เมื่อความฝัน* มีความมุ่งมั่น ชีวิตก็จะมีความหวัง * เมื่อชีวิตมีความหวัง กำลังใจก็จะตามมา * อุปสรรค์ เป็นแค่เพียงบททดสอบ เท่านั้น * ขอจงมี ความฝัน อยู่เสมอ คุณทำได้ ถ้าได้ทำ * คุณทำไม่ได้ เพราะ ไม่ได้ทำ **
THE GREAT TUDORS ( HENRY VIII ) กษัตริย์เฮนรี่ ที่ 8.(ราชวงศ์ทิวดอร์)

...................................................................................
THE GREAT TUDORS " ( HENRY VIII ) & THE SIX WIVES
..กษัตริย์เฮนรี่ ที่ 8. ของอังกฤษ ( ราชวงค์ ทิวดอร์ ) และพระราชินี ทั้ง 6

เป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์ ชีวิตของกษัตริย์อังกฤษ ผู้โด่งดังในอดีต เมื่อ 500 ปี ที่แล้ว แต่ก็ยังเป็นที่กล่าวถึงชื่อ และบทบาทของท่าน..จนถึงปัจจุบันนี้ และทาง ทีวี BBC 2 ของอังกฤษ ได้นำมาทำเป็นละครพีเลียต เมื่อต้นปี 2008 (ช่วงที่ 1 )
ซึ่งเป็นที่ฮือฮามาก และกำลังจะนำมาฉายอีกในเดือน August ( ช่วงที่ 2 )....

...หาชมละครชุดนี้ได้ที่ ............

https://www.youtube.com/watch?v=Ld9Tb-14PqE

.....เรื่องเล่า จากแสตมป์สะสม ( Handbook stamps collection ).........

ราชวงศ์ทิวดอร์ เริ่มต้นโดย โอเวน ทิวดอร์ (Owen Tudor ) ทนายชาวเวลส์ ในรัชสมัย พระเจ้าเฮนรีที่ 5 โอเวน ทิวดอร์ สมรสกับสมเด็จพระราชินีแคทเธอรีน แห่งวาลัวส์ (Katherine of Valois) พระมเหสีหม้าย ในสมเด็จพระเจ้าเฮนรี ที่ 5 มีโอรสด้วยกัน 5 คน โอรสคนแรก คือ เอ็ดมันด์ ทิวดอร์ (Edmund Tudor) สมรสกับ เลดี้ มาร์กาเร็ต โบฟอร์ด (Lady Margaret Beaufort) ทายาทของจอห์นแห่ง กอนต์ ดยุคคนที่ 1 แห่งลานคาสเตอร์ (John of Gaunt, 1st Duke of Lancaster)

สิทธิในราชบัลลังก์ ต่อจาก พระเจ้าเฮนรีที่ 6 (บุตรของ พระเจ้าเฮนรีที่ 5 ) พระเชษฐา ต่างบิดาของ เอ็ดมันด์ ทิวดอร์ สืบทอดผ่านทาง มารดาคือ พระราชินีแคทเธอรีน แห่งวาลัวส์ เอ็ดมันด์ ทิวดอร์ สมรสกับ เลดี้ มาร์กาเร็ต โบฟอร์ด เมื่อมีอายุเพียง 13 ปี หลายเดือนหลังจาก เอ็ดมันด์ ทิวดอร์ สามีเสียชีวิต เลดี้ มาร์กาเร็ต ได้ให้กำเนิดบุตรชาย เกิดสงครามช่วงชิง ราชบัลลังก์ ระหว่าง ราชวงศ์ลานคาสเตอร์ และราชวงศ์ยอร์ก บุตรชายของ เอ็ดมันด์ ทิวดอร์ กับ เลดี้ มาร์กาเร็ต ได้ขึ้นครองราชย์ เป็นกษัตริย์เฮนรี ที่ 7 แห่งอังกฤษ.



สมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 7 สมรสกับ เอลิซาเบธ แห่งยอร์ค มีบุตร 4 คน
โอรสคนแรกคือ เจ้าชายอาเธอร์ ที่จะขึ้นสืบราชบัลลังก์ต่อจากบิดา เจ้าชายอาเธอร์ สมรสกับ แคทรีน แห่งอะราก็อน เจ้าหญิงจากสเปน แต่เจ้าชายอาเธอร์ มีสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง และป่วย สิ้นพระชนม์ หลังจากแต่งงานได้ 5 เดือน..



HENRY VIII ( r. 1509-1547 ) ช่วงของปี ที่ขึ้นสืบราชสมบัติ
กษัตริย์เฮนรี่ ที่ 8 ขึ้นสืบราชสมบัติเป็นระยะเวลา 38 ปี และสิ้นพระชนม์ เมื่ออายุ 56 ปี
......................................................................................

..เจ้าชายเฮนรี่ คือบุตรชายองค์รอง จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นองค์รัชทายาท ต่อจากพี่ชาย ซึ่งมีอายุ ในขณะนั้น เพียง 12 ปี เจ้าชายเฮนรี่ ก็ทรงศึกษาเล่าเรียน เจ้าชายเป็นคนฉลาด มีไหวพริบเป็นเลิศ เก่งและเชี่ยวชาญด้านการกีฬา เป็นที่รัก และเคารพแก่เพื่อนๆ และบริวาน และยัง สามารถพูด ภาษาฝรั่งเศส ลาติน และสเปน ได้ด้วย เจ้าชายเฮนรี่ เป็นหนุ่มน้อยที่มีรางกายสูงใหญ่ กำยำ แข็งแรง เมื่อเทียบกับคนที่มีอายุเท่ากัน พระองค์ เป็นคนที่เด็ดเดี่ยว เฉียบขาด ถ้ามุ่งมั่นจะทำอะไรแล้ว ก็จะฟันฝ่าไปจนสำเร็จ จึงเป็นที่น่าเกรงขาม แก่บริวาน และคนทั่วไป...



..กษัติริย์เฮนรีที่ 8 ประสูติที่พระราชวังกรีนิช ลอนดอน ในวันที่ 28 1491 ขึ้นสืบราชสมบัติ เป็นกษัตริย์ เฮนรี่ ที่ 8 ของอังกฤษ เมื่อ 22 April 1509
สมรสกับ เจ้าหญิง แคเธอรีน แห่งอารากอน ( Catherine of Aragon) เจ้าหญิงจากสเปน ในปี 1509 ( ซึ่งเคยสมรสกับ เจ้าชายอาเธอร์ พี่ชายของกษัตริย์เฮนรี่ ที่สิ้นพระชนม์ไป ) และมีบุตรด้วยกันหลายพระองศ์ แต่มีชีวิตรอดอยู่เพียงพระองค็เดียว คือ เจ้าหญิงแมรี่ ( ซึ่งต่อมา ขึ้นเป็นพระราชินี )

เจ้าหญิงแคเธอรีน แห่งอารากอน เป็นบุตรของ กษัตริย์เฟอร์ดินาน แห่งอารากอน ( Ferdinand of Aragon ) จากสเปน ซึ่งมีอำนาจมาก ในสมัยนั้นเพราะสเปน มีกองทัพเรือที่เข้มแข็ง และราชวงศ์แห่งสเปน มีเครือญาติเยอะ ที่เป็นเจ้านายชั้นสูงทั่วทั้งในยุโรป เช่นอาณาจักรโรมัน แคเธอรีน นับถือศาสนาคริสต์ นิกายคาทอลิก และยังมีอายุมากกว่าเฮนรี่ 7 ปี

พระราชินีองค์ที่ 1.

CATHERINE OF ARAGON
มีพระชนม์อยู่ในช่วง ปี 1485 - 1536 = 51 ปี
สมรสเมื่อมีพระชนม์ = 24 ปี = กษัตริย์เฮนรี่ 18 ปี
ขึ้นเป็นพระราชินี ปี 1509 - 1533 = 24 ปี
* DIVORCED *


กษัตริย์เฮนรี่ ได้ออกรบ ร่วมกับพ่อตามาหลายครั้ง ในสงครามฝรั่งเศส และได้รับชัยชนะ ในสงครามแห่งสเปอร์ ในระหว่างที่อยู่ ในต่างประเทศ กษัตริย์เจมส์ ที่ 5 แห่งสก็อตแลนด์ ยกทัพทหารมารุกรานประเทศ และเกิดการสู้รบกับทหารฝ่ายอังกฤษ กษัตริย์เจมส์ ที่ 5 แห่งสก็อตแลนด์ (JAMES IV OF SCOTLAND ) รบแพ้ที่ฟล็อตเดน ( Flodden) และสิ้นพระชนม์ลง พระราชินีแคเธอรีน ได้มอบเสื้อออกศึกที่เปื้อนเลือดของ กษัตริย์เจมส์ เป็นของขวัญให้กับ กษัตริย์เฮนรี่ พระสวามี ในคราวนั้น

