ผีหลอกวิญญาณหลอน(ภาคต่องานตะพาบ)






สวัสดีค่ะกลับมาตามคำเรียกร้องค่ะ สำหรับภาคต่อของผีหลอกวิญญาณหลอน
ในงานตะพาบบล็อกที่แล้ว เนื่องจากได้ทิ้งเรื่องราวสยองขวัญไว้ค้างๆคาๆให้เดาต่อกันเล่นๆตามสไตล์หนังผี(รึเปล่า) ตามจริงแล้วคิดพลอตไว้จนจบล่ะค่ะแต่พอเขียนแล้วมันยาวมากๆ กลัวจะอ่านกันไม่ไหวเลยจบมันดุ้นๆอย่างนั้น แฮ่..

พอดีคุณแอมอรขอมาอยากรู้ตอนจบคุณหนูหล่อก็สนใจ และคิดว่าหลายๆท่านก็คงสงสัยที่มาที่ไปของผีเด็กในลิฟต์ ท่านหญิงฯเลยขอแต่งต่อให้จบตามความประสงค์ เรามาสยองกันต่อได้เลยค่ะ


สำหรับท่านที่พลาดตอนที่แล้วไปทัศนากันได้ตามลิ้งค์นี้นะจ๊ะ

V
V

ถนนสายนี้มีตะพาบก.ม.15...ผีหลอกวิญญาณหลอน..






















ชวนชม ชวนชมแกเป็นไงมั่ง

เสียงเรียกชื่อของเธอดังแว่วเข้าสู่โสตประสาท เธอค่อยๆเผยอเปลือกตาขึ้น ก่อนจะทำตาหยีเมื่อเจอกับแสงนีออนเจิดจ้า เธอค่อยๆปรับสายตาให้ชิน เห็นใบหน้าต่างๆลอยอยู่เหนือร่างเธอหนึ่งในนั้นคือลั่นทมเพื่อนซี้ของเธอเอง

ลั่นทม นี่ฉันเป็นอะไรไป แล้วที่นี่ที่ไหน คนพวกนี้เป็นใคร มามุงฉันทำไมกันนี่ โอ๊ย..ปวดหัวจังเลย

เอ่อ..แกเป็นลมน่ะ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลแล้วคนพวกนี้ก็หมอกับพยาบาลที่มาช่วยดูแกไง

ฉันเป็นลมไปหรือ ฉันจำได้ว่าฉันลงลิฟต์จะกลับบ้านแล้วเจอ....

ชวนชมหยุดคำพูดไว้เพียงนั้นเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาได้ติดตา

แล้วลิฟต์มันก็ค้าง พอดีมีคนผ่านมาเจอเลยตามคนมาช่วยกันงัดลิฟต์ แล้วก็เจอแกนอนสลบอยู่บนพื้น

ลั่นทมช่วยเล่าความต่อเมื่อเห็นเพื่อนเงียบไปเฉยๆ

คนไข้ฟื้นแล้วก็ไม่เป็นอะไรแล้วนะครับ เดี๋ยวนอนให้น้ำเกลือสักคืน น้ำเกลือหมดแล้วก็กลับบ้านได้นะครับ

คุณหมอหนุ่มเอ่ยกับทั้งสอง

ไม่นะ ไม่นอนโรงพยาบาล ฉันไม่เป็นอะไรแล้วขอกลับบ้านเลยแล้วกันนะคะคุณหมอ

ชวนชมร้องลั่นขึ้นรีบผุดลุกจากเตียงอย่างแข็งขัน ให้ทุกคนเห็นว่าเธอสบายดี จากเหตุการณ์ที่เพิ่งประสบมาทำให้เธอแขยงไม่อยากเจอดีอะไรแถวๆโรงพยาบาลซ้ำเข้าอีก จะเล่าให้เพื่อนฟังตอนนี้ก็ไม่กล้าแม้แต่จะนึก

เฮ้ย นอนพักสักคืนเถอะ หรือว่ากลัวผี เดี๋ยวชั้นนอนเป็นเพื่อนแกน่า ลั่นทมแซวเพื่อนโดยหารู้ไม่ว่าโดนเข้าอย่างจัง

