<<
กันยายน 2548
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
2 กันยายน 2548
 

3-Iron - หากเธอคือความฝัน ...ฉันจะเป็นความจริง

หมายเหตุ:
1. Version สมบูรณ์แล้วครับ มีแก้รายละเอียดปลีกย่อยนิดหน่อย (แต่แทบไม่ต่างจากเวอร์ชันเดิมเลย ฮา!)
2. ถ้ามีเวลาว่าง เดี๋ยวจะสรุปเรื่อง Magical Realism ไว้เป็น Footnote ประกอบเรื่องที่เขียนอีกทีครับ


(1)
เขาว่ากันว่า ‘ความฝันกับความจริง’ บางครั้ง มันก็อยู่ห่างกันเพียงแค่เส้นเล็กๆ บางๆ เส้นหนึ่ง....
....เส้นเล็กๆ บางๆ ที่บางครั้ง ก็บางมากเสียจนมนุษย์ตัวเล็กๆ อย่างเราๆ ไม่สามารถแยกแยะได้
....เส้นเล็กๆ บางๆ ที่บางครั้ง ก็มักจะทำให้เรารู้สึกสับสนและสงสัย
แท้จริง เราฝันไป หรืออยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง?

(2)
หลังจากดู 3-Iron จบ
ดูเหมือนว่า ...หนังเรื่องล่าสุดของผู้กำกับคิมคีดุกเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีสภาพที่ต่างไปจากเส้นบางๆ เส้นนั้นสักเท่าไหร่
ภายใต้ภาพเคลื่อนไหวที่โลดแล่นอยู่เบื้องหน้า ..ดูคล้ายว่า ...มายาภาพอาจหลอมรวมเป็นเรื่องเดียวกับความจริงไปเสียแล้ว !

....ผมนั่งเคว้งหลังจากดูหนังจบเป็นระยะเวลาค่อนข้างนาน
ก็ยังไม่แน่ใจ ว่าแท้จริง มันคือโลกจริงที่แปลกแยก หรือเพียงแค่ 'ผมฝันไป'?

(3)
3-Iron เปิดตัวด้วยการเล่าเรื่องอย่างเรื่อย เอื่อย... หนังค่อยๆ ตามติดพฤติกรรมของหนุ่มจรจัดคนหนึ่งไปตามสถานที่ต่างๆ ในคราแรก ดูเหมือนว่า ชายหนุ่มคนนี้จะมีพฤติกรรมธรรมดาๆ ไม่ต่างจากคนทั่วไป ....มีแปะใบปลิวบ้าง ...ขี่มอเตอร์ไซค์บ้างตามประสาของชายหนุ่ม อย่างไรก็ดี หลังจากตามติดพฤติกรรมของเขาไปได้สักห้านาที ...ความผิดแผกแตกต่างหลายๆ อย่าง ก็ดูเหมือนว่าจะเริ่มก่อตัวให้เห็นอย่างเด่นชัด

ชายหนุ่มคนนี้มักแอบเข้า - ออก บ้านที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ ...เข้าไปซักผ้า ปัดกวาดเช็ดถูบ้าน ซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆ ให้กับเจ้าของบ้าน ... แล้วจากไป

ไม่มีการขโมยข้าวของใดๆ ทั้งสิ้น
...ดูเลื่อนลอย งี่เง่า ไร้สาระไหม?
พฤติกรรมแปลกๆ ไม่อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของสังคมที่เคยเป็นมา พฤติกรรมแปลกๆ ที่ไม่สามารถอธิบายด้วยเหตุผลได้ เริ่มปรากฏขึ้นมาในตัวชายหนุ่มอย่างช้าๆ ช้าๆ

ฤาแท้ที่จริง ชายหนุ่มคนนี้จะเป็น 'ภาพฝัน' ที่เราฝันไป?

