Khantī paramam tapo tītikkhā [Buddhist Proverbs]
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
4 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 

เมื่อพี่แช่พลัดหลงเข้าไปในวงดนตรีไทย

บล็อกนี้พี่แช่ตัดสินใจอยู่ว่าจะลงในหัวข้อไหนดีระหว่างขำขันกับร้องเพลง

ครั้นจะลงห้องขำขันก็กลัวจะแป้ก แล้วก็มานึกดูเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับดนตรีเหมือนกัน แล้วแรงบันดาลใจคือน้องโจร max_pressure พูดเกี่ยวกับว่าผมเล่นกีต้าร์คุมจังหวะดีอะไรทำนองนี้ ก็เลยนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ แล้วก็ผสมกับได้วานน้อง SIMAKKA เธอแปลเพลงจีนให้ ก็เลยขอถือโอกาสเขียนบทความนี้ตอบแทนแล้วกันนะครับ ก็ไม่รู้ว่าจะขำรึเปล่า

อนึ่ง หากถูกต่อว่าต่อขานว่าบล็อกร้องเพลงทำไมไม่มีเพลง ผมก็จะร้องเพลงมาลงทีหลังนะครับ

เรื่องนี้เกิดขึ้นประมาณ 20 ปีมาได้แล้ว เรื่องมีอยู่ว่า...


ตอนนั้นผมได้ไปรู้จักกับสาวนาฏศิลป์คนนึง เธอกำลังเรียนอยู่ปีสุดท้ายแล้วล่ะ ทีนี้สาวๆนาฏศิลป์(เท่าที่ผมรู้และเมื่อ 20 ปีที่แล้วนะครับ)ที่มีฝีมือใช้ได้แล้ว ก็มักจะหารายได้พิเศษหลังเลิกเรียนโดยการไปรำในสถานที่ประเภทภัตตาคารต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่กลุ่มเป้าหมายก็คือพวกทัวร์ต่างประเทศ แล้วพวกหนุ่มๆนาฏศิลป์ที่เล่นดนตรีไทยก็จะไปเป็นคนเล่นให้สาวๆเหล่านี้รำกัน

สาวคนนี้ก็ไปทำงานเป็นนางรำกับเพื่อนที่ภัตตาคารแห่งหนึ่งแถวๆปิ่นเกล้า ผมก็ไปมาหาสู่แถวนั้นบ่อยๆ (แบบว่าหาความรู้เกี่ยวกับดนตรีไทยน่ะ ) แต่ก็ไม่เคยเข้าไปในห้องแต่งตัวหรือแม้แต่ในภัตตาคารห้องที่มีการแสดงนั้นเลย

ทีนี้มีอยู่วันนึงสิครับ ตอนเย็นๆ ฝนมันดันตกมาตอนที่เราเดินกันอยู่แถวนั้น ก็เปียกกันมะล่อกมะแล่ก (คือเปียกไปหมดตั้งแต่หัวจรดเท้า) ซึ่งเป็นเวลาที่สาวเจ้าจะต้องเข้าไปแต่งตัวแล้ว เธอก็เลยบอกผมว่างั้นเข้าไปในห้องแต่งตัวหลังเวทีด้วยกัน ไปเปลี่ยนชุดตากให้แห้งแล้วค่อยกลับ

คือห้องแต่งตัวนั้นจะมีทั้งห้องของนางรำ และห้องของนักดนตรีนะครับ ผมก็เข้าไปในห้องดนตรี น้องๆ ซึ่งก็พอรู้จักกันบ้างก็เลยเอาชุดราชปะแตนซึ่งเป็นชุดนักดนตรีให้ผมใส่ชั่วคราว เพื่อจะเอาชุดไปปั่นแห้ง

