|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ศีล ความปกติ ของใจ ไม่ใช่บังคับ
ฟังดูแล้ว การที่เราจะถือศีลให้มั่นคง นี่แสนจะยาก
แต่แท้จริงแล้ว หากเรารู้จักวิธีการที่แท้จริงในการรักษาศีล เราจะพบว่ามันไม่ยาก อย่างที่คิด
ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง คือ หลวงพ่อพุธ ท่านเคยกล่าวไว้ในทำนองที่ว่า( บวกกับผมจำๆและก็แต่งๆ)
ธรรมะนั้นก็เปรียบเหมือน อาหารชั้นดีเลิศ และจิตใจของคนก็เหมือนจานใส่อาหารนี้ หากจิตใดมีศีลมั่นคงเปรียบเหมือนจานที่สะอาดมารองรับเอาอาหาร
ดังนั้นหากจิตใด ปราศจาก ศีล ก็คือเอาจานสกปรก เมื่อใส่อาหารชั้นเลิศแล้ว ก็คงจะกินไม่ได้เสียแล้ว
ดังนั้น เราควรที่จะมีศีล ศีลในที่นี้ไม่ใช่ศีลห้า ศีลแปด ศีลสิบ หรือ ศีล ของ พระแต่หมายถึงเจตนาที่จะละเว้นความชั่วทั้งปวง
มาถึงตอนนี้อย่าเพิ่งไปมองเป็นเดือนเป็นปีเป็นวันในการรักษา ศีล เพียงแต่ให้สังเกตุที่ทุกขณะจิตของเรา ด้วยสติ และปัญญา
ครูบาอาจารย์ ท่านหนึ่ง คือ หลวงพ่อปราโมทย์ ท่านเคยกล่าวว่า สติและปัญญา เป็นธรรม ที่มีอุปการะมาก หน้าที่ของสติ คือ คอยคุ้มครองรักษาจิตให้ตื่นขึ้น จาก กิเลส และ อารมณ์ฝ่ายอกุศล
ดังนั้นทุกครั้งที่มีสติ จิตใจของเราในขณะนั้นได้มีศีล ครบถ้วน บริบูรณ์ แล้ว
แต่ไม่ได้หมายความว่าเมื่อ เรามีศีล แล้ว จะมีสติ นะขอรับ ^ ^v
ปล สติในที่นี้หมายถึง สัมมาสติ คือ ความระลึกชอบ
ระลึกถึงอะไร ระลึกถึงกาย ถึงใจ ของเรา นี้อยู่เนืองๆ สาธุ
Create Date : 24 กรกฎาคม 2550 |
Last Update : 24 กรกฎาคม 2550 11:19:03 น. |
|
0 comments
|
Counter : 299 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
ที่สุดแห่งศีล คือ เจตนาละความชั่วทั้งปวง( อินทรียสังวรณ์ศีล )
ที่สุดแห่งสมาธิ คือ อัปปนาสมาธิ
ที่สุดแห่งปัญญา คือ ไตรลักษณ์
จากคำของครูบาอาจารย์ฟังว่า ครั้งหนึ่งหลวงปู่เทสก์เคยตอบคำถามในหลวง เรื่องที่สุด ของ ศีล สมาธิ ปัญญา คือ อะไร
|
|
|
|
|
|
|
|