เมษายน 2553

 
 
 
 
2
3
4
6
10
11
12
13
14
15
18
19
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
อย่ามาหลงรักผมก็แล้วกัน


นาตาลีอยากรู้จักไอริณมากกว่านี้เธอลงทุนแอบติดตามไอริณแม้กระทั่งเวลาไปเรียนที่โรงเรียนสอนภาษาเกาหลี เธอเห็นปุราณที่คอยดูแลเอาใจใส่ไอริณมากเป็นพิเศษก็สงสัย ทั้งสองยังกลับด้วยกันและไปแวะที่ร้านจิรัญญาด้วย
แต่ปุราณก็กลับก่อนไอริณอยู่ที่ร้านเพราะชาอินแวะมาหาแม่ ทั้ง 3 สาวเลยอยู่คุยกันต่อ นาตาลีเห็นท่าจะนานเลยตัดสินใจตามปุราณไป ปุราณแวะซื้อของกินที่ซุปเปอ์มาเก็ต นาตาลีตามเข้าไปเช่นกัน เหมือนชายหนุ่มจะรู้ตัวว่ามีคนตาม เขาจึงหลอกล่อให้อีกฝ่ายเวียนหัวเล่นเขาจับตัวนาตาลีได้และถามคาดคั้นว่าติดตามเขามาทำไม แต่เจ้าหล่อนก็เจ้าเล่ห์เช่นกันร้องตะโกนบอกคนว่าเธอกำลังถูกลวนลาม จนเกิดการเข้าใจผิดขึ้น ปุราณต้องหาข้อแก้ตัวกับเจ้าหน้าที่ของซุปเปอร์บอกว่าเขาเป็นพลเมืองดี แล้วนาตาลีก็แอบหนีไป เรื่องก็เลยชุนมุนกันอยู่สักพัก สุดท้ายปุราณก็หาทางหนีโดยบอกเจาหน้าที่ว่านาตาลีเป็นขโมยเธอกำลังหนีไปแล้วพอทุกคนหันไปสนใจเขาก็รีบหนีไปทันที
ปุราณหนีออกมาจากซุปเปอร์อย่างหัวเสียเขามองซ้ายแลขวาราวกับว่าจะเจอใครสักคน นาตาลีกำลังแอบเขาอยู่บนรถของเธอพอเห็นเขาออกรถไปก็ขับตาม ปุราณมาถึงอพาสเม้นท์เขารู้ว่ามีคนตามเขามาชายหนุ่มจึงแกล้งเดินช้าและหลอกล่อให้เธอหลงกล เมื่อเขาแอบเข้ามุมตึกเธอไม่ทันเห็นก็โดนเขาจับได้
“คุณเป็นใคร ตามผมมาทำไม?”
“ฉันเปล่านะ” เธอร้องอย่างตกใจเมื่อโดนอีกฝ่ายจับตัวได้
“อย่ามาโกหกนะ ผมเห็นคุณตามตั้งแต่ออกจากโรงเรียนสอนภาษาเกาหลีแล้ว”
“ฉันเปล่า”
“อย่ามาแก้ตัว ไม่งั้นล่ะก็...” ชายหนุ่มขู่เข็ญ
“อย่าๆ...ทำอะไรฉันนะ” เธอร้องอย่างหวาดกลัว
“ใครส่งคุณมา” เขาตะคอกถาม
นาตาลีส่ายหน้า
“ไม่บอกงั้นเหรอ” ชายหนุ่มลากเธอเข้าไปในห้องของเขา
“คุณจะทำอะไรฉัน........ปล่อยฉันไปเถอะนะฉันขอร้อง” เธออ้อนวอนขอร้องเขา
ปุราณทิ้งเธอลงโซฟา
“ใครส่งคุณมา”
“ไม่มี”
“บอกมา” เขาตะคอกถาม นาตาลีลนลานทำอะไรไม่ถูก
ปุราณยืนมองสาวสวยหน้าตาฝรั่งจ๋าตรงหน้า ท่าทางไม่ใช่ลูกครึ่งแน่นอน เธอเป็นใคร สายลับงั้นหรือคงไม่น่าใช่จะโดนจับง่ายดายขนาดนี้ คงไม่ใช่มืออาชีพเป็นแน่เขาจำเธอได้คือคนที่เขาเจอในงานประกวดแฟชั่นและเธอเคยไปที่ผลับกับแดเนียล
“ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันไม่ได้คิดทำอะไรคุณสักหน่อย”
“แล้วคุณตามผมทำไม”
“ฉันก็แค่อยากจะรู้” เธอตอบเสียงสั่นเคลือ
“รู้อะไร...” ปุราณตะคอกถาม
“คุณเป็นอะไรกับไอริณ”
ปุราณนิ่งมองเธอราวกับนักโทษ เขาใช้เท้าเหยียบโซฟาค่อมร่างเธอไว้
“คุณอยากรู้ไปทำไม”
“ฉัน....ฉัน แค่อยากจะรู้ว่ารู้จักกันหรือเปล่า”
ดูเป็นคำตอบที่ไม่น่าเข้าใจนัก
“แล้วทำไมล่ะ” เขาเค้นเสียงต่อ
“ฉัน....ฉัน.....”
“ทำไม!!!” เสียงเขาดังใส่หน้าเธอ
“ฉันอยากรู้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหน แต่งงานกับแดเนียลได้ยังไง เพราะเธอไม่ใช่คนเกาหลีฉันเลยสืบประวัติเธอไม่ได้” เธอโผลงออกมา
ปุราณถอยออกจากเธอแต่ก็มองด้วยสายตาที่ไม่ไว้ใจนัก นาตาลีลุกขึ้นนั่งหายใจเข้าปอดอย่างขวัญเสีย
“คุณอยากรู้เรื่องพวกนี้ไปทำไม….”
“ฉันอยากรู้เรื่องของผู้หญิงทุกคนที่อยู่ใกล้กับแดเนียล”
“คุณมีสิทธิ์อะไร เขาไม่ใช่แฟนคุณซะหน่อย”
นาตาลีทำหน้าขึงขัง
“ทำไมจะไม่ใช่ฉันนี่แหล่ะ ผู้หญิงคนแรกของเขา ฉันต้องการทวงทุกอย่างของฉันคืน” เธอพูดอย่างอาคาตแค้น
ปุราณมองดวงตาสีน้ำข้าวที่มองเขาอย่างไม่เป็นมิตรนัก
“งั้นผมคงไม่มีอะไรที่จะบอกคุณไม่ว่าเรื่องของไอริณหรือแดเนียล คุณออกไปจากห้องของผมได้แล้ว” เขาไล่เธออย่างไม่ใยดี
นาตาลีร้องเสียงหลงเมื่อโดนชายหนุ่มลากออกไปจากห้องเธอทุบประตูอยู่หน้าห้องของเขา
“ฉันรู้ว่าคุณชอบไอริณ คุณกับฉันมาร่วมมือกันดีกว่า”
“คุณ...เรามีประโยชน์ร่วมกันนะ”
ปุราณเปิดประตู นาตาลียิ้มอย่างมีความหวัง
“เชิญคุณไปร่วมมือกับคนอื่นเถอะ คนเขาจะนอนกันแล้วอย่ามาร้องโวกเวกที่นี่ไม่งั้นผมจะแจ้ง รปภ. มาจับคุณโยนออกไป ไป๊” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาจนขนลุก
นาตาลีกรี๊ดร้องเมื่อเขาปิดประตูลง แต่ก็ต้องรีบเงียบเมื่อห้องข้างๆเปิดประตูออกมาดู เธอจึงรีบวิ่งออกจากที่นั่นทันที
ปุราณนั่งลงโซฟาทบทวนเรื่องต่างๆอย่างกลุ้มใจ

