Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
เรื่องเล่า...ของฉันกับฮ่องกง
เรื่่องเล่า...วันหนึ่งวันนั้น
เรื่องเล่า...สาระอยากบอก
เรื่องเล่า...หนังสือเล่มนั้น
เรื่องเล่า...อะไรก็ได้ที่คิดถึง
เรื่องเล่า...อิ่ม อร่อย
เรื่องเล่า...วันที่ฉันอยากเขียนเล่า
<<
มกราคม 2552
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
10 มกราคม 2552
พิธีกงเต็ก
All Blogs
Kiss
พิธีกงเต็ก
การจดทะเบียนสมรส
๙๙๙ ความลับในหลวง...ที่ชาวไทยอยากรู้ ๙๙๙
๙๙๙ ที่สุด....ของหัวใจ ๙๙๙
พิธีกงเต็ก
..
..
..
...หนึ่ง
ในพิธีกรรมงานศพของชาวจีน ซึ่งมีให้เห็นอยู่ทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ลูกหลานที่มีเชื้อสายจีนอย่างเรา การประกอบพิธีมีขั้นตอนมากมาย ล้วนแล้วแต่มีความหมายอยู่ในแต่ละขั้นตอนนั้นๆ ฉันเองได้ร่วมพิธีกงเต็กครั้งแรกเมื่อต้องเสีย "อาม่า" ไปเมื่อ 20 ปีก่อน
แต่ในครั้งนั้น ไม่สามารถตอบคำถาม หรือ รู้เรื่องราวเกี่ยวกับพิธีกงเต็กได้ เนื่องด้วยความเป็นเด็กในขณะนั้น ผ่านมาถึงวันนี้ด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น ได้ไปร่วมงานศพของผู้ใหญ่หลายท่าน หลายครั้งทำให้อยากจะรู้เรื่องบ้างถึงความเป็นมาในพิธีกรรมนี้ ดังนั้นคราวนี้จึงลองหาข้อมูลมาเก็บไว้ในบล๊อกของตัวเอง เพื่อไว้อ่านเป็นสาระให้ตัวเองบ้าง และหากใครเข้ามาอ่าน ก็อาจจะได้รับคำตอบถึง "พิธีกงเต๊ก" นี้บ้างเช่นกันนะคะ
:: ประวัติ,ความหมายพิธีกงเต็ก
พิธีกงเต็กนั้นตามอนุศาสน์พระบรมศาสดาในลัทธิมหายานแห่งพระพุทธศาสนา เป็นพิธีกรรม บำเพ็ญกุศลอุทิศแก่ผู้ล่วงลับไปในเวลาถัดมรณะเป็นต้น ระบุนามผู้เป็นเจ้าภาพไว้ดังนี้
ในสัตวารแรก หรือ 7 วันแรก ให้บรรดาทายาทเป็นเจ้าภาพ
ในสัตวารที่ 3 หรือ ครบ7 วัน ให้บรรดาบุตรเขยเป็นเจ้าภาพ
ในสัตวารที่ 5 หรือ ครบ 7 วัน ให้บรรดาฝ่ายญาติเกี่ยวดองหรือมิตรสหายเป็นเจ้าภาพ
ในสัตวารที่ 7 หรือ ครบ 7 วัน เรียกว่า ครบ 50 วัน ให้บรรดาทายาทวงศ์ญาติเป็นเจ้าภาพ
ในสัตวารที่ 14 หรือ ครบ 7 วัน เรียกว่า ครบ 100 วัน ให้บรรดาทายาทวงศ์ญาติเป็นเจ้าภาพ
หมายเหตุ
เฉพาะในสัตวารที่ 3และที่ 5 ในระยะหลังมักปรากฎว่าผู้เป็นเจ้าภาพมักมีธุระและกิจ จำเป็นไม่สามารถจะกระทำได้ตามกำหนด ก็สามารถเลื่อนวันไปประกอบพิธีกงเต็กเอาในวันที่ขึ้นมาหรือถัดลงไปแล้วแต่โอกาสอำนวยและถือปฏิบัติกันในปัจจุบันนี้ พิธีกงเต็กประกอบขึ้น
โดยเจ้าภาพนิมนตร์พระภิกษ ุเจริญพระะพุทธมนตร์อัญเชิญวิญญาณผู้มรณะขอขมากรรม ต่อพระศรีรัตนตรัยพร้อมด้วยการบริจาคไทยต่างๆอุทิศแก่บรรดาภูติ ปีศาจ ปรทัตตูปชีวีหรือเปรต ตลอดจนมนุษย์ผู้มีร่างกายทุพพลภาพต้องอาศัยผู้อื่นยากจนยากไร้เป็นบุญกุศลเพื่อช่วยวิญญาณของผู้มรณะจะได้หลุดพ้นจากกองทุกข์ไปสู่สุคติ ถือว่าเป้นพิธีกรรมที่บรรดาทายาทวงศ์ญาติ ญาติเกี่ยวดองมิตร และสหายแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ที่ล่วงลับไปให้ประสบความสบายในแดนสุขภูมิ
