Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
7 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
โบกมือลาความสบาย





ภาพโรงแรมค่อยๆห่างออกไป

รถจี๊ปสีขาวแฝดสามวิ่งตามกันไปเป็นกลุ่มบนถนนที่เลี้ยวลด คดเคี้ยว ย้อนกลับลงไปทางเดิม เพื่อลงไปที่บอมดิลา ซึ่งจะเป็นทางนำไปสู่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอีเกิลเนสต์ โดยเราจะแวะพักกันที่บอมดิลาก่อนสักพัก เพื่อชอปปิ้ง เลือกซื้อสินค้า เติมน้ำมัน และเที่ยวชมวัดในสไตล์ธิเบตหรือเรียกอีกอย่างว่า กอมปะ


เรามาถึงบอมดิลากันตอนสายๆ แดดกำลังแรงได้ที่ แต่อุณภูมิกลับไม่สูงมาก เพราะยังอยู่ในเขตภูเขาสูง คนขับเอารถไปจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถ ก่อนที่พวกเราทุกคนจะเดินลงไปเยี่ยมชมกอมปะ เพียงเดินเข้าไปภายในก็สัมผัสได้ถึงความศรัทธาที่เงียบสงบ อ่อนน้อมถ่อมตน มีลามะ หรือเณรวิ่งเล่นกันอยู่หลายรูป สักพักก็มีรถกระบะสีเขียวมารับ ไม่รู้เหมือนกันว่ารับไปไหน แต่เห็นในมือของเณรน้อยมีหนังสือถืออยู่ทุกคน นอกจากนั้นยังมีเด็กๆหน้าตาอินเดียขนานแท้ แต่กำลังเดินวนรอบโบสถ์ พร้อมกับสวดมนต์ไปพลาง เป็นภาพน่ารักที่บางทีทำให้ฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง ความแตกต่างของเชื้อชาติ ศาสนานั้นไม่น่าเป็นประเด็นใหญ่ที่ก่อให้เกิดการทำลายล้างอย่างรุนแรงได้เลย หากแต่ละคนลดทิฐิ ความถือตัว เด็กๆที่นี่มีทั้งเด็กอินเดียและเด็กธิเบต แต่พวกเขาก็ยังอยู่ร่วมกันได้ ภายในวัดเดียวกัน เมืองเดียวกัน โดยไม่มีท่าทีบาดหมางใดๆเลย


ภายในส่วนที่น่าจะพอเปรียบได้กับวิหารของวัดบ้านเรานั้น มีคุณยายท่านหนึ่งกำลังเข้าไปไหว้พระอยู่พอดี เราเลยมีโอกาสได้เห็นการไหว้แบบอัฎฐางคประดิษฐ์ หรือการไหว้แบบธิเบต คุณยายท่านนี้น่ารักมาก มาคุยด้วยอย่างเป็นมิตร หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส สักพักก็ออกไปคุยกันกับคุณยายอีกคน ลักษณะการแต่งกายนั้นแอบทำให้นึกถึงการแต่งกายของชาวไทยใหญ่ แต่ก็ไม่คล้ายกันมากเสียทีเดียว เพียงแต่ใส่ผ้าซิ่นมีลวดลาย สีสัน สวยงาม แต่ดูเรียบง่ายกว่ามาก