แดเนียลไปรับไอริณที่บ้านของจิรัญญา เธอยังค้างคาใจเรื่องของนาตาลี ทำให้หน้าตาเธอดูเครียดจนสังเกตเห็นได้
“มีอะไรหรือเปล่า ไอริณ” เขาถาม
ไอริณหันมามองเขาด้วยสายตาที่ดูเย็นชาจนแดเนียลเองก็อดหวั่นใจไม่ได้
“ฉันยังไม่อยากกลับบ้าน”
“อารมณ์ไม่ดีเหรอ” เขาถามอีก
“ฉันอยากไปเซาด์น่า”
“อ้อ....ได้สิ” เขาเออออไปด้วยง่ายๆ
ไอริณได้แต่จ้องมองหน้าคม
เมื่อมาถึงเซาด์น่าแห่งหนึ่งทั้งสองเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยก็เข้าไปเดินเข้าไปในเซาด์น่า เซาด์น่ามีคนมาใช้บริการเยอะ บางกลุ่มก็มากลุ่มใหญ่มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ท่าทางจะมาเป็นครอบครัว บางกลุ่มก็มา 2 คน มีทั้ง ชายหญิง และมาแบบคู่รัก ไอริณเดินเมียงมองไปรอบด้าน บางกลุ่มก็นั่งคุยกัน บางกลุ่มก็นอน บางกลุ่มก็นั่งอ่านหนังสือ บางกลุ่มก็นั่งกินไข่กัน เธอเคยเห็นแต่ในทีวีเซาด์น่าของเกาหลีค่อนข้างมีชื่อเสียง เป็นสถานที่เปิดตลอดทั้งคืน ผู้คนสามารถมาอาบน้ำ เซาด์น่า นอนที่นี่กันได้ มันเป็นเรื่องที่แปลกสำหรับเธอเพราะที่เมืองไทยไม่มี
แดเนียลเดินกลับมาหาเธอพร้อมกับถาดไข่
“มาแล้วๆ เราไปหามุมเงียบๆ อยู่กันดีกว่า” เขาดึงมือเธอเดินหามุมเงียบๆ
ชายหนุ่มปูผ้าลงพื้นให้เธอนั่งลงตาม
“เดี๋ยวผมจะปลอกไข่ให้ทานนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
“เฮอะน่า...ไม่ต้องเกรงใจ” เขาปลอกไข่แล้วยื่นให้เธอ
ไอริณมองดูหน้าคมเข้มที่ตั้งอกตั้งใจเอาใจเธอ เขาจะทำเพราะความตั้งใจหรือเพราะสถานการณ์มันบังคับให้เป็นแบบนี้ เธอยอมรับว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษที่แทคแคร์ผู้หญิงเก่ง แต่ก็ไม่อาจจะรู้ได้ว่ามากน้อยแค่ไหนสำหรับคนอื่นแล้ว
แดเนียลลอบมองใบหน้าที่ครุ่นคิดอะไรเงียบๆมาตั้งแต่ออกจากบ้านจิรัญญาแล้ว ดูเธอเงียบจนผิดปกติ เพราะทุกวันเธอมักจะหาเรื่องมาราวีกับเขาจนเป็นกิจวัติ ซึ่งมันก็ทำให้เขาเองก็เคยชินจนกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตไปเสียแล้ว
“คิดอะไรอยู่เหรอ” ชายหนุ่มอดถามไม่ได้
“คุณอยากจะกลับไปหานาตาลีไหมคะ?”
แดเนียลรับฟังคำถามอย่างแปลกใจ
“ทำไมล่ะ?”
“ก็ดูพวกคุณเหมาะสมกันดีออก ตอนนี้เธอก็เลิกกับแฟนเธอแล้ว และคุณเองก็ยังชอบเธออยู่ไม่ใช่เหรอคะ?”
แดเนียลสบตากับเธอราวกับกำลังจะหาความหมายของคำถามนั้น
“คุณคิดแบบนั้นเหรอ”
“ฮืม....”
“ยัยโง่....นี่เธอจะหึงจะหวงเป็นบ้างหรือเปล่า ผมเป็นสามีคุณนะ คิดจะยกให้คนอื่นง่ายๆแบบนี้เหรอ”
“ก็....ช่างมันเถอะ” เธอเหมือนสับสนแม้กระทั่งความคิดของเธอเอง
“แล้วฉันจะหวงคุณทำไมล่ะ ก็เราไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆนิ คุณอย่าลืมข้อตกลงของเราสิ เราสองคนมีอิสระทั้งสองฝ่าย” เธอพูดหน้าตาเฉย
ทำให้แดเนียลชักจะไม่ชอบใจกับการสนทนาหัวข้อนี้
“นี่คุณจะกวนอารมณ์ผมใช่ไหม ที่ผ่านมามันไม่ได้มีความหมายอะไรกับคุณบ้างเลยหรือไง?” เขาเริ่มมีเสียง
“ทำไมคุณจะต้องจริงจังกับมันด้วยล่ะ ก็คุณเองก็ตกลงกับฉันเองไม่ใช่เหรอ คุณพูดเองนะว่าผู้หญิงอย่างฉันไม่ใช่สเป็คคุณ ฉันหน้าตาก็เฉยๆ ตัวก็แบนๆ ไม่มีส่วนเว้าส่วนโค้งยั่วยวนอะไรคุณได้” เธอขึ้นเสียงย้อนเขาบ้าง
“ก็ใช่ นั่นมันเมื่อก่อนนิ” เสียงทุ้มเข้มเริ่มอ่อนลง
ทั้งสองสบตากันราวกับอยากจะถามความจริงจากใจที่คิดกันแต่ก็เพียงแค่ความคิด หญิงสาวเป็นคนหลบตาก่อน
“ฉันไม่อยากคุยเรื่องนี้แล้ว ฉันง่วง” ไอริณตัดบทเอาดื้อๆ
เธอล้มลงจะนอนแดเนียลกางแขนออกรับร่างบางเสียก่อนทำให้ทั้งสองสบตากันอีกครั้งแต่ครั้งนี้เสียงหัวใจกำลังเต้นแรงเป็นจังหวะที่ไอริณเองก็บอกตัวเองว่าไม่ค่อยชอบบรรยากาศแบบนี้เพราะทำให้เธอสูญเสียการควบคุมตัวเองไป
“คุณจะทำอะไร?” เธอถามเขาทั้งที่ใจตัวเองก็สั่น
“คุณจะนอนไม่ใช่เหรอ ผมก็แค่....จะให้ยืมตัก” ดูเขาเองก็เขินเหมือนกันที่จะบอกเธอแบบนั้น
ไอริณจึงล้มลงนอนตักเขาตามที่เขาต้องการเธอได้ยินแต่เสียงหัวใจตัวเองที่มันเต้นแรงแดเนียลเองก็ไม่ได้ต่างกันนัก
“ไอริณ...หลับหรือยัง” เขาเรียกเธอเบาๆ
“ฮือ...”
“ลืมมันได้ไหม?”
“ลืมอะไรคะ?”
“ก็ข้อตกลงของเราไงล่ะ เราทิ้งมันไปกันเถอะ อย่ายึดติดกับมันนักเลย ทีแรกเราอาจจะไม่ได้คิดถึงอนาคตของกันเท่าไหร่ แต่พอมาถึงวันนี้ผมรู้สึกว่าผมอยากจะอยู่กับคุณตลอดไป ไม่ใช่แค่หนึ่งปี” เขาเอ่ยเนิบช้า
ชั่วนิรันดร...เสียงไอริณบอกตัวเองอย่างนั้น แต่เธอก็เผลอหลับไปเพราะเสียงทุ้มเบาๆที่พูดกล่อมเธอ
“คุณคิดเหมือนผมไหม อยู่กับผมตลอดไปเถอะนะไอริณ.....ไอริณ” ชายหนุ่มลูบแขนเธอเบาๆ แต่เธอก็นิ่งเงียบไปเสียแล้วเมื่อชะโงกหน้ามองก็เห็นแพขนตาที่ปิดอย่างสนิทเสียแล้ว ชายหนุ่มยิ้มอย่างอ่อนโยน
“เฮ้อ......ผมรักคุณไอริณ” เขาได้แต่บอกตัวเองอย่างนั้นแม้คนฟังจะหลับไปแล้วก็ตามที
ไอริณตื่นขึ้นมาเป็นเวลาดึกมากแล้วแล้วเธอก็โวยวายที่ชายหนุ่มไม่ยอมปลุกเธอ
“ก็ผมเห็นคุณหลับสนิท ท่าทางเหมือนคนอดนอนมาหลายวันอย่างงั้นเลย นี่คุณแอบทำงานตอนกลางคืนด้วยเหรอ” เขาต่อว่า
ไอริณได้แต่แอบหลบตาเขา
“เปล่าซะหน่อย” เธอตอบแล้วลุกขึ้น
พอแดเนียลลุกตามเขาก็เซล้มลงทันที
“แดเนียลคุณเป็นอะไรคะ” เธอรีบเข้ามาพยุงเขาอย่างตกใจ
“ผมเป็นเหน็บ” เขาตอบทำหน้าเหยเก
ไอริณก็ขำ เธอเลยช่วยพยุงเขาไปที่ห้องแต่งตัว ก็คงเป็นเพราะเขาให้เธอนอนหนุนตักนั่นเอง
เมื่อทั้งสองออกจากเซาด์น่าแดเนียลขับรถไปตามถนนที่เงียบไม่มีรถทั้งสองนิ่งเงียบไม่ได้พูดคุยอะไรกัน ไอริณรู้สึกเป็นสุขใจเล็กๆ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธออาศัยอยู่กับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อและน้องชาย เธอทำอะไรกับเขาตั้งหลายอย่าง ไม่ว่าจะทำงานบ้าน ทำกับข้าว ทานข้าวด้วยกันทุกวัน ไปเที่ยวด้วยกัน หรือทำสิ่งที่ชีวิตเธอไม่เคยทำ แม้จะมีเรื่องที่ต่างฝ่ายไม่เข้าใจกันบ้าง แม้มีเรื่องที่เธอกับเขาชอบทะเลาะกัน แต่นั่นก็ทำให้เธอรู้สึกชอบที่จะให้มันเกิดขึ้นแบบนี้ มันช่างไม่เหมือนการมีชีวิตอยู่เพียงลำพัง มันช่างดีกว่าการใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยว เขากำลังเข้ามามีความสำคัญกับชีวิตของเธอทีละนิดอย่างไม่รู้ตัว จนเธอคิดอยากจะอยู่กับเขาตลอดไป
แดเนียลหันมามองดวงตาโตที่จ้องมองเขาอยู่ เขารู้สึกว่ามันแอบมองเขามาตั้งนานแล้ว เธอรีบหลบตาเขา
“มีอะไรเหรอ หน้าผมดูแปลกๆ ไป หรือว่ามีหนอยื่นออกมา” เขาถามกวน
“คุณเป็นแรดหรือไง ถึงจะมีหนอ”
“ก็แล้วมองผมทำไมล่ะ”
“เปล่าซะหน่อย” เธอแก้ตัว
แดเนียลยิ้มขำคนปากแข็ง
เมื่อรถจอดหน้าบ้าน
“ทำไมแอบชอบผมอยู่หรือไงแม่หนอน” เขายื่นหน้าเข้ามาหา
“เชอะ....ฉันเนี่ยนะจะแอบชอบคุณ...คุณนี่มันพวกชอบเข้าข้างตัวเองประจำเลยนะ” เธอผลักเขาออกแล้วรีบลงจากรถ
“ก็อย่ามาหลงรักผมก็แล้วกัน” เขาทำเสียงยั่ว
“คนบ้า”
ไอริณสะบัดหน้าเดินเข้าบ้านทันที