ความหมาย คำว่า
กงเต็ก
นี้เป็นสองคำรวมกัน คือ
1. คำว่า
กง
ในพระพุทธศาสนาลัทธิมหายานมีอรรถ หมายถึง การกระทำในสิ่งที่ถูกที่ชอบซึ่งเป็นประโยชน์แทนวิญญานผู้มรณะ เพื่อประสบความสุขความสบายและผลแห่งศีลที่วิญญาณได้รับต่อหน้าพระพุทธปฏิมากร กับผลแห่งการถวายพระพุทธบริโภค ที้งผลแห่งไทยทานที่ได้บริจาคแก่ปวงภูติปีศาจ เปรต อสุรกายน้อยใหญ่และอันไร้ที่พึ่งเหล่านี้ จะบังเกิดบุญราศีกับทางสุขคติแก่วิญญาณผู้มรณะ
2. คำว่า
เต็ก
มีอรรถอธิบายว่า กุสลกรรมอันเกิดจากกรรมดีงาม อำนวยหิตาประโยชน์ ประโยชน์ จากการเกื้อกูลใหญ่น้อย น้อมอุทิสให้แก่วิญญาณผู้มรณะบรรลุถึงปัตตานุโมทนา การโมทนา ส่วนบุญที่ผู้อื่นให้ด้วยเดชะอำนาจกับบารมแห่งคุณพระรัตนตรัย และอนุภาพแห่งทวยเทพเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์จะดลบันดาลถึงความสุขสังคโยกกับบุญญภาพแก่วิญญาณผู้มรณะี
ประวัติเบื้องต้น
แห่งการมีพิธีกงเต็กขึ้น ในพระคัมภีร์มีกล่าวไว้มาก ดังจะยกมาบรรยายเป็นอุทาหรณ์ดังต่อไปนี้ในสมัยราชวงศ์เหลียง อันมี พระเจ้าเหลียงบู่ตี้ ครองราชย์เมื่อปีพุทธศักราช 1450 พระองค์ทรงนับถือพระพุทธศาสนามาก ทรงปฏิสังขรณ์และท่านบำรุงวัดอารามทั่วแผ่นดินทรงพระเจริญพระพุทธมนตร์ทั้งเช้าคำเป็นกิจวัตรส่วนพระนางฮีสีฮองเฮา ทรงเกลียดจัง พระพุทธศาสนาถึงกับครั้งหนึ่งได้นำเอาพระคัมภีร์ไปเผาทิ้งครั้นพระนางสิ้นพระชนม์ลง กรรมชั่วนั้น ให้ผลแก่วิญญาณพระนางไปเป็นงูอยู่ในนรกอบายภูมิ วันหนึ่งงูตัวนี้ได้มาเข้าฝัน ต่อหน้าพักพักตร์พระเจ้าเหลียงบู่ตี้ พรรณนาเล่าถึงความชั่วที่ได้กระทำไปเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่
บัดนี้ได้รับการทรมานอยู่ในนรกและรู้สึกตัวแล้ว จึงทูลขอพระกรุณาต่อพระสาวมีช่วยเธอให้พ้น จากความทุกข์ในครั้งนี้ด้วย พระเจ้าเหลียงบู่ตี้ จึงนิมนตร์ ท่านพระอาจารย์ ป๋อจี้ ผู้เป็นพระภิกษุอาวุโสและเคร่งคัดมาทำพิธีกงเต็กอุทิศบุญกุศลให้แก่พระนางไปต่อมาไม่ช้านานพระนางได้มาเข้าฝันกราบทูลว่าเธอได้หลุดพ้นไปสู่สุคติแล้ว ในพระสูตรมีอรรถาธิบายดังนี้
ฉะนั้นการทำพิธีกงเต็กบำเพ็ญกุศลแก่วิญญาณผู้ที่ล่วงลับไปจึงได้ปฏิบัติต่อๆกันมาทั่วประเทศจีนตราบเท่าทุกวันนี้
:: ระดับพิธีการกงเต็ก ทักษิณานุปาทาน ::
1.เปิดมณฑลพิธี
เป็นพิธีเปิดงานเพื่อนอบน้อมอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายอันมีคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ กับคุณพระโพธิสัตว์เจ้า พระอรหันต์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์เพื่อมาประทับที่บูชาเป็นทิพย์พยานในการประกอบกองการบำเพ็ญกุศลพิธีกงเต็ก ให้แก่ผู้ล่วงลับ