..สงครามกับฝรั่งเศส เป็นศึกที่ใหญ่ และรบชนะจึงทำให้กษัตริย์เฮนรี่ มีชื่อเสียงโด่งดังในยุโรป และมีอำนาจมาก ( The French war was big and successful enough to put Henry's Kingdom on the map as one of the big three European powers )

..จากการชนะสงครามกับฝรั่งเศส มาหลายครั้ง กษัตริย์เฮนรี่ จึงได้รับเชิญให้เข้าร่วมเป็นที่ปรึกษา อภิปรายเกี่ยวกับการทำสงคราม และนักการฑูต เพื่อสมานฉันท์ ที่ กลางทุ่งสนามรบ กับกษัตริย์ หลุย์ ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเต้นผ้าใบ ทีตั้งเป็นที่ประชุมชั่วคราว ( The Field of the Cloth of Gold ) และ กษัตริย์เฮนรี่ มี โทมัส วูซี่ ( Thomas Wolsey ) คอยเป็นที่ปรึกษา และให้คำแนะนำในระหว่างนั้น.และในครั้งนี้พระองค์ก็ได้พบกับ เลดี้แอนน์ โดยบังเอิญ เพราะพี่สาวของเลดี้แอนน์ คือเลดี้ แมรี่ โบลีน แต่งงานกับ กษัตริย์ หลุยส์ ( Louis XII of France.) ฟรั่งเศส ซึ่งมีการอภิปรายกับกษัตริย์เฮนรี่ ในครั้งนี้ ซึ่งเลดี้แอนน์ ได้พำนักอยู่กับพี่สาว..


FIELD OF THE CLOTH OF GOLD
The sumptuous diplomatic offensive was organised by Wolsey to make England arbiter of Europe. Henry met Francis I in France at a huge temporary palace of timber and canvas. Great quantities of velvet, satin and cloth of gold were used for furnishings and hangings.



CARDINAL WOLSEY
He becomesupreme in the Church and the State and his international policies helped to make England a centre of Renaissance learning, attracting to court painters and intellectuals from the continent.


คาดินาล วูลซี่ ( Cardinal Wolsey ) เป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในศาสนจักร ซึ่งมีตำแหน่งเป็น หัวหน้าบาทหลวง ( Archbishop of York and Papal Legate; and in state as Lord Chncellor ) อำนาจของ วูลซี่ ขึ้นอยู่กับความสามรถ และทำตาม ความต้องการของกษัตริ์เฮนรี่.

...ชีวิตการแต่งงานของกษัตริย์เฮนรี่ กับ พระราชินีแคเธอรีน เริ่มมีปัญหา เมื่อแคเธอรีน ไม่สามารถให้บุตรชายได้ และในขณะเดียวกันนั้น กษัตริย์เฮนรี่ ก็ตกหลุมรัก เลดี้ แอนน์ โบลีน ( LADIES ANNE BOLEYN ) ซึ่งบิดาส่งมาอยู่ในวัง เพื่อรับใช้เจ้านายชันสูงในวัง แอน โบลีน มีรูปร่างและหน้าตาที่สวยงาม ทั้งยังเป็นคนที่ฉลาด และมีความรู้ จึงเป็นที่หลงไหลแก่กษัตริย์เฮนรี่ แต่ แอน โบลีน ไม่ยอมเป็นแต่เพียงพระสนม แต่ต้องการเป็นถึงพระราชินี ของกษัตริย์เฮนรี่ ซึ่งในขณะนั้น ก็หลงไหลในคารมย์ และรูปโฉมของ แอน โบลีน อย่างหนัก จนถึงขั้น หาทางหย่ากับ พระราชินีแคเธอรีน แต่ด้วยศาสนา นิกายคาทอลิค เมื่อแต่งงานแล้ว ไม่สามารถหย่าได้ ..


THE GOLDEN SEAL OR BULLA OF POPE CLEMENT VIII
The seal was attaced to the papal bull given to Heary VIII after his book defending Catholicism from the attacks of Martin Luther. The bull conferred on Henry the title of Defender of the Faith, borne by all subsequent monarchs.


..ดังนั้นกษัตริย์เฮนรี่ จึงมีคำสั่งให้ คาดินาล วูลซี่ ( CARDINAL WOLSEY ) ซึ่งมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าบาทหลวง แห่ง Church of England ( อังกฤษ นิกาย โปรเตสแตน )

** ( The church of England is a Protestant church and existed sine the Reformation in the 1530s )

..ทำเอกสารการหย่า และดำเนินการหย่าให้กับ พระราชินีแคเธอรีน วูลซี่ ได้ยื่นคำร้องขอหย่าของเฮนรี่ ต่อพระสันตะปะปา ( Pope ) แต่ พระสันตะปะปา ไม่อนุญาตให้ทำการหย่า เพราะ พระสันตะปะปา ( Pope ) เกรงกลัวต่ออำนาจของ อาณาจักรโรมัน ( Charles V. The Holy Roman Emperor) ซึ่ง พระราชินีแคเธอรีน มีศักดิ์เป็นหลาน ของอาณาจักรนี้ และอีกอย่าง พระนางไม่ยอมหย่า เพราะพระนางมิได้ทำผิดอะไร และเมื่อคราวที่แต่งงานกับ กษัตริย์เฮนรี่ ถึงแม้ว่าจะเคยแต่งกับพี่ชายมาก่อน แต่พระนางก็ยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่
และนี่คือเหตุผลที่ พระสันตะปะปา ( Pope ) ไม่อนุญาตให้ทำการหย่า

..และคราวนั้น คาดินาล วูลซี่ หัวหน้าบาทหลวง แห่ง Church of England จึงถูกกษัตริย์เฮนรี่ ปลดออกจากตำแหน่ง และมอบงาน ตำแหน่ง Chancellorship ที่ คาดินาล วูลซี่ เคยทำ ให้กับ เซอร์โทมัส มอร์ ( Sir Thomas Moer ) ทำงานนี้แทน ในปี 1532 แต่ Sir Thomas Moer ก็ได้ลาออกไป ในปี 1535 เพราะไม่ชอบ และไม่เห็นด้วยกับแนวทาง ที่ กษัตริย์เฮนรี่ กระทำ และหลังจากนั้นไม่นาน กษัตริย์เฮนรี่ ก็สั่งให้จับกุม ในข้อหาเป็นกบฏ และเป็นปรปักษ์ ต่อประเทศ และสั่งให้ประหารชีวิต (executed ) เซอร์โทมัส มอร์ ในปี นั้น ( 1535 )


SIR THOMAS MORE
One of the outstanding minds of his day, More was a great writer but also a persecutor of heretics. He welcomed Henry as a liberator, but defied him to his death over the break with Rome. He was canonized in 1935.


และ กษัตริย์เฮนรี่ ได้มอบตำแหน่ง Head of Council ให้กับ โทมัส ครอมเวลส์ ( Tomas Cromwell ) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ด้านกฏหมาย ให้ดำเนินการต่อ.


THOMAS CROMWELL
Henry VIII's second minister was a mercenary in his youth. He became Wolsey's legal agent and transferred to Henry's service after the Cardinal's fall and imposed the Reformation on a reluctant nation.


** โทมัส ครอมเวลส์ ( Tomas Cromwell ) และทีมที่ปรึกษา ได้ทำการค้นคว้า หาข้อมูลกฏหมาย จากข้อกฏหมายเก่าๆ เกี่ยวกับศาสนา และมีนักบวชเสนอแนวคิด ให้แต่งตั้ง กษัตริย์เฮนรี่ ขึ้นเป็นผู้นำนิกายใหม่ นับว่าเป็นข้อคิด ให้กับทีมที่ปรึกษา ได้นำมาคิดและดำเนินการ โทมัส ครอมเวลส์ ได้ร่างข้อกฏหมาย เรื่องนี้ และนำเข้าไปสู่รัฐสภา และรัฐสภาออกกฏหมายรับรอง ให้ กษัตริย์เฮนรี่ ขึ้นเป็น Head of Church of England ( องค์ประมุขของ นิกาย อังกฤษ โปรเตสแตน ) โดยถูกต้องตามกฏหมาย.


THOMAS CRANMER
Archbishop of Canterbury ( 1532 - 55 ) and leader of the ' new' religion, on Henry's death he rushed Protestant changes through.