ไม่ ชั้นจะกลับบ้าน ชวนชมเสียงแข็ง

เอ่อ..ถ้าไม่อยากนอนหมอก็ไม่บังคับนะครับ คุณพยาบาลจัดการให้คนไข้กลับบ้านได้เลยนะ

คุณหมอว่าอย่างรำคาญเต็มทนหันไปสั่งพยาบาลเสร็จก็เดินออกจากห้องไป

งั้นแกไปนอนห้องชั้นก่อนนี่มันตีสามแล้ว เดี๋ยวเช้าค่อยกลับละกันบ้านแกอยู่ตั้งไกล กว่าจะถึงไม่ต้องนอนกันพอดี

ไม่ ไม่นะ ไม่ค้างห้องแก ชั้นจะกลับบ้าน ชวนชมยังคงเอ่ยเสียงแข็งยืนยันจะกลับบ้านท่าเดียว











เช้าวันรุ่งขึ้นในห้องนอนของชวนชม เธอตื่นขึ้นมาอย่างอ่อนเพลียเพราะนอนหลับได้ไม่สนิท ลั่นทมนอนหลับปุ๋ยอยู่ข้างๆ

ไอ้เพื่อนเวร หลับสบายเชียวนะ ไม่รู้เล้ยว่ากรูไปเจออะไรมาบ้าง

ชวนชมบ่นพึมอย่างหมั่นไส้เพื่อนสาวก่อนกระชากผ้าห่มอย่างแรง ส่งผลให้ร่างบางของลั่นทมหล่นตุ้บไปข้างเตียง

โอ้ย..ไอ้บ้าเล่นไรแต่เช้าวะ เจ็บนะโว้ยปลุกดีๆก็ไม่ได้

หยุด หยุดเลย เรามีเรื่องต้องคุยกัน ลุกมาเดี่ยวนี้

ชวนชมรีบตามไปซ้ำเอ๊ยไปกระชากแขนเพื่อนให้ลุกขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนทำท่าจะหลับต่อบนพื้นข้างเตียง

ไรว๊า..ไหนว่ามีงานเช้าไง ทำไมไม่ไปล่ะ ขอนอนแป๊บเดี๋ยวกลับเอง

ไม่นอน ไม่ทำแล้วงาน โทรไปลาแล้วโว๊ย มีเรื่องสำคัญกว่านั้นให้ทำนะ เราต้องช่วยใครบางคนให้ไปผุดไปเกิดซะที

ฮะ...อะไรนะชั้นหูเพี๊ยนหรือแกพูดไรผิดวะ

ไม่ผิดหรอก แกรู้มั้ยเมื่อคืนชั้นเจออะไรมา

ก็ลิฟต์ค้างไง

ไม่ใช่แค่ลิฟต์ค้างนะ ชั้นเจอเด็กคนนั้นด้วย

อ๋อเด็กที่แกให้ขนมน่ะเหรอ แล้วไง??

เด็กนั่นติดอยู่ในลิฟต์แกไปไหนไม่ได้ต้องอยู่ที่นั่น เพราะแม่ของแกไม่ยอมไปด้วย

อะไร แกพูดอะไรไม่เข้าใจว่ะ ลั่นทมงงงันไม่เข้าสิ่งที่ชวนชมพูด

ชั้นก็ไม่รู้ เด็กนั่นบอกชั้นว่าอย่างนั้น แกว่าแกอยากไปแต่ไปไม่ได้เพราะแม่ไม่ยอมไป แกจึงต้องอยู่ในลิฟต์ไปไหนไม่ได้

เดี๋ยวนะ แกพูดวนไปวนมาน่ะนี่ สรุปว่าเมื่อคืนแกติดอยู่ในลิฟต์ที่ค้างกับเด็กคนนั้น ถูกไหม

ลั่นทมพยายามลำดับเหตุการณ์ให้เพื่อนอย่างช้าๆ

อือ ใช่

แต่ตอนที่เรางัดประตูออกมาได้มีแกนอนสลบอยู่คนเดียวนะ

อือ ก็ใช่

แล้วเด็กนั่นล่ะ??

