Group Blog
|
เสียงที่ไม่ได้ยิน ผมเข้าทำงานที่บริษัทแห่งนี้ตั้งแต่เรียนจบ เพื่อนร่วมงานของผมเป็นผู้หญิงครับ เธอน่าจะอายุมากกว่าผมประมาณ 3-4 ปี ในตอนแรกผมก็มองเธอเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง เป็นเพื่อน และเพื่อนร่วมกัน เธอไม่ค่อยคุยกับผมเท่าไหร่จึงไม่รู้ว่าเธอเป็นคนยังไง แต่เพื่อนร่วมงานคนละแผนกให้ข้อมูลมาว่าเธอเป็นคนร้ายมากครับ นิสัยที่เอาแต่ใจตัวเอง ไม่สนใจความคิดเห็นคนอื่น ตัดสินใจอะไรไม่แคร์ความรู้สึกของใคร เป็นคนเจ้าอารมณ์สุดๆ เวลาโกรธไม่เคยสนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมองค์ไหนทั้งนั้น มักจะทะเลาะกับเพื่อนร่วมงาน แต่หัวหน้าก็จะเข้าข้างเธอตลอดเพราะเป็นคนโปรด จนใครๆต่างก็ไม่ชอบเธอนัก ผมจึงได้แต่นั่งทำงานเงียบๆในมุมของตัวเอง สงบปากสงบคำ ไม่เคยต่อล้อต่อเถียงกับคนโปรดอย่างเธอ ห้องทำงานของเราเป็นห้องเล็กๆที่แยกให้เรานั่งทำงานร่วมกันแค่สองคน ห้องถูกติดกระจบรอบด้านสามารถมองเห็นท้องฟ้าได้สุดสายตา โต๊ะทำงานของเธออยู่ติดกับกระจก ทุกวันผมจะเห็นเธอหันไปมองและเฝ้ามองอยู่แบบนั้นเวลาก้อนเมฆลอยผ่านมาจนมันผ่านไป โต๊ะทำงานของเธอเอากระบองเพชรต้นเล็กๆมาเลี้ยง เวลามันโตและขยายตันก็แบ่งมาให้ผมกระถางเล็กๆ ตุ๊กตาหนีตัวเล็กๆนั่งดูเธอทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทุกวัน จนผมสงสัยว่าคนอย่างเธอชอบของน่ารักแบบนี้ด้วยหรือ? งานของผมมักจะถูกหัวหน้าตีกลับมาบ่อย แต่บางครั้งเธอก็ช่วยแก้ให้อย่างเรียบร้อย บางอย่างที่ผมไม่เข้าใจเธอก็มักจะแนะนำและบางครั้งก็ช่วยแก้ต่างให้กับหัวหน้า เวลาแม่บ้านมาทำความสะอาดห้องทำงานเธอก็มักจะให้ขนมแม่บ้านไปทานเสมอ บางครั้งเธอก็ทำงานล่วงเวลาอย่างหนักเมื่อมีปัญหา ทั้งที่ผมไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้เลย แต่ผมก็ไม่เคยได้ยินเธอบ่นเลยสักครั้ง เวลาเพื่อนร่วมงานต่างแผนกมีปัญหาเธอก็ช่วยปลอบใจและช่วยแก้ไขปัญหาให้ เธอไม่เคยพูดถึงใครในทางไม่ดี เหมือนที่ใครพูดถึงเธอ ผมมองเห็นแค่กำแพงที่เธอสร้างขึ้นมาเพื่อไม่ให้ใครเข้าไปอยู่ในหัวใจของเธอ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไม แต่ที่แน่ๆ เธอเก่ง และใจดีมาก คงเป็นสาเหตุที่หัวหน้าถึงได้เกรงใจเธอ ตลอดมาเราไม่เคยทะเลาะกัน เธอไม่เคยดุ ด่า หรือต่อว่าอะไรผมเลย ทุกๆ วันมีแต่เรื่องดีๆ มาเล่าให้ฟัง วันหนึ่งเธอนั่งมองก้อนเมฆอย่างสบายใจอยู่นั้น จู่ๆก็หันมายิ้มให้ผมแล้วบอกว่า "เป็นก้อนเมฆสบายดีนะ ไม่ค่อยคิดอะไร วันๆก็ได้ลอยไปไหนได้อย่างสบายใจ" เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นเธอยิ้ม ผมบอกตัวเองนับจากนั้นว่าจะต้องทำให้เธอยิ้มได้แบบนี้อีกบ้าง 3-4 ปีที่เราทำงานร่วมกัน ผมมีประสบการณ์ดีๆ พร้อมกับการเติบโต ผมถามเธอว่าไม่คิดจะหางานที่ไหนทำบ้างหรือ? แต่เธอกลับบอกว่า "เธอน่ะอายุยังน้อยอนาคตที่ดีรออยู่น่าจะหางานใหม่ทำได้แล้ว อยู่ที่นี่ไม่ก้าวหน้าหรอกนะ" ที่จริงผมก็ลองสมัครงานที่อื่นอยู่เหมือนกัน "แล้วเมื่อไหร่เธอจะบวช?" เป็นคำถามใหม่ที่เธอถามผม แต่ว่าผมยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เอาไว้ ถ้าหากว่าในเดือนเมษายนของปีนี้ จู่ๆแม่ก็มาตามผมกลับบ้านเพื่อให้ผมบวช ผมจึงกลับมาลางานก่อนและบอกเธอ เธอร้องไห้ยังไม่ทันเตรียมใจเรื่องนี้เลย แต่ก็ทำบุญพับทานให้ผมเรียบร้อยแล้ว เธอบอกว่าทำไว้มาเรื่อยๆ ไม่คิดว่าจะได้ใช้ตอนนี้ ผมกลับไปบวช 2 อาทิตย์ พอกลับมาทำงานก็พบโต๊ะทำงานข้างหน้าต่างว่างเปล่า ผมถามหัวหน้าก็บอกว่าเธอลาออกไปแล้ว........ ผมได้แต่นั่งอึ้ง มองโต๊ะที่ว่างเปล่า เสียงหัวเราะและรอยยิ้มยังลอยผ่านใบหน้าไป กระบองเพชร กับตุ๊กตาหมียังอยู่ที่เดิม ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงไม่เคยพูดเรื่องนี้เลย.... มันเงียบเหงา......เมื่อวันนี้ไม่มีเธอ โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:7:13:00 น.
เพราะทุกคนมีตัวตน มีพื้นที่ส่วนตัว
อาจเพราะเรื่องเพศ วัยวุฒิและวุฒิภาวะทำให้ต้องเก็บนิ่ง แต่มิตรภาพแท้คงมั่นตลอดกาล จริงไม๊ ? เอาใจช่วย หวังว่า สักวันเธอจะติดต่อหาคุณ ... เสียงบางเสียง อาจไม่ได้ยินด้วยหู เช่นที่คุณบอก เสียงที่ไม่ได้ยิน อาจต้องฟังด้วย " ใจ " นะ โชคดี โดย: PANPISA IP: 124.120.209.7 วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:15:06:54 น.
ชอบๆ อ่านเพลินดี
โดย: js IP: 118.175.177.247 วันที่: 27 มิถุนายน 2553 เวลา:15:32:15 น.
|
unitan
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] Link |
แต่ความทรงจำ
รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ
ของเธอยังอยู่กับคุณ
เก็บมันไว้
เก็บไว้ให้กำลังใจตัวเอง