** และในคราวเดียวกันนั้น กษัตริย์เฮนรี่ ยังได้แต่งตั้งให้ โทมัส ครานเมอร์ ( Thomas Cranmer ) ขึ้นเป็น หัวหน้าบาทหลวง ( Archbishop of Church of England ) และให้ประกาศว่า การแต่งงานของ กษัตริย์เฮนรี่ กับ พระราชินีแคเธอรีน เป็นการแต่งงานที่ไม่ถูกต้องตามกฏหมาย ให้ถือเป็นโมฆะ ในปี 1533

และให้ประกาศว่า การแต่งงานของ กษัตริย์เฮนรี่ กับ แอน โบลีน ( " ANNE BOLEYN " Ladies of the court ) เป็นการแต่งงาน ที่ถูกต้องตามกฏหมาย ในปี 1533 ( ปีเดียวกัน )

** การดำเนินการหย่านี้ใช้เวลาร่วม 6 ปี พระราชินีพระราชินีแคเธอรีน ต้องแยกกันอยู่กับเจ้าหญิงแมรี่บุตรสาว และย้ายออกไปอยู่อีกเมือง ( Kimbolton Castle ) ซึ่งเป็นปราสาทที่ค่อนข้างมืด และหนาวเย็น จึงทำให้พระองมีสุขภาพไม่ดี จนล้มป่วย พระองค์มีชีวิตอยู่ต่อ อีก 3 ปีต่อมา ก็สินพระชนม์ พระองค์เป็นเจ้าหญิงสายเลือดกษัตริย์ และยังเป็นพระราชินีของอังกฤษมา 24 ปี เมื่อสิ้นพระชนม์ กลับไม่ได้สิ้นพระชนม์ ในตำแหน่งพระราชินีของอังกฤษ. แว่วว่าคนอังกฤษในสมัยนั้นรักพระราชินี พระองค์นี้มาก ทุกครั้งที่พระองค์ไปถือศิลที่โบสถ์ พระองค์ก็จะนำข้าวของ เงินทองไปแจกจ่ายให้ชาวบ้าน ที่มารอหน้าโบสถ์เสมอ.

( On January 7, 1536, Catherine died at Kimbolton Castle and was buried at Peterborough Abbey (later Peterborough Cathedral, after the dissolution of the monasteries) with the ceremony due for her position as Princess Dowager, not as a Queen of England. )

ประวัติ และข้อมูลเพิ่มเติม ของ พระราชินีแคเธอรีน แห่งอารากอน
//tudorhistory.org/aragon/

ตัวอย่างบางตอนของละคร พระราชินีแคเธอรีน แห่งอารากอน / 2007
//uk.youtube.com/watch?v=C80OQ1LOe2U&NR=1
..........................................................
พระราชินีองค์ที่ 2.

ANNE BOLEYN
มีชีวิตอยู่ในช่วงปี 1502 - 1536 = 34 ปี
สมรสเมื่อมีพระชนม์ = 31 ปี = กษัตริย์เฮนรี่ 42 ปี
ขึ้นเป็นพระราชินี ปี 1533 - 1536 = 3 ปี
* BEHEADED * .


พระราชินี แอน โบลีน ( ANNE BOLEYN LADIES OF THE COURT ) เป็นบุตรของ เซอร์โทมัส โบลีน( SIR THOMAS BOLEYN EARL OF WILTSHIRE ) และยังเป็นหลานของ โทมัส โฮวอร์ด ดุกส์ แห่งนอร์ฟอร์ค ( Thomas Howard, Duke of Norfolk ) แอน โบลีน ก่อนที่จะได้เข้ามาอยู่ในวัง เคยอยู่ที่ฝรั่งเศส 6-7 ปี กับพี่สาวที่ไปแต่งงานกับกษัตริย์ หลุยส์ ของฝั่งเศส คือ แมรี่ โบลีน ขึ้นตำแหน่งเป็นราชินีของฝรั่งเศส จนเมื่อ กษัตริย์ หลุยส์ ของฝั่งเศส เสียชีวิตลง แอนน์ และแมรี่ พี่สาวถึงได้ย้ายกลับมาอังกฤษ บิดาได้ส่งบุตรสาว เข้ามาอยู่ในวัง เลดี้ แอนน์ โบลีน เป็นสาวสวย ฉลาด และมีไหวพริบดี มีความรู้ เลดี้ แอนน์ มีพี่ชายที่เข้ามาเป็นทหาร ก่อนนั้นคือ จอร์จ โบลีน ( George Boleyn, Lord Rochford ) เลดี้ แอนน์ จึงสนิทสนมกับพี่ชายมาก เมื่อมาอยู่ในวัง พี่ชายจึงเป็นที่ปรึกษาให้ เลดี้ แอนน์ ได้เป็นอย่างดี เซอร์โทมัส พยายามผลักดันให้บุตรสาว ได้เข้ามาไกล้ชิดเจ้านายฝ่ายใน และพระราชินีแคเธอรีน รับ เลดี้ แอนน์ ขึ้นมาเป็นสนมรับใช้ใกล้ชิด

เมื่อกษัตริย์เฮนรี่ ได้พบกับเลดี้แอนน์ อีกครั้ง ก็เกิดสะดุดตา ตกหลุมรักเข้า กษัตริย์เฮนรี่ ได้เขียนจดหมายรัก จดหมายลับ จีบเลดี้แอนน์ หลายครั้ง และยังขอให้เลดี้แอนน์ เป็นพระสนมอีกคน แต่เลดี้แอนน์ ยังไว้ท่าทางอยู่ เพราะมีความทะเยอทะยานสูงกว่านั้น ซึ่งก่อนหน้านั้นพี่สาวของ เลดี้แอนน์ ก็เป็นพระสนมอีกองค์ของกษัตริย์เฮนรี่ อยู่แล้ว เลดี้แอนน์ จึงไม่ยอมเป็นแต่เพียงพระสนม แต่ต้องเป็นพระราชินี เท่านั้นจึงจะยอมให้พระองค์ แต่ก็ยังคอยหว่านเสน่ห์ให้ กษัตริย์เฮนรี่ อยู่เสมอ จนกษัตริย์เฮนรี่ลุ่มหลง และเป็นช่วงจังหวะที่กษัตริย์เฮนรี่ กำลังเบื่อราชินี ที่แต่งงานมานาน แต่ไม่ได้ลูกชาย ทำให้ต้องหาเรื่องหย่ากับ พระราชินีแคเธอรีน จนเป็นผลสำเร็จ และเป็นมูลเหตุของการเปลี่ยนแปลง ศาสนา ครั้งสำคัญเลยทีเดียว......

# Henry VIII love letter exhibited / Anne Boleyn /
by :BBC News , Friday, 13 February 2009

บีบีซี เปิดโชว์จดหมาย ที่กษัตริย์เฮนรี่ เขียนถึง แอนน์ โบลีน
//news.bbc.co.uk/1/hi/uk/7887826.stm

หลังจากเลดี้แอนน์ ได้ขึ้นเป็น พระราชินี แอนน์ โบลีน พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงศาสนา เป็นอังกฤษ โปเตสแตน ทำให้ประชาชนแตกแยก แบ่งพรรคแบ่งพวก เกือบทุกพื้นที่ มีการเข่นฆ่ากัน ทั้งคาทิลิค และโปเตสแตน แผ่นดินนองเลือด ...พระราชินี แอนน์ โบลีน ได้ให้กำเนิดลูกสาว กับกษัตริย์เฮนรี่ คือ เจ้าหญิงอลิซาเบธ ( ELIZABETH ) ซึ่งต่อมา ขึ้นเป็นพระราชินี อลิซาเบธ ที่ 1 หรือ เวอร์จิ้นควีน ผู้ที่เคยประกาศว่า( I am marry with England! ) ฉันแต่งงานกับประเทศอังกฤษ (เพราะพระองค์ไม่ยอมแต่งงานกับใคร )

พระราชินี แอนน์ โบลีน .. หลังการคลอดลูกสาว ก็เปลี่ยนไป ยังกะคนละคนหลงอำนาจ และเอาแต่ใจมากขึ้น กษัตริย์เฮนรี่ จึงเกิดความเบื่อหน่าย ทั้งยังไม่มีลูกชายให้อีก เมื่อหลังจากแท็งลูกคนที่สอง ก็ยิ่งหมางเมิน ...และในช่วงเวลานั้นพระองค์ได้หลงรักหญิงคนใหม่คือ เลดี้เจน ซีมัวร์ และพระองค์ก็หวังจะได้ลูกชาย พระราชินีแอนน์จับได้ จึงเกิดความหึงหวง และมีเรื่องทะเลาะกับพระองค์บ่อยๆ จนพระองค์แยกไปอยู่อีกวัง และได้ปรึกษากับ โทมัส ครอมเวลส์ เพื่อวางโครงการที่จะแต่งงานใหม่กับ เลดีเจน ซีมัวร์

และแล้วพระองค์ก็จับ พระราชินี แอนน์ คุมขัง ในข้อหาคบชู้ และหลังจากนั้นก็สั่งประหาร อีกข้อหา คือร่วมประเวณีกับชาย ซึ่งเป็นสายเลือด ครอบครัวเดียวกัน นั่นคือพี่ชายของ พระราชินี แอนน์ เอง ( George Boleyn, Lord Rochford ) ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิดต่อจารีตประเพณีเป็นอย่างยิ่ง โดยผู้ที่แจ้งข้อกล่าวหานี้คือ เลดี้ เจน โบลีน ซึ่งเป็นภรรยาของ จอร์จ โบลีน พี่ชายของพระราชินีแอนน์ นั่นเอง.