อือ ไม่รู้ ชั้นสลบอยู่นะ ถ้าแกจำได้ แต่ชั้นว่าเด็กนั่นก็คงยืนดูอยู่แถวนั้นหล่ะแกบอกว่าจะตามคนมาช่วยถ้าชั้นจะช่วยให้แกออกไปจากลิฟต์นั้นได้น่ะ

แกรับปากเธอแล้วเธอก็หายวับไป อย่างงั้นเหรอ

เออ แล้วชั้นก็เลยเป็นลมไป

งั้นเด็กนั่นก็เป็น.....

นั่นล่ะใช่ แต่อย่าเอ่ยคำว่าผีออกมานะ อุ๊บ!!

ชวนชมตะครุบปากตัวเองไว้แทบไม่ทัน ส่วนลั่นทมนั่งตัวแข็งไปแล้ว ถึงทั้งคู่จะไม่ใช่คนกลัวผีจนขึ้นสมอง แต่มาเจอจังๆกับตัวแบบนี้ ก็หวาดผวาไปเหมือนกัน

แล้วเราจะทำไงกันต่อไปล่ะ ลั่นทมเอ่ยขึ้นในที่สุด

แกไม่น่าไปรับเด็กนั่นเลยนะ เราจะช่วยแกได้ยังไง

ก็..ไปนิมนต์พระมาทำพิธีเชิญวิญญาณดีไหม

อือ..ก็ดี แต่เราต้องขออนุญาตเจ้าของอพาร์ตเม้นต์ก่อนนะ ชั้นมีเบอร์โทร

ตกลง















ไม่ได้เหรอ

ชวนชมร้องเสียงหลงเมื่อลั่นทมวางสายจากเจ้าของอพาร์ตเม้นต์หลังจากพูดสายกันอยู่นาน

ทำไมแค่พิธีเชิญวิญญาณเองนะ เราทำเพื่อพวกเขานะ คนที่อาศัยอยู่ที่นั่นจะได้เลิกหวาดกลัวซะที เขารู้ว่ามีอะไรในลิฟต์เขาถึงห้ามใช้ลิฟต์ตอนกลางคืน พวกคนอื่นๆก็รู้ แต่ทำไมไม่มีใครคิดทำอะไรเลยล่ะ

เฮ้ย ใจเย็นเพื่อนฟังชั้นอธิบายก่อน เขาบอกว่าเขาเคยทำพิธีเชิญวิญญาณแล้ว ตอนเกิดเรื่องใหม่ๆ ทั้งทำบุญพรมน้ำมนตร์ สารพัด แต่ก็ไม่ได้ผลเด็กนั่นไม่ยอมไปไหน แต่เธอก็ไม่ได้ออกมาหลอกหลอนอะไร แค่เราเลี่ยงไม่ใช้ลิฟต์ตอนกลางคืนคนเดียวเท่านั้น พวกเขาอยู่กับผีอย่างสงบสุขมานานแล้วนะ

แต่เด็กนั่นไม่มีความสุข เธออยากไปเกิดใหม่

แล้วแกจะทำอะไรได้ พวกเขาพยายามแล้ว

นึกได้แล้วชวนชมร้องอย่างลิงโลด

เด็กนั่นบอกว่าเธอไปไม่ได้เพราะแม่ของเธอไม่ยอมไป

แล้วไง แม่เธออยู่ไหน ใครเป็นแม่ของเธอ แล้วไม่ยอมไปไหน

ไม่รู้อ่ะ ชวนชมตอบเสียงเบาอย่างเริ่มหมดหวัง

ทำไมเธอถึงตาย ทำไมถึงติดอยู่ในลิฟต์ แม่ของเธอเป็นใครอยู่ที่ไหน

ถามชั้นเหรอ ชั้นจะไปรู้ได้ไง เพิ่งย้ายมาได้วันเดียว เจอดีเลยกรู

ลั่นทมบ่นอย่างเบื่อหน่ายรำคาญเพื่อนเต็มทน

แล้วทำไมเราไม่ถามคนที่อยู่มาก่อนล่ะ หรือถามเจ้าของอพาร์ตเม้นต์ก็ได้เขาต้องรู้สิ จริงมั้ย












