กรกฏาคม 2564

 
 
 
 
2
3
4
5
7
8
9
11
13
14
16
17
18
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
31
 
All Blog
ยัย เจ้ สุด ฮา กับ หมอ เกย์ จอม เฟี้ยว บทที่ 18 หน้า 3
“ห๊า...แก จะให้ฉันไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเหรอ”


ทำท่าทางร้อนรนกับข่าวใหม่



“ก็ใช่น่ะสิ ถ้าไม่ใช้แก แล้วจะให้ใคร”



“บ้า หรือเปล่า แกออกจากวงการ (เกย์) แล้วยังจะให้ฉันไปเกี่ยวข้องด้วยอีก ”


ปุณต่อว่าเพื่อนแต่ก็มีแววกังวล



“อีกอย่างงานมงคลแบบนี้มันไม่เหมาะกับฉัน แล้วฉันก็กระดากอายที่จะสวมชุดเพื่อนเจ้าบ่าว”



“แค่พิธีง่ายๆ เอง คิดมาก”



“มันก็คือๆ กันแร่ะ แล้วทำไมไม่ชวนพวกโต้ง กับฟอร์ช ไปด้วยล่ะ”


ทำท่าอยากจะปฏิเสธ



“บอกหมดแล้ว หรือแกจะไม่ไปงานแต่งฉัน”


หมอเอกถามตัดบท



“ไปสิไป”


รีบตอบรับกลัวว่าเพื่อนจะไม่ชวนอีก



“ชุดฉันหาไว้แล้ว รถตู้จองแล้ว สินสอดเตรียมแล้ว เฟอร์เฟค สุดๆ”



เขายืนหล่อกางมือทำหน้าฟินจัด


หมอปุณส่ายหน้า



“เฮ้อ....ไหนๆ แกก็อำลาวงการ (เกย์) แล้ว ขออย่างได้ไหม?”



“อะไรล่ะ?”



“อย่ามาสวีทกับแฟนให้ฉันเห็นบ่อยๆ”



“โอ๋ นั่นสินะ ฉันคงไม่ทำให้แกลำบากใจใช่ไหม ปุณ แกน่ะ ยังไม่มีความรักสินะ”


เขาเดินมาตบที่ไหล่ปุณเบาๆ



“แล้วแกพูดทำไมไม่ทราบ คิดว่าโลกนี้ แกแฮปปี้ได้คนเดียวหรือไง?”


“อ้อ ก็ไม่หรอกฉันเข้าใจแกดี สถานการณ์ของคนที่ผ่านลมหนาวมา 30 ปี ไม่มีแฟนน่ะ ถ้าเกิดฉันสวีทกับเจ้ให้เห็น แกต้องคลั่งแน่ๆ”



“แกอย่าหลงระเริงตัวเองนักเลย เกิดมาหน้าตาดี มีตังค์ ทั้งผู้ชาย ผู้หญิงก็ชอบ เป็นเกย์อยู่ดีๆ สละโสดไปกับชะนีอีก แกมันเกย์อัจฉริยะตัวพ่อ”



ไม่รู้ว่าชมหรือจิกกัดกันแน่



“เอาน่า ถึงฉันจะแต่งงาน เราไม่ได้เลิกเป็นเพื่อนกันซะหน่อย”


เขาดูภูมิใจตัวเองสุดๆ



ปุณหมั่นไส้



“ปุณแกต้องบอกตัวเองให้ได้ก่อนนะ จะเอาผู้หญิงหรือผู้ชาย”


หมอเอกยังบี้เพื่อนต่อ



ปุณมองอย่างหัวเสีย



“เออ อย่าคิดว่าแต่งงานแล้วเท่ห์อยู่คนเดียวนะ ถ้าเกิดฉันแต่งบ้าง จะหัวเราะทีหลังให้ดังกว่าแกเลย ฉันจะจัดงานใหญ่กว่าแก”


เขารีบโวงานตัวเอง



“ก่อนแต่ง หาแฟนก่อน”


เป็นเอกเตือนสติปุณที่กำลังฉุนเขา อย่างสนุก



ปุณสบัดตัวหนีหมอเอกอย่างโมโหที่โดนทับถมเรื่องไม่มีแฟน
จะว่าไป ทำไม เขาก็ไม่เคยคบหาทั้งผู้ชาย ผู้หญิง


เซ็กส์กับใคร ก็ยังไม่เคย ยังไม่รู้เลยว่าเขาเป็นอะไรกันแน่ ชีวิตที่ผ่านลมฝนมานานนับ 30 ปี การไม่มีแฟน มีคนรัก มันเป็นเรื่องน่าอับอายอย่างนั้นหรือ



ทั้งที่ เขาอยากเป็นหนึ่งในกลุ่มคนรุ่นใหม่

ที่ไม่นิยมการแต่งงาน ส่วนจะนิยมเพศเดียวกันหรือเปล่านั้น

เขาเองก็ไม่กล้า เขาแค่เป็นผู้ชายที่ไม่กล้าเสียตัวให้บุรุษ และไม่กล้ามีความรักกับสตรี


ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ ตายไป ยมบาลจะถามเขาจริงอย่างที่เขาพูดกันไว้ไหม ถ้าใครไม่มีแฟนจะต้องไปนรก


ไม่นะ พระเจ้า!!!  ต้องช่วยเขา



“พูดแล้วมันอยากจะบีบคอมันจริงๆ พูดแล้วก็โมโห เวลาคอตกมาเราปลอบ เวลานี้มาแว้งกัดเราได้ คอยดูนะจะเอาคืนให้เข็ด”


ปุณบ่นอยู่คนเดียว



เป็นเอก เตรียมรถตู้ 3 คน สำหรับครอบครัวและเพื่อนสนิท


เขาให้คนขับรถวิ่งไปตามที่อยู่ตามบัตรประชาชนของปิ่นมณีที่เขาได้มา


ในตอนเย็นของวันศุกร์เมื่อนัดทุกคนพร้อมกันที่ 6 โมงเย็น บางคนที่เลิกงานดึก หรือติดงานวันเสาร์ต่างก็เสียดายที่ไม่ได้ไปด้วย


เขาจองโรงแรมในเมืองเอาไว้เพื่อให้ทุกคนได้พักผ่อน และถือโอกาสถามเส้นทางจากเจ้าหน้าที่ในโรงแรม

เพื่อเดินทางไปหมู่บ้านของปิ่นมณี เจ้าหน้าที่ถกเถียงเรื่องชื่อหมู่บ้านอย่างไม่แน่ใจ เพราะหมู่บ้านมากมายในเขตตำบลนั้น
ปุณเข้าไปถามเป็นเอกที่ฟังเจ้าหน้าที่เถียงกัน


“ทำไมแก ไม่โทรหาเจ้ปิ่นของแก ไม่ง่ายกว่าเหรอ”



“ฉันมาเซอร์ไพซ์เขานะ บอกเขาก่อนก็ไม่เซอร์ไพซ์สิ”


“แต่ดูนามสกุลแล้ว เหมือนจะเป็นบ้านกำนันเข้มนะครับ”


อีกคนบอก



“จริงเหรอ”



“ใช่ๆ พอดีบ้านผมอยู่แถวนั้น”



“ปิ่นมณี ก็น่าจะพี่ปิ่น แกไม่ค่อยอยู่บ้านนะครับ ไปอยู่กรุงเทพตั้งแต่เด็กแล้ว”


เด็กหนุ่มบอกข้อมูล


เป็นเอกยิ้มอย่างดีใจ เหมือนมีความหวัง เด็กหนุ่มเลยเขียนแผนที่ให้


ปุณมองเพื่อนรักอย่างไม่เข้าใจ ว่าวิถีชีวิตเขาจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้


จากหนุ่มหล่อไฮโซนักเรียนนอก ไม่เคยเห็นเขามีโมเม้นกุ๊กกิ๊กมีความรักหวานแหวว


เป็นเอกถามคนตลอดทางเพื่อไปบ้านปิ่นมณี บ้านปิ่นมณีห่างจากในเมืองไม่มากนัก


ถามใครก็ชี้มาทางนี้เป็นจุดเดียว ชื่อเสียงเลื่องลือไม่ใช่เล่น  เป็นบ้านสวนของลุงกำนันเข้มที่ใครๆ รู้จักดี



โอ้วว นี่เขาจะได้เป็นลูกเขยพ่อกำนันจริงๆ เหรอ คิดแล้วก็เนื้อเต้นเข้าไปใหญ่


ยังกะละครหลังข่าว จนเมื่อมาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ก็มาจอดถนนหน้าบ้าน เขาลงไปมองหาออดไม่มี เขาเลยร้องเรียกหญิงสาวหน้าบ้าน



ปิ่นมณี เปิดประตูออกเพราะสงสัยเสียงคนมาเรียก พอเห็นมีรถตู้จอดอยู่หน้าบ้านเรียงกัน 3 คัน ก็แปลกใจ


เธอเดินออกมาเปิดประตูรั้ว ยิ่งตกใจกว่า เป็นเอกยืนยิ้มกอดอกอย่างภูมิใจ ในความหล่อตัวเองท้าแดดยามสาย



“แก มาบ้านฉันถูกได้ไง?”


เธอตกใจ



“ก็ ผม ผัว เจ้ นิ ทำไม เรื่องแค่นี้จะไม่รู้”



เขาตอบยิ้มปริ่ม



ปิ่นมณีฟังแล้วสะดุ้งหันหลังกลับกลัวคนในบ้านได้ยิน คนที่ทำอะไรผิดไว้ เปรียบดั่งวัวสันหลังหวะ ที่มักระแวงคนอื่นรู้ความผิดตัวเองทุกลมหายใจ



“พูดบ้าหรือไงแกนี่ แล้วมาอะไรกันเยอะแยะ มาเที่ยวทัศนศึกษาเหรอ?”

เธอกัดฟันตอบโต้เขา


“มาหาเจ้ มาถามให้รู้เรื่อง เจ้ ตั้งใจจะหนีผมมา หอบลูกหนีผม ไม่ให้ผมได้เห็นหน้าลูกใช่ไหม?”