April 30, 1536 จอร์จ โบลีน ( George Boleyn, Lord Rochford ) ถูกจับ และยังมีคนถูกจับเพิ่มอีกคือ มาร์ค ( Mark Smeaton ), เซอร์เฮนรี่ (Sir Henry Norris)

May 2 พระราชินี แอนน์ ถูกจับและ เซอร์ฟรานซีส (Sir Francis Weston ),วิลเลี่ยม (William Brereton),เซอร์โทมัส (Sir Thomas Wyatt ) ก็ถูกจับ และถูกสอบปากคำด้วยการทรมารให้รับสารภาพว่าเป็นชู้จริง และถูกสั่งจับในข้อหานี้ด้วย และทั้งหมดนี้ก็โดนประหารชีวิตที่ the Tower of London ในวันที่ 17 พ.ค. ก่อนที่ ที่จะประหาร พระราชินี แอนน์ 2 วัน.

พระราชินี แอนน์ โบลีน ถูกสั่งให้ประหารชีวิต ทีแรกจะประหารโดยการเผาทั้งเป็น แต่พระองค์เปลี่ยนมาเป็นตัดศรีษะแทน โดยสั่งมือประหารมาจากฝรั่งเศส และประหารพระองค์ ในวันที่ 19 พ.ค. ปี ค.ศ. 1536. ที่ the Tower of London

แต่พระราชินีแอนน์ ก็ไม่ทรงหวาดกลัว และยังพูดว่า คอฉันเล็กนิดเเดียว คงไม่เป็นปัญหาต่อการประหาร และพูดอย่างทรนงว่า ฉันพร้อมที่จะตาย ( I am ready to die. ) และพระราชินีแอนน์ โบลีน ได้กล่าวอีก คือ God save the King. ก่อนที่จะถูกประหาร.

ตัวอย่างบางตอน ของละคร ความรักระหว่าง เลดี้ แอนน์ โบลีน กับ กษัตริย์เฮนรี่ / ละครเมื่อ ต้นปี 2008
//uk.youtube.com/watch?v=iRfNDPBm7Us&NR=1

ประวัติ และข้อมูลเพิ่มเติม ของ พระราชินี แอนน์ โบลีน
documentary by : David Starkey : สารคดี / เลดี้แอนน์ โบลีน ตอนที่ 1.
//uk.youtube.com/watch?v=6ea8FvCIxco&feature=related

documentary by : David Starkey : สารคดี / เลดี้แอนน์ โบลีน ตอนที่ 2.
//uk.youtube.com/watch?v=YQM0xhsqI6g&NR=1
..........................................................................................
documentary by : BBC สารคดี พระราชินี แอนน์ โบลีน ตอนที่ 1.
//uk.youtube.com/watch?v=xzgJbzxxLfM&feature=related

documentary by : BBC สารคดี พระราชินี แอนน์ โบลีน ตอนที่ 2.
//uk.youtube.com/watch?v=SOwPiHlADzc&feature=related

documentary by : BBC สารคดี พระราชินี แอนน์ โบลีน ตอนที่ 3.
//uk.youtube.com/watch?v=B_uSZO_B81c&NR=1
.......................................................................
พระราชินีองค์ที่ 3.

JANE SEYMOUR
มีพระชนม์อยู่ในช่วง ปี 1509 - 1537 = 28 ปี
สมรสเมื่อมีพระชนม์ = 27 ปี = กษัตริย์เฮนรี่ 45 ปี
ขึ้นเป็นพระราชินี ปี 1536 - 1537 = 1 ปี
* DIDE *


เจน ซีมัวร์ ( Jane Seymour ) เป็นบุตรของ เซอร์จอนห์ ซีมัวร์ ( Sir John Seymour of Wiltshire ) เจน ซีมัวร์ เข้ามาอยู่ในวัง เป็นพระสนมรับใช้ไกล้ชิด พระราชินีแคทเธอรีน แต่หลังจากที่ พระราชินีได้หย่า และเปลี่ยนพระราชินีใหม่ เป็น พระราชินีแอนน์ โบลีน หน้าที่ของเจน ซีมัวร์ จึงเปลี่ยนไปรับใช้เธอต่อ กษัตริย์เฮนรี่ ได้มีโอกาศแวะค้างคืนชั่วคราว ที่บ้านของครอบครัว เจน ซีมัวร์ ในเดือน กันยายน ปี 1535 ( September 1535, the King stayed at the Seymour family home in Wiltshire )

แต่ในคราวนั้น พระองค์ไม่ได้พบเจน จนกระทั่งเดือน กุมภาพันธ์ ปี 1536 ถึงได้เจอ และ พระองค์ก็ตกหลุมรักเจน เพราะเจน เป็นกุลสตรีที่เพรียบพร้อม และมีประวัติครอบครัวที่ดี และอีกอย่าง ในบรรดาพี่สาวของ เจน ทั้งสองคน ที่แต่งงานไป ก็ล้วนแต่ให้กำเนิดลูกชายทั้งนั้น พระองค์จึงอยากได้มาเป็นภรรยา แต่ในขณะนั้นเจน ยังหวาดกลัวต่อพระราชินีแอนน์ จึงไม่ยอมรับ และยังหวาดกลัว กับเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นกับ ระหว่างพระราชินีทั้งสอง ของพระองค์ แต่แล้วเจน ซีมัวร์ ก็ต้องยอมต่อเหตุผลหลายๆ อย่าง
และทั้งครอบครัวก็เห็นด้วย จึงยอมแต่ ต้องแต่งงานให้ถูกต้องก่อน

กษัตริย์เฮนรี่ สั่งให้ประหาร พระราชินี แอนน์ โบลีน ในวันที่ 19 ปี ค.ศ. 1536
และหมั้นกับ เจน ซีมัวร์ ในวันที่ 20 ปี ค.ศ. 1536
และแต่งงาน ในวันที่ 30 ปี ค.ศ. 1536 ภายในเดือนเดียวกัน

และหลังจากนั้นไม่นาน พระราชินี เจน ซีมัวร์ ก็ตั้งครรภ์ และคลอดบุตร ได้บุตรชาย ให้กษัตริย์เฮนรี่ สมดังปราถนา คือ เจ้าชาย เอ็ดเวิร์ด ( ซึ่งต่อมาขึ้นเป็น กษัตริย์ เอ็ดเวิร์ด ที่ 6. ( Edward VI ) และหลังจากคลอดบุตร ได้ 2 อาทิตย์ต่อมา พระราชินี เจน ซีมัวร์ ก็สิ้นพระชนม์ กษัตริย์เฮนรี่ รู้สึกเจ็บปวด และโศกเศร้า เป็นอย่างมาก พระองค์ถึงกับพูดออกมาว่า เจน ซีมัวร์ คือภรรยาที่แท้จริงของท่าน เป็นทุกสิ่ง ทุกอย่าง ให้พระองค์ ( his first 'true wife')
ถึงกับไว้ทุกข์ ให้กับ พระราชินี เจน ซีมัวร์ ถึง 2 ปี

และหลังจากนั้นก็ให้วาดภาพ ของพระองค์ คู่กับ พระราชินี เจน ซีมัวร์ แต่เพียงพระองค์เดียว
( she would be the only of Henry's six wives to be buried with him. )

documentary by : David Starkey : สารคดีประวัติ พระราชินี เจน ซีมัวร์ ตอนที่ 1
//uk.youtube.com/watch?v=PlkW6egP7ac&feature=related

documentary by : David Starkey : สารคดีประวัติ พระราชินี เจน ซีมัวร์ ตอนที่ 2
//uk.youtube.com/watch?v=2uT0DJTEoSM&feature=related
........................................................................
พระราชินีองค์ที่ 4.

ANNE OF CLEVES
มีพระชนม์อยู่ในช่วง ปี 1515 - 1557 = 42 ปี
สมรสเมื่อมีพระชนม์ = 25 ปี = กษัตริย์เฮนรี่ 49 ปี
ขึ้นเป็นพระราชินี ปี 1540 = 1 ปี
* DIVORCED *


แอนน์ แห่งคลีฟ เป็นบุตร ของ ดุกส์จอนห์ แห่งคลีฟ ( JOHN DUKE OF CLEVES ) เมืองคลีฟ ซึ่งเป็นอีกเมืองหนึ่งในเยอรมัน (small German state, Cleves ) ซึ่งขณะนั้น พี่ชายของ แอนน์ ปกครองสืบต่อจากบิดาคือ ดุกส์ แห่งคลีฟ ( Duke of Cleves )

หลังจากที่พระราชินีเจน ซีมัวร์ สินพระชนม์ไป พระองค์ก็ไว้ทุกข์ มาสองปี กว่า โทมัส ครอมเวลส์ (Thomas Cromwell ) จึงแนะนำให้พระองค์ หาพระราชินีใหม่ และส่วนตัวของพระองค์เอง ก็ยังต้องการบุตรชายเพิ่ม ในช่วงจังหวะปีนั้น ฝรังเศสผูกพันธ์มิตรกับอาณาจักรโรมัน ( ซึ่งอาณาจักรนี้ได้ตัดสัมพันธ์กับอังกฤษ ไปตั้งแต่คราวที่หย่ากับราชินีแคเธอรีน และแยกศาสนา ) และกำลังยกทัพไกล้เข้ามา โทมัส จึงแนะนำให้กษัตริย์เฮนรี่แต่งงานกับทายาทแห่งเมืองคลีฟ ซึ่งเป็นโปเตสแตน เหมือนกัน