นาตาลียังไม่ละความพยายามเรื่องที่จะแย่งแดเนียลกลับมาหาตน เธอจึงส่งคนติดตามไอริณตลอดเวลา วันๆ ชีวิตของไอริณก็มีเพียงทำงานที่ร้านเสื้อ ไปเรียน กลับบ้าน บางวันก็ไปหาจิรัญญา และทุกวันพุธกับวันเสาร์หลังเลิกเรียนเธอจะไปบ้านมิร่า บางวันแดเนียลก็ไปรับกลับด้วยกันไม่มีอะไรน่าสนใจนัก
วันสุดท้ายของการเรียนภาษาเกาหลีปุราณจัดงานเลี้ยงส่งให้กับลูกศิษย์ของเขา
“คุณจะไปไหนหรือเปล่าครับไอริณ ผมอยากให้คุณไปงานเลี้ยงกับเรานะครับ”
“ค่ะ...ฉันขอโทรบอกแดเนียลก่อนนะคะ”
ไอริณรีบกดมือถือถึงแดเนียลทันที ปุราณยืนอยู่แถวนั้นด้วย
“แดเนียลวันนี้ฉันคงกลับดึกนะคะ พอดีวันนี้เป็นวันเรียนจบหลักสูตรภาษาเกาหลีค่ะ คุณปุราณจะเลี้ยงลูกศิษย์ค่ะ”
“อะไรนะ หมอนั่นจะมอม เอ้ย เลี้ยงส่งคุณเหรอ” เขาทำเสียงตกใจ
“เราไปกันทั้งชั้นค่ะ ฉันไม่ดื่มหรอก ยังไงฉันจะไม่กลับดึกมาก โอเค๊” เธอพูดแล้วรีบวางสายไปทันที
“เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน แม่หนอน ....ฮัลโล ฮัลโล โธ่โว้ย....” เขาปิดโทรศัพย์ไปอย่างหัวเสียที่เธอตัดสายไปก่อน
“ถ้าเกิดเขามอมเหล้าจะทำไงล่ะ ไว้ใจได้ที่ไหน ใจง่ายจริงๆ รู้หรือเปล่าว่าผู้ชายเขาคิดอะไรอยู่ โธ่เอ้ย” ชายหนุ่มระเบิดอารมณ์ใส่กำแพงอย่างหัวเสีย
ฮุน โจเดินเข้ามาดู
“แดเนียลนายต้องเข้าฉากต่อไปแล้วนะ พร้อมหรือยัง” เขาเดินเข้ามาบอก
“รู้แล้วน่า” เขาตอบน้ำเสียงเหมือนทะเลาะกับใครมาแล้วเดินเข้ากล้องไป
แดเนียลไม่มีกะใจจะถ่ายหนังสักเท่าไหร่ แต่ก็พยายามให้มันเสร็จให้เร็วที่สุด แต่มันก็เหมือนจะโดนกลั่นแกล้งที่โดนแทคซะยับเยิน
ส่วนไอริณเลี้ยงฉลองกับเพื่อนๆ อย่างสนุกสนาน
“ผมดีใจมากนะครับที่ได้เจอทุกคน ได้สอนประสบการณ์ที่ดีๆแก่ทุกคน ผมก็หวังว่าสิ่งที่ผมได้ถ่ายทอดไปจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย”
ทุกคนเฮลั่นและปรบมือให้เขา
“ขอบคุณครับ.....งั้นก็ขอให้ทุกคนสนุกนะครับ” ชายหนุ่มยกแก้วโซจูให้กับทุกคน
ดื่มกันแล้วก็พากันร้องคาราโอเกะกันอย่างสนุก
ปุราณลอบมองไอริณที่ปรบมือเข้ากับเพลงที่เพื่อนๆร้องอย่างสนุก เธอไม่ได้ดื่มเลยสักแก้ว เขาจึงลุกไปนั่งลงข้างๆ
“ไม่เอาหน่อยเหรอครับ” เขาถาม
“ไม่หรอกค่ะ ฉันเป็นน้ำอัดลมก็พอ”
“กลัวแดเนียลว่าเอาเหรอครับ” เขาหยั่งเชิง
“เปล่าหรอก ดื่มทีไรฉันปวดหัวทุกที” เธอหัวเราะบาๆ
ปุราณยิ้ม
“นิดหน่อยนะครับ ถ้าหากคุณเมาเดี๋ยวผมไปส่งคุณที่บ้านเอง ผมรู้นะว่าบ้านคุณอยู่ที่ไหน”
“ฮ้าๆๆ....ไม่เอาดีกว่าค่ะ พรุ่งนี้ฉันต้องไปหาคุณแม่แต่เช้าด้วยค่ะ ถ้าฉันเมาแล้วฉันอาจจะตื่นสาย”
“อ้อ...เหรอครับ ท่าทางคุณจะเข้ากับพวกท่านได้ดีสินะครับ”
“พวกท่านรักฉันมากเลยค่ะ เพราะท่านมีแต่ลูกชายก็เลยดีใจที่มีลูกสาวเพิ่มมาอีก ทั้งพี่สะไภ้ทั้งฉันท่านดูเหมือนจะรักมากกว่าลูกตัวเองอีกค่ะ” ดูเธอมีความสุขเมื่อเอ่ยถึงครอบครัวของแดเนียล
พอดีมีเสียงโทรศัพย์ดังขึ้นมาไอริณรับสาย
“ฮัลโล...ว่าไงนะ”
“นี่คุณกลับหรือยัง” เสียงห้วนๆถาม
“ยังเลย คุณไม่ต้องห่วงหรอกฉันดูแลตัวเองได้ คุณปุราณเขาก็อยู่” เธอตอบ
แต่นั่นยิ่งทำให้เขาไม่พอใจ.....ไอ้หมอนั่นแหล่ะอันตราย
“กลับได้แล้วนะ”
“งานยังไม่เลิกเลยนะ”
“ผมบอกให้คุณกลับเดี๋ยวนี้”
“นี่คุณ...ฉันไม่ใช่เด็กๆนะ จะมาสั่งทำโน้นทำนี่ ฉันยังไม่กลับ เรายังสนุกกันอยู่เลย”
“หน่อย...คงอยากจะอยู่กับไอ้หมอนั่นล่ะสิ คงหาโอกาสแบบนี้มานานแล้ว”
“คุณพูดอะไรของคุณน่ะ” เธอถามอย่างโกรธเคือง
“เชอะ....ทำเป็นจัดงานเลี้ยงส่งที่จริงมันเป็นแผนการของพวกคุณที่จะหาโอกาสอยู่ด้วยกันใช่ไหม?” เขาเริ่มพาล
“สมองคุณคิดแต่เรื่องทุเรศจริงๆนะ ฉันไม่อยากคุยกับคุณแล้ว งานเลิกเมื่อไหร่แล้วฉันจะกลับ แค่นี้นะ” เธอตัดสายไปทันที
“ฮัลโลๆๆๆ... ยัยแม่หนอน..คอยดูนะเธอโดนฉันทำโทษแน่..” เขาปิดโทรศัพย์อย่างหัวเสีย
ปุราณเห็นไอริณวางสายอย่างหัวเสียเหมือนเธอจะทะเลาะกับใครสักคน
“แดเนียลเหรอครับ” เขาถาม
“ค่ะ”
“เขาว่าอะไรหรือเปล่าครับ” เขาถามอย่างเป็นห่วง
“เปล่าค่ะ” เธอตอบแล้วหันไปคว้าแก้วเปล่าที่วางอยู่แล้วรินโซจูใส่ยกกระดกทีเดียวหมดแก้ว
ปุราณมองอย่างเป็นห่วง
“ไอริณ...” เขาจับมือเธอห้ามเมื่อเห็นเธอจะรินอีกแก้ว เธอสะบัดแขนเป็นการบอกว่าอย่าห้าม
“ไม่เป็นไรค่ะแค่นี้เอง ฉันเคยดื่มมามากกว่านี้อีกค่ะ” เธอพูด
จากที่คิดจะห้ามเขาเลยเป็นคนรินให้เสียเอง
ดึกมากแล้วแดเนียลเพิ่งจะถ่ายทำเสร็จเขารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าพอเดินออกจากห้องแต่งตัวพบนาตาลียืนรออยู่
“จะกลับแล้วเหรอคะ” เธอถาม
แดเนียลไม่ได้สนใจเดินผ่านไป
“รู้สึกว่าตอนนี้ภรรยาคุณกำลังเมา เธอดื่มไปเยอะมากเลยนะคะ และคุณปุราณก็ดูแลเธออยู่ ท่าทางสองคนนั่นจะแคร์กันมากนะคะ” เธอจีบปากจีบคอพูด
แดเนียลหยุดฟังอยู่ครู่หนึ่งก็รีบออกไปทันที ปล่อยนาตาลีมองตามอย่างไม่ค่อยพอใจนัก
ไอริณดื่มเข้าไปมากแล้วแต่เธอก็ยังขออีกทั้งที่ปุราณพยายามจะห้าม
“พอเถอะคุณเมามากเลยนะ” เขายกขวดโซจูหนี
“ไม่ ฉานยังมายเมา..” เธอเริ่มพูดฟังไม่รู้เรื่อง แย่งขวดโซจูมาแล้วรินเอง
“ฉานจะดื่ม...ดื่ม....ดื่ม..ให้เมาปายเลย......”
ปุราณมองอย่างเป็นห่วง
“ฮือ....คุณรู้ไหม....ถึงฉันเมาเขาก็ไม่สนใจหรอก...เขาเคยมีแฟนเก่าที่รักมากจนไม่คิดจะรักคายอีก” เธอพูดเพ้อเจ้อออกมา
“และระหว่างเขากับฉาน...มันก็เป็นเพียงการตกลงกันเฉยๆ เราไม่ได้รักกันเลย”
ปุราณตั้งใจฟังในสิ่งที่เธอเอ่ย
“ฮือ...” เธอเริ่มร้องไห้
“ฉาน....สู้แฟนเก่าเขาไม่ได้เลยย เขาดูดี เหมาะสมกับเขามากก......”
“ฉานนมันแค่ลูกเป็ด” เธอคร่ำครวญฟุบลงกับโต๊ะ
ปุราณทบทวนสิ่งที่เธอพูดซ้ำไปซ้ำมา
แดเนียลพยายามโทรหาไอริณแต่เธอก็ไม่รับสักที เพราะตอนนี้เธอเมามากจนตาลายมองไปทางไหนก็เป็นดาวลอยเต็มหน้า เสียงโทรศัพย์ดังอยู่นานจนปุราณได้ยินจึงรับให้
“ฮัลโล นี่โทรศัพย์ไอริณครับ ตอนนี้เธอเมามากเลยรับไม่ได้”
“ฮ้า....เมามากงั้นเหรอ ตอนนี้อยู่ที่ไหน ทำไมให้เธอดื่มขนาดนั้น” เสียงทุ้มๆ ห้วนๆ ตอบกลับ
“ผมห้ามเธอแล้วแต่เธอก็ไม่ยอม”
“รออยู่ตรงนั้นแหล่ะแล้วผมจะรีบไป”
แดเนียลรีบขับรถออกไปทันที นาตาลีตามออกมาเธอตัดสินใจตามไปอีกคน
แดเนียลมาถึงหน้าผลับซึ่งเห็นไอริณยืนอยู่กับปุราณและคนอื่นๆกำลังแยกย้ายกันไป หน้าเธอแดงกล่ำเพราะเมามากยืนแทบจะไม่อยู่ แดเนียลเข้าไปหา
“เฮอะ....มาทำมายอ่ะ”
“ทำไมต้องดื่มขนาดนี้ด้วย”
“เรื่องของฉาน” เธอก้าวออกเดินก็เซถลาแดเนียลรีบรับเอาไว้ ปุราณเองก็จะเข้ามาช่วย
“เดี๋ยวผมจะดูแลเธอเอง” แดเนียลอุ้มเธอขึ้น
“คุณแน่ใจเหรอว่าจะสามารถดูแลเธอได้ดีน่ะ”
แดเนียลไม่เข้าใจคำถามนั้นนัก
“ทางที่ดีคุณน่าจะรู้ดีนะว่าควรจะทำยังไง”
“ผมรู้ดีอยู่แล้วเรื่องนั้น”
“ก็แล้วทำไมไม่ทำเสียล่ะ จะปล่อยให้เธอทุกข์ใจไปถึงเมื่อไหร่ ผมบอกคุณแล้วนะถ้าทำให้เธอเสียใจเมื่อไหร่ ผมจะแย่งเธอมาจากคุณ” เขาพูดแล้วเดินจากไป
แดเนียลได้แต่ทำหน้าครุ่นคิดไม่เข้าใจ
พอมองหน้าคนเมาไร้สติที่อุ้มอยู่กับอกก็อดบ่นให้ไม่ได้
“ยัยแม่หนอน ทำเป็นเก่งนะ”
นาตาลีที่แอบดูทั้งสองอยู่เห็นสองหนุ่มส่งสายตาห่ำหั่นกันอย่างมีเชิงก็สงสัยว่าเขาจะคุยอะไรกัน เมื่อปุราณเดินไปขึ้นรถเธอจึงออกรถตาม
เมื่อมาถึงบ้านแดเนียลอุ้มเธอไปส่งที่ห้อง แต่เธอก็ยังไม่รู้สึกตัว เขาจึงถอดถุงเท้าถอดเสื้อให้และหาน้ำอุ่นมาเช็ดหน้าชายหนุ่มนั่งมองใบหน้ารูปไข่ที่นอนหมดสติไป
“ไอริณ.... ผมหวงคุณ ผมไม่อยากให้ใครเข้าใกล้คุณไปมากกว่านี้ ผมอยากให้คุณแคร์ผมคนเดียวเท่านั้น” เขาพรึมพรำกับคนเมาเบาๆ