เป็นพิธีขอพระบารมีของพระพุทธองค์และพระโพธิสัตว์ส่ง พระวิสุทธิ์รัศมีไปทั่วปรโลก น้อมนำเชิญดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับ มาสิงสทิต ณ รูปจำลองดวงวิญญาณอนึ่งได้จัดทำรูปสมมุติทำด้วยกระดาษที่เขียนชื่อและนามสกุลไว้ชัดเจนรูปกระดาษนี้ทางจีนเรียกว่า ถ่งพวง สันสฤตเรียกว่า ธวัชปตาก หรือเกตุแปลว่า ธงรูปภาพหรือเครื่องรูปภาพผู้มรณะ เพื่อจะให้ดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับ ได้มาร่วมรับการบำเพ็ญกุศล
3. พิธีเซ่นข้าวบรรพบรุษ
เป็นพิธีน้อมเชิญดวงวิญญาณของบรรพบรุษที่ได้ล่วงลับไปแล้วให้ได้มาร่วมรับการบำเพ็ญกุศลมารับฟังธรรมจำศีล รับประทานอาหาร รับหีบเสื้อผ้า สิ่งของเงินทอง เครื่องใช้ภาชนะใช้สอยต่างๆเพื่อดวงวิญญาณจะได้นำไปใช้ยังภพเบื้องหน้า
4.พิธีเซ่นข้าวผู้ล่วงลับ
เป็นพิธีน้อมเชิญดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับ ให้ได้มาร่วมรับการบำเพ็ญกุศลมารับฟังธรรมจำศีล รับประทานอาหาร รับหีบเสื้อผ้า สิ่งของเงินทองเครื่องใช้ภาชนะใช้สอยต่างๆ เพื่อดวงวิญญาณจะได้นำไปใช้ยังภพเบื้องหน้า
5.เวียนเทียน
เป็นพิธีน้อมถวายเครื่องสักการะบูชาคุณพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสงฆ์กับคุณพระโพธิสัตว์เจ้า์พระอรหันต์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ ตามโต๊ะหมู่บูชาต่างๆ ที่มาเป็น ทิพย์พยานในการประกอบกองการบำเพ็ญกุศลพิธีกงเต็ก ให้แก่ผู้ล่วงลับ โดยพระสงฆ์จะสวดสรรเสริญอารธนาคุณต่างๆอย่างเช่น สวดสรรเสริญอารธนาคุณสมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า คุณพระโพธิสัตว์เจ้า ทวยเทพยดา อินทร์พรหมและสิ่งศักดิ์ทั้งหลาย
6.พิธีตีเจดีย์ระฆังทอง
เป็นพิธีเปิดขุมนรกเพื่อจะให้ดวงวิญญาณนั้นได้ไปข้ามสะพานแม่น้ำโอฆสงสาร เบื้องต้นแห่งการมีพิธีเปิดขุมนรกนี้ พระอุลัมพนสูตร มีอรรถว่า ในสมันพุทธกาล มารดาของพระโมคคัลลานเถระไม่นับถือในพระพุทธศาสนา ประกอบปาณาติบาตโหดร้ายต่อสัตว์ต่างๆมากมาย ชอบกินเนื้อ เต่า ตะพาบน้ำ งู ครั้นตายไปวิญญาณก็ไปนรกอเวจี พระโมคคัลลานเถระเล็งทิพย์พยานไปเห็นมารดาทนทุกขืทรมานอดอยากมีแต่หนังหุ้มกระดูก จึงเกิดความสงสารเต็มกำลัง เข้าฌานนำอาหารใส่ในบาตรลงไปยังเมืองนรกเพื่อโปรดให้มารดาได้บริโภค แต่เมื่อพระโมคคัลลานเถระมาถึงปรากฏว่าประตูนรกปิดเสียแล้วพลันน้อยใจเอาด้ามคฑาธุดงค์กดลง กับพื้นดิน คฑานี้ด้ามยาวทำด้วยไม้เรียกว่า เซียะเจี๋ยง ส่วนยอดคฑาทำด้วยตะกั่ว ลวดลายโปร่งสี่แฉกมีคล้ายรูปเสมาธรรมจักรวงล้อกลมรวม 12ล้อเป็นอย่างน้อยแบ่งคล้องติดอยู่กับแฉกเมื่อพระภิกษุธุดงค์อยู่ในป่าเขย่าคฑานี้เสมอทำให้เกิดเสียงดัง