เมือโทมัส ติดต่อไปทางเมืองคลีฟ ก็เป็นอันตกลง และดุกส์ แห่งคลีฟ มีน้องสาว สองคน คือ อมีเรีย และ แอนน์ กษัตร์เฮนรี่ ส่งช่างวาดภาพคือ แฮนส์ โฮลบายน์ ( Hans Holbein ) จากอังกฤษไปวาดภาพ ของ อมีเรีย และแอนน์ มาให้พระองค์เลือก และพระองค์ได้เลือก แอนน์

เมื่อแอนน์ แห่งคลีฟ เดินทางมาถึงอังกฤษ พระองค์เห็นครั้งแรก ก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นว่าแอนน์ ไม่เหมือนหญิงสาวในภาพวาด ในภาพเป็นสาวน้อยสวย จมูกโด่งตากลม แต่ตัวจริงกลับไม่ใช่ แต่พระองค์ก็ต้องจำใจแต่งงานด้วย พระองค์แต่งงานกับแอนน์ แห่งคลีฟ ในเดือน July 1540 แต่ไม่เคยอยู่นอนร่วมห้องเลย และยังไปหาสาวๆ นางสนมคนอื่นๆ เสมอ มิหนำซ้ำพระองค์ ยังพูดลับหลังภรรยาคนนี้ว่า นอกจากหน้าตาไมสวยแล้ว ยังแต่งตัวเทอะทะไม่ทันสมัย และร่างกายของนางโดยเฉพาะหน้าอก เหมือนแม่ลา เพราะว่ามีหน้าอกใหญ่ จึงเป็นที่ให้พูดสนุกสนาน โดยส่วนตัวของพระราชินีแอนน์ เอง ก็รู้ไม่เคยรับรู้

เมื่อกองทัพฝรั่งเศสและโรมัน ถอยทัพออกไปห่างแล้ว พระองค์ก็ขอหย่ากับพระราชินีแอนน์ และ ก็ยอมหย่าให้แต่โดยดี เพราะถ้าขืนดื้อดึงไม่ยอมหย่า เกรงจะมีภัยแก่ตัว แต่ในทางกฏหมาย ยังทำการหย่าไม่ได้ เพราะยังไม่ครบปี ดังนั้นจึงรอให้ครบ 1 ปี จึงทำการหย่า ในวันที่ 28 July 1540 ซึ่งครบ 1 ปี พอดี

หลังการหย่า พระราชินีแอนน์ แห่งคลีฟ ยังพำนักอยู่ในอังกฤษ แต้ได้ย้ายออกไปอยู่ชานเมือง ซึ่งไม่ห่างจาก ราชวังของน้องสาว ของพระองค์นัก และพระองค์ได้มอบ หฤหาส ( Hever Castle, Kent ) ซึ่งในอตีต เคยเป็นสมบัติของครอบครัว พระราชินีแอนน์ โบลีน มาก่อน . และพระราชินีแอนน์ แห่งคลีฟ ก็อยู่ที่นี่อย่างสุขสบาย จนสิ้นอายุขัย

ส่วนด้านความสัมพันธ์ กับเมืองคลีฟ กษัตริ์เฮนรี่ ยังได้ออกรบ ร่วมกับ ดุกส์ แห่งคลีฟ หลายครั้ง และความสัมพันธ์ของสองเมือง ก็ยังคงเดิม


THE THOMAS AT RICHMOND
Often used by Henry in the early yeays of his reign, it formed part of Anne of Cleves's divorce settlement, where she lived with an annual income of £3,000.


documentary by : David Starkey : สารคดีประวัติ พระราชินี แอนน์ แห่งคลีฟ ตอนที่ 1
//uk.youtube.com/watch?v=wBAcvLlxXdo&feature=related

documentary by : David Starkey : สารคดีประวัติ พระราชินี แอนน์ แห่งคลีฟ ตอนที่ 2
//uk.youtube.com/watch?v=JL4VdXjStYI&feature=related

documentary by : David Starkey : สารคดีประวัติ พระราชินี แอนน์ แห่งคลีฟ ตอนที่ 3
//uk.youtube.com/watch?v=RLZOh7GpY2Q&feature=related
...............................................................................................
พระราชินีองค์ที่ 5.

CATHERINE HOWARD
มีพระชนม์อยู่ในช่วง ปี 1521 - 1542 = 21 ปี
สมรสเมื่อมีพระชนม์ = 19 ปี = กษัตริย์เฮนรี่ 49 ปี
ขึ้นเป็นพระราชินี ปี 1540 - 1542 = 2 ปี
* BEHEADE *


แคเธอรีน โฮวอร์ด เป็นบุตรของ ลอร์ดเอ็ดมันด์ โฮวอร์ด (Lord Edmund Howard) ที่เป็นน้องชายของ โทมัส โฮวอร์ด ดุกส์ แห่งนอร์ฟอร์ค ( Thomas Howard, Duke of Norfolk ) คุณยายเป็นถึง ดัชส์ แห่งนอร์ฟอร์ค ( She was brought up in the household of the Dowager Duchess of Norfolk.) และ ยังเป็นหลานของ โทมัส ครอมเวลส์ ซึ่งมีตำแหน่งเป็น Head of Council ทนายที่ปรึกษาไกล้ชิดของพระองค์เอง และ แคเธอรีน โฮวอร์ด ยังเป็นญาติ กับอดีตพระราชินี ของพระองค์อีก นั่นคือ พระราชินีแอนน์ โบลีน ที่ถูกสั่งประหารไป.

แคเธอรีน โฮวอร์ด ถูกส่งให้เข้ามาอยู่ในวัง เพื่อรอรับใช้ พระราชินีองค์ใหม่ของกษัตริย์เฮนรี่ นั่นคือพระราชินีแอนน์ แห่งคลีฟ ที่จะมาจากเยอรมัน แต่เมื่อหลังจากที่รับใช้พระราชินีองค์ใหม่ ได้ไม่นาน กษัตริย์เฮนรี่ก็ขอหย่า จากพระราชินีแอนน์ แห่งคลีฟ และขออนุญาติ กับ โทมัส โฮวอร์ด ดุกส์ แห่งนอร์ฟอร์ค ซึ่งเป็นลุงของแคเธอรีน เพื่อขอเธอมาเป็นภรรยาคนต่อไป ซึ่งในขณะนั้นพระองค์มีอายุ 49 ปีแล้ว แต่ แคเธอรีน โฮวอร์ด มีอายุเพียง 19 ปี การแต่งงานใหม่ของกษัตริย์เฮนรี่ กับ แคเธอรีน โฮวอร์ด เป็นวันเดียวกันกับที่พระองค์ หย่าจากพระราชินีแอนน์ แห่งคลีฟ คือ 28 July 1540

พระราชินี แคเธอรีน เป็นคนสวย มีเสน่ห์ และอายุยังน้อย พระองค์ชื่นชมและหลงไหล พระราชินีองค์ใหม่นี้ เป็นอย่างมาก ถึงขนาดเรียก เธอว่า เป็นกุกลาบที่สวยแต่ไร้หนามของพระองค์ ( Henry was besotted with her, calling her his 'Rose without a Thorn' ) แต่ก็ยังมีปัญหาช่องว่าระหว่างวัย ทั้งตัวพระองค์เองก็มีโรคประจำตัว มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น และยังปวดขาซึ่งเป็นที่ทรมานนัก พระราชินี แคเธอรีน ในวัย 19 ปี ที่ยังทำตัวไม่เหมาะสมเป็นกุลสตรี

หลังจากแต่งงานได้ 7 เดือน พระราชินี แคเธอรีน ก็ให้ความสนใจ กับชายหนุ่ม ที่มีอายุใกล้เคียงกัน ถึงขึ้นสมสู่กับ โทมัส ครูปเปอร์ ( Thomas Culpeper ) ซึ่งต่อมาถูกสั่งให้ประหาร (Thomas Culpeper executed December 10, 1541) อยู่หลายครั้ง แต่ พระราชินี แคเธอรีน ก็ยังไม่หวาดกลัว เพราะคิดว่า มีเส้นสายที่ใหญ่พอ แรกๆ ที่ถูกจับได้ ก็ขอให้เก็บเป็นความลับ แต่ในที่สุด หัวหน้าบาทหลวงโทมัส กรานเมอร์ ( Archbishop Tomas Cranmer ) ทนดู และทนเก็บเป็นความลับต่อไปไม่ได้ จึงเข้าไปบอกกษัตริย์เฮนรี่ ด้วยตัวเอง และมีพยานหลักฐาน ว่า พระราชินี แคเธอรีน ทำตัวไม่เหมาะสมกับที่เป็นพระราชินี สมสู่กับชายอื่น แรกๆ พระองค์ก็ไม่ทรงเชื่อ แต่ในที่สุดก็ทรงเชื่อเพราะมีหลักฐาน และพระองค์ สั่งให้นำ พระราชินี แคเธอรีน ไปคุมขัง ที่ Tower of London และสังให้ประหาร พระราชินี แคเธอรีน โฮวอร์ด ที่ตึกเขียว ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1542 ( She was executed on the Tower Green Tower of London on February 13, 1542 )