....'ฝัน' ที่เราสามารถทำทุกสิ่งได้อย่างอิสระ (แอบเข้าออกบ้านคนอื่น โดยไม่ต้องคำนึงถึงข้อบังคับหรือกฎหมาย)

....'ฝัน' ที่เราสามารถได้สิ่งของทุกอย่างตามใจปรารถนา (เป็นชายเร่ร่อน แต่มีมอเตอร์ไซค์ราคาเรือนล้าน)

...'ฝัน' ที่แปลงของไม่มีคนสนใจ ให้กลายเป็นสิ่งมีค่า [จากเดิม "เหล็ก 3" เป็นเหล็กที่ไม่ค่อยมีคนใช้ (เพราะ ตียากกว่าไม้ที่ตีได้ในระยะเดียวกัน) ....แต่ในที่สุด ก็กลับกลายเป็นอาวุธที่ใช้สังหารคนได้อย่างไม่น่าเชื่อ!]

....และก็คือ 'ฝัน' นี่แหละ ที่ทำให้โลกทุกอย่างของเราเป็น "จริง"

แต่เอาเถอะ ไม่ว่าสิ่งที่เห็นจะเป็นอย่างไร อย่างไรก็ดี ชายจรจัดผู้นี้ ก็ยังคงดำรงอยู่ได้ในโลกของหนัง ....เขายังคงล่องลอยเข้าออกบ้านว่างๆ ซ่อมแซมอุปกรณ์พังๆ ให้กับเจ้าของบ้าน ทำอย่างนั้น บ้านแล้วบ้านเล่า จนกระทั่ง ในที่สุด ภาพล่องลอยอันมหัศจรรย์เหมือน 'ฝัน' ของเขา ก็มาปะทะกับภาพแห่งความเป็นจริง!



ในวันหนึ่ง ชายหนุ่มนิรนามผู้นี้ จู่ๆ ก็หลงเข้าไปในบ้านที่ยังมีหญิงสาวผู้ทุกข์ตรม (เพราะถูกความรักอันโหดร้ายกัดกร่อนหัวใจ) อาศัยอยู่ หญิงสาวผู้นี้ มีโลกที่แตกต่างจากชายจรจัดหลายล้านปีแสงนัก ...เพราะหากโลกของชายจรจัด คือ 'โลกแห่งฝัน' ที่สามารถทำทุกอย่างได้อย่างอิสรเสรี ไร้กรอบเกณฑ์บังคับ ....โลกของหญิงสาว ก็คงเปรียบเสมือนกับความจริงอันโหดร้าย ...เธอไม่สามารถต่อกรใดๆ กับอำนาจของสามีได้ เธอต้องถูกเขาทุบตีจนใบหน้าบิดเบี้ยว เธอต้องถูกเขาบังคับขู่เข็ญต่างๆ นาๆ

ช่างเป็นภาพที่น่าสงสารเหลือเกิน...

เมื่อหนังดำเนินมาถึงจุดนี้ โดยส่วนตัว ผมคิดว่า เป็นใครก็คงไม่น่าจะทนได้ อย่างที่มาสโลว์เคยบอกไว้ “ไม่ว่าจะเป็นใคร ทุกคนต่างก็ต้องการได้รับความรักและการยอมรับจากผู้อื่น เพื่อให้ตนรู้สึกว่ามีคุณค่าทั้งสิ้น” (Protection Nurturance Approach) ในเมื่อสามีไม่เห็นคุณค่า พอถึงที่สุด หญิงสาวจึงตัดสินใจกระโจนไปกับ 'โลกจริงที่คล้ายฝัน' ของชายจรจัดอย่างไม่ลังเล

แต่ราวกับสวรรค์ (ซึ่งก็คือผู้กำกับ) กลั่นแกล้ง เพราะในที่สุด หญิงสาวก็ประจักษ์ว่า อย่างไรเสีย ภาพฝันก็คือภาพฝัน ...เราสามารถสนุกกับฝันได้เพียงชั่วครู่ชั่วยาม แล้วก็ต้องตื่น (เพราะหากไม่ตื่นก็ต้องตาย) ...ในที่สุดหญิงสาวและชายหนุ่มก็ถูกจับ ด้วยโทษฐานบุกรุกบ้านผู้อื่นและฆ่าคนตาย ..สุดท้าย เมื่อตื่นจากฝัน หญิงสาวก็ต้องกลับคืนสู่โลกอันโหดร้ายเหมือนเดิม!

