มีนาคม 2564

 
2
3
5
6
7
9
10
12
13
14
16
17
19
20
21
23
24
26
27
28
30
31
 
 
All Blog
ยัย เจ้ สุด ฮา กับ หมอ เกย์ จอม เฟี้ยว บทที่ 6 หน้า 2
เย็นวันศุกร์ตามแผนอันแยบยลของเป็นเอก เขาขับรถมาจอดที่สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี เขาหาที่จอดรถ เห็นข้างรถ ผอ ว่างเลยจอดเอาดื้อๆ

แม้จะเขียนว่าสำหรับ VIP เดินสำรวจอาคารภายนอก ด้านหน้ามีนโยบายและคำขวัญ และเป้าหมายขององค์กรติดอยู่

เขาเดินผ่านไป ที่หน้าประชาสัมพันธ์ มีผังองค์กรติดด้านหลัง
ประชาสัมพันธ์เอ่ยถามเขาเนื่องจากนานๆ ที จะมีคนหล่อหลงมาเดินผ่านมาเลียบๆ เคียงๆ เคาน์เตอร์


“มาติดต่ออะไรหรือเปล่าคะ”


“ครับ ผมมาส่งใบลาให้คุณปิ่นครับ มิทราบว่าผมฝากส่งให้ผู้อำนวยการได้ไหมครับ”

เขายื่นซองให้ประชาสัมพันธ์สาว


สองสาวหันหน้าหัวเราะเบาๆ


“ปิ่นไหนเหรอคะ?”


“ปิ่นมณี มณีวงค์ครับ”


“จะลาให้คุณปื่นไปไหนคะ วันนี้แกก็มาทำงานอยู่นะคะ แล้ว ผอ ก็คือคุณปิ่นเองค่ะ”

เสียงใสๆ ตอบเขายิ้มๆ รับซองไป


เป็นเอกถึงกับอึ้ง เงยหน้ามองผังองค์กร ใช่สินะ นั่นมัน รูปปิ่นมณี ในชุดข้าราชการสีขาว โครงหน้ารูปไข่ ผมยาวสลาย จมูกที่ไม่โด่งสวยเท่าปัจจุบัน

แต่หากว่าน่ารักอย่างเป็นธรรมชาติ และชื่อก็ชัดเจน ปิ่นมณี มณีวงค์ เขาไม่ได้สืบข้อมูลเรื่องนี้มาก่อน เขาเพียงแค่คิดว่าเธอเป็นข้าราชการสักตำแหน่งในองค์กร
นี่เจ้ ไม่ได้ธรรมดาสักนิ


“ผู้หญิงชั้นสูงอย่างแท้จริง”

เขามองรูปสูงสุดที่เด่นสง่าตรงนั้นอย่างปลาบปลื้มใจ


สักพักมีเสียงผู้หญิงพูดคุยกันกำลังเดินผ่าน


“คุณปิ่นจะไม่กลับเข้ามาออฟฟิตแล้วใช่ไหมคะ?”


“ไม่กลับมาแล้วจ๊ะ ป้ามล ส่งปิ่นแค่นี้ก็พอ เดี๋ยวปิ่นไปขึ้นรถเอง”

เธอรับกระเช้าผลไม้ที่มีคนเอามามอบให้หลังเทศกาลปีใหม่จากป้าแม่บ้าน


“ขับรถดีๆ นะคะ”


“ขอบคุณค่ะ”

เธอยิ้มหวานให้แม่บ้าน


เป็นเอกมองดูรูปร่างผอมเพียว ในชุดสูทร่วมสมัยสีน้ำเงิน เซ็ทผมเปิดหน้าผากมลอย่างลงตัว ต้องยอมรับว่าดูเหมือน หนุ่มเอ๊าะๆ หน้าใสๆ ตามซีรีย์เกาหลีไม่ผิด


เขาเดินตามเธอออกมาเงียบๆ ปิ่นมณี กำลังจะกดเปิดประตูรถ อุ้มมือใหญ่ก็ดึงมือเธอกลับ หญิงสาวหันไปมองผู้บุกรุกอย่างตกใจ



“แก....มาได้ไง”

หน้าซีด ตัวชา


เธอแทบเข่าทรุดถอยหลังเตรียมจะวิ่งอ้อมรถเพื่อหนี แต่ก็ช้ากว่าเป็นเอกที่เปิดประตูรถเขาที่จอดคู่กัน

คว้ากระเช้าของขวัญวางไว้บนหลังคารถ แล้วเอาเทปพันรอบมือข้อมือน้อย แล้วจับเธอเข้าไปนั้งข้างในคาดเข็มขัดแล้วกดล็อคประตูอย่างรวดเร็ว

เธอพยายามร้องดิ้นรนขัดขืนแต่สภาพแวดล้อมไม่อำนวย ร้องโวยวาย แต่ก็ไม่มีใครได้ยินแล้ว เขาไม่มีลืมที่จะเอากระเช้าของชวัญเธอขึ้นเบาะหลังไปด้วย ก่อนจะวิ่งไปขึ้นรถแล้วขับออกมาจากตรงนั้น ทุกอย่างเขาใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเลยทีเดียว

ปิ่นมณียังตกใจกับการถูกลักพาตัวอย่างเฉียดพลัน ร้องตะโกนให้คนช่วยออกไปก็ไม่ทันแล้ว เธอถูกขังไว้ในรถ มือก็ถูกพันด้วยเทปจะเปิดประตูก็ไม่ได้ หันมามองเอกที่สวมหน้ากากหนาเตอะ


“แก......แกจะทำอะไร.....แกต้องการอะไร?”