* และก่อนที่พระองค์จะถูกประหาร ก็ได้พูดออกมาว่า '' ฉันตายในตำแหน่งพระราชินี แต่ตรงกันข้าม ฉันตายในนามภรรยาของ ครูปเปอร์ ''
( "I die a queen, but would rather die the wife of Culpepper." )

* และในเหตุการนี้ พระองค์ก็สั่งให้ประหาร เลดี้ เจน โบลีน ( Jane Boleyn ) ซึ่งเป็นอดีต ภรรยาของ จอร์จ โบลีน ( George Boleyn, Lord Rochford ) พี่ชายของอดีตพระราชินีแอนน์ โบลีน ที่ถูกประหารไปก่อนนั้น เลดี้ เจน โบลีน เข้ามาเป็นพระสนมใกล้ชิดพระราชินี แคเธอรีน และเจอข้อหา สมรู้ร่วมคิด และช่วยกันปกปิด กระทำผิด ซึ่งก่อนหน้านั้น เลดี้ เจน โบลีน เคยนำเรื่องที่ พระราชินีแอนน์ ที่เป็นชู้กับสามีตัวเอง ให้ โทมัส ครอมเวลส์ รู้จนทั้งสองถูกจับ และโดนประหาร และคราวนี้ เลดี้ เจน โบลีน ก็โดนประหาร ในวันเดียวกันกับ พระราชินี แคเธอรีน โฮวอร์ด คือวันที่ February 13, 1542 ที่ Tower of London .

documentary by : David Starkey : สารคดีประวัติ พระราชินี แคเธอรีน โฮวาร์ด ตอนที่ 1.
//uk.youtube.com/watch?v=QgYxndUjNXA&NR=1

documentary by : David Starkey : สารคดีประวัติ พระราชินี แคเธอรีน โฮวาร์ด ตอนที่ 2.
//uk.youtube.com/watch?v=hudKsE0iMts&feature=related

อ้างอิง : ที่มาการประหาร ( Executions )
//www.castles.me.uk/executions-beheading-tower-of-london.htm

..............................................................................................
พระราชินีองค์ที่ 6.

CATHERINE PARR
มีพระชนม์อยู่ในช่วง ปี 1512 - 1548 = 36 ปี
สมรสเมื่อมีพระชนม์ = 31 ปี = กษัตริย์เฮนรี่ 52 ปี
ขึ้นเป็นพระราชินี ปี 1543 - 1547 = 4 ปี
* SVRVIVED *


แคเธอรีน พาร์ เป็นบุตร ของ เซอร์ โทมัส พาร์ ( Sir Thomas Parr ) เมื่อบิดาเสียชีวิต ตั้งแต่เธอยังเด็ก ครอบครัวก็เลยส่งให้เข้ามาอยู่ในวัง ตั้งแต่เด็ก เพื่อที่จะได้เรียนหนังสือ และคอยรับใช้พระราชินีแคเธอรีน แห่งอารากอน แคเธอรีน พาร์ เป็นคนฉลาด เรียนเก่ง เป็นผู้ที่รอบรู้หลายภาษา เช่น ฝรั่งเศส ลาติน อิตาลี่ เบลเยี่ยม และสเปน และด้านการตนตรี

แคเธอรีน พาร์ เคยแต่งงานครั้งแรก กับ เอ็ดเวอร์ด ( Edward Borough ) ซึ่งเป็นบุตรชายของ โทมัส ( Thomas Borough ) เมื่อมีอายุได้เพียง 17 ปี แต่หลังจากนั้นไม่นาน เอ็ดเวอร์ด ก็เสียชีวิต ในปี 1533 . และหลังจากนั้นไม่นาน ก็แต่งงานใหม่ เป็นครังที่ 2 กับ จอนห์ ( John Neville ) ซึ่งเป็นพ่อหม้ายลูก 2 ที่มีอายุถึง 42 ปี และ แคเธอรีน พาร์ มีอายุ เพียง 22 ปี แต่งเมื่อปี 1534 และในปี 1543 สามีคนที่ 2 ของเธอก็เสียชีวิต เมื่อเธอมีอายุเพียง 31 ปี จึงทำให้ แคเธอรีน พาร์ เป็นโสดอีกครั้ง

แคเธอรีน พาร์ เข้ามาอยู่ในวังอีกครั้ง เมื่อเธอพบรักกับ โทมัส ซีมัวร์ ( THOMAS SEYMOUR ) น้องชายของ อดีตพระราชินี เจน ซีมัวร์ และ แคเธอรีน พาร์ ได้มาดูแล เจ้าชายเอ็ดเวอร์ด เป็นครูคอยสอนหนังสือ และรวมถึงการอบรม เลี้ยงดู ทั้งเจ้าหญิงแมรี่ เจ้าชายเอ็ดเวอร์ด และเจ้าหญิงอลิซาเบธ และ แคเธอรีน ยังมีโครงการที่จะแต่งงานกับ โทมัส ซีมัวร์ อีกในไม่ช้านี้ แต่ในเวลานั้น กษัตริย์เฮนรี่ ได้ขอร้อง อ้อนวอน ให้เธอแต่งงานด้วย เธอจึงรับแต่งงานด้วย เพราะมิกล้าปฏิเสธ แต่คุณสมบัติของ แคเธอรีน พาร์ ตอนนี้ ไม่เหมาะสม และไม่คู่ควรกับกษัตริย์แล้ว จึงถูกต่อต้าน แต่กษัตริย์เฮนรี่ ก็ไม่สนใจ ยังได้พา แคเธอรีน พาร์ แอบหนีไปแต่งงานที่ วังแฮมตั้น (Hampton Court Palace ) ซึ่งมีผู้ร่วมงานเพียง 20 คน

เมื่อพระราชินี แคเธอรีน พาร์ เข้ามาอยู่ในวัง ผู้คนในวังไม่ค่อยชอบเธอนัก ดังนั้นจึงมีคนคอยแกล้ง และหาเรื่องเธอบ่อยๆ แต่เธอเป็นคนฉลาด จึงไม่มีใครทำอะไรเธอได้ ในปี 1546 กษัตริย์เฮนรี่ ป่วย ซึ่งตอนนั้นพระองค์ก็อ้วนมาก มีโรคเข้ามาแทรกอีก ก็ยิ่งทรุดหนัก และตอนนั้น พระราชินี ก็ยังมีปัญหากับบริวาน ที่ไม่เชื่อฟังเธอ แต่พระนางก็ไม่ย่อท้อ คอยรับใช้ และดูแลกษัตริย์เฮนรี่เป็นอย่างดี แม้เมื่อคราวที่พระองค์ อารมณ์ไม่ดี อาละวาด พระนางก็ไม่ถือสา และยังทำหน้าที่ดูแล เจ้าหญิงแมรี่ เจ้าหญิงอลิซาเบธ และเจ้าชายเอ็อเวอร์ด ได้เป็นอย่างดี

พระราชินี แคเธอรีน พาร์ เป็นคนมีความรู้สูง นอกจากจะคอยสอนหนังสือให้ เจ้าหญิง และเจ้าชายแล้ว พระนางยังสอนตนตรี และเขียนตำรา วิชาการไว้หลายเล่ม หรือแม้แต่เขียนเล่าในช่วงที่กษัตรย์เฮนรี่ ป่วย และสิ้นพระชนม์ ( academic achievements, as alluded to previously, were impressive, and in 1545, her book “Prayers or Meditations” became the first work published by an English Queen under her own name. Another book, “The Lamentation of a Sinner”, was published after Henry VIII’s death. )

กษัตริย์เฮนรี่ สินพระชนม์ ( Henry VIII died in January 1547 ) พระนางก็รู้ดีว่า บทบาทของเธอคงจะเปลี่ยนไป และ เจ้าชายเอ็ดเวอร์ด ซึ่งเป็นองค์รัชทายาท อันดับที่ 1 ได้ขึ้นสืบราชสมบัติต่อ เป็นกษัตริย์เอ็ดเวอร์ด ที่ 6 ซึ่งในขณะนั้น พระองค์มีพระชนม์เพียง 9 ปี หลังจากกษัตริย์เฮนรี่ สินพระชนม์ ได้ไม่นาน แคเธอรีน พาร์ ก็แอบแต่งงานเงียบๆ กับ โทมัส ซีมัวร์ ( THOMAS SEYMOUR ) ซึ่งตอนนี้มีศักดิ์เป็น น้าชาย ของกษัตริย์เอ็ดเวอร์ด ที่ 6 แต่แคเธอรีน พาร์ ก็ยังมีตำแหน่งเป็นผู้ปกครอง และดูแล เจ้าหญองอลิซาเบธอยู่ และ เอ็ดเวอร์ด ที่ 6 ได้แต่งงานกับ เลดี้ เจน เกรซ์ ( Lady Jane Grey ) ซึ่งเป็นญาติกัน