จากคำบอกเล่าอย่างไม่เต็มใจนักของเจ้าของอพาร์ตเม้นต์ เมื่อสามปีที่แล้วเด็กหญิงคนนั้นอาศัยอยู่กับพ่อแม่ในห้องสุดทางเดินบนชั้นหก วันนั้นพ่อของเธอออกไปทำงานตามปกติแต่เขากลับบ้านดึกโดยไม่ได้บอกกล่าว แม่ของเธอทิ้งให้เธอนอนหลับอยู่คนเดียวในห้อง แล้วออกไปตามหาสามีเธอคิดว่าสามีออกไปหาอีหนูที่ไหนสักแห่ง เด็กหญิงตื่นมากลางดึกไม่พบใคร จึงลงลิฟต์มาคนเดียวเพื่อหาแม่ของเธอ แต่ลิฟต์เกิดค้างเธอตกใจกลัวมากโรคหอบกำเริบกว่าคนจะมาช่วยเธอก็ขาดอากาศหายใจตายไปแล้ว พ่อของเธอโกรธแม่ของเธอมากเขาโทษว่าเป็นความผิดของเธอที่ทำให้ลูกสาวที่น่ารักต้องตายอย่างเดียวดาย เขาทิ้งเธอไปไม่กลับมาอีกเลย


แม่ของเธอยังคงอยู่ที่ห้องนั้น ไม่ยอมออกไปไหนเธอรอให้สามีกลับมาทุกค่ำคืน หนึ่งเดือนหลังจากนั้นก็พบศพเธอเน่าเปื่อยส่งกลิ่นคลุ้งอยู่ในห้องเพียงลำพัง


เจ้าของอพาร์ตเม้นต์ทำความสะอาดห้องนั้นอย่างดีและปล่อยให้คนเช่า แต่ไม่มีใครอยู่ได้เกินหนึ่งคืนบางรายว่าได้กลิ่นเหม็นเน่าคลุ้งอยู่ตลอดเวลา บางรายว่าเห็นหญิงสาวเดินไปเดินมาอยู่ในห้อง บ้างก็ได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญ บางคืนเธอก็ออกมาเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์จัดให้เข้าที่ทางเดิมที่มันเคยอยู่ วิญญาณของเธอไม่ยอมไปไหนยังรอคอยสามีอยู่ที่นั่นทุกค่ำคืน


ชั้นเข้าใจละ เด็กนั่นอยากจะไปเกิด แต่ยังเป็นห่วงแม่ของเธอที่ยังติดอยู่ที่ห้องนั้น และแม่ของเธอจะไปเกิดไม่ได้เพราะเธอยังรู้สึกผิดเธอต้องได้รับการให้อภัยจากสามีของเธอก่อน เธอจึงจะหลุดพ้น

ชวนชมเอ่ยขึ้นหลังจากฟังเรื่องราวของเด็กหญิงคนนั้นจบลง

แล้วเราจะไปหาพ่อของเธอได้จากที่ไหน เขาเป็นใครไปอยู่ไหนเราก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆนะเขาใจร้ายมากเลยที่ทิ้งภรรยาผู้โศกเศร้าไว้คนเดียวแบบนั้นน่ะ เขารู้ไหมนะว่าภรรยาเขาตายไปแล้วน่ะ

ลั่นทมพูดอย่างหมดหวัง

ต้องมีทางสิ เจ้าของเขาต้องมีสัญญาเช่าอยู่ ในนั้นต้องมีชื่อของพ่อเด็กนั่นแน่ แถมอาจจะมีเบอร์โทรด้วยก็ได้