อย่างไรก็ดี น่าแปลก ที่เมื่อถึงจุดพลิกผัน ฝ่ายชายหนุ่ม ที่แม้ต้องอยู่ในห้องขัง กลับไม่รู้สึกถึงความโหดร้ายนี้แต่อย่างใด เขายังคงเล่นหลอกกับการมองเห็นของคน (ที่มองได้ 180 องศา) , เขายังคงเล่นหลอกกับการเคลื่อนไหวขยับกายไม่ให้ใครมองเห็น, เขายังคงแสยะยิ้มให้กับผู้คุมอยู่ทุกชั่วขณะ .....มองๆ ไป ช่างคล้ายกับ ‘ความฝัน’ ที่เราเคยจินตนาการตอนเด็กๆ ไม่มีผิดเพี้ยน

แต่เอาเถอะ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ...นั่นคงไม่สำคัญเท่าไหร่ เพราะจะว่าไป ความมหัศจรรย์ต่างๆ (Magical) ที่เกิดขึ้นในภาพเคลื่อนไหว มันก็คงคล้ายๆ กับตัวอักษรที่เรียงรายในนวนิยายตระกูล Magical Realism กระมัง

อย่างที่หลายๆ คนพอจะทราบดี นวนิยายแนวสัจนิยมมหัศจรรย์ (Magical Realism) มักนำเอา 'ความมหัศจรรย์' มาเป็นจุดเด่นในการนำเสนอ

.....กับเรื่องราวหลายๆ อย่างที่ดูแปลกประหลาด (เช่น จู่ๆ ผู้คนในเมืองมาคอนโดก็กลายเป็นโรคนอนไม่หลับนานนับเดือน)
....กับตัวละครหลายๆ ตัวที่ดูไม่สมจริง (อย่าง เมกียาเดสใน One Hundred Years of Solitude ที่จู่ๆ ก็ทนความอ้างว้างไม่ไหวจนต้องฟื้นคืนชีพกลับมา)

คล้ายๆ กัน หนังเรื่อง 3-Iron ก็คงจะมีลักษณะเป็นเช่นนั้น
เราจะเห็นว่า หนังช่วงหลัง ‘คิมคีดุก’ มักนำเราไปสู่เหตุการณ์ประหลาด
...จู่ๆ ชายหนุ่มก็ทำตัวล่องหนไปยังที่ต่างๆ ราวกับภูติผี
...จู่ๆ ชายหนุ่มก็กลับไปแก้แค้นบรรดาผู้คุมคุกขาใหญ่ ราวกับภาพฝัน
...ยังไม่พอ หญิงสาวยังแอบเข้าไปนอนที่บ้านคนอื่น โดยที่เจ้าของไม่ดุด่าว่ากล่าวอีก

เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ยั่วเย้าให้เราฉงนสงสัยไปกับภาพที่เห็นทั้งสิ้น
ฤาแท้จริงแล้ว “ความจริง” ทุกอย่าง จะมีสภาพเป็นเพียง “ความไร้แก่นสาร” และ “มายา” !?

(4)
     ในตอนจบ ชายหนุ่มก็สามารถกลับมาหาหญิงสาวได้
     ทว่า ครั้งนี้ เขามาในรูปแบบที่ต่างออกไป
     .....เขาไม่ได้พาเธอหลบหนี
     หากแต่ดำรงอยู่ โดยล่อหลอกกับความสามารถในการมองเห็นของคน (ที่มองได้ 180 องศา)

     ในที่สุด ....เขาและเธอก็ครองคู่กัน
     ภายใต้โลกแห่งความเป็นจริง
     ที่อาจเป็นเพียงฝัน
     ของหญิงสาว (ผู้ต้องเผชิญชะตากรรมอันโหดร้าย) เพียงหนึ่งคน!!!


(5)
สุดท้ายแล้ว หนังเรื่องนี้ก็มิได้ให้ข้อสรุปใดๆ ชัดเจน แต่กระนั้น หากยังพอจำกันได้ ในหลายต่อหลายครั้ง หนังมักฉายให้เราเห็นภาพที่เป็นสองระนาบ - เวลาที่ชายหนุ่มถ่ายรูปคู่กับรูปถ่าย ในระนาบหนึ่ง คือ 'เขา' ซึ่งดำรงอยู่ ณ ฉากนั้น, แต่อีกระนาบ กลับเป็นอีกชีวิตหนึ่งซึ่งไม่มีอยู่จริง! (เพราะเป็นเพียงภาพ)

...หรือนี่จะเป็นการบอกใบ้ของหนังนะ
ว่าอันที่จริง 'ความจริงกับมายา' อาจเป็นเรื่องเดียวกัน
ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเป็นคนมอง
ก็เท่านั้นเอง!?

standby="Loading Microsoft Windows Media Player components..." VIEWASTEXT>
















Create Date : 02 กันยายน 2548
Last Update : 2 กันยายน 2548 18:49:02 น. 15 comments
Counter : 3643 Pageviews.  
 