เมื่อเจ้าหญิงอลิซาเบธ มาอยู่กับพระราชินีแคเธอรีน พาร์ ซึ่งในขณะนั้นพระองค์ มีอายุ 14 ปีแล้ว โทมัส ซีมัวร์ ( THOMAS SEYMOUR ) สามีใหม่ ของแคเธอรีน พาร์ เข้ามาลวนลาม เจ้าหญิงอลิซาเบธ อยู่หลายครั้ง และพระราชินีแคเธอรีน พาร์ ได้ส่งเจ้าหญิงอลิซาเบธ ย้ายออกไปอยู่อีกวัง ในปี 1548. ( Nonsuch Palace )

และ โทมัส ซีมัวร์ ( THOMAS SEYMOUR ) ก็โดนพระราชินี แคเธอรีน พาร์ แจ้งข้อหานี้ โดนสอบปากคำ และอีกข้อหาคือ โทมัส มีอาวุธ และลอบเข้าไปในห้องนอนของกษัตริย์เอ็ดเวอร์ด ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลาน จึงโดนสอบสวน มีความผิดจริง จึงสังให้ประหาร โทมัส ซีมัวร์ ในปี 1549 ( THOMAS SEYMOUR EXECUTED: 20 MARCH 1549 )

ในปี 1548 แคเธอรีน พาร์ ได้ย้ายตัวเองออกมาอยู่อีกที่ ปราสาท ซัดดิเลย์ ( Sudeley Castle in Gloucestershire ) เพื่อคลอดลูก ที่เกิดกับโทมัส ซีมัวร์ เธอคลอดลูกสาว คือ แมรี่ และหลังจากนั้น ไม่นาน เธอก็ป่วย และเสียชีวิตในปี 1548 .

documentary by : David Starkey : สารคดีประวัติ พระราชินี แคเธอรีน พาร์ ตอนที่ 1.
//uk.youtube.com/watch?v=KA9eOjiBKAg&feature=related

documentary by : David Starkey : สารคดีประวัติ พระราชินี แคเธอรีน พาร์ ตอนที่ 2.
//uk.youtube.com/watch?v=B8vSXyAiYcY&feature=related

documentary by : David Starkey : สารคดีThomas Seymour and Elizabeth Tudor / โทมัส ซีมัว กับ เจ้าหญิงอลิซาเบธ
//uk.youtube.com/watch?v=u2G6fq3EADM&NR=1
...........................................................................................

STAMPS OF THE SIX WIVES OF HENRY VIII
..........................................................
เอกสารอ้างอิง
แปล และเรียบเรียงมาจาก คู่มือแสตมป์สะสม
HENRY VIII * THE GREAT TUDOR * & THE SIX WIVES
British Philatelic , Bureau , Edinburgh.

............................................................


NONSUCH PALACE
This most ambitious building project commenced in 1538 to rival the recently completed Fontainbleau. To demonstrate he was a European monarch, Henry used continental guilders and craftsmen.

............................................................................................

HENRY VIII DIED ON 28 JANUARY 1547,
( Clutching the hand of Archbishop Thomas Cranmer )


HENRY'S DEATHBED
Tte scene is depicted as the victorious members of the Council wanted it to be seen: Henry passes power to his son, Edward, supported by Edward Seymour and ruling councillors including Cranmer. Below, the Pope is overthrown to the consternation of the consternation of the conservative councillors.


กษัตริย์เฮนรี่ ที่ 8 สิ้นพระชนม์ในวันที่ 28 JANUARY 1547
ในขณะที่พระองค์ รั้งจับมือ ของโทมัส ครานเมอร์ หัวหน้าบาทหลาง ไว้แน่น พระองค์ป่วยด้วยโรค ซิฟิริส ( syphilis ) แบบธรรมดา แต่ก็มีโรคแทรกซ้อน
และเป็นแผลติดเชื้อเรื้อรัง จึงทำให้แผลเปื่อย พุพอง โดยเฉาะที่ขาของพระองค์

หลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์ลง เจ้าหน้าที่ที่คอยปรนนิบัติ ก็ปิดเป็นความลับไว้ 3 วัน โดยปิดประตูห้องไว้ มิให้คนข้างนอกทราบ เกิดความโกลาหล และ ความขัดแย้งกันระหว่าง กลุ่มที่ปรึกษา แต่ในที่สุด ก็ต้องประกาศว่าพระองค์สินพระชนม์แล้ว และยกเจ้าชายเอ็ดเวอร์ด ที่เป็นองค์รัชทายาท ขึ้นเป็นกษัตริย์ เอ็ดเวอร์ด ที่ 6
ซึ่งในขณะนั้นมีพระชนม์เพียง 9 ปี

กษัตริย์เฮนรี่ ที่ 8 พระองค์ ขึ้นเป็นกษัตริย์ 38 ปี และสิ้นพระชนม์ เมื่ออายุ 56 ปี เป็นกษัตริย์ ที่สร้างตำนานอันก้องโลก ทั้งเรื่องรบ และเรื่องรัก
พระองค์ ประกาศตัดขาดสัมพันธ์ กับอาณาจักโรมัน ที่บิดาเคยสร้างไว้ โดยสิ้นเชิง และยังและกาศตัวเอง เป็นกษัตริย์องประมุข ของนิกาย อังกฤษ โปเตสแตน
( Henry broke with Rome and made himself Head of the Church of England )

และอีกตำนาน ที่เป็นที่กล่าวขานถึงชื่อพระองค์คือ มีพระราชินีถึง 6 พระองค์ขอหย่าไป 2 สั่งประหารไป 2 สิ้นพระชนม์ หลังคลอดบุตร 1
และอยู่จนสินพระชนม์ ( ซึ่งเป็นหญิงหม้ายมาถึง 2 ครั้ง ) อีก 1 จึงเป็นเรื่องเล่ามาจนถึงทุกวันนี้ .......

THE GREAT TUDORS " ( HENRY VIII )
.............................................................................................

........ ** KING EDWORD VI สมรสกับ LADY JANE GREY
...........................................................................................

........ ** QUEEN JANE GREY ( BE QUEEN FOR 9 DAY Then Executions by MARY Then her became QUEEN )

** ขึ้นสืบราชบัลลังก์ หลังจากกษัตริ์เอ็ดเวอร์ด ที่ 6 สิ้นพระชน แต่เป็นพระราชินีได้เพียง 9 วัน ก็ถูก เจ้าหญิงแมรี่ชิงคืนมา และ พระราชินีแมรี่ก็สั่งประหารพระองค์
ซึ่งมีอายุเพียง 16 ปี ( โดยส่วนพระองค์แล้ว ไม่อยากขึ้นเป็นพระราชินี แต่โดนครอบครัวยุส่ง และบังคับให้ครอบครองตำแหน่งนี้ )
............................................................................................

......... ** QUEEN MARY I
เจ้าหญิงแมรี่ ขึ้นเป็นพระราชินี
//uk.youtube.com/watch?v=kT4s4T6ZVDQ&feature=related
.........................................................................................

......... ** QUEEN ELIZABETH I
documentary by : David Starkey : สารคดีเกี่ยวกับ เจ้าหญิงอลิซาเบธ หลังจาก มารดาถูกประหาร
//uk.youtube.com/watch?v=SkTj8faL52U&feature=related

documentary by : David Starkey : สารคดี เจ้าหญิงอลิซาเบธ ขึ้นเป็นพระราชินี
//uk.youtube.com/watch?v=efKUUoRSTnc&feature=related

documentary by : David Starkey : สารคดี เจ้าหญิงอลิซาเบธ สิ้นพระชนม์
//uk.youtube.com/watch?v=PgMKmfMyH3k&feature=related

............................................................................................
กษัตริย์ เจมส์ ที่ 6 แห่งสก็อตแลนด์ ( หลานชาย ของ Margaret Tudor พี่สาวของกษัตริย์เฮนรี่ที่ 8 ) ขึ้นสืบราชบัลลังก์ต่อ และรวม ประเทศเข้าด้วยกัน
..........................................................................................

...




Create Date : 11 มิถุนายน 2551
Last Update : 11 มกราคม 2556 0:42:20 น. 14 comments
Counter : 21191 Pageviews.