เธอเริ่มร้องตะโกนโวยวายถามเขา


“แกมาทำไม?”

เธอยังโวยวายสายตาหวาดกลัว


เอกมองสายตาเธอที่มองเขาราวปีศาจอย่างเจ็บปวด


“ผมมีเรื่องจะคุยกับเจ้”

เขาตอบเสียงอ่อนโยน


“ผมรู้ว่าเจ้คงจะกลัวผม โกรธผมมากกับเรื่องวันนั้น ผมอยากปรับความเข้าใจกับเจ้”


“เราไม่มีเรื่องต้องคุยกัน ปล่อยฉันลงเดียวนี้นะ ปล่อยยยยยยยย”

เธอพยายามสงบใจสั่นเทาข้างใน


“เจ้ ยังโกรธผม อยู่ใช่ไหม”


“ไม่.....ฉัน .....เกลียด....แก”

เธอตอบเสียงแน่นในลำคอ


ราวมีดด้ามยาวกระแทกตรงหัวใจ เป็นเอกสูดลมหายใจเข้าปอด


“ถ้าผมจะเอ่ยว่าขอโทษ เจ้คงไม่ยอมรับ และมันคงไม่สาสมกับความผิดที่ผมทำไว้”


“แกก็รู้ตัวนิว่าผิด”

เธอหันมาแวดเสียงใส่


“ใช่ผมผิด ผมอยากจะไถ่บาป และไถ่โทษที่ทำผิดไปวันนั้น”


“ก็ไปบวชเสียสิ”

เธอยังแวดใส่หน้าเขาต่อ


“ถ้าไปบวช แต่เจ้ก็ยังโกรธ ยังเกลียดผมอยู่จะมีประโยชน์อะไร?”

เขาถามกลับ


“วันนั้นผมทำร้ายเจ้ ผมทำเจ้เจ็บ ผมทำให้เจ้ทรมาร ผมทำให้เจ้ต้องเสียใจ ผมทำให้เจ้ต้องร้องไห้ ผม...”


“แกไม่ต้องมาพูดเหมือนสำนึกผิดอะไรทั้งนั้น ถ้าแกมันคนดีจริง แกต้องไม่โผล่หน้ามาให้ฉันเจออีก”


“แบบนั้นไม่ได้หรอก คนดีที่ไหนจะทำแบบนั้น ถึงเจ้จะเห็นผมเลวขนาดไหน แต่ผมก็รับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป”


“แกไม่ต้องมาพูด แกจะมารับผิดชอบอะไร ไม่มีอะไรให้แกต้องรับผิดชอบทั้งนั้น”


“ชีวิตเจ้ไง”


“ชีวิตฉันมันของฉัน ฉันกำหนดเองได้ มันไม่ใช่ของแก แกไม่ต้องมายุ่งวุ่นวาย ไม่ต้องมาพบมาเจอกันอีก แก เข้าใจไหม ฉันเกลียดแก ฉันเกลียดแกกกกกกกก”

เธอแทบกรีดร้องใส่หน้าเขา


เป็นเอกรับรู้จากถ้อยคำเหล่านั้นคือความเจ็บปวดใจจากส่วนลึก ทำเอาน้ำตาเขาเล็ดออกมา


“เจ้ให้โอกาสผมเถอะนะ กับสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้น ผมรู้ว่าเจ้เจ็บ แต่ผมก็เจ็บมากกว่าเจ้ ผมรู้ว่าเจ้ทรมาร ผมก็ทรมารมากกว่าเจ้ ผมรู้ว่าเจ้ร้องไห้ ผมเองก็ร้องไห้เหมือนกัน”


“มันก็สมควร แกมันใจร้าย โหดรายยิ่งกว่าหมาแมวอีก แกลากฉัน แกจับฉัน แกกระชากฉัน ฉันไม่ใช่ผักใช่ปลานะ ฉันนนนเจ็บ งืออออ”

ปิ่นเริ่มสะอื่นเมื่อภาพเหล่านั้นสะท้อนในอก


เป็นเอกน้ำตาเต็มเบ้าตา


“แล้วเจ้จะไม่ให้โอกาสผมชำระบาปเหล่านั้นเหรอครับ”


“ไม่ ไม่ ไม่ ฉันไม่อยากเจอแก ฉันไม่อยากกก เจอออออ”


“นี่แกจะพาฉันไปไหน แกยังจะทำอะไรฉันอีก ปล่อยฉันไปนะ”

เธอดิ้นรนอย่างหนัก มองรอบตัวผ่านม่านตาคิดหาทางเอาตัวรอด


“ผมแค่อยากคุยกับเจ้ เรามาตกลงกัน เจ้ให้โอกาสผมไถ่บาป”


