นางฟ้าบนรถฉึกกะฉักกับนายดอกรักไม่รู้โรย
ก่อนอ่านเรื่องนี้ ตะวันออกอยากถามว่า คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือเปล่า
1.
ปู้น ปู้น ฉึกกะฉัก ฉึกกะฉัก ฉึกกะฉัก ปู้น ปู้น เสียงรถไฟขบวนสีดำวิ่งคำรามแข่งกับพายุฝนในคืนอันมืดสนิท อย่างไม่หยุดยั้งและดูเหมือนว่าไม่มีท่าทีว่าจะยอมกัน ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางสิบสองชั่วโมง
ทุกครั้งที่มีอะไรมากระทบจิตใจ หญิงสาวจะขึ้นรถไฟที่หัวลำโพง โดยไม่มีจุดหมาย นั่งไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะไกลได้ ยิ่งใช้เวลาบนรถไฟนานเท่าไหร่ เรื่องราวยิ่งจืดจางลงและพอทำให้ลืมเรื่องนั้นไปได้บ้าง และทุกครั้งก็ไม่ได้ไกลจากเมืองกรุงซักเท่าไหร่ ใช้เวลาอยู่บนรถไฟแค่ไม่กี่ชั่วโมง พอลืมเรื่องราวเธอก็กลับบ้าน
แต่ครั้งนี้หัวใจของหญิงสาวเจ็บช้ำมากเกินกว่าจะทำใจ เพราะคนที่ทำร้ายเธอ เป็นชายที่เธอรัก และผู้หญิงที่ทำให้ชายที่เธอรักเปลี่ยนใจไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นเพื่อนสนิทและรักที่สุดของเธอนั่นเอง ความรักที่หญิงสาวมีให้คนที่เธอรัก มันมิได้มีความหมายอะไรเลย เมื่อเทียบกับของที่เพื่อนสนิทให้กับชายที่เธอรัก เพราะมันเป็นสิ่งที่หญิงสาวไม่มีทางให้ใครก่อนแต่งงาน ไม่เข้าใจว่าการได้หลับนอนด้วยกันนั้นสำคัญกว่าความรักด้วยหรือ
คิดเห็นหน้าคนที่รักกับเพื่อนสนิทแล้วถอนหายใจ หญิงสาวก้มหน้ากอดตุ๊กตาน้องหมีแน่นในอ้อมแขน เพราะน้องหมีคงเป็นสิ่งสุดท้ายที่เป็นเพื่อนและกำลังใจตลอดมา
2.
นี่กว่าจะได้กลับบ้านก็สว่างคาตาเลยเรา เมื่อคืนมันเป็นมหกรรมของคนอกหักมารวมกันหรือไงก็ไม่รู้ ในที่ร่ำสุรานั้นมีแต่เรื่องของคนอกหักเล่าให้กันฟังทั้งคืน ประกอบกับฝนกระหน่ำอย่างไม่ลืมหูลืมตา เลยทำให้ร่ำสุรากันยันสว่างคาตา ถึงค่อยเลิกรากันไป
โชคดีที่เช้าวันนี้ เจ้าโคด้ามอเตอร์ไซด์ของตะวันออก ไม่งอแงเท่าไหร่ ทั้ง ๆ ที่จอดตากฝนทั้งคืน เจ้าโคด้ากับเจ้าของที่ยังไม่ได้นอนมาทั้งคืน ค่อย ๆ พากันเลียบถนนริมคลองติดทางรถไฟกลับบ้าน
มองทางรถไฟแล้วก็ให้นึกถึงมุขเสี่ยว เสี่ยวของโซดาไฟเมื่อคืน บนรถไฟนี่น่ะมีนางฟ้านั่งมาทุกขบวนเลยนะโว้ย เพราะวิ่งมาจากกรุงเทพเมืองฟ้าเลยเชียวล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า วันพรุ่งนี้ว่าจะไปยืนแถวสถานีรถไฟเผื่อนางฟ้ามีใจให้ คนที่ไม่รักเราจากไป คนที่ใช่กำลังนั่งรถไฟมา โซดาไฟพูดเป็นกลอนแต่งเอง อกหักก็ลืมมันซะ แล้วหาคนรักใหม่ ทุกคนสรุปเมื่อคืน " แต่ทำไมเราถึงได้รักเธอคนนั้นไม่รู้ลืมเลย "
3.
