Bloggang.com : Ultra_Mania : จากรับน้องถึงซ้อมเชียร์

จากรับน้องถึงซ้อมเชียร์

ข่าวที่สื่อกระพือเรื่องการรับน้องอันโหดร้าย ลามก สัปดี้ สัปดน จากรุ่นพี่ที่เก็บกด มันเป็นเหมือนการแก้แค้น (อันนี้ไม่ได้เหมารวมนะ หมายถึงบางที่)

จนตอนนี้หลายฝ่ายก็ออกมาคัดค้าน พ่อแม่บางคนก็กลัวว่าสถาบันที่ลูกตัวเองได้ไปเรียนนั้น จะมีการรับน้องที่รุนแรงหรือเปล่า อุลตร้าไม่อยากบ่นมากหรอก เค้าบ่นกันมาเยอะแล้ว ทำไมนะ อยากรู้จริงๆ ตัวอย่างการรับน้องที่ดีๆ ก็มีตั้งเยอะ ทำไมไม่ทำกัน คนเรานี่ทำไมเข้าใจยากจัง

ที่จะพูดถึงวันนี้ก็คือ ประสบการณ์ตรงที่อุลตร้าได้เจอมากับตัวเอง (ก็มันบล็อคอุลตร้ามาเนียนี่เนอะ)ก็ข่าวน้องหญิง ม.บูรพา ที่ซ้อมอเมริกันเชียร์ลีดเดอร์แล้วพลัดตกลงมานั่นแหละ ตอนนี้ก็ช่วยกันอวยพรให้เรื่องนี้จบได้ด้วยดีดีกว่า จากนี้คงมีมาตรการอะไรมากวดขันมากขึ้น

เอ้า!!! มีคนบ่นแล้ว เมื่อไร ไอคุณอุลตร้า มั๊นจะเข้าเรื่องซะทีเนี่ย อะอ่ะ เรื่องก็มีอยู่ว่า วันนั้น วันไหนก็ไม่รู้ อุลตร้ากะแม่อุลตร้า นั่งดูรายการ ถึงลูกถึงคน

ตอนที่ไปสัมภาษณ์นักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์น้องหญิงอ่ะ ดูไปดูมา แม่อุลตร้า อยู่ดีดี ก็หัวเราะออกมา ขำอยู่คนเดียว อุลตร้าก็งงกะแม่เลย ในรายการเค้าออกจะเศร้ากัน แต่นี่อะไร แม่อุลตร้าทำอย่างกับว่านั่งดูตลกอย่างไงอย่างงั้น ถามก็ไม่ตอบ นั่งหัวเราะอยู่นาน อุลตร้าทนไม่ไหว เลยบอกว่า "ถ้าไม่หยุดหัวเราะ แล้วเล่าให้ฟังว่า ขำอะไร จะขึ้นไปนอนแล้ว งอนนะ ฮึ"

สำเร็จ ไม้ตายนี้ได้ผล แกหยุด แล้วบอกว่า "นึกถึงตอนนี่อุลตร้า ซ้อมเชียร์แล้วตกลงมาอ่ะ" อุลตร้านึก...เราไปตกตอนไหนหว่า ไม่ถึง2วินาที ภาพเหล่านั้น ก็ลอยเข้ามา อุลตร้าซ้อมเชียร์อยู่หน้าตึก สมาชิกในทีมก็ยังมาไม่ครบ ทั้งที่เลยเวลาแล้ว มารู้อีกที วันนี้เค้ามีเรียนกัน เลิกดึกหน่อยล่ะ ด้วยความที่เป็นคนขยัน (อิอิ ขยันหาเรื่องใส่ตัว) เพื่อนที่เป็นฐานก็มาแล้ว เราซ้อมตัวต่อกันนิดหนึ่งดีกว่า อุลตร้าเป็นคนตัวเล็กหน่อย จึงได้เป็นชั้นสอง ก็ซ้อมธรรมดา ขึ้นพักอกแค่นั้นเอง

พอสักพัก หัวหน้าทีมมา ก็เลยให้ทำท่าใหม่ ท่าอะไรไม่รู้ ไม่ได้จำ เพราะสิ่งที่ต้องจำคือ อุลตร้าตกลงมา ด้วยความที่เป็นท่าใหม่ ยังงงอยู่ และเพื่อนที่เป็นฐานเหนื่อยล้าด้วย ในความรู้สึกเราคือไม่เป็นอะไร เพราะเอามือซ้ายยันไว้ เพื่อนก็ช่วยเซฟด้วย พออุลตร้าถึงพื้น ก็ปัดแข้งปัดขา ลุกขึ้น อ้าปากพูดกับเพื่อนว่า "ไม่เป็นไรหรอก เห็นมั้ย"

เพื่อนบอกว่า "เห็น เห็นอะไรล่วงมาจากปากอุลตร้าไม่รู้อ่ะ ปากแกมีเลือดด้วย" ก้มลงมองหาวัตถุนั้น เห็นแล้ว ฟันนั่นเอง หยิบขึ้นมาดู โห ฟันซี่ใหญ่ด้วย เป็นฟันหน้า เพื่อนหลายคนหน้าเสียแล้ว แต่อุลตร้าก็ไม่อยากให้เพื่อนรู้สึกไม่ดี ก็เลยหัวเราะ บอกแย่จัง พรุ่งนี้ว่าจะไปถ่ายรูปสักหน่อย คงต้องถ่ายแบบยิ้มไม่เห็นฟันแล้วล่ะ ฟันหน้าหลอ อย่างเนี้ย