 
 
 
Comment No. 1

น่าสนใจมากครับน้อง อึ้งไปเลย คิดได้ไงนะเนี่ย
ไม่มีความเห็นครับ เพราะคิดไม่ออกเลย ต้องมานั่งคิดทบทวนอะไรหลายๆอย่างก่อนครับ

โดย: พ่อน้องโจ 30 สิงหาคม 2548 22:54:08 น.

Comment No. 2

ชอบประเด็นนี้มากค่ะ

เขียนออกมาได้ดี น่าอ่าน ชอบจัง

: )
โดย: +*~ S O u LM a T e~*+ 30 สิงหาคม 2548 22:58:51 น.

Comment No. 3

เป็นอีกมุมนึงที่ได้จากการวิจารณ์หนังเรื่องเดียวกัน ที่เคยอ่านจากบล็อคของใครสักคน

เป็นอีกมุมทเล่าได้น่าสนใจดีค่ะ

โดย: Black Tulip 30 สิงหาคม 2548 23:32:33 น.

Comment No. 4

โอ๊ะ เป็นเรื่องที่น่าสนใจค่ะ เดี๋ยวดูก่อนแล้วกลับมาอ่านอีกทีนะค่ะ

โดย: ปีกที่ไม่อาจจะโบยบิน (WhaT iT'S W๐l2tH ) 31 สิงหาคม 2548 2:19:31 น.

Comment No. 5
หวัดดีครับ..มาเยี่ยมครับผม

ป.ล.ชีวิตคือ..ความจริงครับ

โดย: กุมภีน (ล็อกอินไม่ได้ครับ) IP: 203.144.221.102 31 สิงหาคม 2548 7:56:05 น.

Comment No. 6

ประเด็นนี้น่าสนใจ

โดย: แบ่งกันเซ็ง IP: 58.10.51.13 31 สิงหาคม 2548 10:40:55 น.
 
 

โดย: it ซียู วันที่: 2 กันยายน 2548 เวลา:17:56:29 น.  

 
 
 
Comment No. 7

โอ้ววววว..น่าสนใจง่ะ ชอบค่ะ

อ่านแล้วนึกถึงหนังสือของพิง ลำพระเพลิงเรื่อง 'ยอดมนุษย์สุดจริต' เลยค่ะ


พอหายยุ่งแล้วค่อยรีบไปดูหนังเนอะ


ดีออก เราชอบนะ เวลาเรียนเนี่ยมีโอกาสดูหนังแปลกๆ เยอะดี ชอบๆ



โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 31 สิงหาคม 2548 11:36:15 น.


Comment No. 8

อยากดูหนังก่อนน่ะค่ะ
ลองอ่านคร่าวๆดูแล้ว

ลอกคำตอบคนอื่นดีก่า
อิๆ

คอมหายแล้วนะค้า
ดีใจหลายๆ



โดย: quin toki 31 สิงหาคม 2548 13:42:24 น.


Comment No. 9

อืมๆๆ น่าสนจิงด้วย เพลงก็เก๋นะ
แค่เกริ่นนำก็โดนแระ

‘ความฝันกับความจริง’ บางครั้ง มันก็อยู่ห่างกันเพียงแค่เส้นเล็กๆ บางๆ เส้นหนึ่ง....
....เส้นเล็กๆ บางๆ ที่บางครั้ง ก็บางมากเสียจนมนุษย์ตัวเล็กๆ อย่างเราๆ ไม่สามารถแยกแยะได้

ชอบๆๆๆ โดนมาก

โดย: Together In 80s Dream 31 สิงหาคม 2548 18:56:47 น.



Comment No. 10

หนุ่มผู้เป็นความฝันของเราในหนัง ...