ปู้น ปู้น ฉึกกะฉัก ฉึกกะฉัก ฉึกกะฉัก ปู้น ปู้น ฟ้าสว่างแล้วรถไฟวิ่งใกล้ปลายทางเข้ามาทุกที แต่ใจของหญิงสาวนั้นยังไม่ดีขึ้นทั้ง ๆ ที่เกือบสิบสองชั่วโมงแล้ว หญิงสาวมองผู้คนบนรถไฟแล้วทำให้พอยิ้ม ๆ ขึ้นมาได้ วันนี้ดูทุกคนมีหน้าตามยิ้มแย้มแจ่มใส ทั้งที่ต้องไปทำงานหนัก และเหน็ดเหนื่อย แต่ยังมีรอยยิ้ม น้องไม่ยอมแพ้หรอก พี่ชายว่าไงล่ะ สู้มั๊ย แม่ค้าขายไก่ย่างถาม สู้เพื่อแม่ครับ เด็กชายคนพี่ถือดาบพลาสติกตอบ แล้วมองไปทางน้องชายตัวน้อย แม่ค้าคนนั้นเอามือลูบหัวลูกน้อยทั้งสองยิ้มอุ่นใจ หญิงสาวมองยิ้มกับภาพที่เห็น ไม่แพ้ ไม่แพ้ เราต้องไม่แพ้ เพราะเรามีหัวใจไม่ยอมแพ้ หญิงสาวพูดเบา ๆ กับตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ให้นึกถึงเรื่องราวของคน ๆ หนึ่งที่เธอประทับใจขึ้นมาได้ นายดอกรักไม่รู้โรย หญิงสาวเรียกคน ๆ นั้น คนที่ไม่ใช่ผู้ชายที่ดีที่สุดแต่จะเป็นผู้ชายที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ นึกถึงเรื่องที่นายดอกรักไม่รู้โรยเขียน ก็ยิ้ม ๆ ทุกทีเลยครั้งนี้ก็ด้วย คราวนี้เธอขึ้นรถไฟมาโดยไม่รู้ว่าจะไปไหน แต่เธอนึกออกแล้วว่าเธอจะไปไหน สถานีที่ไม่มีคนรักลง เธอเอ่ยปากออกมาเบา ๆ คิดแล้วก็มองออกไปนอกหน้าต่างที่ดูเหมือนว่าพายุจะพ่ายแพ้ซะแล้ว เป็นเม็ดฝนปรอย ๆ ไหลลงตามหน้าต่าง เปิดหน้าต่างหยิบรูปชายคนรักและเพื่อนสนิททั้งหมดที่มีออกจากกระเป๋า พูดคุยกับน้องหมีบอกว่าเรื่องราวบางอย่างก็ลืมมันซะตอนนี้เลย แต่ในขณะที่ปล่อยรูปภาพออกจากตัวรถนั้น น้องหมีหลุดมือลอยออกจากหน้าต่างไป
4.