ใส่ๆไปตอนแรกก็นุ่ง เอิ่ม...เขาเรียกว่าอะไรล่ะ เรียกผ้านุ่งแล้วกัน คือก็นุ่งแบบผ้าขาวม้าธรรมดา ส่วนเสื้อก็เป็นเสื้อแบบราชปะแตนสีขาว ทีนี้ผมนึกสนุกให้น้องๆเขาช่วยจัดผ้านุ่งให้แต่งแบบเต็มตัวแบบน้องๆเขา ซึ่งก็ทำซะเรียบร้อย หวีผมอะไรด้วยให้สนุกสนาน

แล้วน้องๆ เขาก็พูดกันเล่นๆว่า นักดนตรีคนใหม่มาแล้วๆ ซึ่งผมก็เดินยิ้มหน้าบานไปทั่วห้องแต่งตัว

ทีนี้พอถึงเวลาแสดง ผู้จัดการร้านก็มาเรียกนักดนตรีให้ออกไปโชว์ (นางรำจะออกทีหลัง เมื่อดนตรีขึ้นแล้ว) ซึ่งผมก็ยืนๆมองอยู่ตรงทางออกเวทีตรงนั้นด้วยความสนใจ

เรื่องไม่จบแค่นั้นครับ พอทุกคนออกไปประจำตำแหน่งครบแล้ว พี่ผู้จัดการก็หันมาทางผมแล้วบอกว่า "ออกไปซิ ไม่ต้องอาย"

ผมก็นึกในใจ...อะไรวะ แล้วก็คิดตัดสินใจอยู่ในวินาทีนั้นว่าจะออกไปหรือไม่ออกไปดี.....

ตอนนั้นน่ะผมลูกบ้าเกินร้อยครับ ซึ่งต่างจากตอนนี้มาก(ตอนนี้เหลือร้อยเดียวเอง ) ก็ไม่รู้หรอกว่าพี่เขาให้ออกไปเพราะอะไร ทำไม และจะให้ออกไปทำอะไร แต่ผมก็ออกไปครับ


เมื่อกี้นั่งดูโทรทัศน์ไปก็ทบทวนความจำไป พอเริ่มจำรายละเอียดได้ผมก็เริ่มขำครับ ก็หวังว่าจะถ่ายทอดมาจนพอครบถ้วน(ไร้)สาระนะครับ

พอผมเดินออกไป พวกนักดนตรีก็แน่มาก ไม่ตกใจอะไรทั้งสิ้นแล้วเรียกผมเข้าไปนั่งในวง ก็นึกภาพวงดนตรีไทยที่เล่นแบ็คอัพให้นางรำนะครับ ผมจำไม่ได้แล้วว่ามีกี่คน เครื่องดนตรีอะไรบ้าง แต่วันนั้นน่ะสามารถเล่นให้แสดงโขนได้ด้วยน่ะครับ ก็น่าจะครบเครื่องพอสมควร

มีน้องคนนึงให้ผมถือไม้ไว้ตีกลองชุด เรียกไม่ถูกว่ากลองอะไร เป็นกลองที่ไว้ตีตอนเล่นโขนน่ะครับ มีหลายใบเสียงจะแบบ ตุ๊มๆ ต่อมๆ ทำนองนี้

อ้อ รู้สึกว่าผมจะไหว้เครื่องดนตรีตามแบบฉบับด้วยนะครับ คือก็ยกมือไหว้เหมือนไหว้ครูน่ะครับ

ผมก็ถือไม้ตีกลองไว้ ตอนนั้นแปลก เหมือนมีมนต์ ไม่รู้สึกตกใจอะไรเลยครับ แบบว่าสบายๆ คอยดูว่าสถานการณ์จะเป็นยังไงต่อไป เพราะผมไม่รู้ขั้นตอนอะไรทั้งสิ้น ไม่เคยดูเลยว่างั้นน่ะครับ

ปรากฏว่า พอเริ่มโชว์ เค้าจะมีคนมาเป็นพิธีกรด้วยครับ ก็เป็นน้องของผู้จัดการหลังเวทีที่พอจะรู้จักกันมาบ้างครับ เธอก็เริ่มพูดภาษาปะกิตเลยครับ เลดี้ แอนด์ เยนเติ้ลแมน...