เพื่อให้สัตว์น้อยใหญ่ได้จะหลบหลีกไปจากทางเดินพระโมคคัลลานเถระถือคฑาธุดงค์ นี้เสมอทันใดนั้นเองก็เกิดมีแสงสว่างรุ่งโรจน์ออกจากคฑาพุ่งตรงไปยังประตูเมืองประตุเมืองเปิดออก จึงเป็นโอกาสให้พระโมคคัลลานเถระได้พบกับมารดาประการเช่นนี้ พิธีนี้บูรพาจารย์ตั้งชื่อว่า พิธีเปิดประตูเมืองนรก พระสงฆ์สวดมนต์อาศัยพระบารมีคุณพระศรีรัตนตรัยเจ้าเปิดประตูนรกทั้ง 18 ขุม เพื่อโปรดสัตว์ที่ตกทุกข์ได้ยากเหล่านั้นมีโอกาสบรรเทาทุกข์เมื่อได้ยินเสียงระฆังและเสียงสวดพระพุทธมนต์จากพิธีกงเต็ก
7. พิธีข้ามสะพาน
เป็นพิธีน้อมเชิญดวงวิญญาณของผู้ที่ได้ล่วงลับไปแล้วนั้นให้ได้มาข้ามสะพานแม่น้ำโอฆสงสารเพื่อให้ดวงวิญญาณ เดินทางไปใช้เงินปีปฏิสนธิแก่พระคลังตามปีเกิด (เล่าว่าเมื่อครั้งดวงวิญญาณที่จะมาเกิดทุกคนนั้นได้เคยยิบยืมเงินทองจากพระคลังมาเกิด) เพื่อให้พระคลังได้ลบล้างบัญชีหนี้สินติดค้าง เพื่อจะให้ดวงวิญญานได้บริสุทธิเดินทางไปยังแดนสุขาวดีี้สะพานที่ข้ามนี้มีนามว่า "สะพานโอฆสงสาร" ซึ่งสัตว์โลกทั้งบวงจะต้องข้ามกันในเมื่อยังมีการเวียนไหว้ตายเกิดอยู่ในโลกไม่มีทางหลีกพ้นส่วนการทิ้งสตางค์ลงหัวท้ายสะพานนั้นเป็นการโปรยทานแก่สัตว์โลก ที่ตกทุกข์ได้ยากเป็นประการหนึ่งอีกประการหนึ่งนั้น หมายถึงว่า เมื่อสัตว์โลกถึงแก่กาลมรณะแล้ว ทุกสิ่ทุกอย่างตลอดจนของที่รักกับทรัพย์สมบัติที่สะสมไว้ จะต้องสละทิ้งหมดไม่สามารถจะนำติดตัวไปได้ ทั้งนี้เป็นเครื่องเตือนสติแก่ผู้อยู่หลังสังวร ไว้ว่าอย่าได้ประมาทคือ ความอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สะพานนี้ทางจีนเรียกว่า ไน๊ห่อเกี๊ยว หรือ สะพานโอฆสงสาร และแม่น้ำนี้เรียกว่า ไน๊ห่อโคย แปลว่า แม่น้ำโอฆสงสาร ชื่อกันว่าผู้มีบุญจะมีสะพานเงินสะพานทองรองรับวิญญาณแต่หากประกอบกรรม ชั่วจะต้องว่ายแม่น้ำข้ามและอกุศลกรรมจะถ่วงให้จมอยู่ในน้ำต้องข้ามแม่น้ำด้วยความยากลำบาก
8. พิธีขอสมากรรม
เป็นพิธีเพื่อนำดวงวิญญาณนั้นน้อมขอสมากรรมต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ครั้งสมัยเมื่อดวงวิญญาณนั้นได้มีชีวิตอยู่เคยอาจได้ล่วงเกินด้วย กายกรรม มโนกรรม วจีกรรม กรรมใดๆก็ดี ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ก็ขออโหสิกรรมให้แก่ดวงวิญญาณ เพื่อดวงวิญญาณนั้น จะได้ไปยังแดนสุขาวดีเป็นที่หมาย
9. พิธีเวียนเครื่องกระดาษ
เป็นพิธีที่ลูกหลานของดวงวิญญาณนั้น ได้จัดสร้างมอบบ้าน ข้าวของเงินทองมอบให้แก่ผู้ล่วงลับนั้น ไปใช้ยังภพเบื้องหน้า
10. พิธีลาที่บูชา
เป็นพิธีน้อมส่งเสด็จองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายกลับสู่สวรรสรรค์ดาวดึงส์และลาพระคัมภีร์กรวดน้ำ ให้พรแก่เจ้าภาพเป็นอันว่าเสร็จพิธี
ปล.
