เครื่อง แปล ภาษา ระหว่าง Cheetah Talk กับ Google Translate อันไหนดีกว่ากัน ?Google Translate มีปัญหาใดๆ กับเรื่องการชะงัก พูด เอ่อ อ่า เอิ่ม เลย และดูเหมือนไมโครโฟนของสมาร์ทโฟน ถ้าเกิดเป็นรุ่นไฮโซๆ หน่อย ไมโครโฟนมันก็จะดีใช่ปะ มันก็สามารถแยกแยะเสียงพูดของเราที่อยู่ใกล้ไมโครโฟนได้มากกว่า เสียงจากลำโพงที่อยู่ไกลไมโครโฟน แน่นอนว่ายังมีผิดอยู่บ้าง แต่ว่าก็ไม่เยอะเท่าไหร่Cheetah Talk แม้ว่าจะสามารถแยกแยะ เอ่อ อ่า เอิ่ม ได้ แต่ไมโครโฟนดูจะไวไปหน่อย ส่งผลให้มันเอาเสียงรอบตัวเข้ามาหมด และฟังผิดฟังถูกไปเลย โดยเฉพาะพวกคำที่อาจจะฟังแล้วเพี้ยนได้ง่ายๆ ครับ แล้วมันก็จะแปลผิดไปไกลเลยทีเดียว ผมลองพูด “คุณอยากดื่มอะไร” ลองให้มันแปลเป็นภาษาจีน มันดันแปลออกมาเป็นภาษาจีนที่แปลว่า “คุณอยากดูอะไร” ซะงั้นโดยสรุปแล้ว ผมมองว่า Cheetah Talk พอจะแปลได้ประมาณนึง แต่คู่สนทนาจะต้องพยายามเข้าใจว่า เครื่องแปลภาษานี้มันยังไม่สามารถแปลได้สมบูรณ์ และหากต้องการเพิ่มความถูกต้องของบทสนทนา ก็ต้องพูดอยู่ในสถานที่ที่ค่อนข้างเงียบหน่อย และต้องปรับรูปแบบการพูดคุยให้ “เป็นทางการ” มากขึ้น ซึ่งเหตุผลไม่ใช่แค่เพราะว่ารูปแบของประโยคมันจะตรวจจับได้ง่ายกว่านะ แต่เพราะ Cheetah Talk มันตรวจจับสองภาษาพร้อมๆ กัน ซึ่งมีโอกาสที่การออกเสียงของคำบางคำ มันจะมีในทั้งสองภาษา เช่น เฮ้ย ในภาษาไทย ก็มีทั้ง Hey ในภาษาอังกฤษ หรือ 黑 (Hēi) ในภาษาจีน ซึ่งมันอาจจะนำไปสู่การตัดสินเลือกภาษาที่ต้องการจะแปลไปหลายคนอาจจะมองว่า Cheetah Talk มันมีข้อดีตรงที่มันเป็นอุปกรณ์แยกต่างหาก มีไมโครโฟนและลำโพงแยกออกมาชัดเจน และแม้ว่าจะต้องทำงานโดยต้องเชื่อมต่อกับแอปบนสมาร์ทโฟน แอปมันก็รันเป็นแบ็กกราวด์ ฉะนั้นเราจะยังสามารถใช้ระบบแปลภาษาได้ แม้ว่าสมาร์ทโฟนจะเปิดแอปอื่นใช้งานอยู่แต่ในทางปฏิบัติ ด้วยความที่การสนทนาผ่านอุปกรณ์แปลภาษา หรือแอปแปลภาษา มันทำได้ไม่สมบูรณ์มาก เราต้องใช้สมาธิและความสนใจมาที่การสนทนามากพอสมควร และไม่น่าจะสะดวกเปิดแอปอื่นเล่นไประหว่างสนทนาได้ร้อก และไม่ว่าจะเป็น ล่าม Cheetah Talk หรือ Google Translate ต่างก็ต้องใช้แอปทั้งคู่ แถม Google Translate ยังรองรับการแปลภาษาแบบออฟไลน์หลายภาษาอีก ฉะนั้น เมื่อต้องเลือกระหว่างจ่ายตังค์ 2,759 บาท เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการแปลภาษาได้ดีพอๆ (หรือแย่กว่านิดหน่อย) กับ Google Translate นี่ คงจะยากนิดนึงนะ