่วนใหญ่มักสร้างในบริเวณชานเมือง ควรเลือกโครงการที่อยู่ไม่ไกลจากสถานที่ทำงาน หรือใกล้เส้นทางที่สามารถทำให้เดินทางสะดวก เช่น ใกล้ระบบขนส่งมวลชน หรือหากชอบให้อยู่ใกล้กับสถานที่อำนายความสะดวกอย่าง ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ฯลฯ ก็ได้ไม่ว่ากัน
• สไตล์ของบ้านที่อยากได้ บางคนชอบแบบมินิมอล ลอฟท์ ฯลฯ ก็ขึ้นอยู่กับความชอบ โดยอาจจะตกแต่งเพิ่มเองก็ได้
3.หาโครงการที่ตอบโจทย์
เมื่อมีธงในใจแล้วว่าอย่างได้บ้านแบบไหน ขั้นต่อมาคือการมองหาโครงการที่ตอบโจทย์ที่ว่า ทาวน์โฮม บางโครงการอาจจะไม่ต้องโจทย์ได้ตรงทุกข้อ แต่ว่าอย่างน้อยควรจะตอบโจทย์ให้มากที่สุด เช่น อาจจะพึงพอใจทำเลบริเวณนี้ ทุกอย่างพร้อม แต่ไม่ชอบสไตล์บ้าน ก็สามารถปรับเปลี่ยนและตกแต่งเพิ่มเติมได้ หรือหากไม่ซีเรียส โครงการมีการตกแต่งที่ตรงใจ ก็ไม่จำเป็นต้องไปตกแต่งเพิ่มให้เสียเวลา แต่อย่างน้อยต้องคำนึงว่า
• ทำเลที่ตั้งเหมาะสม ไม่อยู่ใกล้แหล่งน้ำสกปรก พื้นที่ทิ้งขยะ หรือสภาพแวดล้อมเป็นพิษ
• คุณภาพโครงการ เช่น งานโครงสร้างอาคาร ระบบการก่อสร้าง และวัสดุที่ใช้
• ลักษณะของบ้านและการตกแต่ง ควรจะเป็นสัดส่วน และใช้งานได้จริง
• บริการหลังการขายของแต่ละโครงการ
4.สภาพแวดล้อมของหมู่บ้าน
ไม่ใช่แค่การเลือกบ้าน แค่ตัวบ้านเท่านั้น แต่จะต้องดูไปถึงสภาพแวดล้อมที่บ้าน ตั้งอยู่ด้วย เนื่องจากทาวน์โฮมเป็นเหมือนบ้านหลายๆหลัง ติดกัน ดังนั้นความเป็นชุมชนจึงจะหนาแน่นกว่าโครงการบ้านเดี่ยวแน่นอน สภาพแวดล้อมในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงแค่ทำเลแต่เพียงอย่างเดียว ยังหมายความรวมถึงเพื่อนบ้านอีกด้วย
แต่ทั้งนี้ในการเลือกซื้อบ้านแต่ละแบบนั้นก็มีข้อดีในแบบของตัวเองแตกต่างกันออกไป อย่างบ้านแบบ
ทาวน์เฮ้าส์ก็จะให้ความรู้สึกที่อบอุ่นด้วยพื้นที่ขนาดเพียงพอกับความต้องการของผู้ใช้ มีพื้นที่ใช้สอยที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่ากับราคาเบา ๆ ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยแบบครอบครัวขนาดเล็ก มีตั้งแต่แบบ 2 ชั้นขึ้นไป ห้องนอนจะเริ่มจาก 2 -3 ห้องนอนกันเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้การดูแลเป็นแบบส่วนกลางทำให้ง่ายต่อการบำรุงรักษา ประหยัดค่าใช้จ่ายเพราะเป็นการเฉลี่ยกันออกภายในโครงการ มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงพอ และหากเจ็บป่วยก็ยังสามารถขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านได้อีกด้วยค่ะ
#ทาวน์เฮ้าส์