พอกลับบ้าน(ยังไม่ไปหาหมอนะ บ้ามั้ย) อุลตร้าบอกกับเจ้าพ่อเจ้าแม่อุลตร้าว่า ฟันหักอ่ะ ตกลงมาจากซ้อมเชียร์ เอาหน้าลง มือยันพื้น หัวสมองไม่กระทบกระเทือน พรุ่งนี้ค่อยไปหาหมอเนอะ วันนี้มันดึกแล้ว เจ้าพ่ออุลตร้าบอกว่า "เลิกได้ไหม เลิกเลยนะลูก พ่อกับแม่กลัวว่า ถ้ามันมีอะไรมากกว่านี้ เดี๋ยวทำใจไม่ได้"

อุลตร้าบอกว่า "ของานนี้ งานเดียวนะ คุยกับเพื่อนไว้แล้ว ถ้าออกตอนนี้ แล้วเค้าก็ไม่ได้แข่งอ่ะดิ ไม่ต้องต่อตัวก็ได้ เต้นแร้งเต้นกาเอา" สรุปแล้ว เปลี่ยนท่าต่อตัวที่มีอุลตร้า อยู่ฐานสองทั้งหมด เวลาต่อตัว อุลตร้าก็เป็นคนช่วยเซฟ อยู่ข้างหลัง แล้วฟันล่ะ ตอนนี้ใส่ฟันปลอมอยู่ ถ้าไม่บอกก็ไม่มีใครรู้หรอก (ป่านนี้ก็รู้กันหมดแล้วมั้ง)

กรณีของอุลตร้า ความเสียหายมีไม่มาก แต่ก็ทำให้เพื่อนๆได้มีความระมัดระวังมากขึ้น มีการป้องกันอย่างดี เหตุการณ์ที่ผ่านมา จึงกลายเป็นเรื่องที่เล่ากันแล้ว ก็เรียกเสียงหัวเราะ ขำขำ ฮาฮา

แต่กรณีของน้องหญิง พ่อแม่ของน้องหญิง ความรู้สึกแตกต่างจากพ่อแม่อุลตร้ามากๆ ความเสียใจมันต่างกัน

อ่านข่าวน้องหญิง >>> //talk.sanook.com/hot/hot_02277.php

Create Date : 24 มิถุนายน 2548

Last Update : 24 มิถุนายน 2548 20:46:44 น.

11 comments

Counter : 1809 Pageviews.

แต่ควรจะระมัดระวัง มีคนคอยคุมอยู่เวลาเล่นท่าอันตรายนะ ผมเองเวลาเห็นเค้าประกวดแข่ง ของพวกนานาชาติ ยังต้องมีคนมาคอยยืนคุมระวังเวลาเล่นท่ายากๆ เลย ก็อยากให้เอาใจใส่ตรงนี้แหล่ะ

ปล. อุ๊ยฟันใครหลอ

โดย: noom_no1

วันที่: 24 มิถุนายน 2548 เวลา:20:35:06 น.

ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ทุกอย่างที่เสี่ยงต้องมีการเตรียมการ ระมัดระวังครับ ไง ๆ ก็อย่าคิดว่าเหาะได้น๊า

โดย: ultraman seven

วันที่: 25 มิถุนายน 2548 เวลา:9:51:19 น.

ซาหวาดีค๊า..คุณครู

โดย: ยัยแก้มบุ๋ม : )

วันที่: 25 มิถุนายน 2548 เวลา:20:46:07 น.

สวัสดีคุณครู

โดย: noom_no1

วันที่: 27 มิถุนายน 2548 เวลา:9:04:35 น.

ซาหวาดดีค๊า..คุณครู

หายไปไหนเอ่ย สงสัยงานยุ่ง

พักผ่อนมากๆนะค๊า

โดย: ยัยแก้มบุ๋ม : )

วันที่: 27 มิถุนายน 2548 เวลา:21:50:27 น.

คำว่าบุญนั้น คือการชำระจิตให้ผ่องใสจากกิเลส..ซึ่งได้แก่ผู้ทำบุญ..เกิดแก่จิตของผู้ทำบุญ..อาการของบุญคืออิ่มเอิบปิติ..สุขยิ้มแย้ม..คืออาการที่เกิดขึ้นแก่จิตที่บริจาคทานด้วยความบริสุทธิ์ จิตที่ทำทานโดยไม่หวังผลตอบแทน จิตที่ทำบุญโดยไม่หวังบุญ จิตที่เมตตา จิตที่ยินดีในความสุขของผู้อื่น(ไม่ใช่คนในครอบครัว)..เป็นต้น..

ทำไมการรักษาศีล 5 ปฏิบัติเอง คนเดียวได้บุญมากกว่า ..

เพราะว่า..การรักษาศีล คือความเป็นปกติในการเว้นจากการทำบาป(บาปคือสภาวะจิตที่เป็นอกุศลไม่ผ่องใส)..ย่อมมีจิตที่ผ่องใส..มีปกติจิตที่เป็นอาการบุญ..จึงเป็นผู้มีความสุขสงบ..จึงเรียกว่าได้บุญมากกว่า..

เพราะการสร้างวิหารถวายนั้น..จิตนั้นเกิดบุญเป็นครั้งคราวไป..ไม่ได้เป็นปกติในชีวิตเหมือนเช่นการรักษาศีล 5..

การสร้างวิหารถวายสงฆ์ผู้มาจากทิศทั้ง 4..เป็นการถวายทานที่ยิ่งใหญ่..เป็นทานที่มีอานิสงค์มาก..ผลที่จะได้รับจากการทำทานคือวิบากกรรมดี ได้เป็นผู้มีทรัพย์และหรือ ฯลฯ..

สาธุ อนุโมทนาค่ะ

โดย: ป่ามืด

วันที่: 28 มิถุนายน 2548 เวลา:18:50:33 น.