หลังจากนั้นผมไม่รู้เรื่องหรอกครับ ที่มันส์มากคือ เธอเริ่มหันมาทางวงดนตรีแล้วเริ่มอธิบายแต่ละเครื่องดนตรีครับ โดยการพอขานชื่อเครื่องดนตรีใด คนเล่นเครื่องดนตรีนั้นก็จะโซโล่ขึ้นมาครับ ระนาดก็รัวระนาด ฉาบก็ตีฉาบ อะไรทำนองนี้

ทีนี้มาถึงผม จำได้แม่นเลยครับว่าน้องเธอหน้าตาเหรอหรา อึกๆอักๆ เพราะเธอจำผมได้ แต่เธอก็แน่ครับ พูดต่อไปไม่สะดุดถึงเครื่องดนตรีที่ผมเล่นอยู่ ซึ่งผมยังไม่รู้เลยว่าเล่นอะไรอยู่

พอพูดจบผมก็ลุยเลยครับ ใช้ไม้คู่ที่ถืออยู่ระดมรัวกลองนั้นเป็นเสียง ตุ๊มๆๆๆๆๆ ต่อมๆๆๆๆๆๆ


เอ๊ะ ก็มีเสียงปรบมือจากคนดูดีนี่ครับ ผมก็สังเกตว่าน้องพิธีกรเธอมีสีหน้าที่ดีขึ้น คงนึกโล่งอกแหละครับ

จากนั้นก็เป็นการบรรเลงดนตรีไทยพร้อมโชว์การรำครับ ซึ่งผมจำไม่ได้แล้วว่ามีกี่ชุด น่าจะใช้เวลารวมทั้งหมดประมาณ 30 นาทีนะครับ ชุดการแสดงก็หลากหลาย สำหรับเครื่องดนตรี ผมลองเช็คคร่าวๆจากเน็ตเมื่อกี้ รู้สึกจะเป็นลักษณะประยุกต์ คือวางไว้หลากหลายชิ้นแล้วแต่ชุดการแสดง เท่าที่จำได้ก็ประมาณในภาพนี่แหละครับ




ผมอยู่เล่นกับเขาจนจบโชว์ทั้งหมดแหละครับ จำได้ว่าน้องคนที่เล่นฆ้องวง/กลองทัด จะเป็นคนคอยยื่นเครื่องดนตรีมาให้ผม ซึ่งก็แปลกตอนนั้นยื่นอะไรมาผมก็เล่น ไม่ได้นึกกลัวอะไร แล้วที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ เจ้าน้องคนนั้นทำไมถึงมั่นใจในตัวผมนักก็ไม่รู้...แปลกจริงๆ

เท่าที่จำได้นะครับ ที่ผมเล่นก็มี กรับ กลอง ซึ่งจะเป็นเครื่องดนตรีประเภทให้จังหวะ คือ กรับ เสียงก็จะดัง กรับ...กรับ โดยใช้มือถือไม้กรับตามภาพแล้วขยับให้ชนกัน ส่วนกลองจะมี 2 แบบ คือ แบบใช้มือตี ซึ่งยากลูกเล่นเยอะ น้องเค้าก็ไม่ได้ให้ผมเล่น กับแบบใช้ไม้ตี ซึ่งแบบนี้ผมเล่นหลายเพลงอยู่

ที่จำได้แม่นคือตอนชุดแสดงโขน ซึ่งผมเคยฟังบ่อยว่าจะมีการตีกลองตอนที่จะรบกัน เป็นจังหวะ ตุ๊มๆๆๆๆๆๆๆๆ ตุ่มๆๆๆๆๆๆ....ตุ๊มๆๆๆๆๆๆๆๆ ตุ่มๆๆๆๆๆๆ ซึ่งพอชุดนี้แสดง ผมก็ลุยเลยครับ ตามที่เคยฟังมา แล้วก็ตามที่คิดว่าน่าจะตีแบบนั้น