นาตาลีตามปุราณจนไปถึงอพาสเม้นส์เขาเหมือนเดิม ชายหนุ่มหันมามองเธอขณะที่เขากำลังไขกุญแจเข้าห้อง
“คุณตามผมมาทำไม”
“ฉันก็แค่อยากจะตามมาดู ว่าคุณเป็นยังไงบ้าง”
“มันก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คุณคิดหรอกนะ” เขาพูดแล้วเข้าห้องไป
นาตาลีรีบวิ่งตามมา เขาเปิดประตูออกมา
“คุณจะอยากเข้าห้องผมหรือเปล่า”
นาตาลียืนมองโต๊ะที่มีกรอบรูปของเจ้าของห้องตั้งเรียงรายอยู่ มีโคมไฟเก๋ๆวางอยู่ข้างๆ ห้องสีโทนเนื้ออ่อนตกแต่งง่ายๆด้วยเฟอร์นอเจอร์เพียงไม่กี่ชิ้นแต่มันก็ดูดีไม่น้อย
“คุณอยู่คนเดียวเหรอคะ” เธอถามเมื่ออีกฝ่ายยกน้ำชามาให้
“ครับ แล้วจะให้ผมอยู่กับใคร” เขาย้อน
“ห้องคุณดูโล่งๆ ยังไงไม่รู้” เธอติ
“ผมชอบห้องที่มันโล่งๆ มีของที่จำเป็นเพียงไม่กี่ชิน มันดูไม่อึดอันดี”
นาตาลีจิบชาพลางคิดว่าผู้ชายคนนี้แปลกจริง
“สุดท้ายคุณก็เสียเธอไปให้แดเนียล”
“ก็ไม่ต่างอะไรกับคุณหรอกนะ”
“ดูท่าทางแล้ว เราจะแยกสองคนนั้นออกเป็นการยาก”
“เรางั้นเหรอ.....คุณพูดผิดแล้วล่ะ นั่นมันคุณคนเดียวนะ สำหรับผมแล้วล่ะก็ ผมจะรอให้ไอริณเธอเดินมาหาผมเอง”
นาตาลีหัวเราะขัน
“คุณนี่ ตลกจังนะ....ดูท่าแม่นั่นคงไม่คิดจะทิ้งเทพบุตรมาหายาจกอย่างคุณหรอก” คำพูดของเธอเย้ยหยันอยู่ในที
“คุณก็คอยดูไปแล้วกัน ห่วงตัวคุณเองเถอะ จะทำยังไงให้แดเนียลกลับมาหาคุณได้”
หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นอย่างทนง
“ฉันจะทำทุกวิถีทางที่จะทำให้แดเนียลเขากลับมา แม่นั่นจะได้ลิ้มรสชาติความเสียใจ”
ปุราณตาลุกวาวกระโดดเข้าไปหาเธอ
“คุณจะทำอะไรไอริณ” เขาถามหน้าเหี้ยม
“เชอะ....เป็นห่วงกันซะจริงนะ….ฉันก็จะทำให้หล่อนได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดน่ะสิ” เธอเค้นเสียงตอบ
“คุณอย่าทำอะไรเธอนะ ไม่งั้นผมไม่ปล่อยคุณแน่” เขาจับบ่าทั้งสองเขย่าอย่างบ้าคลั่ง
นาตาลีร้องเสียงหลง
“โอ๊ย.....ฉันเจ็บนะ คุณมันคนบ้า.....”
เขาทิ้งเธอลงบนโซฟา
“ผมขอเตือนคุณเอาไว้ ว่าอย่าคิดทำอะไรไอริณเป็นอันขาดไม่งั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือน” เขาจับคางเธอบีบอย่างแรง นาตาลีดิ้นรนจากการจับกุมได้
“คุณ..ช่างโง่เง่าอะไรอย่างนี้ ฉันไม่เคยเห็นใครบ้าเหมือนคุณเลย ไปรักเมียของชาวบ้านยังไม่พอ ยังจะปกป้องเธอไม่ให้คนอื่นทำร้ายอีก แล้วแบบนี้ชาติไหนถึงจะได้เธอมาสักทีละ” เธอต่อว่าเขาอย่างหัวเสีย
ปุราณโกรธจนลืมตัวเขาคว้าเธอเข้ามาจูบอย่างร้อนแรงเป็นเหตุให้นาตาลีถึงกับอึ้งและเงียบงันกับความเร่าร้อนนั้นทั้งสองเกือบจะจมดิ่งลงทะเลอันบ้าคลั่งนั่น ปุราณผลักเธอออกแล้วไล่เธอออกไปจากห้องอย่างไม่ใยดี ปล่อยให้เธอยืนนิ่งอยู่หน้าห้องอย่างไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น