เสร็จจากกอมปะ พวกเราก็เดินออกมาที่ถนน แล้วเข้าไปในตลาดในเมือง ผู้คนค่อนข้างพลุกพล่าน แต่ไม่มากนัก พวกเราเดินกันไปเรื่อยๆ แวะบ้างถ้าเห็นอะไรถูกใจ ที่ตลาดมีผักสดขายมากมาย มีแม่ค้าคนหนึ่งกำลังอุ้มลูก อายุคงไม่กี่ขวบ หน้าตาน่ารัก แก้มยุ้ยเชียว ทั้งแม่ทั้งลูกกำลังหยอกล้อกันเล่น น่ารักเสียจนผมต้องขอถ่ายภาพ จากนั้นเราก็พากันเดินเข้าไปในร้านขายของ ที่แดเนียลเป็นคนแนะนำ ภายในร้านดูมืดๆทึมๆ น่ากลัวนิดๆ อากาศข้างในยังเย็นกว่าอีกด้วย มีแม่ค้าอยู่คนเดียว ออกมาต้อนรับ พวกเราแต่ละคนก็แยกย้ายกันไปค้นหาสินค้าที่น่าสนใจ เพื่อซื้อให้ทั้งตัวเองและเอากลับไปฝากคนที่บ้าน ที่นี่เราได้หินธิเบตที่ไม่ต้องถามว่าของแท้หรือของปลอม เพราะเป็นของ “แท้” อย่างแน่นอน ในราคาเพียงไม่กี่ร้อยบาท ซึ่งเราต้องใช้ความสามารถในการคุ้ยหาลวดลายที่ถูกใจกันเอง เพราะแม่ค้าเธอมีหน้าที่แค่เอากระบะที่เต็มไปด้วยหินธิเบตหลากหลายลวดลายลายตาออกมาให้ และรอเก็บเงินแค่นั้น นอกจากหินธิเบตแล้วยังมีพวกสร้อยข้อมีสีสันสวยงาม ธงมนต์ที่เราเห็นตามบ้านเรือน และผ้าสีสวยมากมาย หลักจากเลือกซื้อกันจนหนำใจ เราก็ได้ของติดไม้ติดมือกลับกันไปคนละหลายๆอัน ของผมได้หินธิเบตแบบที่มีตาสามดวง กับสร้อยข้อมือสีสวยกับไปฝากน้องสาว ดูเหมือนว่าคนที่ถูกใจกับร้านนี้มากที่สุดคงจะหนีไม่พ้นพี่โอ๋กับอาหมอปุ๊ ที่มีของติดไม้ติดมือกลับไปมากที่สุด


ออกจากบอมดิลาเราก็ผ่านเมืองทหาร เทงกา อีกรอบ แต่จากเทงกาแทนที่เราจะย้อนกลับไปทางเก่า เราเลี้ยวขวาขึ้นไปถนนอีกสายที่ค่อยๆลดขนาดเล็กลงเรื่อยๆ และยังชันขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งในที่สุดเราก็หลุดจากโลกที่เราคุ้นเคยมาเป็นเวลาหลายวัน จากนี้ไปชีวิตของพวกเราทุกคนที่นี่จะเหลือเพียง รถจี๊ปขาว ถนนลูกรัง เต๊นท์นอน และทีมพ่อครัวที่จะตามไปทำกับข้าวให้พวกเรากิน


อากาศแห้ง แดดแรงแบบนี้ทำให้ถนนลูกรังเป็นฝุ่นฟุ้งกระจาย แอร์รถก็เปิดไม่ค่อยได้ เลยต้องทำใจ ได้แต่เอาผ้าปิดปากปิดจมูกกัน เพราะฝุ่นฟุ้งเหลือเกิน กว่าเราจะมาถึงจุดหมายก็ปาไปเที่ยงวัน ลักษณะพื้นที่เป็นแคมป์โล่งๆเหนือหุบกว้างกลางป่าดิบเขาทึบ มีเพียงเต็นท์รวมสีแดงหนึ่งหลัง เต๊นท์นอน และเต็นท์ห้องน้ำ จุดนี้มีชื่อเรียกว่า ลามะแคมป์ (Lama Camp) พอลงรถเราต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันเอาของเก็บใส่เต็นท์แล้วไปรวมกันบนโต๊ะอาหารเพื่อรอกินข้าวเที่ยง หลังอาหารเราเริ่มร้อนเพราะโต๊ะกินข้าวเล่นตั้งอยู่กลางโดดโล่งโจ้ง รับรังสีอัตราไวโอเลตเต็มๆ เราจึงพากันไปหลบอยู่หลังเต็นท์รวมเพื่อหลบแดด กิจกรรมนี้เลยกลายเป็นกิจกรรมหลักของเราต่อมา แต่นั่งนานๆไม่ได้เพราะถ้านั่งนานๆแล้วจากที่ร้อนๆอยู่ จะกลายเป็นหนาวจนตัวสั่น ต้องออกมารับแดดอีกรอบ