โดย: สุภาฯ IP: 210.246.64.14 31 สิงหาคม 2548 22:28:54 น.


Comment No. 11

เขาว่าจะเช้าโรงใช่ไหม อยากดูเป็นฟิล์มจัง

//thunska.diaryhub.com

โดย: ปุ่น IP: 58.8.67.85 1 กันยายน 2548 3:14:43 น.


Comment No. 12

เห็นแผ่นดีวีดีหนังเรื่องนี้ออกมานานแล้วเหมือนกันครับ แต่ก็ยังไม่ได้ไปหามาดู คิดว่าคงเป็นหนังเกาหลีแนวๆอีโรติคเครียดๆ อารมณ์หนังคงจะคล้ายๆกับหนังเกาหลีเรื่อง Desire หรือเรื่องอื่นๆ รู้สึกว่าหนังเกาหลีมีเนื้อหาโทนๆนี้เยอะอยู่เหมือนกันนะครับ พอดีว่าชอบดูหนังแนวๆสบายๆซะมากกว่าน่ะครับ

เพิ่งเห็นรูปในบล็อกของคุณ it ซียูว่าแผ่นหนังออกมาเป็นเวอร์ชั่นลิขสิทธิ์ของไทยแล้ว แต่ไม่รู้ว่ามีเซนเซอร์อะไรหรือเปล่านะครับเนี่ย มีโอกาสจะลองไปหามาดูบ้างครับ

สัปดาห์นี้จะต้องไปดู Farewell Kuro, About Love ก่อนครับ พลาดไม่ได้แน่ๆหนัง 2 เรื่องนี้ครับ

โดย: Tempting Heart 1 กันยายน 2548 4:55:15 น.
 
 

โดย: it ซียู วันที่: 2 กันยายน 2548 เวลา:17:56:47 น.  

 
 
 
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์นะครับ
--- ตอบคุณปุ่น
...หนังเรื่องนี้ก็เห็นว่าเมเจอร์ซื้อลิขสิทธิ์มาอ่ะครับ
แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่ฉายสักที
(ในหนังใหม่ของพันทิพเขียนว่าฉายวันที่ 8 เดือนนี้ ไม่รู้จริงรึเปล่า)

--- ตอบคุณ Tempting Heart
หนังเรื่องนี้ไม่น่าจะเรียกว่าอีโรติกได้นะครับ
เป็นหนังที่ละเมียดละไมที่สุดของคิมคีดุกเลยครับ
แนะนำให้ดู :D

ป.ล. พรุ่งนี้ก็กะจะดู About Love, Kuro เหมือนกันครับ
(แล้ววันอาทิตย์ค่อยดูชาร์ลี & The Day I Became a Woman ก่อนจะเว้นการดูหนังไปอีกนานน)
 
 

โดย: it ซียู วันที่: 2 กันยายน 2548 เวลา:18:00:00 น.  

 
 
 
ละครเวทีที่ได้ดูช่วงนี้
The Lucianos
โดยส่วนตัว
- ชอบการเอาดนตรีแจ๊สมาผสานกับความเป็นมาเฟีย เจ๋งดี (เรื่องของเรื่อง คือ ชอบเพลงแจ๊สแบบชิคาโก้)
- ชอบชารอน มากกกกกกก (รู้สึกไหม? ว่าน้องที่เล่นเป็นชารอน หน้าเหมือนอ๋อมมาก)
- รองลงมาคือ วิกตอเรีย (แต่ส่วนใหญ่ ดูจากผลโหวต ทุกรอบวิกตอเรียเป็นอันดับหนึ่งครับ)
- ส่วนคุณย่ามาร์กาเร็ต จริงๆ แสดงดีเหมือนกัน แต่บทน้อยไปหน่อย เลยค่อนข้างเฉยๆ พอสมควร (แต่จริงๆ 'ก้อง' คนรับบทมาร์กาเร็ต มีตำแหน่งเป็นแอ็คติ้ง โค้ชของละครเรื่องนี้ด้วยนะครับ)
- รอบที่ผมดู ขำมุข (เดาว่าน่าจะคิดสดมั้ง) โฟร์ - มด ของน้องแปวดี ...แป้กมากกกกกก (ฮ่าๆๆๆๆ)
- ส่วนเรื่อง "เสียง" เห็นด้วยกับหลายๆ คนที่บอกว่า เสียงค่อยมากกกก คือ อันที่จริง ผมอยู่แถวหน้า ผมชอบนะครับ กับการใช้เสียงสด เพราะบางครั้ง เวลาใช้ไมค์แล้วเสียงอาจจะอู้ๆ อี้ๆ ได้ (ตย. ที่เห็นชัดคือละครถาปัด เสียงฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง)