ขอบคุณที่แวะมาชมบล๊อกนะคะ
เรื่องราวเกี่ยวพิธีกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ
:
คลิ๊กที่นี่
Create Date : 10 มกราคม 2552
Last Update : 10 มกราคม 2552 15:19:42 น.
2 comments
Counter : 2369 Pageviews.
Share
Tweet
เคยได้ทำพิธีนี้มา2ครั้ง ครั้งแรกเมื่อ20 กว่าปีก่อน ยังเด็กเล็กมาก ก็เดินตามๆกับญาติพี่น้อง
ครั้งที่2เมื่อ 10กว่าปี ก่อน ก็เดินๆตามญาติพี่น้องไปเหมือนกัน
ตอนนั้นไม่รู้จริงๆว่าพิธีต่างๆ หมายความว่าอะไร
รู้แต่ว่ามันนานมาก แต่ตอนนี้มีให้อ่านแล้ว ขอบคุณมากค่ะ
ปล.แต่หวังว่าคงไม่ต้องทำพิธีนี้ให้กับใครอีก
โดย:
currywurst
วันที่: 10 มกราคม 2552 เวลา:16:42:30 น.
โดย:
CrackyDong
วันที่: 11 มกราคม 2552 เวลา:6:46:38 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
A'Jim
Location :
KLN Hong Kong SAR
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [
?
]
:: ::
ฉันเป็นผู้หญิงธรรมดา ที่มีโลกส่วนตัวเล็กๆ
มีความสุขกับชีวิตในทุกวัน
บางวันสุขใหญ่ บางวันสุขเล็ก
ก็ไม่เป็นไรเนาะ ยังไงก็ยังเป็น "ความสุข"
::
ฉันชอบอ่านบล็อก ชอบดูภาพถ่าย
ชอบอ่านรีวิว ชอบดูหนังตลก ติดละคร
และชอบอีกหลายอย่าง แล้วแต่อารมณ์จะพาไป
::
เราอาจจะรู้จักกันผ่านบล็อก ผ่านความคิด
ผ่านถ้อยคำเขียน แต่มันยังคงไม่ใช่ทั้งหมด
เป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งของตัวฉัน
::
การเขียนบล็อกเป็นความสุขอย่างหนึ่ง
และเพราะบล็อกนี้ ทำให้ฉันได้รู้จักคำว่า
มิตรภาพออนไลน์ นั่นมี
..." อยู่จริง "
:: :: ::
New Comments
Friends' blogs
kamuttira
Webmaster - BlogGang
[Add A'Jim's blog to your web]
Links
BlogGang.com
MY VIP Friend
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ครั้งที่2เมื่อ 10กว่าปี ก่อน ก็เดินๆตามญาติพี่น้องไปเหมือนกัน
ตอนนั้นไม่รู้จริงๆว่าพิธีต่างๆ หมายความว่าอะไร
รู้แต่ว่ามันนานมาก แต่ตอนนี้มีให้อ่านแล้ว ขอบคุณมากค่ะ
ปล.แต่หวังว่าคงไม่ต้องทำพิธีนี้ให้กับใครอีก