รุ่งเช้าไอริณตื่นมาด้วยสภาพที่ดูไม่ได้นักเธอรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าลงมาข้างล่างเห็นแดเนียลเตรียมกับข้าวเรียบร้อยแล้ว เขาเรียกเธอมาทานข้าวด้วยกัน
ทั้งสองต่างพากันเงียบอย่างมีเชิง
“วันนี้นัดคุณแม่ไว้ไม่ใช่เหรอ”
“ฮืม...แล้วคุณไม่มีงานเหรอ” เธอถาม
“ไม่มี....ถ้าพาคุณไปช้าอีกเดี๋ยวคุณแม่จะโกรธผมเหมือนคราวก่อนอีก” เขาอ้างถึงคราวก่อนที่ทั้งสองทะเลาะกันเพราะแดเนียลผิดนัด
“ไม่หรอกฉันไปเองได้”
“วันหยุดแบบนี้ก็ไปด้วยกันสิถึงจะถูก และอีกอย่างคุณแม่บอกเอาไว้แล้วว่าให้ไปด้วยกันท่านจะพาไปเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กกำพร้า” ชายหนุ่มตัดบท
ทั้งสองจึงไปที่บ้านมิร่าด้วยกัน วันนี้มิร่าจะพาครอบครัวไปเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กกำพร้า เด็กๆต่างก็ดีใจที่พวกเธอมาและต่างก็ตื่นเต้นที่ได้พบแดเนียล รวมทั้งครูสาวๆ เองก็ดูชื่นชมในตัวเขาไม่ร้อน ต่างพากันแย่งกันถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับแดเนียลพร้อมทั้งขอรายเซ็นต์จากเขาอีกด้วย เขาก็เต็มใจทำให้ทุกคนเพราะอยากให้ทุกคนมีความสุข ตบท้ายอาหารกลางวันของเด็กๆ แดเนียลได้เล่นกีต้าร์และร้องเพลงให้ทุกคนฟัง ทุกคนต่างก็ร้องเพลงอย่างสนุกสนาน ไอริณแอบชื่นชมความมีน้ำใจของเขาหลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจของวันนี้ดูคุณนายมิร่าจะมีความสุขมากที่บรรดาลูกชายและลูกสะไภ้มาพร้อมหน้ากัน เธอจึงชวนทุกคนไปนั่งดื่มชา
“ที่ร้านเป็นไงบ้างจ๊ะไอริณ ได้ข่าวว่าขายดิบขายดีกว่าเดิมมากเลยใช่ไหมตั้งแต่ได้รางวัลมา”
“ค่ะคุณแม่ นอกจากนั้นยังมีน้องสาวคนไทยที่เขาได้รางวัลที่ 3 มาช่วยงานที่ร้านด้วยค่ะ เธอเก่งมากนะคะ ออกแบบเสื้อผ้าแบบใหม่ๆเป็นที่นิยมเยอะเลยค่ะ”
“ก็ดีแล้วล่ะ เธอจะได้ไม่เหนื่อยมาก ร้านก็ไม่ต้องดูบ่อยหรอก ว่างๆค่อยไป เธอต้องคอยดูแลแดเนียลจะดีกว่า” แม่สั่งเธอทันที
“ค่ะ” หญิงสาวรับคำ
“แดเนียลเองก็ลดงานที่รับมาด้วย พวกเธอควรให้เวลาอยยู่ด้วยกันมากๆหน่อย แต่งงานมากันครึ่งปีแล้วยังไม่มีหลานให้แม่เลย แบบนี้ใช้ไม่ได้นะ”
“เออ...ครับคุณแม่ พอดีช่วงนี้งานเข้ามาเยอะครับทั้งงานถ่ายแบบและงานละครที่ออนแอร์อีก”
“แม่ก็มีแต่จะแก่ลงทุกวันๆ จะให้รอไปถึงไหนกันน่ะ” นางแสร้งทำหน้าเศร้าพูดเสียงสั่นเคลือ
“คุณแม่อย่าห่วงไปเลยค่ะ เราทั้งสองคนจะพยายามทำงานให้น้อยลงและหาเวลาอยู่ด้วยกันให้มากค่ะ ถ้าเป็นไปได้หนูก็จะดูแลแดเนียลให้ดี จะไปทุกทีที่เขาไปเลยค่ะ” ไอริณรีบปลอบ
ซึ่งก็ทำให้แม่สามีพอใจรวมทั้งแดเนียลด้วย
เมื่อทั้งสองเดินทางกลับจากบ้านมิร่า แดเนียลเลยพาเธอนั่งรถเที่ยวเขาขับรถไปเรื่อยจนถึงทะเล ชายหนุ่มจอดรถเอาไว้ข้างร้านขายอาหารแห่งหนึ่งเขาชวนเธอเช่าเก้าอี้ผ้าใบแล้วนอนเล่นที่นั่น
แดเนียลคิดถึงคำพูดที่ปุราณพูดกับเขาเมื่อคืนนี้
“ไอริณ.....เมื่อคืนคุณเมามากเลยรู้หรือเปล่า เมาไม่รู้เรื่องเลย ต่อไปอย่าทานเหล้าเยอะขนาดนี้อีกนะ” ชายหนุ่มหันมาบอกเธอ
“ฮืม......ฉันอายุจะ 28 ปีแล้วนะ ทำไมต้องมาห้ามฉันด้วย” เธอบ่นกระปอดกะแปด
“และอีกอย่างผมไม่ชอบเวลาที่คุณอยู่กับไอ้หมอนั่น คุณก็รู้”
“เขาเป็นเพื่อนฉันนะ ทำไมคุณต้องห้ามด้วยล่ะ ทีคุณยังอยู่กับนาตาลีเลย ฉันยังไม่เคยว่าสักคำ”
“มันไม่เหมือนกันนะ กับนาตาลีเราอยู่ด้วยกันเพราะงาน”
“มันก็ไม่ต่างกันหรอกนะ คุณปุราณเป็นคนไทยเราก็ต้องมีสมาคมกันบ้าง” เธอไม่ยอมลดราวาศอกให้ จนแดเนียลได้แต่ขบเขี้ยวใส่
“ก็เอาเป็นว่าอยู่ให้ห่างไอ้หมอนั่นหน่อยละกัน”
“เชอะ....ฉันจะพยายาม” เธอกระแทกเสียงตอบ
“แล้วไปเรียนเป็นไงบ้าง จบคร์อสแล้วพูดอะไรได้บ้าง ผมไม่เห็นคุณจะพูดภาษาเกาหลีเลยสักคำวันๆก็ยังพูดแต่ภาษาอังกฤษ บางทีก็ยังพูดภาษาไทยอยู่คนเดียว”
“เฮอะ....ทีคุณยังไม่สนใจจะเรียนภาษาไทยเลยนะ”
“นี่แม่.......หนอนคุณมาอยู่ที่นี่คนส่วนใหญ่เป็นยังไงคุณก็ต้องเป็นแบบนั้นสิ”
“เข้าเมืองตาหลิวต้องหลิวตาตามงั้นสิ” เธอพูดสำนวนภาษาไทย
“หมายความว่าไง” ชายหนุ่ม
“ก็หมายความว่า เมื่อเราเข้าไปอยู่ที่ไหนก็ต้องทำตามคนหมู่มากที่เขาทำกันน่ะสิ จะได้ไม่เดือดร้อน”
“อ้อ...ใช่ๆๆ ก็เก่งเหมือนกันนิแม่หนอน”
“ฉันรักคุณ” เธอพูดภาษาไทย
“อะไรนะ” เขาถามอย่างงง
“ไม่รู้” เธอตอบกวนๆ แล้วก็ทำหน้าไม่สนใจอีก
“ซารางเซย์” เธอหันไปพูดกับเขา
ชายหนุ่มยิ้ม
“พูดใหม่ทีซิ”
“ไม่พูดหรอก มันหมายความว่าไงเหรอ” เธอทำหน้าเฉย ทั้งที่รู้ความหมายของคำนี้ดี
“คุณชอบเป็นนักทำลายบรรยากาศจริงๆเลยนะ” เขาต่อว่า
แต่ต่างคนก็ต่างอมยิ้มแล้วเขาก็แกล้งแหย่เธอเล่นทั้งสองวิ่งไล่กันบนชายหาดอย่างสนุก
แดเนียลหาบังกะโรพักที่นั่น 1 คืน ตอนเย็นทั้งสองไปเล่นบานาน่าโบ๊ทอย่างสนุกไอริณดูตื่นเต้นเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้เล่นมัน เรือลากโต้คลื่นอย่างแรงแล้วเลี้ยวตัวกลับส่งผลให้บานาน่าโบ๊ทปะทะคลื่นอย่างแรงจนพลิกคว่ำ เมื่อตกลงน้ำแดเนียลต้องคอยลากเธอเข้าฝั่ง จับเธอนอนแผ่ที่หาดทราย
“ไอริณ...ไอริณ เป็นไงบ้าง” แดเนียลตบแก้มเธอเบาๆ
ไอริณสำลักน้ำออกจากปาก
“เป็นไง”
หญิงสาวทำท่าจะร้องไห้
“ฉันนึกว่าฉันจะตายไปแล้วซะอีก”
“ไม่มีใครเขาตกบานาน่าโบ๊ทแล้วตายกันหรอก” เขาแย้ง
“ก็ฉันไม่เคยเล่นแบบนี้นี่นา” เธอบอก
“ไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม”
“ฮืม...” เธอพยักหน้ารับคำ
แดเนียลเลยช่วยพยุงเธอกลับที่พักดูท่าทางเธอจะหมดแรงจนเขาต้องแบกเธอขึ้นหลังแทน บังกะโรที่แดนเนียลพาเธอพักเป็นบังกะโรที่ดูพื้นบ้าน ห้องนอนเล็กๆ มีห้องน้ำ 1 ห้อง ไม่มีอะไรมากนัก และที่นอนก็ยังเป็นที่นอนแบบนอนพื้นด้วย ชายหนุ่มปูที่นอนให้ไอริณ ทั้งสองต้องนอนด้วยกันอีกครั้ง ไอริณพยายามข่มใจไม่ให้หวั่นไหว
“นอนให้สบายนะไอริณ” เขาบอก
“ผมก็จะนอนตรงนี้เหมือนกัน คุณวางใจได้ ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก”
ไอริณพยักหน้าแล้วรีบล้มตัวลงนอนหันหลังให้เขา
แดเนียลดับไฟนอนตาม ผ่านไปนับชั่วโมงไอริณยังนอนฟังเสียงหัวใจตัวเองเต้น เสียงลมหายใจของแดเนียลหนักลึกแสดงว่าเขาหลับไปแล้ว ไอริณหันมามองเขาในความมืดแม้จะมองไม่เห็นหน้า แต่ก็เห็นโครงร่างใหญ่ที่นอนอยู่ตรงนั้น แล้วเธอก็รีบพลิกร่างหนีเมื่อร่างใหญ่นั้นพลิกมาหาเธอแต่ก็ไม่พ้นวงแขนใหญ่ที่กอดกายเธอเอาไว้เสียแล้ว เธอฟังเสียงหัวใจเต้นอีกครั้ง ดูเหมือนครั้งนี้มันดังแรงกว่าคราวก่อนอีกกว่าจะหลับได้ก็ดึกมากแล้ว
แดเนียลตื่นมาในตอนเช้าเขารู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆอุ่นๆทับอยู่บนตัวเขา เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบร่างของไอริณที่กอดเขาแน่นจนแทบแกะไม่ออก ชายหนุ่มได้แต่นึกขำ เมื่อไอริณลืมตาตื่นเธอก็รีบผละออกจากเขาทันที
“ฉันไม่ได้ทำอะไรคุณนะ” เธอรีบปฏิเสธ
“ไม่ได้ทำยังไง ก็เห็นอยู่ว่ากำลังกอดผมซะแน่น เมื่อคืนคุณแอบทำอะไรผมหรือเปล่า” เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้จนแทบจะชิดหน้าเธอ
ไอริณเบิกตาโตรีบผลักออกทันที
“อีตาบ้า”
เขารีบชี้ที่แก้มเขาทันที
“นี่ๆๆๆ” เขาเน้นย้ำ
ไอริณจำต้องยื่นจมูกเข้ามาใกล้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้หอมแก้มชายหนุ่ม แม่บ้านเจ้าของบังกะโรก็มาเคาะห้องเพื่อเอาอาหารเช้ามาให้เสียก่อน ไอริณจึงรีบไปเปิดประตูเพื่อรับของ พร้อมกับกล่าวคำขอบคุณ แดเนียลได้แต่เสียดายโอกาสดีๆนี้ไป
ทั้งสองกลับมาบ้านในตอนสาย ไอริณอยู่ทำความสะอาดบ้านส่วนแดเนียลเข้าบริษัทเพื่อดูงาน
“ผมไปก่อนนะ แล้วจะรีบกลับ” เขาบอกเธอก่อนไป
ไอริณได้แต่เพียงพยักหน้า
ตอนสายไอริณแวะไปดูงานที่ร้าน ศุภาดามาช่วยงานที่ร้านเต็มที่แล้วเพราะตอนนี้เธอเรียนจบเรียบร้อยแล้ว
“นั่นแน่...หน้าตาเบิกบานแบบนี้แสดงว่าต้องมีอะไรแน่ๆเลย”
“อะไรล่ะจ๊ะ”
“ไปเที่ยวไหนมาคะ บอกมานะพี่แดเนียลก็หายไปด้วยแสดงว่าไปเที่ยวไหนกันมาแน่เลย” เธอถามอย่างอยากรู้