แต่... การโปรเจกต์เสียงน่าจะดีกว่านี้
บางคน พูดตอนแรกๆ เสียงค่อยมากๆๆ
สงสารคนแถวหลัง อาจจะไม่ค่อยได้ยิน (มั้ง)

- ผมว่าบทช่วงหลังจากคลี่คลาย 'อ่อน' ไปหน่อยนะครับ
รู้สึกมันเยิ่นเย้อนิดๆ (ขอโทษนะครับ ที่ต้องติตรงๆ -- รู้สึกน้องดิวเขียนบทด้วยรึเปล่าเนี่ย?)
- อย่างไรก็ดี ก็ยังคงชอบละครเวทีเรื่องนี้มากกกกกกกกกอยู่ดี

ป.ล. ขอโทษคุณ Tempting Heart ด้วยนะครับ เมื่อกี้แบตฯ หมดพอดี ...เลยมาเล่าให้ฟังสั้นๆ ก่อนที่จะไปดูละกันครับ
 
 

โดย: it ซียู วันที่: 2 กันยายน 2548 เวลา:19:16:46 น.  

 
 
 
ไม่กล้าอ่านครับ อ่านผ่านๆ กัวเด๋วรู้เนื้อหาหนังมากไป เห็นว่าจะได้ลงโรงนี่นา ตอนนี้เห็นเงียบๆไป ตอน spring summmer ก็ทีนึงแล้ว ไม่รู้จะได้ดูเมื่อไหร่
 
 

โดย: joblovenuk วันที่: 2 กันยายน 2548 เวลา:20:10:51 น.  

 
 
 
สำหรับผม ความฝันกับความไม่จริง มันคืออันเดียวกันครับ
 
 

โดย: merf1970 วันที่: 4 กันยายน 2548 เวลา:8:26:10 น.  

 
 
 
ถ้าดูหนังก่อนอ่านคงได้อรรถรสกว่านี้ ไว้จะตามดูทีหลังนะครับ
ส่วนเรื่องความจริงกับความฝัน เราต่างก็ยืนอยู่บนเส้นบางๆ ของสองสิ่งนี้
ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกที่จะ "เชื่อ" ว่าเราอยู่ค่อนไปทางส่วนไหนมากกว่าเท่านั้น

เรื่อง The Lucianos
ผมชอบชารอนเหมือนกันครับ ชุดเธอ "เขียว" ดี 555
วิคตอเรียก็ฮาครับ ชอบคุณย่า แต่เฉยๆกับตัวพระเอก
(ไม่ดึงดูดเท่าที่ควร เอิ้กๆ) คิดว่าปีหน้าคงไปเถือกไปดูอีก
เสียดายปีนี้อดดู ศึกวังค้างคาว เหอๆ ของมหาลัยเราแท้ๆ
 
 

โดย: Mint@da{-"-} วันที่: 4 กันยายน 2548 เวลา:20:09:32 น.  

 
 
 
หนังเรื่องนี้ ไม่น่าจะใช่ Magical Realism นะคะ
การฝึกวิทยายุทธ ของพระเอก เป็นการฝีกแบบตะวันออก
คล้ายๆ วิชาตัวเบา การหัดย่างก้าว ให้อยู่ข้างหลัง
ทำให้ดูเหมือน มองไม่เห็น
ไม่ใช่การ "หายตัว "

ประเด็น Magical Realism ให้ดูที่หนัง
The House of the Spirit

ส่วนเรื่อง ความจริง ความฝัน นี่ออกจะเป็นมุมมอง
ที่เพ้อ ๆ นะคะ
แปลกใจว่าหนังเรื่องนี้ ใช้เพลง "แขก" เป็นองค์ประกอบ



 
 

โดย: grappa วันที่: 5 กันยายน 2548 เวลา:8:49:41 น.  

