๒๗ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๗
สายวันพฤหัสฯ ฝนตกพรำๆอากาศเย็นสบาย
เช้าๆอากาศเริ่มเย็น มีกลิ่นฤดูหนาวโชยมาอ่อนๆ (วันนี้มีฝนตกพรำๆแต่เช้าด้วย)
สิ่งหนึ่งที่มักตามมากับฤดูหนาว คืออากาศที่แห้ง แห้งเสียจนแสบจมูก
ยิ่งสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้อย่างฉันด้วยแล้ว
ช่วงหน้าหนาวเป็นฤดูที่แสนจะทรมานรูจมูกยิ่งนัก
แต่ถึงอย่างไรฉันก็ชอบฤดูหนาวมากกว่าฤดูอื่นๆ
ฉันชอบช่วงเวลาที่ได้นอนคุดคู้อยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ หนานุ่ม
ภายในห้องนอนเล็กๆ บนชั้นสองของบ้าน
(เป็นที่เดียวที่ฉันรู้สึกเป็นส่วนตัว โปร่งโล่งสบายที่สุด)
หลังคาบ้านที่มุงด้วยสังกะสี ไม่อาจปิดกั้นความหนาวเย็นยามค่ำคืนได้เลย
เมื่อตอนสมัยฉันยังเด็กๆ เมื่อถึงฤดูหนาวอากาศจะหนาวเย็นมาก
หนาวจนมือไม้แข็งไปหมด เวลาพูด
หรือหายใจออกทีจะมีควันขาวๆลอยออกจากปากและจมูก
พวกเราเด็กๆชอบพ่นลมหายใจเล่น เพื่อให้มีควันขาวๆลอยออกมาเยอะๆ
(ไม่รู้ว่ามีกลิ่นแถมมาด้วยเปล่า ฮา)
อารมณ์เหมือนที่เราเคยเห็นจากในหนังฝรั่งหรือหนังจีนในสมัยนั้นเลย
เรื่องการอาบน้ำในหน้าหนาวนี่ไม่ต้องพูดถึง ลืมไปได้เลย
แค่ล้างหน้า หน้าก็ชาแล้ว ยิ่งเป็นน้ำจากโอ่งใบใหญ่นะ อูยยย...
อย่าให้พูดเลย ตู้เย็นโตชิบายังอาย 555
แต่หมักเอาไว้หลายๆวันเข้า ก็เริ่มมีกลิ่นตุตุ
ท่านแม่ต้องสั่ง ให้ไปอาบน้ำก่อนที่จะเน่าตาย
ฉันก็บ่ายเบี่ยงขออาบตอนสายๆ เที่ยงๆรอให้แดดออกก่อนจะได้ไม่หนาวมาก
รอไปรอมาจนบ่ายจนเย็นก็ยังไม่หายหนาว สุดท้ายต้องต้มน้ำอาบกันละ
ที่บ้านมีกาต้มน้ำใบใหญ่ๆอยู่หนึ่งใบ
ต้มน้ำร้อนแล้วเอาไปผสมในกะละมังแค่พอดีอาบ
ขนาดผสมน้ำร้อนแล้วก็ยังไม่อยากจะอาบ ก็อาบกันพอเป็นพิธี
สระผมซะหน่อยพอให้หายเหนียวหัว
และด้วยความที่ฉันเป็นคนขี้หนาว คือจะหนาวเว่อร์กว่าคนอื่นเขา
เวลานอนตอนกลางคืนแค่ใส่เสื้อกันหนาวกับผ้าห่มหนาๆ
ไม่ทำให้ฉันหายหนาวได้เลย
ฉันเลยต้องแอบเอาถุงเท้านักเรียนมาใส่ตอนนอนด้วย
แค่นั้นยังไม่พอค่ะ แถมเสื้อยืด กางเกงวอร์มสวมทับเข้าไปอีกชั้น
นอนตัวอ้วนกลมกันไปเลยเชียว
ตอนนั้นที่บ้านเลี้ยงกระต่ายอยู่ตัวนึง ตัวมันสีขาวอ้วนปุกปุย หูยาวตาแดงๆ
จำไม่ได้ว่ามันชื่ออะไร หรืออาจจะไม่มีชื่อกระมัง(เนอะ) ฉันกับพี่สาวและน้าสาว
วัยไล่เลี่ยกัน มีหน้าที่ต้องออกไปเก็บหญ้าขน มาให้กระต่ายกิน ทุกๆเช้า
ก็ออกไปเก็บหญ้ากันริมถนน ที่เป็นที่รกร้างมีหญ้าขนขึ้นเต็มไปหมด
พอถึงหน้าหนาวต้องออกไปเก็บหญ้าขน มันสุดแสนจะทานทน มือน้อยๆของฉัน
ทั้งเจ็บจากการเด็ดหญ้าทั้งชาแข็งจากความหนาวเย็น เช้าๆอย่างนั้นละอองน้ำ
ที่เย็นเฉียบเกาะพราวเต็มยอดหญ้า เสื้อผ้าฉันเปียกชื้นไปหมด
พวกเราเก็บหญ้าไปเลี้ยงกระต่ายน้อยจนมันตัวอ้วนใหญ่
มันชอบหนีออกจากกรงไปวิ่งเล่นกระโดดหยองแหยง ให้วิ่งไล่จับกันอยู่บ่อยๆ
จนอยู่มาวันนึง...มันก็หายไปจากกรง พวกเราช่วยกันตามหามัน
แต่ก็หามันไม่เจออีกเลยไม่รู้ว่าโดนสุนัขคาบไปรับประทานแล้วหรือเปล่า
โธ่..เจ้ากระต่ายน้อยที่น่าสงสารเอ๋ย...
แต่ก็นะ ในที่สุดภาระกิจเก็บหญ้าขนของเด็กๆก็ได้สิ้นสุดลง...(เสียที)อิอิ
2-3 วันมานี้ อากาศกทม.ขใุกขมัว
แล้วให้นึกสงสารคนที่เป็นโรคภูมิแพ้จังค่ะ
เพราะจะไอ ทั้งมีน้ำมูก
ปล. ว๊าววว กระต่ายน้อยตายเสียแล้ว
อุ้มเข้าใจความรู้สึก
อุ้มก็เลี้ยงแล้วกระต่ายชอบกินผักบุ้งจีนมาก
ต้องซื้อผักบุ้งมาให้ทุกวัน
จนมาตายตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เลี้ยงอีกเลย
เดินผ่านร้านผักบุ้งเขาก็เรียกซื้อตลอด
เศร้าจัง