ขอบอกว่า การเล่นดนตรีไทยนี่ พวกนักดนตรีที่เล่นจะมันส์มากเลยครับ ไม่รู้เป็นยังไงบอกไม่ถูก ผมก็เหมือนกับตกอยู่ในภาวะมนต์เสน่ห์อะไรแปลกๆไปด้วยตอนนั้น คงเหมือนกับฟังดนตรีจังหวะลาตินแล้วมันคึกคักๆ ทำนองนั้นน่ะครับ


ขอคั่นเวลาด้วยการเล่าถึงวันเสาร์ที่ผ่านมาที่ผมดูรายการ The Master เวทีสำหรับมืออาชีพ(ที่คอมเมนต์โดยคอมเมนเตเตอร์มือใหม่ ) ซึ่งมีการคอมเมนต์ที่พิลึกๆหลายจุด อย่างเช่น จุดนึงที่บอกว่านักร้องเล่นสนุกกันเองโดยไม่สนใจคนดู อันนี้ผมค้านนะครับ เพราะจากประสบการณ์ เส้นแบ่งของคนเล่นกับคนดูมันบางมาก คือ ถ้าพยายามเล่นให้คนดูสนุก ผมว่าบางทีมันจะประดิษฐ์เกินไป แต่ถ้าคนเล่นคนร้องสนุกแล้ว มันจะมีพลังบางอย่างที่สื่อถึงคนดูได้มากกว่า ผมว่างั้นนะ

อ้ะ เล่าต่อครับ

พอจบโชว์เข้าไปหลังเวทีถึงได้บางอ้อครับ พี่ผู้จัดการเข้ามาเล่าว่า ที่ให้ผมออกไปกับนักดนตรีนั้น เพราะพี่เค้านึกว่าผมเป็นนักดนตรีใหม่จริงๆ คือตอนนั้นกำลังหานักดนตรีมาเสริม แล้วพวกน้องๆนักดนตรีแซวผมว่าเป็นนักดนตรีใหม่ พี่เค้าก็นึกว่าใช่ แถมยังบอกต่อด้วยว่าเรื่องของผมนี่คงกลายเป็นตำนานเรื่องหนึ่งของภัตตาคารนั้นไปเลย

ส่วนน้องๆนักดนตรีก็เข้ามาบอกผมว่า พี่จังหวะแข็งจริงๆ แล้วชวนผมไปครอบครูดนตรีไทยครับ ซึ่งผมก็ปฏิเสธไปเพราะตอนนั้นก็ตั้งใจว่าจะขอไม่เป็นนักดนตรีอาชีพ(เรื่องนี้เกิดหลังจากที่ผมวางมือเรื่องกีต้าร์แล้วด้วย)น่ะครับ

แต่พอถามสาวนาฏศิลป์ว่าผมเล่นเป็นยังไง เธอบอกเสียงดนตรีผมโดดออกมาเชียว ซึ่งมีข้อสังเกตว่าเธอก็ไม่ได้บ่นว่าผมไปทำจังหวะดนตรีเค้าเสีย นี่ก็คงแสดงว่า จังหวะดนตรีของผม แข็งจริง มั๊งครับ

เรื่องก็เป็นเช่นนี้แหละครับ...พี่น้องงงง




 

Create Date : 04 มีนาคม 2552
18 comments
Last Update : 5 มีนาคม 2552 12:43:56 น.
Counter : 1994 Pageviews.

 

แวะมาอ่านพี่แช่ ย้อนอดีต เล่าเรื่องเมื่อ ๒๐ ปีก่อนปู้นนน

มี ปู่ฯ นี่ก็ดีเหมือนกันเน๊อะ
มีเรื่องเล่าเยอะดี....


ปล. "ออกไปซิ ไม่ต้องอาย"
ดูเดาว่า ออกไปแน่ๆๆ และที่แน่ๆ น่าจะเป็นคนกล้าแสดงออกมากๆ มาจนถึงทุกวันนี้ แหง๋มๆๆ

 

โดย: naragorn 4 มีนาคม 2552 23:34:27 น.  