สาเหตุที่เราต้องแวะที่ลามะแคมป์กันนี้ก็เพราะว่าเพิ่งมีการค้นพบนกชนิดใหม่ของโลก ที่ไม่สามารถพบได้ที่ไหนนอกเหนือจากบริเวณนี้เท่านั้น นกตัวนั้นมีชื่อเสียงเรียงนามว่า Bugun Liocichla ซึ่งชื่อบูกันนั้นมาจากชาวเผ่าบูกัน ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองของบริเวณลามะแคมป์ นกชนิดนี้เป็นนกที่มีสีสันสวยงามซะด้วยสิ ลำตัวสีน้ำตาล ตัดกับใบหน้าและท้องสีเหลืองสด ถ้าเป็นตัวผู้บริเวณปลายปีกและก้นก็จะเป็นสีแดง เจ้าตัวนี้ล่ะที่ทำให้เราตัดสินใจเลือกที่จะมาอรุณาจัล


พอแดดเริ่มตกพวกเราก็เริ่มออกเดิน โดยเดินย้อนออกไปทางที่เรานั่งรถเข้ามา ผ่านหมู่บ้านชาวบูกันเล็กๆที่มีแคมป์แบบโฮมเสตย์ที่เป็นของไกด์อีกจ้าว คู่แข่งของปีเตอร์เราเอง เลยจากแคมป์ไปก็จะเป็นป่าดิบเขาทั้งหมด แต่สภาพป่าถูกรบกวนค่อนข้างมาก เพราะยังมีร่องรอยการลักลอบตัดไม้อยู่เป็นระยะๆ เราเดินมากันไกลพอสมควร จนถึงจุดหนึ่งที่มีนกค่อนข้างเยอะ เราเลยแวะพักกันตรงนั้น ปีเตอร์เปิดเสียงร้องของ นกเค้าแคระ (Collared Owlet) ที่เป็นนกกลุ่มนกเค้าแมว แต่ชอบร้องในเวลากลางวัน สาเหตุที่ปีเตอร์เปิดเสียงของนกเค้าชนิดนี้ก็เพราะว่าตามปกติ นกเค้าแคระจะเป็นศัตรูของเหล่านกตัวเล็กๆทั้งหลาย ดังนั้นหากอยากจะปลอดภัย พวกนกเล็กๆจะต้องรวมกลุ่มกันแล้วเข้ามา “ม๊อบ” นกเค้าแคระ ไล่จิกตีให้มันบินหนีไป เทคนิกการเปิดเสียงนกเค้าแคระจึงเป็นการหลอกล่อให้นกตัวเล็กๆทั้งหลายเข้ามาหาเรานั่นเอง


เพียงไม่กี่ทีเราก็พบว่า พวกเราทุกคนถูกรุมร้อมไปด้วยฝูงนกขนาดเล็กต่างๆนานา เยอะเสียจนดูแทบไม่ทัน ที่กล้าๆหน่อยก็หนีไม่พ้น นกภูหงอนคางดำ (Black-chinned Yuhina) ตามมาด้วยนกกินปลีหางยาวคอดำ (Black-throated Sunbird), นกติ๊ดคิ้วเหลือง, นกติ๊ดแก้มเหลือง, นกภูหงอนคอลาย และนกหางรำสีสวย (Beautiful Sibia) หลังจากฝูงนกเข้าใจว่าโดนหลอก พวกมันก็ค่อยๆซากันไป แต่บริเวณนั้นก็ยังคงมีนกให้ดูเยอะพอสมควร เจ้านกหัวขวานด่างท้องแดง (Rufous-bellied Woodpecker) เกาะนิ่งไม่ยอมไปไหน ให้พวกเราได้ส่องดูกันอย่างมีความสุข ฝูงนกหางรำสีสวยสองสามตัวก็กำลังกระโดดเข้ามากินแมลงใกล้ๆไม่ยอมไปไหนเช่นกัน กลายเป็นดาราหน้ากล้องไปโดยทันที ขณะที่กำลังรุมดูนกหางรำนั้นก็มีเสียงตะโกนว่า “Yellow-rumped Honeyguide” หรือนกพรานผึ้งตะโพกเหลือง ทำเอาพวกเราแตกกระเจิงกันด้วยความตกใจ เพราะนกตัวนี้เป็นนกที่หายากมากในแถบนี้ และเราก็แทบไม่ได้คิดว่าจะเจอ เพราะปกติมันมักจะอยู่คู่กับรังผึ้งขนาดใหญ่ เช่นที่เนปาล เพราะอาหารของนกชนิดนี้คือผลิตภัณฑ์ทั้งหลายที่มาจากผึ้ง เพราะฉะนั้นถ้าใครที่เคยดูสารคดีหรือเคยไปเที่ยวประเทศเนปาล แล้วมีโอกาสได้เห็นรังผึ้งยักษ์ที่อยู่บนหน้าผา อาจจะเคยเห็นเจ้านกสีน้ำตาลๆ หน้าผากเหลืองเหลืองตัวนี้มาแล้วก็เป็นได้