เขายิงคำถามที่พี่ชายปั่นในหัวมา



ปิ่นมณีได้ยินแล้วเนื้อเต้น ข้างหลังมีพ่อแม่อยู่ในบ้าน เกิดเปิดประตูมาได้ยินเรื่องแดงกันพอดี


“ฉันมาทำงาน ฉันก็บอกแกแล้วนิ”

เธอทำหน้ายุ่งยากใจ



เป็นเอกที่เธอเคยรู้จัก ไม่ได้มีนิสัย เหมือนเด็กงอแงขนาดนี้



“กลับไปก่อนเราค่อยคุยกัน”


“ไม่ ผมไม่เชื่อเจ้หรอก เจ้ตั้งใจจะหอบลูกหนีผมใช่ไหม เจ้ บอกผมมา เจ้ จะไม่ทิ้งผม จะไม่พาลูกหนีผมอีก”


“ฉัน มา ทำ งานนนนนน”


เธอตอบเขาหนักแน่น



“แก จิตตกหรือเปล่าเนี่ย?”


ปิ่นหันซ้ายที ขวาที ระแวงว่าพ่อกับแม่จะออกมาได้ยินเข้า


“เจ้...นี่ลูกของเรานะ เราช่วยกันทำ ทำไมเจ้จะต้องหอบลูกหนีจากผมด้วย”



“ฉันมาทำงาน พอได้แล้ว แกอย่าพูดเรื่องนี้ดังได้ไหม”


ปิ่นมณีเริ่มเหงื่อแตก



“นี่มันเสาร์อาทิตย์แล้ว ทำไมไม่กลับ ทำไมไม่โทรหาผม คอลก็ไม่คอล เจ้ รู้ไหมผมคิดถึงเจ้ขนาดไหน?”



“โอ้ย ทำไม พูดยากพูดเย็นขนาดนี้เนี่ย  บอกใครจะเชื่อ หมอเกย์ นักเรียนนอก มุ้งมิ้งขนาดนี้”



“เจ้ บอกผมจริงๆ คิดยังไงกับผม ไม่งั้น ผมเข้าบ้านไปบอกพ่อแม่เจ้นะ ว่าเราซั่มกันแล้ว”




โอ้ย ฟังดูพูดเข้า หัวใจจะวาย ปิ่นมณีตาเหลือก




“หยุดดดดด แก อย่าเยอะ มาพูดเรื่องขายหน้าได้หน้าตายอะไรขนาดนี้”



“ไม่ใช่เรื่องขายหน้าซะหน่อย ผมทำแล้วยอมรับผิด มีแต่เจ้แหล่ะ ที่ไม่คิดจะรับผิดชอบผม ตอบมาสิ ตอบให้ผม รู้หน่อยได้ไหม”



เขาทำตาปริบๆ กะจะเรียกคะแนนความสงสาร



“แก..เราก็แค่ทำผิดพลาดเท่านั้นเอง”



“ผิดพลาด เจ้พูดอะไร”



เสียงเขาเหมือนจะโมโหกับคำตอบ



เธอไม่เคยเห็นเป็นเอกอารมณ์แปรปรวญขนาดนี้ก็ตกใจ




“ดี ผม จะเคลียร์กับ พ่อ แม่ เจ้”


เขาทำท่าจะเดินเข้าบ้าน



ปิ่นมณีรีบกางมือขวางไว้




“หมอออออ......หยุดดดดดดดดดด”




“หมอ ใจเย็นๆ ใจเย็น ฟังฉันก่อน”


เธอพยายามหาน้ำเย็นเข้าลูบ


เขาทำท่าสะบัดสะบิ้งใส่เธอ แหล่ตามอง คนร่างน้อยที่อกสั่นกับท่าทางหัวร้อนของเขา



“เจ้...จะเอา ยังไง ว่ามาเลย”


เหมือนเขาตั้งใจข่มเธอกลายๆ



“เรากลับไปคุยกันที่บ้าน”



“ก็นี่บ้านเจ้นิ”


เขาแย้ง



“หมายถึงที่บ้านฉันที่ปทุม”



“จะกลับปทุมทำไม มาถึงนี่แล้ว”


เขาไม่ยอม



“ไม่ได้นะ ให้พ่อแม่รู้เรื่องนี้ไม่ได้นะ”



“แล้วไง?”



เขาผายมือออกอย่างไม่ยีหระเธอ เธอมองเขาอย่างคาดเดาอารมณ์ไม่ได้


เขามาเหนือชั้นจนเธอรับมือยากแล้ว เธอต้องหาข้อต่อรองเขาให้มันสมน้ำสมเนื้อ

 



Create Date : 26 กรกฎาคม 2564
Last Update : 26 กรกฎาคม 2564 18:21:23 น.
Counter : 903 Pageviews.

2 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณ**mp5**

  
รอติดตามตอนต่อไปอยู่จ้า



โดย: หอมกร วันที่: 26 กรกฎาคม 2564 เวลา:14:24:05 น.
  
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ
โดย: **mp5** วันที่: 26 กรกฎาคม 2564 เวลา:20:18:58 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]