 



จะติดตามตอนต่อไปค่ะ... ^__^

ปล. เสียงกีตาร์บรรเลง ที่ใส่ไว้ เพราะมากเลยค่ะ

 

โดย: naragorn 5 มีนาคม 2552 1:22:31 น.  

 

เริ่มจะฟังเพลงก่า เล่าความหลังแระ อิอิ

อาการเริ่มต้นของคน.....เติมเอาเองนะพี่

 

โดย: jone500 (max_pressure ) 5 มีนาคม 2552 1:46:17 น.  

 

naragorn : ที่จริงพี่ปู่ขี้อายนะ ตอนวัยสะรุ่นน่ะ
ขอบใจนะที่ติดตามอ่าน พอรู้ว่ามีคนตามอ่านพี่ปู่ก็มีแรงบันดาลจัยที่จะเขียนต่อ

=================================================

jone500 : เป็นอาการเริ่มต้นของคน(เคย)หล่อครับ นี่คุณหนู Cable เห็นรูปผมแล้วถึงกับอึ้งและการันตีในความหล่อเชียวนาครับ

 

โดย: อุปนิกขิต 5 มีนาคม 2552 1:58:10 น.  

 

... พี่ผู้จัดการ(สมัยนั้น) คงไม่รู้ละซิว่าพี่ปู่ฯแช่ของเราอายไม่เป็น

... แล้วสรุปว่าพี่ปู่ฯแช่ เล่นกลองตัวไหนตอนที่โซโลนะ ที่ดังตุ๊มๆๆๆๆๆ ต่อมๆๆๆๆๆๆ นี่เสียงกลองจริงๆ เหรอคะ

 

โดย: SIMAKHA 5 มีนาคม 2552 11:57:12 น.  

 

ที่นั่นเขาเรียกว่า ห้องอาหารเหรอฮะ เพิ่งรู้อ่ะ...
แต่ผมเรียกที่นั่นว่า ภัตตาคาร ... ที่ๆท่านอุป ไปมา-
หาสู่ บ่อยๆมั่กๆ ใช่ป่ะ 55558888

ลูกบ้าโค-ตะ-ระ-เยอะสุดหยั่งจิงๆ

 

โดย: มาเองงงงงงง.... (ฎ-ชฎา ) 5 มีนาคม 2552 12:11:51 น.  

 

SIMAKHA : คือพี่ปู่แช่หน้าด้านว่างั้น อิๆ
กลองอะไรจำไม่ได้จริงๆจ้า เช็คจากกูเกิลก็ยังไม่เคลียร์ แม่ญิงอุ๋มเคยดูโขนมั๊ยล่ะ ตอนที่รบกันน่ะจ้ะ จะมีเสียงกลองรัวเร่งเร้า เสียงจริงๆ น่าจะออกว่า ตึ๊ง...ตึ๊ง...ตึ๊ง...ตึ๊ง...ตึ๊ง ตึ่ง...ตึ่ง...ตึ่ง...ตึ่ง...ตึ่ง แต่ตอนนั้นพี่ปู่แช่คงจะรู้สึกตุ๊มๆต่อมๆด้วยน่ะจ้ะ เสียงเลยออกมาแบบน้าน

=================================================

มาเองงงงงงง.... (ชื่ออะไรของมรึงฟะ) : เออใช่ ภัตตาคารนี่เนาะ เด๋วเข้าไปแก้ก่อน
แหม พี่ ฎ นี่็ก็รู้ลึกนี่เนาะ

 

โดย: อุปนิกขิต 5 มีนาคม 2552 12:37:57 น.  

 

แหม...ผมไม่ได้รู้ลึกหรอกฮะ แต่มรึงทำให้ผมต้อง
จดจำเจ้าภัตตาคารนี้ขึ้นใจ....ทำเป็นจำไม่ได้.......
ดันโทร.เรียกผมไปตามเฝ้า...เอ๊ย...ไปมาหาสูบ
ตอนตี 2 ... เข้าใจมั๊ยว่า ผมเดือดร้อน(ในตอนนั้น)...
เพราะผมไม่ได้นอน แต่ด้วยฟามรักเพื่อนเลยต้องปายยย..
ง่ะ....