แต่คราวนี้เจ้านกพรานผึ้งกำลังเกาะอยู่เฉยๆบนกิ่งไม้แห้ง พวกเราเลยได้ดูกันสะใจ ในอดีตเค้าว่ากันว่าถ้านายพรานเข้าป่าไปแล้วเจอนกชนิดนี้ให้เดินตามมันไปเรื่อยๆ เพราะมันจะพาไปสู่รังผึ้ง จึงกลายเป็นที่มาของชื่อมันนั่นเองครับ ในตอนแรกอาจี๊ดกับอาอู๋เป็นคนเห็นมันก่อน แล้วสงสัย ไม่รู้ว่าเป็นนกอะไร เลยเรียกพ่อของผมมาดู พอพ่อผมดูก็ยังดูไม่ออกอีก บอกว่า “นกปรอดมั้ง” เลยเรียกปีเตอร์มาดูอีกที ทีนี้ล่ะ ปีเตอร์เลยตะโกนตามข้อความข้างบน ที่ทำเอาเราทุกคนวิ่งมาจ่อคิวรอดูมันกันใหญ่


ใกล้ๆกันนั้นมีหุบลึกริมถนน ที่ปกคลุมไปด้วยไม้พุ่มที่อัดแน่น ทึบจนแทบมองไม่เห็นพื้นด้านล่าง ผมเห็นว่ามีนกขยับๆอยู่ในพุ่มนั้น เลยลองไปเฝ้ารอดู แต่ก็รกเหลือเกิน ป้าโอ๋ก็เดินตามมาสมทบ เฝ้าดูด้วย ยืนรออยู่นานเจ้านกก็ไม่ยอมโผล่ออกมาเสียที จนในที่สุดป้าแกก็ถอยกลับไปยืนตรงจุดที่ดูนกพรานผึ้งดีกว่า แต่ผมยังไม่สบายใจ เพราะอยากรู้ว่ามันเป็นนกอะไรกันที่เคลื่อนไหว ส่งเสียงซวบซาบอยู่ในพุ่มไม้ จนกระทึ่ง “ผลุบ!” เจ้านกกระโดดออกมาเกาะในช่องที่ผมมองเห็นตัวพอดี เกาะอยู่นานไม่เกิน 2 วินาที มันก็กระโดดออกไป ปล่อยให้ผมได้แต่ตะลึง แล้วร้องอุทานออกมาว่า “เฮ้ย! บูกัน”





























Create Date : 07 มีนาคม 2551
Last Update : 7 ตุลาคม 2553 19:02:30 น. 19 comments
Counter : 517 Pageviews.

 
โทดทีนะครับ ที่ช่วงนี้อาจจะอัพถี่หน่อย
เพราะช่วงนี้พยายามปั่นกรุ๊ปหิมาลัยให้จบทัน
ก่อนไปญี่ปุ่นด้วยน่ะครับ
แต่ตอนนี้รู้แล้วล่ะ ว่ายังไงก็คงจบไม่ทันแน่ๆ
ก็เอาเป็นว่าได้แค่ไหนแค่นั้นละกันนะครับ


โดย: Unravel วันที่: 7 มีนาคม 2551 เวลา:20:40:46 น.  

 
เรียกว่า กงล้อมนต์ จ้าต้น


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 7 มีนาคม 2551 เวลา:21:28:38 น.  

 
มิน่าคราวนี้ยาว....และมีให้รูป(สีสดใสมากๆ)ให้ดูกันแบบจุใจ...

โต๊ะอาหารหรูมาก....
ตอนยังไม่ได้ดูรูปนึกว่าคณะดูนกต้องนั่งล้อมวงกินข้าวกับพื้นเสียอีกค่ะ
เลยทำให้อยากเห็นอาหารขึ้นมาตะหงิดตะหงิด...



โดย: SevenDaffodils IP: 65.203.0.242 วันที่: 7 มีนาคม 2551 เวลา:21:58:44 น.  