ถ้าเขายังเก็บไว้อยู่อ่ะนะ

ไงก็ต้องลองล่ะ เอ้าโทรสิยะหล่อน

วันนี้ชั้นโทรหาอีตาเจ้าของนี่สามรอบแล้วนะ ลั่นทมโวย

โทรไปๆ อย่าบ่นหรืออยากจะอยู่กับผีไปตลอดล่ะ ฮึ











พิธีเชิญวิญญาณผ่านพ้นไปอย่างเรียบร้อย พ่อของเด็กหญิงสามีของผู้หญิงห้องข้างๆเดินทางมาถึงแต่เช้าตรู่เขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่รู้ว่าภรรยาของเขาตรอมใจตายและวิญญาณยังวนเวียนไม่ยอมไปไหน ตลอดเวลาสามปีที่ผ่านมาเขาได้แต่ฝันถึงเธอทุกค่ำคืนโดยไม่รู้เลยว่าเธอได้ตายไปแล้ว หากเขารู้ว่าจะเป็นแบบนี้เขาคงไม่ทิ้งเธอไป แต่ตอนนั้นเขาโกรธเธอมาก มากจนไม่ให้อภัยและหลงลืมไปว่าไม่มีแม่คนไหนอยากให้ลูกต้องตาย วันนี้นอกจากจะเป็นการปลดปล่อยวิญญาณของสองแม่ลูกแล้วยังเป็นการปลดปล่อยตัวเขาเองอีกด้วย เขาว่าเขาจะบวชให้ลูกเมียสักพรรษาหนึ่งเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้พวกเธอ

เรื่องราวจบลงด้วยดีนะ ว่ามั๊ย ลั่นทมเอ่ยเสียงใสกับเพื่อนสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ

นั่นสิ ต่อไปก็ใช้ลิฟต์ได้อย่างสบายใจแล้วล่ะนะเธอน่ะ

ฮื่อ..ขอให้ทั้งสองแม่ลูกไปสู่สุขคติเถอะนะ สาธุ
























ตีสองแล้วธราดลเพิ่งลงจากรถแท็กซี่ที่บริเวณหน้าอพาร์ตเม้นต์เปลี่ยว หลังเสร็จจากการสังสรรค์ประจำวันกับเพื่อน เขาเพิ่งย้ายมาอยู่เมื่อวานนี้

รอด้วยครับ รอด้วย

ชายหนุ่มร้องเรียกเมื่อเห็นประตูลิฟต์กำลังจะปิดลง เขาวิ่งเหยาะๆมาทันเวลาพอดี ประตูลิฟต์เปิดอ้าออกเขารีบก้าวเท้าเข้าไปในลิฟต์

ขอบคุณครับ

เขาหันไปขอบคุณผู้ที่มาก่อนเป็นหญิงสาวและเด็กหญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ด้านใน แสงสลัวในลิฟต์ทำให้มองเห็นหน้าทั้งคู่ไม่ถนัดนัก ทั้งสองไว้ผมยาวเลยบ่าปล่อยตกลงมาระใบหน้าไว้จนเกือบมิด


ประตูลิฟต์เลื่อนปิดลงอย่างเชื่องช้า และค่อยๆเลื่อนขึ้นไปหลอดไฟที่เบื้องบนกระพริบสองสามครั้งก่อนจะดับวูบลง สองแม่ลูกเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้กับเขา



















Create Date : 10 กันยายน 2553
Last Update : 27 มีนาคม 2557 10:58:02 น. 14 comments
Counter : 837 Pageviews.

 
เรื่องผีมี่ก็กลัวนะคะพี่ แต่ทุกคืนถ้าได้อ่านก่อนนอนก็หลับสบายค่ะ อิอิ


................................

ดอกฝนโปรยโชยฉ่ำแต่คืนค่ำ
คงชื้นย้ำตราบเช้ามาถึงสาย
ละอองใสพลิ้วพัดกระจัดกระจาย
เหงาเอยเหงาวุ่นวายไยกรายเมียง

อวลบางบางร้างร้าวทอด..สอดซ่าน
สะพานอ้างว้าง..เปิดทางไร้สุ้มเสียง
สิ่งรอบกายคล้ายพร้อมล้อมลำเลียง
ส่งแต่เพียงระทม..ระดมกอง

เสียงเปาะแปะ เลาะไล่ ไข้ขึ้นหา
หมดปัญญาลาวิเวกเที่ยวสอดส่อง
ข้างหน้าต่างหยดน้ำขำขันมอง
แต่น้ำนองที่ตากลับคิดลี้

ตรงป่าใกล้ลั่นทมพรมราวเพ้อ
กลิ่นว่างเปล่าเอ่อล้นยังซ่านถี่
ดอกสีขาวราวร่ำพร่ำวจี
เหมือนเบื่อเสียงเสียดสีของสายลม