“อย่ามาสู่รู้หน่อยเลยนะ เรื่องของผู้ใหญ่” ไอริณดุแต่ก็ไม่ได้จริงจังนัก
“พี่แดเนียลทั้งหล่อ ทั้งเท่ห์ ใครๆเขาก็อยากเดินควงทั้งนั้นล่ะ ดา อิจฉาพี่อุณจะตาย”
“เฮอะ...เด็กหนอเด็ก นี่เราเอาเวลาไปสนใจการพัฒนาฝีมือจะดีกว่านะ เรื่องผู้ชายอย่าไปสนใจมันมาก พอถึงเวลาคนดีๆก็จะเข้ามาหาเราเองแหล่ะ”
“จริงเหรอคะ” ดาเอียงคอถาม
“จริงสิ เพราะชีวิตพี่ก็เป็นแบบนั้นแหล่ะ” สายตาที่เป็นประกายวับๆของคนพูด มันฟังดูน่าเชื่อถือไม่น้อย
นาตาลีโทรมาหาเธอเพื่อนัดคุยเรื่องที่จะชัดแฟชั่นให้กับห้องเสื้อของเธอ ไอริณจึงเชิญเธอทานข้าว
“คุณไอริณคะ อาทิตย์หน้านี้คุณพอจะเตรียมตัวทันไหมคะ” เธอบอก
“ค่ะ เพราะเสื้อผ้าที่ร้านออกใหม่ทุกๆ อาทิตย์อยู่แล้ว”
“คุณมีแชมเปญของงานนี้ยังไงบ้างคะ”
“ส่วนใหญ่แล้วเทรนของเสื้อผ้าจะเน้นไปที่กลุ่มวัยคนทำงานนะคะ ทั้งเสื้อผ้าของชายและหญิง ที่สามารถใส่ทำงานได้ และเลือกที่จะจับโน้นจับนี่มาแม็ตกันใหม่ได้ เพื่อให้มีสีสันมากขึ้น จะได้ไม่เบื่อ ส่วนชุดลำลองและชุดราตรีก็มีบ้าง เราจะเน้นลูกเล่นแบบใหม่ๆมาใส่ เพื่อให้ชุดดูเก๋ไก๋ แล้วแต่คนจะชอบ จะสั่งตัดพิเศษก็ได้ ให้เลือกกันได้เองตามใจลูกค้า โดยส่วนมากแล้วคนเราออกงานกันไม่ใช่ทุกวัน แต่เราทำงานที่ออฟฟิตทุกวัน เราเลยเน้นชุดทำงานมากกว่า” เธออธิบาย
ซึ่งนาตาลีเองก็ยอมรับ
“ฮืม...ไม่เลวเลยนิ” เธอชม
“ฉันเห็นเสื้อที่ร้านคุณมีลายแปลกๆมากมายด้วย”
“นั่นเป็นผ้าที่ฉันรับมาจากเมืองไทยค่ะ เป็นลายพื้นเมืองของไทย และมีผ้าไหมด้วย”
“ผ้าไหม? เป็นยังไงคะ”
“เป็นผ้าที่ทอจากเส้นใยของตัวไหมที่ชักใยออกมาค่ะ เนื้อผ้าจะค่อนข้างนิ่มและเงางามมาก เมืองไทยเท่านั้นที่มีผ้าไหม”
นาตาลีได้แต่ทึ่งกับสิ่งที่รู้
“ฉันก็พอรู้จักบ้างแต่ก็ยังไม่เคยได้ใส่เสื้อผ้าแบบนั้น”
“ตกลงอาทิตย์หน้าฉันจะจัดโชว์ให้คุณที่ห้างนี้ก็แล้วกันนะคะ ส่วนนางแบบกับนายแบบ เดี๋ยวฉันจะติดต่อบริษัท ซีไอ”
“ค่ะ”
“ได้ข่าวว่าคุณไปเที่ยวกับแดเนียลมาเหรอคะ”
“ค่ะ”
“เขามักจะเป็นแบบนี้ล่ะค่ะ เวลาเหนื่อยมากๆ เขาก็จะปลีกตัวออกจากกลุ่มเพื่อนๆ เพื่ออยู่คนเดียว น่าเสียดายนะคะ เมื่อก่อนฉันเคยอยู่กับเขาตลอดเวลา เขาชอบให้ฉันทำโน้นทำนี่ให้เสมอ” เจ้าหล่อนจีบปากจีบคอพูด
“ก็ดีนิคะ เพราะตอนนี้เขาต้องคอยทำอะไรให้ฉันแทน คงจะรู้สึกผิดสินะ ที่ให้คนอื่นคอยตามใจมานาน” ไอริณพูดหน้าตาเฉย
นาตาลีได้แต่ไม่พอใจ ดูไอริณเป็นคนเฉยก็จริง แต่วาจาเธอร้ายไม่เบา
“เขายังชอบช่วยงานฉันบ่อยๆเลยนะคะ ฉันจัดงานโชว์ที่ไหนเขาจะต้องเข้ามาร่วมด้วยทุกครั้งเลยค่ะ”
“ค่ะ”
“บางทีเขาเองก็ดูห่วงใยฉันไม่ต้องการให้ฉันเดินทางไปไหนบ่อยๆ เขาคงจะกลัวฉันจะเหนื่อยได้” เธอเริ่มแต่งเรื่องหลอกลวงไอริณ เพราะเธอดูจากละครมาส่วนใหญ่แล้วพวกนางร้ายจะชอบสร้างเรื่องมาหลอกนางเอกให้เข้าใจผิดและคอยยุยงให้ พระเอกกับนางเอกทะเลาะกัน
ไอริณได้แต่พยักหน้ารับรู้
“เขายังถามฉันเลยนะคะ ว่าฉันคิดจะแต่งงานใหม่หรือเปล่า เขาพูดเหมือนจะให้รอเขายังไงยังงั้นเลยค่ะ” เธอหัวเราะร่วนอย่างชอบใจ และแอบมองหน้ารูปไข่ที่ยังคงนิ่งเฉย
“ที่ฉันเล่าให้คุณฟังแบบนี้ ก็ไม่อยากให้เข้าใจเขาผิดหรอกนะคะ เขาอาจจะมีความรู้สึกดีๆกับฉันก็ตาม แต่พวกคุณก็แต่งงานกันแล้ว” เธอแสร้งทำหน้าจริงใจ
“แดเนียลเขาคงรักคุณดีใช่ไหมคะ”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ เขาจะไม่มีทางพูดเรื่องหย่ากับฉันหรอกค่ะ ที่เขาพูดกับคุณแบบนั้น เขาอาจจะเป็นห่วงแฟนเก่าก็จริง แต่สำหรับฉันแล้วฉันคือคนที่เขาแต่งงานด้วย” คำตอบของไอริณสร้างความเดือดดาษให้กับสาวฝรั่งผมทองได้มากทีเดียว
ไอริณขอตัวกลับไปทำงานที่ร้าน แม้ข้างนอกของเธอนิ่งเฉยก็จริง แต่ข้างในของเธอกำลังพลุกพล่านด้วยอารมณ์ร้อนแรงราวกับภูเขาไฟที่กำลังรอเวลาปะทุขึ้นมา
วันจัดงานแฟชั่นโชว์มาถึง แดเนียลร่วมเป็นนายแบบให้กับงานด้วยทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ไอริณขึ้นไปบนเวทีร่วมกับเหล่านางแบบและนายแบบเพื่อเปิดตัวห้องเสื้อของเธอ ซึ่งก็เป็นที่สนใจของผู้คนไม่น้อย
หลังจากเสร็จงานเดินแบบ นาตาลีเจ้ากี้เจ้าการชวนทุกคนไปเลี้ยงฉลอง แดเนียลได้ออกตัวว่าเขาจะเป็นเจ้าภาพเอง นาตาลีคอยส่งสายตาหยาดเยิ้มให้เขาเช่นเคย เมื่อทุกคนมาพร้อมกันที่ผลับแห่งหนึ่งอาหารที่เครื่องดื่มที่จัดมา เพลงมันส์ชักชวนให้หลายคนออกไปเต้นรำ แดเนียลนึกสนุกจึงดึงไอริณออกไปเต้นรำด้วยซึ่งก็ทำให้นาตาลีมองอย่างริษยา
“วันนี้ดูคุณอารมณ์ไม่ค่อยดีเลยนะไอริณ”
“ก็เปล่านิ ฉันก็เหมือนทุกวัน” ใบหน้าตึงตอบห้วนๆ
“ทุกวันคุณร่าเริงมากกว่านี้นะ วันนี้ผมยังไม่เห็นคุณยิ้มเลย”
“ฉันก็ยิ้มบนเวทีไปแล้วไง” เธอแย้ง
“ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย”
แล้วแดเนียลก็เริ่มจังหวะอันเร่าร้อนของแทงโก้ ไอริณเต้นไม่เป็นแต่ก็ต้องปล่อยไปตามน้ำให้ชายหนุ่มเป็นคนนำ ทุกคนต่างหันมาสนใจทั้งคู่และปรบมือตามจังหวะ
ชายหนุ่มเหวี่ยงร่างเล็กแนบในวงแขนแล้วเขาก็โน้มตัวลง
“คุณจะทำอะไรของคุณน่ะ” เธอรีบทักท้วง
แต่ก็ช้าไปแล้วเมื่อริมฝีปากอันอ่อนอุ่นบรรจบลงอย่างนุ่มนวล ความอ่อนหวานละมุนละไมแผ่ไปทั่วร่างบอบบางที่อยู่ในวงแขนกว้างนั้น
เสียงปรบมือของผู้คนดังกระหึ่ม พร้อมกับเสียงกรี๊ดอย่างชอบใจ แดเนียลปล่อยหญิงสาวเป็นอิสระหลังจากที่ตัวเองได้ลงโทษได้สมใจแล้ว เขาคำนับให้กับเสียงปรบมือของทุกคน ไอริณยิ้มขอบคุณก่อนจะเดินออกจากฟลอร์เต้นรำ
“คุณทำแบบนี้ทำไม ต่อหน้าคนตั้งเยอะน่าขายหน้าจริงๆ”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย คู่รักเขาก็ทำกันแบบนี้” เขาทำหน้าตาเฉย
ไอริณแอบแยกเคี้ยวใส่
นาตาลีทนนั่งดูทั้งสองสวีตกันไม่ไหวเธอลุกเดินมาหาแดเนียลยื่นแก้วเครื่องดื่มให้ แดเนียลรับมาดื่มอย่างเสียไม่ได้
“พวกคุณดูดีจังนะคะ”
“ครับ.....เราก็เป็นแบบนี้ไม่ว่าที่ไหน” ชายหนุ่มตอบ
สายตาน้ำข้าวที่จับจ้องไอริณอย่างประหัดประหาร
“คุณจำเพลงนี้ได้ไหมคะ เราเคยเต้นรำกัน”
ชายหนุ่มไม่ได้ตอบเขามองใบหน้ารูปไข่ตรงหน้า
“เต้นรำกับฉันนะคะ เพลงนี้มันคือความหลังของเรา” เธอยั่วยวนเขาออกไปจนได้แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้เต็มใจนัก
นาตาลีพยายามที่จะแสดงให้ไอริณเห็นว่าตัวเธอนั้นเหนือกว่าไอริณทุกอย่าง ทั้งหน้าตา สังคม และการเข้ากันได้กับแดเนียลเพราะอย่างน้อยนาตาลีคือคนที่แดเนียลเคยรักมาก ใบหน้าของนาตาลีซบกับอกแดเนียลอย่างอ่อนไหวกับบทเพลงรักที่หวานซึ้ง นิ้วเรียวรูปโครงหน้าคมสันที่เคยเป็นของเธออย่างถนอม สายตาที่จับจ้องมันอ่อนหวานและลึกซึ้งเกินที่จะประเมินได้ แดเนียลโอบร่างระหงส์ที่แนบกับอกของเขาและโยกเบาๆเข้ากับจังหวะเพลงรักหวานๆ แต่ดวงตานาตาลีที่มองไอริณอย่างริษยานั้นกำลังจะบอกว่าเธอจะต้องชนะไอริณให้ได้
“แดเนียลคะ คุณจำได้ไหมคุณเป็นคนสอนฉันเต้นรำเพลงนี้”
“ฮืม.....”
“ฉันยังจำได้เลยนะคะว่าฉันเหยียบเท้าคุณตั้งหลายครั้ง แล้วฉันก็เต้นรำเก่งเพราะคุณ”
“ฮืม...”
“เราเต้นรำเข้าขากันมากที่สุด และเป็นคู่เต้นรำที่ใครๆก็อิจฉาจริงไหมคะ”
“ฮืม...” เขาตอบเธอเพียงเท่านี้
แต่สายตาเขากำลังมองไอริณที่มองเขาอย่างเฉยเมยแต่มันช่างดูน่ากลัวสำหรับเขาแล้ว
แดเนียลหมุนร่างสูงบางเข้ากับจังหวะของเพลงเธอแกล้งทำเป็นล้มจนแดเนียลต้องรีบช้อนร่างเธอเอาไว้ สองมือของเขาโอบกอดอกแนบเนื้อกันใกล้ชิดเธอส่งสายตาหยาดเยิ้มให้กับเขาแล้วค่อยๆ ดึงคอเขาให้โน้มลงมาหาเธอหมายจะจุมพิษเขา แต่แดเนียลหันมองไปที่โต๊ะ ร่างบอบบางที่เขาเห็นอยู่ตรงนั้นบัดนี้ได้หายไปแล้วเท่านั้นเองเขาก็ทิ้งร่างระหงส์ลงพื้นอย่างไม่สนใจแล้วรีบวิ่งออกจากฟลอร์ทันทีเห็นหลังไอริณที่เดินไปที่ห้องน้ำจึงตามไปที่นั่น
นาตาลีลุกขึ้นมาแล้วมองตามหลังเขาอย่างหัวเสีย
แดเนียลรออยู่หน้าห้องน้ำผู้หญิงอย่างร้อนใจ ไอริณล้างหน้าแล้วซับน้ำออกจากหน้า แต่น้ำตาเธอมันก็พาลไหลออกมา
“คนบ้า คุณมันก็พวกเพล์บอย ถ้าชอบเขานักก็น่าจะกลับไปหาเขาซะ” เธอบ่นอยู่หน้ากระจก