 
555 มีงี้ด้วย

เกลียดนกอ่ะ ไม่ใช่เกลียด กลัวมากกว่า เวลามันบิน

โดยเฉพาะเวลาไปมหาลัย ถ้าจอดรถไว้ที่สนามหลวงแล้วเดินเข้ามหาลัย ตายแน่ เพราะฝูงนกพิราบอหังกา มักบินโฉบหน้า ตรงดิ่งไม่กลัวอะไรเข้ามาทันที เซ็ง กลัวชิบหาย

เกลียดนกกางเกงบ้าน เพราะมันชอบมาส่งเสียงจิ๊บๆๆ ตอนเช้าๆๆ ที่ระเบียงห้องนอน เซ้ง คนจะนอนมากวนอยู่ได้ ไม่รู้เหรอ เจ้าของห้องนี้ตื่นสายยย



โดย: แอบชอบ คห. ข้างล่าง วันที่: 8 มีนาคม 2551 เวลา:3:15:18 น.  

 
ขอนอกเรื่องหิมาลัยนะ
จะบ้าตายอยู่แล้วเค้าอ่ะ
ตอนนี้เข็ดสุดๆเลยอ่ะ
แบบว่ากลัวไปเลย
ทำผิดเอาซะมากกกกกกกๆๆ(สุดๆในชีวิต)
กลายเป็นกลัวเรื่องแบบนี้ไปเลยอ่ะ

บางครั้งก้อใจแข็ง บางครั้งก้อใจอ่อน
แถมร้องให้ตามไปด้วยอีก
เกือบใจอ่อนไปซะแล้ว
เค้าเพิ่งใจร้ายสุดๆในชีวิตก้อครั้งนี้แหละ
เฮ้อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โหดร้ายจิงๆเพิ่งจะรับรู้ความรู้สึกของคนที่ต้องพูดแบบนี้เป็นครั้งแรก


คนโน้นรู้สึกว่าจาร้องไห้ทั้งวันเลย
โทรไปกี่ครั้งเสียงก้อไม่ดีซักครั้ง

T^T





โดย: T^T IP: 118.172.230.124 วันที่: 8 มีนาคม 2551 เวลา:4:54:05 น.  

 
- อ่านไม่ทันเลยแฮะ - -*


โดย: haro_haro วันที่: 8 มีนาคม 2551 เวลา:10:56:21 น.  

 
ไปญี่ปุ่นจะไม่มีเน็ตเล่นขนาดนั้นเลยเหรอ
ไม่มีซื้อโน้ตบุ๊คไป??

คือกำลังงงน่ะ ไม่ใช่อะไรหรอก 555


เจ้าบูกันน่ารักดีแฮะ อยากเก็บมาเลี้ยง


โดย: nanoguy IP: 125.24.68.105 วันที่: 8 มีนาคม 2551 เวลา:17:44:23 น.  

 
ตามมาอ่าน

ชอบรูปถ่ายบล็อกนี้จริงๆเลยค่ะ


โดย: Honeybee042 วันที่: 8 มีนาคม 2551 เวลา:18:18:57 น.  

 
กดฟังแทร็กเพลง be my husband ยังอ่ะ น่ารักนะ ลองฟังดู

ขอบเพลงนิวโซลเหมือนกัน แต่ทำไมช่วงนี้มีแต่ศิลปินชื่ออ่านยากๆ อีกคนชื่ออะไรอ่านไม่ออก รู้แต่ว่าเพลงชื่อ club thing เก๋ดี

อยาลืมกลับไปฟังนะ


โดย: แอบชอบ คห. ข้างล่าง วันที่: 8 มีนาคม 2551 เวลา:23:49:37 น.  

 
ทำไมเวลาผมเมนต์แต่ละที
ผมต้องได้เมนต์ต่อจากคุณ"แอบชอบ คห.ข้างล่าง"ทู๊กที
สงสัยดวงจะสมพงษ์กัน


......................


วันนี้เครียด
เพราะอยู่ในช่วงของการตัดสินใจทำอะไรซักอย่าง
ซึ่งมันคงเปลี่ยนอะไรๆไปอีกไม่มากก็น้อย
หลังจากตัดสินใจไป

แต่พอมาอ่านบล๊อกนี้แล้ว
มันสบายใจ
อย่างน้อยก็แว่บนึง

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆน่ะครับ

....................