 
บล็อคนี้เขียนขึ้นจาก ความสงสัยของเจ้าของบล็อค ซึ่งกำลังอ่านหนังสือไลฟ์อินเดอะยูเค เพื่อสอบ แล้วเกิดอาการสงสัยว่า ทำไม คิงค์ หรือควีน ถึงเป็นองค์ประมุขของศาสนา ในอังกฤษ ( เป็น Head of Church of England ( องค์ประมุขของ นิกาย อังกฤษ โปรเตสแตน ) โดยถูกต้องตามกฏหมาย

จึงเกิดอาการค้นหาที่มา และคนในครอบครัวก็ชอบสะสมแสตมป์ ในคู่มือสะสมแสตมป์ มีประวัติและข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เจ้าของบล็อค ค้นคว้าเพิ่มเติม และได้แปลเป็นสำนวนภาษาไทยลงในบล็อคนี้ ใช้เวลาทำบล็อคนี้ร่วม 2 อาทิตย์ หากว่าท่านใด จะนำเรื่องที่เจ้าของบล็อคแปล และเขียนในบล็อคนี้ไป เจ้าของบล็อคก็ไม่ขัดข้อง แต่ขอให้แจ้งกันบ้างนะค่ะ ( พอดีเห็นกระทู้ด้านนอกแล้วใจแป้วอ่ะค่ะ ทำให้หมดกำลังใจเขียนบล็อค ) รักชาวบล็อคทุกคนนะค่ะ


โดย: ดอกหญ้าในดงผู้ดี วันที่: 17 มิถุนายน 2551 เวลา:7:05:42 น.  

 
อุ๊ย.. วันนี้หนทางปลอดโปร่ง คอมเม้นท์ได้แล้ว..

ดีใจจริง..อิ อิ

เราสนใจเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาแต่ไหนแต่ไร.. ขอบคุณที่นำมาฝากกันค่ะ

แล้วจะแวะมาตามอ่านเรื่อยๆนะคะ..


โดย: คนร่วมชายคา วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:4:13:50 น.  

 


โดย: Irish girl วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:35:13 น.  

 


เมื่อวานมาอ่านไปรอบนึงแล้วค่า แต่อ่านไม่จบเลยยังไม่เม้นท์

อ่านประวัติแล้วเป็นเรื่องชิงรักหักสวาท ที่โหดร้ายมาก ๆ เลยค่ะ

แสดงถึงกิเลศ และบางครั้งบางคนก็เลือกทางเดินไม่ได้ อ่านแล้ว

ทั้งเศร้า ทั้งตื่นเต้นเลยค่า...



โดย: ลิตช์ (Litchi ) วันที่: 2 กรกฎาคม 2551 เวลา:13:52:41 น.  

 
เธ”เธตเธกเธฒเธเธกเธฒเธข เธ‚เธญเธšเธ„เธธเธ“เธ„เนˆเธฐ


โดย: เธ›เธฅเธฒเธ—เธญเธ‡ IP: 124.120.235.40 วันที่: 14 ตุลาคม 2551 เวลา:21:01:07 น.  

 
เขียนแทนใจคนที่อ่านเรื่องค่ะ

เรื่องที่ เจ้าของบล๊อกเขียนเป็นความรู้ดีมากค่ะ อย่าหมดกำลังใจที่จะเขียนเลยนะคะ ถึงแม้คนที่ลอกไปจะอ้างอิงให้บ้างไม่อ้างอิงให้บ้าง ... ใช้วิธีรณรงค์ให้คนเคารพสิทธิซึ่งกันและกันดีกว่าค่ะ

ปกติก็ชอบอ่านเรื่องแบบนี้เหมือนกัน และบางครั้ง(ไม่ใช่เรื่องนี้นะคะ) ก็เอาไปเขียนด้วย แต่จะอ่านจากหลายที่ เพราะบางครั้งข้อมูลแต่ละที่ไม่ตรงกัน และเลือกที่จะเชื่อบางเรื่องของแต่ละที่เท่านั้น และการเขียนก็ใช้ภาษาของตัวเอง ตามความเข้าใจของตัวเองจากการประมวลเรื่องแล้ว จากนั้น จะบอกที่มาของอ้างอิงทั้งหมดที่ท้ายบทความค่ะ


โดย: นก IP: 124.120.174.42 วันที่: 22 ตุลาคม 2551 เวลา:11:53:20 น.  

 
เพิ่งได้ดูหนัง โบลีนเกิร์ล ไป เลยสงสัยกับประวัติศาสตร์เหมือนกัน ต้องขอบคุณเจ้าของบล๊้อคมากๆค่ะที่มาให้ความรู้


โดย: ขอบคุณมากค่ะ IP: 58.9.75.39 วันที่: 5 มกราคม 2552 เวลา:11:40:35 น.  

 
ขอบคุนนะคะ ดูหนังเลยอยากรู้เช่นกันคะ



โดย: พา IP: 125.24.6.99 วันที่: 4 มิถุนายน 2552 เวลา:2:23:43 น.  

 
เธ‚เธญเธšเธ„เธธเธ“เธกเธฒเธเธ„เนˆเธฐ เน€เธฃเธฒเธ”เธนเธˆเธฒเธ history chanel เนเธฅเน‰เธงเธ‚เธฒเธ”เธšเธฒเธ‡เธ•เธญเธ™ เน€เธฃเธฒเน€เธฅเธข search เธกเธฒเน€เธˆเธญ blog เธ‚เธญเธ‡เธ„เธธเธ“


โดย: lola IP: 124.121.92.123 วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:19:53:50 น.  

 
วันนี้ไปเที่ยว Hever Castle มาค่ะ
กลับมาถึงได้อ่านความรู้มากมาย


โดย: จ๊ะเอ๋ IP: 152.78.251.192 วันที่: 14 กันยายน 2552 เวลา:5:08:18 น.  

 
อ่านแล้วเพลิน ได้สาระ ความรู้ ขอบคุณมากค่ะ เป็นกำลังใจให้ทำต่อไปนะค่ะ ขออนุญาตแอบมาอ่านเรื่อยๆ นะค่ะ


โดย: ปู IP: 58.9.141.198 วันที่: 30 ตุลาคม 2552 เวลา:12:05:15 น.  

 
พระจักรพรรดิ Charles V.แห่งราชอาณาจักรโรมัน มีศักดิ์เป็นหลานน้าของพระพระราชินีแคเธอรีน ค่ะ
wording ....แต่ พระสันตะปะปา ไม่อนุญาตให้ทำการหย่า เพราะ พระสันตะปะปา ( Pope ) เกรงกลัวต่ออำนาจของ อาณาจักรโรมัน ( Charles V. The Holy Roman Emperor) ซึ่ง พระราชินีแคเธอรีน มีศักดิ์เป็นหลาน ของอาณาจักรนี้..... ช่วงนี้ผิดค่ะ แต่ก็ขอบคุณสำหรับเรื่องดี ๆ ที่นำมาแบ่งปัน


โดย: แฟน ๆ IP: 119.46.64.20 วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:10:38:49 น.  

 
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ นะค่ะ

พอดีเพิ่งดูซีรี่ย์ The Tudor ก็เลยมีข้อสงสัยหลายอย่าง มา Blog นี้ได้คำตอบเยอะเลย


โดย: Roundshady วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:43:58 น.  

 
อ่านแล้วได้ความรู้ดีมากค่ะ


โดย: ideaza IP: 183.89.179.215 วันที่: 6 ธันวาคม 2553 เวลา:2:52:41 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ดอกหญ้าในดงผู้ดี
Location :
Dorset, United Kingdom

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




*.. ชีวิต ไร้ขอบเขต ธรรมชาติ คือสื่งที่แสวงหา
ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แต่รักที่จะอยู่แบบเดิมๆ .. *
..........................................................

.. คำนำ ..

เนื้อหา และบทความในบล็อกนี้ ส่วนหนึ่ง เขียนมาจากชีวิต และประสบการณ์ส่วนตัว ของเจ้าของบล็อก
และส่วนหนึ่ง เขียนมาจากความสนใจ ใคร่รู้ โดยส่วนตัวของ จขบ เอง และค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติม
พร้อมอ้างอิงที่มา
เจ้าของบล็อกหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คงเป็นประโยชน์แด่ผู้ที่สนใจ ไม่มากก็น้อย
.....................................................................

.. งานเขียน และบทความ ที่เขียนมาจาก ' ชีวิตส่วนตัว และประสบการณ์ชีวิตจริง ' ของ เจ้าของบล็อคนี้

..ขอสงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของ ( ข้อความ,ภาพส่วนตัว ) ใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่ และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด..

หรือ....

...หากว่า มีส่วนใด ในบล็อคนี้ เห็นว่าเป็นความรู้ และเป็นประโยชน์ ช่วยเหลือท่านได้
( ที่ไม่ใช่การนำไปใช้หาผลประโยชน์ ให้ตัวเอง )

..เจ้าของบล็อคก็ยินดี แต่ขอให้บอกกล่าวกันบ้าง เพื่อเป็นการแสดงถึง การให้เกียรติ และเคารพในสิทธิ์ ซึ่งกัน และกันนะค่ะ ......
....................................
..... 4...... ..
New Comments
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
11 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ดอกหญ้าในดงผู้ดี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.