ผ่านไปสักพักที่เธอสงบจิตใจได้ออกมาจากห้องน้ำเห็นแดเนียลยืนอยู่แต่เธอก็เดินผ่านไปเขาได้แต่เรียกตามหลังยังไงก็ไม่ฟังจนในที่สุดเธอก็กลับบ้านไปคนเดียว แดเนียลรีบมาเช็คบิลล์แล้วตามเธอไปอีกคน
ไอริณคิดเรื่องของแดนียลกับนาตาลีมาตลอดทาง เธอกำลังสับสนและกำลังเสียใจที่ตัวเองไม่อาจที่จะเป็นอะไรได้มากกว่านี้ น้ำตาค่อยๆไหลอาบสองแก้มอย่างไม่รู้ตัว เมื่อเธอมาถึงหน้าบ้านก็ต้องแปลกใจที่เจอปุราณที่นี่
“คุณปุราณ....คุณมาทำอะไรที่นี่คะ” เธอถามอย่างแปลกใจ
“ผม....ผม....แค่อยากมาดูว่าคุณสบายดีไหม?” เขาตอบเธออย่างเศร้าใจ
ไอริณยิ้มอย่างยินดี
“ฉันสบายดีค่ะ”
“ได้ข่าวว่าวันนี้มีงานจัดแฟชั่นของร้านเสื้อคุณที่ห้างเหรอครับ ยินดีด้วยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
“แล้วนี่ ทำไมคุณกลับมาคนเดียวล่ะครับ แดเนียลล่ะ”
“เราเพิ่งไปฉลองมาค่ะ ฉันดื่มไม่ไหวก็เลยขอตัวกลับก่อน” น้ำเสียงและสีหน้าเธอไม่ได้แสดงถึงความยินดีแม้แต่น้อย
เขาเดินเข้ามาหาเธอมองดูแววตาที่ขุ่นมัวด้วยม่านของน้ำตา
“ไอริณ....คุณร้องไห้เหรอครับ....ใครทำคุณร้องไห้”
“เปล่าค่ะ”