ชอบภาพรอยยิ้มทุกภาพเลยครับ
อยากยิ้มได้แบบนั้นในตอนนี้จัง


โดย: Dr.Manta วันที่: 9 มีนาคม 2551 เวลา:1:55:09 น.  

 
ภาพสวยมากเลยต้น
เตรียมตัวไปญี่ปุ่นถึงไหนแล้วอะ

ตามบอกว่าไม่ได้ไปทะเลแล้วเพราะว่าคนน้อและหลายคนไม่พร้อมอะ
คิดภึงเพื่อนๆ เนาะ

ไปเยี่ยมเยียนเค้าบ้างนะต้น

ไปแระ บ๊าย บาย


โดย: weraj วันที่: 9 มีนาคม 2551 เวลา:11:33:58 น.  

 
มาทีไรรู้สึกเหมือนได้อ่านหนังสือสารคดีดีๆซักเล่มทุกที
ภาพสวย เรื่องดีเช่นเคยค่ะ
อ่านแล้วเกิดความรู้สึกอยากไปสัมผัสเองบ้างซักครั้ง

ไปญี่ปุ่นแล้วอย่าลืมมาอัพเรื่องราวให้ได้อ่านกันอีกนะคะ


โดย: Hobbit วันที่: 9 มีนาคม 2551 เวลา:19:14:35 น.  

 
ไปเที่ยวปายด้วยคน
ไปกะใครน๊อ



อิจฉาจริง
พี่ก็กะว่าจะไปปายน่ะ
แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเดือนนี้หรือเดือนหน้า

อยากขับรถไปเองเรื่อยๆ
ไปคนเดียว
คงมีความสุขดีน่ะครับ



โดย: Dr.Manta บ่ได้ล๊อกอินเด้อ IP: 222.123.68.205 วันที่: 9 มีนาคม 2551 เวลา:23:50:44 น.  

 
เยอะจัง
แก่แล้วตาลาย ไม่อยากอ่าน
ไปช่วยจี๊ดที่บล๊อกเจ๊หน่อย

เรื่องสอบๆ ก้ผ่านๆ ไปละกัน

ติดตัวไหนค่อยว่ากันวันหลัง


โดย: บัวลอย (newzapg ) วันที่: 10 มีนาคม 2551 เวลา:0:57:46 น.  

 
อ้าว สรุปว่าถ่ายนกบูกันได้ทันเหรอ

สีสันที่นี่สีสดใสดี

ได้ไปญี่ปุ่นด้วยวุ้ย น่าอิจฉา ยังไงก็ปั่นที่นี่ให้จบก่อน

ไม่งั้นได้เขียนตอนไปญี่ปุ่นก่อนแน่แน่

ขอให้เที่ยวญี่ปุ่นให้สนุกครับ



โดย: fzero วันที่: 10 มีนาคม 2551 เวลา:1:09:17 น.  

 
โห...ดันมาจบลงตรงที่ให้ตื่นเต้นอีกแล้วอ่ะค่ะ ทำไงดี คราวนี้ต้องรอนานมั้ยคะ?
กำลังถึงคราวตื่นเต้นพอดีเลยอ่า...ไปถึงญี่ปุ่นแล้วต้องรีบมาอัพนะคะ รอ ๆ

รู้สึกทริปนี้คุณต้นจะโชคดีตลอดเลยนะคะ ได้เจอแต่นกทีเด็ดทั้งนั้นเลย
แม้จะไม่มีความรู้เรื่องนกสักนิดเดียว แต่จากการอ่านคำบรรยายแล้ว
เจ้าน้องน้อยบูกันต้องมีความสำคัญมากเลยทีเดียวเชียวนะคะเนี่ย...
ตื่นเต้นค่ะ แล้วคนอื่นจะได้เห็นกับคุณต้นด้วยหรือเปล่าละ...ง่า...

น่ารักดีนะคะ...นกตัวแคระมารวมกันจิกไล่นกใหญ่...แต่น่าสงสารจังเลยค่ะ
โดนมนุษย์ส่งเสียงนกใหญ่มาหลอกซะนี่...ฮ่า ๆ คิดภาพแล้วน่ารักดีนะคะ
สามัคคีชุมนุมนก เตรียมตัวจิกตีกันใหญ่...มันจะรู้สึกว่าไงนะ ถ้ารู้ว่าโดนหลอก
เวลาเจอนกบ้ากล้องนี่...น่าจะสนุกน่าดูเลยนะคะ...หรือเปล่า?