แล้วถ้ายังเปิดประเด็นต่ออีก...ความลับแตกล่ะคราวนี้ 555

 

โดย: มาเองงงงงง.... (ฎ-ชฎา ) 5 มีนาคม 2552 14:43:02 น.  

 

เอ้อ... พี่ฎ ที่เคารพรักครับ พี่สบายดีมั๊ยครับ พี่มีอะไรให้ผมรับใช้บ้างครับ

 

โดย: อุปนิกขิต 5 มีนาคม 2552 20:18:40 น.  

 

โอ้ยยย ยาวเชียว

คุณ ฎ มาสรุปให้ฟังหน่อยจิ
เอาเฉพาะ ความลับ เอ้ย
ความที่สำคัญ สำคัญ กะได้ ค่ะ

 

โดย: ปิ่นพระศิวะ 5 มีนาคม 2552 21:50:43 น.  

 

... ป๋า ฎ กะ ปู่อุปฯ ... รู้สึกคู่นี้จะมวยถูกคู่ แต่ไม่รู้จะเข้าขั้น จระข้ กับ เต่า หรือเปล่าเนาะ

... โทรเรียกให้ไปเป็นเพื่อนเฝ้า... ตอนตี 2 นี่ ถ้าไม่รักกันจริง คงไม่ไปด้วยหรอกเนาะ

 

โดย: SIMAKHA 6 มีนาคม 2552 8:57:00 น.  

 

กล้าจิง ๆพี่เรา.....ฮ่า ๆ ๆ

 

โดย: NuHring 6 มีนาคม 2552 10:13:33 น.  

 

 

โดย: PoorDivaTA 7 มีนาคม 2552 0:59:40 น.  

 

พี่คร๊าบบบบบ.....อัพบล๊อก ก่อนหยุดย๊าววววว ยาวนะ...

แวะมาบอก ไปแร๊ะ....

 

โดย: NuHring 7 มีนาคม 2552 14:28:00 น.  

 

... เขียนคำอ่านภาษาไทยเพลงจันทร์แทนใจให้แล้วนะคะ

 

โดย: SIMAKHA 7 มีนาคม 2552 17:01:37 น.  

 

... พี่ปู่ฯ ท่านที่เราก็รู้ว่าใครกำลังถามหาที่บ้านเล็กแนะ

... เห็นบอกให้รายงานตัวด่วน

 

โดย: SIMAKHA 7 มีนาคม 2552 17:35:58 น.  

 

จากแต่ปางก่อน พี่แช่เริ่มย้อนไปถึงดนตรีไทยแย้วววว

โอ้ว...แม่เจ้า....

 

โดย: Cable InLove 7 มีนาคม 2552 22:43:33 น.  

 

ปิ่นพระศิวะ : เหอะๆๆๆ ถ้าใจความสำคัญก็นี่เลย
พี่แช่...เคยไปเล่น...ดนตรีไทย

=================================================

SIMAKHA : คุณพี่ ฎ ก็พูดเกินไปครับน้องอุ๋ม
ตี 2 ใครจะมา แต่เที่ยงคืนเท่าน้าน

=================================================

NuHring : ต้องบอกว่าบ้ามากกว่าจ้า แล้วที่บ้าที่สุดในเรื่องก็ต้องน้องที่ตีกลองทัดนั่นแหละ บ้าจริงๆ ไม่ห้ามพี่ปู่แถมยังยุอีก

=================================================

PoorDivaTA :


=================================================

Cable InLove : เอ๊ะ งั้นกลับมาเล่นเพลงแต่ปางใหม่ๆบ้างครับ อิๆ

 

โดย: อุปนิกขิต 8 มีนาคม 2552 2:27:15 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


อุปนิกขิต
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




อุปนิกขิต น. คนสอดแนม, จารบุรุษ



Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
New Comments
Friends' blogs
[Add อุปนิกขิต's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.