 
 
 
ตอบคุณ grappa
... ขึ้นอยู่กับมุมมองของคนมากกว่าครับ
บางคนอาจมองว่าเป็น Satire (เสียดสี)
อีกหลายคนก็อาจมองว่าเป็น Romance
ซึ่งผมว่ามันไม่มีผิดมีถูกครับ
(อันที่จริง ตอนดูจบ ผมมีมุมมองโน้มเอียงไปทางโรมานซ์มากกว่าด้วย)

แต่ที่เขียนออกมาในรูปนี้
ก็เนื่องจากเขียนตามโจทย์ที่อาจารย์กำหนด
(อ. ให้เขียนใน genre Magical Realism)
ในฐานะของนักเรียน
ก็ต้องเขียนตามอาจารย์สั่ง
ก็แค่นั้นแหละครับ

(ตอนที่ดู มีน้องคนหนึ่งบอกว่า ยังสงสัยอยู่เลยว่าพระเอกเป็นผีหรือคน? ...เพราะตอนไต่กำแพง มันดูเว่อร์ จนเหมือนภาพความฝัน ...ก็แล้วแต่คนจะคิดแหละครับ)
 
 

โดย: it ซียู IP: 161.200.255.161 วันที่: 5 กันยายน 2548 เวลา:10:20:15 น.  

 
 
 
ไม่เคยดูละครนิเทศเลยค่ะ
ดูแต่ถาปัด
อิๆ

เพราะดูฟรี

แหะๆ
ขำๆ

อยากไปดูซักที
แต่ตอนนี้ก็อยู่ไกลเหลือเกิน

เห็นทีวันนี้จะได้เข้ากรุงอีกแล้ว
ไปดูพี่เดปป์ค่ะ
ขอบคุณที่เข้าไปให้ความเห็นนะคะ

 
 

โดย: quin toki วันที่: 6 กันยายน 2548 เวลา:10:06:35 น.  

 
 
 
แวะมาทักทายคร้าบบบ
 
 

โดย: merf1970 วันที่: 6 กันยายน 2548 เวลา:10:52:00 น.  

 
 
 
ล่าสุด เค้าว่าหนังจะเข้า 22 ก.ย.

ส่วน ล่าสุด ของ ล่าสุด เค้าว่าจะเข้าที่ house 13 ต.ค.
 
 

โดย: merveillesxx วันที่: 22 กันยายน 2548 เวลา:0:20:19 น.  

 
 
 
คิดเหมือนกันคุณ แกรบป้า ครับ เรื่องนี้ไม่ใ่ช่ Magical Realism ตัวอย่างแนวนี้ที่นึกถึงทันทีคือ Like Water for Chocolate หนังของ คิม คีดุค ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับเกาหลีเท่าไหร่ นอกจาก Spring........ที่ดูเป็นเซ็นแล้ว ดูมันออกจะหลุดโทนไปเป็นเรื่องนามธรรมเกือบทั้งหมด
 
 

โดย: yuttipung IP: 58.10.216.152 วันที่: 30 กันยายน 2548 เวลา:19:06:13 น.  

 
 
 
เก่งจังครับ ผมเองก็ชอบดูหนัง อยากเขียนได้ดีแบบนี้มั่งจัง แต่ยังมึนๆอยู่ (อุอุ) ก็เลยเป็นบล็อกพูดถึงหนังแบบงงๆอย่างที่พี่เห็นนั่นแล...

ขอบคุณที่แวะไปอ่านบล็อกผมนะครับ และขอแอดไว้ด้วยเลยดีกั่ว...
 
 

โดย: nanoguy (nanoguy ) วันที่: 27 ตุลาคม 2548 เวลา:17:19:22 น.  

 
 
 
เขียนดีกระจ่างในความคิดของน้อง Iฯ เราคิดว่าพระเอกฝึกวิทยายุทธได้จริงๆ หลอกๆ โอ้ยย งง วุ้ยย ไม่รู้ละ

ปล.ขอบคุณที่ตอบกระทู้ของเราค่ะ
 
 

โดย: พลอยสีสวย IP: 167.247.219.10 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2548 เวลา:11:07:41 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

it ซียู
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]








Google




ท่องไปทั่วโลกหาแค่ในพันทิบก็พอ
[Add it ซียู's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com