วันนี้ภาพเยอะจุใจดีจริง ๆ เลยค่ะ...ภาพลามะน้อยก็น่ารักจังเลย
คุณต้นเขียนได้เหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานเลยนะคะเนี่ย...เห็นภาพชัดเจนทุกประการ

ยังไงก็.................รีบ ๆ กลับมาอัพต่อเถอะนะคะ อยากอ่านแล้วค่ะ
อ่อ...เคยบอกไปหรือยังคะ ว่าเพลงเพราะทุกเพลงและเข้ากับเนื้อหาสุด ๆ


โดย: นางสาวดุ่บดั่บ วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:7:32:40 น.  

 
+ เมื่อวานพี่อ่านหน้านี้จบแล้วล่ะครับต้น แต่คีย์ตอบไม่ทัน ก็มาตอบวันนี้แทนแล้วกันเน้อ (สงสัยพี่คงต้องทยอยอ่านจริงๆ เพราะวันนี้ก็คงยังแวะไปเยี่ยมต้นได้ไม่ครบทุกหน้าที่อัพไปอยู่ดีอ่ะครับ แหะๆ )

+ ชอบเพลงประกอบบล็อกอ่ะครับ ได้อารมณ์มากมาย
+ แถวบ้านเรา ไม่มีนิกายไหนที่ต้องไหว้แบบอัษฏางคประดิษฐ์มั้งเนาะครับ เพราะพี่ก็เคยแต่ได้ยินชื่อตอนเรียน แต่ก็นึกภาพไม่ออกเหมือนกันอ่าว่าเป็นไง ต้องมาเห็นจากรูปที่ต้นถ่ายมาเนี่ยแหละครับ

+ น้อง Bugun สวยจัดๆ เจงๆ ด้วย ... แล้วก็พี่มีความรู้สึกอย่างนึง (คล้ายใครสักคนข้างบน) ว่าน้องต้นและคณะช่างโชคดีจัง ที่ได้เจอนกหายากหลายๆ ตัว ตลอดการเดินทางทริปนี้ สมกับความตั้งใจที่บุกป่าฝ่าดงกันไปเนาะครับผม
+ รูป กอมปะ ดูขลังดีเหมือนกันนะนั่น

+ พี่แอบขำกับกิจกรรมหลบแดดตอนเที่ยงด้วยอ่ะครับ ... แต่มันก็คงจริงอ่ะเนาะ อยู่ตรงนั้น อากาศหนาวเพราะสูง แต่ก็คงร้อนมากเพราะใกล้ดวงอาทิตย์กว่าพื้นราบ
+ มี 'โมไบล์ โต๊ะอาหาร' ด้วยวุ้ย อิๆ ดูท่าจะสะดวกดีนะเนี่ย


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:17:21:54 น.  

 
เอ่...ตั้งใจตั้งหน้านี่หรอ
เราพลาดหน้านี้ไปอ่ะ เหอเหอ

+ชอบที่ต้นบรรยายในกอมปะอ่ะ
เด็กก็คือเด็กเนอะ ผู้ใหญ่นี่ล่ะชอบเอาเชื่อชาติ เอาความต่าง มาขีดเส้นในความสัมพันธ์ กำหนดโน่นนี่ จนทำให้เกิดความขัดแย้ง

+นกบูกัน สวยอ่ะ ทำไมสีมันถึงได้แปลกขนาดนี้ ชอบๆ
ชอบที่มาของชื่อด้วย

+นี่ขนาดโต๊ะอาหารเคลื่อนที่นะ ยังดูสบายเลย ฮ่าฮ่า

+เพลงประกอบเข้ามากของบอก เข้ากับลามะหนุ่ม
เอ้ยมิช่าย...เข้ากับความสงบดี





โดย: pangz วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:18:43:33 น.  

 
จบซะตอนไคลแม็กซ์เนี่ยนะ

นี่มายังไม่ถึงครึ่งทริปเลยเนาะ

ป้าหนีไป VoF ก่อนนะหนู เว้นเสียแต่ว่า ... หนูจะเจอเจ้าซาลามานเดอร์ยักษ์ก่อน ป้าจะย้ายทริปไปคิวชู 555


โดย: โป่งวิด วันที่: 11 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:46:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Unravel
Location :
Beppu, Oita Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Unravel's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.