“ไม่ ไม่ ไม่ ฉัน...ไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นนนนน ฉันไม่มีบาปกรรมมมมกับบบแกกก”

เธอร้องไห้


“ปล่อย ฉันนนน ปล่อยยยยฉัน ฉันบอกให้ปล่อยฉันไป แกยังไม่สะใจแกเหรอ...ไอ้หมอบ้า งือออออ”

เสียงร่ำไห้ที่แสนเจ็บปวดทำเอาเป็นเอกใจร้าวราน มองผ่านกระจกรถ แต่ก็ไม่มีใครสนใจเธอ เพราะฟิล์มมันหนาจนไม่รู้ว่าข้างในเธอกำลังยิ้มหรือหัวเราะ


“ผมไม่ทำอะไรเจ้ เจ้เชื่อใจผมนะ”


“ฉันไม่เชื่ออะไรแกทั้งนั้น ปล่อยฉันไป ปล่อยฉันนนนนนน ได้ยินนนนไหมมมมมม”

เธอร้องตะโกนใส่หูเขา


“ปล่อยฉันไปเถอะ...ปล่อยยยยฉันนนนนนน”


“ได้โปรดเถิด แกอยากได้อะไร จะเอาเงินเท่าไหร่ก็บอกมา โปรดปล่อยฉันไป”


เธอร้องไห้


ผ่านไปร่วมครึ่ง ชั่วโมง รถวิ่งตามวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตก
ปิ่นมณีร้องตะโกนโวยวายให้ปล่อยจนเหนื่อย เธอเริ่มสิ้นฤทธิ์ เป็นเอกปล่อยให้เธอตะโกนจนพอใจ แล้วเสียงก็ค่อยๆ เงียบลง เธอเริ่มคอพับคออ่อนพิงกระจก เขามองเธออย่างอ่อนโยน ทั้งสำนึกและรวดร้าวใจ


“ฉันนนน เกลียดดด แกกกก”

เสียงพรึมพรำเบาๆ


“โปรดดดดด เถอะ ปล่อยฉันไปปปปป”

เสียงราวคนร้องเพลงกล่อมตัวเอง


“เจ้....ถ้าวันนั้นมันเลวร้ายสำหรับเรา มันทำให้เจ้ต้องเจ็บ มันทำให้ผมต้องปวด เรามาก้าวผ่านมันไปด้วยกันเถอะนะ”

เสียงทุ้มๆ เอ่ย


“ไม่...ฉันนนนนเกลียดดดดดแกกก ถือว่าฉานนนทำบุญให้แกกกกกไปซะ เรา อย่ามาเจออออกันอีกเลยยยยยย ปายยยให้พ้นนนน”

เธอพร่ำพูดสิ่งที่สมองบันทึกไว้เบาๆ


“เจ้ให้โอกาสผมเถอะนะ ผมขอแค่ครั้งเดียว ให้เราได้เริ่มมันไปด้วยกัน ให้ผมได้ทำอะไรให้เจ้ เพื่อลบล้างสิ่งที่ได้เจอในวันนั้น ขอให้ผมได้ทำในสิ่งที่อยากจะทำเพื่อเจ้ เรามาดีกันเถอะนะ”


“หืออออ”

เสียงเธอครางเบาๆ ตาสะลึมสะลือ



“ไปอยู่กับผมนะ เรามาอยู่ด้วยกัน 1 เดือน แล้วหลังจากนั้นขอให้เจ้ลืมเรื่องวันนั้นไป”


“อือออออ”

สิ้นคำตอบรับ เอกปาดน้ำตาแล้วขับเลี้ยวเข้าถนนพระราม 2 มุ่งหน้าสู่ภาคใต้ของไทย


หมอเอกลดกระจกรถยนต์ลงเพื่อให้อากาศข้างในระบายออก เขาหยุดรถข้างทาง สวมถุงมือยางที่เตรียมไว้ ใช้ทิชชูเปียกเช็ดเอาแผ่นกระดาษยาสลบที่เขาแปะไว้ที่ช่องแอร์ฝั่งผู้โดยสาร เขาใช้ทิชชูเช็ดหลายๆครั้ง แล้วทั้งลงถุงซิป ปิดถุงลง แล้วทิ้งถังขยะที่อยู่ข้างทาง กลับมาที่รถเอาหมอนรองคอน้องกระต่ายหนุนคอให้ปิ่นมณี ก่อนจะขับรถต่อไป

 



Create Date : 01 มีนาคม 2564
Last Update : 26 กรกฎาคม 2564 18:39:28 น.
Counter : 707 Pageviews.

2 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณ**mp5**, คุณnewyorknurse

  
โอ้ ถือว่าพล็อตแปลกคาดไม่ถึงในปฐพีเลยค่ะ

โดย: หอมกร วันที่: 1 มีนาคม 2564 เวลา:12:38:29 น.
  
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ
โดย: **mp5** วันที่: 2 มีนาคม 2564 เวลา:15:27:17 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]