ปู้น ปู้น ฉึกกะฉัก ฉึกกะฉัก ฉึกกะฉัก ปู้น ปู้น เสียงรถไฟขบวนสีดำได้ยินมาแต่ไกลและแซงเจ้าโคด้าในเวลาต่อมา เรามองดูรถไฟวิ่งผ่านไป ยิ้มกับคำพูดของโซดาไฟ ไม่แน่นะโคด้านางฟ้าที่ว่าอาจมากับรถไฟขบวนนี้ก็ได้
แล้วมองเห็นอะไรอย่างหนึ่งลอยออกจากรถไฟตกลงบนถนนข้างหน้า พอโคด้าเข้าไปใกล้ก็เห็นว่าเป็นตุ๊กตาหมีคล้าย ๆ ยี่สิบเอ็ดแต่ตัวเล็กกว่า โคด้า สงสัยว่าแกจะต้องพาเราไปสถานีที่มีนางฟ้าลงแล้วล่ะ
ปู้น ปู้น ฉึกกะฉัก ฉึกกะฉัก ฉึกกะฉัก ปู้น ปู้น รถไฟเทียบชานชลา เสียงประกาศบอกให้รู้ว่าเป็นสถานีปลายทางแล้ว ผู้คนทยอยออกจากสถานีไปได้ซักระยะหนึ่ง เรากับโคด้าก็มาถึงสถานีรถไฟ ถือตุ๊กตาหมีมายืนหน้าสถานีเผื่อเจ้าของเห็นจะได้ทัก เราจะได้คืนตุ๊กตาหมีให้เจ้าของและกลับบ้านไปนอนซะที
ผู้คนทยอยออกจากสถานีกันเกือบหมดแล้ว ยังไม่มีเจ้าของตุ๊กตาหมีมารับสักที หันซ้ายหันขวาไม่เห็นใครกำลังตัดสินใจว่า จะเอากลับบ้านหรือจะฝากไว้กับนายสถานีรถไฟดี
คุณเก็บได้เหรอค่ะ เธอเป็นเจ้าของเหรอ เมื่อหญิงสาวตอบว่าใช่ ก็คืนตุ๊กตาให้เธอ หญิงสาวกอดมันไว้แน่นเหมือนกับว่าจากกันมานานแสนนาน ไปนะ เราบอกกับหญิงสาว ขอบคุณมากนะ คุณชื่ออะไรเหรอ ถามเราแบบยิ้ม ๆ คล้ายว่าจำเราได้แต่ไม่แน่ใจ เราชื่อตะวันออก หญิงสาวยิ้มมองเราแล้วส่ายหัวไปมานึกขำอยู่ในใจ อยากดูหนังมั๊ย เราจะเลี้ยงเป็นการขอบคุณ หญิงสาวเอ่ยยิ้ม ๆ เราหันมามองตอบเธอว่า คงไม่ใช่วันนี้เพราะอยากนอนมากเลย เห็นหน้าหญิงสาวจากหน้าเศร้า ๆ กลายป็นแจ่มใสแล้วพูดเสียงออกอาการดีใจออกมา วันไหนอยากดูหนังช่วยบอกด้วย แล้วเราจะไปช่วยล้างจาน " เธออ่านเรื่องของตะวันออกด้วยเหรอ " เราถาม " ใช่เราเรียกตะวันออกว่านายดอกรักไม่รู้โรย "
***เรื่องนี้ยังไม่จบนะ โปรดติดตามตอนต่อไปนะ... ***
รูปนี้เด็กหญิงแม่น้ำแกล้งเจ็บขาเพื่อขี่หลังตะวันออกนะ
Create Date : 14 กรกฎาคม 2550 |
|
21 comments |
Last Update : 3 กันยายน 2552 12:02:04 น. |
Counter : 1061 Pageviews. |
|
|
|
วาดภาพ....น่ารักจัง
ด.ญ.แม่น้ำ แลบลิ้นขี้เล่นนะ
จะตามอ่าน "เรื่องของตะวันออก" จนกว่าไม่เขียน
เด็ก ๆ เคยขี่คอพ่อ จากบ้านไปตลาดในเมือง
และขี่หลังพี่ชาย ตอนไปวิ่งเล่นจนเหนื่อย แฮก ๆ
ตอนนี้อยากขี่หลัง ใครสักคน....ที่รัก ว้าว!
เพราะ "เรื่องของตะวันออก" นะเนี่ย
อารมณ์แหว๋วเชียว อะคึ่ ๆ
ปล. เกือบลืมตอบคำถาม
....... คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือเปล่า
......." เชื่อค่ะ" เชื่อตั้งแต่ชาติที่แล้ว