เนิ่นนานแล้วกับสายกาลพานฝัน
มาถึงวันร่วงผล็อยผลิดอกขม
สะท้อนวันก่อนเก่าเคยเฝ้าชม
แล้วฝันแห้งหลุดล้มเหลือเพียงรอย

สิ้นสุดแล้วนะ...ความพันผูก
ปลดแปลงปลูกดอกสวรรรค์ด้วยจิตกร่อย
ทุกข์ทิ่มแทงแห่งทรงจำก็พลอย-
ค่อยค่อยคล้อยเคลื่อนไปตามเพรงเคย



สวัสดีวันฝนชุกๆค่ะพี่ท่านหญิง


โดย: ญามี่ วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:14:37:50 น.  

 
สวัสดียามเย็นค่ะ ตอนนี้ยังพอ่านได้ ถ้าหลังทุ่มนึงแล้ว สาวขอหลบเรื่องหลอน มีความสุขกับวันหยุดค่พี่


โดย: sawkitty วันที่: 11 กันยายน 2553 เวลา:17:45:24 น.  

 
ตามมาอ่านภาคจบ..
แบบแฮบปี้..ผีกับคน

อรุณสวัสดิ์ครับ





โดย: ไกลเกินใจสายเกินแก้ วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:5:41:47 น.  

 
ทักทายในวันหยุดครับ


โดย: ดอกหญ้า บนทางดิน วันที่: 12 กันยายน 2553 เวลา:10:43:21 น.  

 
หุหุ ต้องเขียนตอนสามแล้วครับ ตอนนี้ขอวิ่งกลับบ้าน
ไปก่อน รู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นไอ้หนุ่มที่เข้า
ไปเจอสองแม่ลูกนั่นเยย 55 ตามล่าวิญญาณรักนิ

ไปแระ ไปหากาแฟขมปี๋กินไล่ผีสักมักใหญ่ๆ เหอๆ



โดย: nulaw.m วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:8:33:16 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ..
โชดดีนะเนี่ยที่ผมอ่านตอนเช้า ไม่อ่านตอนดึก..

น่ากลัวชะมัด


โดย: CEO นิ้วก้อย วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:8:54:20 น.  

 

แวะมาอ่านในวันทำงานวันแรก
ที่ฝนกำลังจะตก....เมฆตั้งเค้ามาแต่ไกลเลยล่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:9:43:58 น.  

 
หยายยยยยยยย

มีสยองภาคต่อด้วยนะฮับ

ดีนะเลยวันพระมาแล้ว

ฮี่ๆ



โดย: ชายผู้หล่อเหลา...กว่าแย้นิดนึง. (เป็ดสวรรค์ ) วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:11:18:56 น.  

 
ยิงไปหลายตัวเหมือนกันจ๊ะ


โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:11:25:36 น.  

 
สวัสดีเช้าวันจันทร์


โดย: ดอกหญ้า บนทางดิน วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:12:04:45 น.  

 
แม่ที่เสียลูกไป แต่สามีกลับไม่ยอมให้อภัย
น่าสงสารจังเลยนะคะท่านหญิง

แล้ววิญญานของแม่ย้ายมาอยู่ในลิฟกับลูกใช่ป่ะคะ
ทิ้งภาพสุดท้าย ให้คิดต่อรอภาคสามอ่ะป่าว
รออ่านค่ะรออ่าน อิ อิ


แอมอร


โดย: peeamp วันที่: 13 กันยายน 2553 เวลา:12:54:40 น.  

 
งดขึ้นลิฟท์ชั่วคราว
ขอเดินนับขั้นบันไดก่อน


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 14 กันยายน 2553 เวลา:7:03:03 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ






//www.bloggang.com/emo/emo7.gif>


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 กันยายน 2553 เวลา:7:15:29 น.  

 
น่ากลัวจังเลยค่ะ เป็นเราคงช็อคแน่เลย


โดย: ฟ้าประทานให้ วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:13:57:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ugly princess
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




เพจท่านหญิงน่าเกลียด

Promote Your Page Too
Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
10 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ugly princess's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.