เขาจับดวงหน้าเอาไว้อย่างถนอม
“เขาใช่ไหม?”
“เปล่าหรอกค่ะ...” เธอตอบยืนยัน
เสียงรถเลี้ยวเข้ามาจอดไม่ไกลนักพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของแดเนียลที่ดึงแขนบอบบางให้ออกห่างจากปุราณ สีหน้าและท่าทางที่เห็นชวนให้คิดว่าไอริณนัดปุราณไว้ที่นี่
“นี่คุณ จะทำอะไรน่ะ พวกคุณจะทำอะไรกัน? ที่คุณรีบกลับมาเนี่ยเพราะนัดไอ้หมอนั่นไว้หรอกหรือไอริณ ทำไมคุณไม่บอกผมตรงๆ ล่ะ ทำไมคุณต้องทำแบบนี้ด้วย ชอบมันมากใช่ไหม ชอบนักก็ไปด้วยกันเลยสิ”
ไอริณตบหน้าเขาฉาดใหญ่ สิ้นเสียงตะคอกของชายหนุ่ม เธอรู้สึกสิ้นหวังกับความรู้สึกหลากหลายที่เคยมีกับชายคนนี้ไปสิ้น เธอไม่ได้เอ่ยอะไรเดินเข้าบ้านอย่างเงียบๆ
“แดเนียล...ผมอยากจะชกคุณ คุณมันคนใจแคบ แต่คงเปล่าประโยชน์ วันนี้ผมแค่แวะมาดูไอริณว่าเธอสบายดีไหม? และผมก็รู้สึกเสียใจมากที่เห็นเธอร้องไห้ สายตาเธอมาแววความเจ็บปวด ผมจะไม่ให้อภัยคุณแน่” ปุราณเอ่ยแล้วขึ้นรถขับจากไปทิ้งแดเนียลที่นิ่งงันก้าวขาไม่ออก โทษตัวเองที่เข้าใจผิดไปเอง
แดเนียลเข้าบ้านมามองห้องไอริณที่เงียบงัน เขาอยากจะเคาะเรียกเธอออกมาคุยแต่ก็เปล่าประโชยน์สำหรับน้ำเชี่ยวกรากในยามนี้
ไอริณนั่งกอดเข่าร้องไห้คนเดียวอยู่ข้างใน



Create Date : 09 เมษายน 2553
Last Update : 17 สิงหาคม 2562 7:36:28 น.
Counter : 839 Pageviews.

2 comments
  
สนุกมากเลยอ่ะ

มาต่อเร็วๆนะ

โดย: popy IP: 158.108.169.162 วันที่: 10 เมษายน 2553 เวลา:14:34:32 น.
  
เพิ่งเริ่มมาอ่านค่ะ สนุกมาก จะติดตามนะคะ
โดย: B IP: 125.26.166.163 วันที่: 13 เมษายน 2553 เวลา:17:15:32 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]