สวัสดีค่ะกลับมาตามคำเรียกร้องค่ะ สำหรับภาคต่อของผีหลอกวิญญาณหลอน ในงานตะพาบบล็อกที่แล้ว เนื่องจากได้ทิ้งเรื่องราวสยองขวัญไว้ค้างๆคาๆให้เดาต่อกันเล่นๆตามสไตล์หนังผี(รึเปล่า) ตามจริงแล้วคิดพลอตไว้จนจบล่ะค่ะแต่พอเขียนแล้วมันยาวมากๆ กลัวจะอ่านกันไม่ไหวเลยจบมันดุ้นๆอย่างนั้น แฮ่..พอดีคุณแอมอรขอมาอยากรู้ตอนจบคุณหนูหล่อก็สนใจ และคิดว่าหลายๆท่านก็คงสงสัยที่มาที่ไปของผีเด็กในลิฟต์ ท่านหญิงฯเลยขอแต่งต่อให้จบตามความประสงค์ เรามาสยองกันต่อได้เลยค่ะสำหรับท่านที่พลาดตอนที่แล้วไปทัศนากันได้ตามลิ้งค์นี้นะจ๊ะ VVถนนสายนี้มีตะพาบก.ม.15...ผีหลอกวิญญาณหลอน..
ชวนชม ชวนชมแกเป็นไงมั่งเสียงเรียกชื่อของเธอดังแว่วเข้าสู่โสตประสาท เธอค่อยๆเผยอเปลือกตาขึ้น ก่อนจะทำตาหยีเมื่อเจอกับแสงนีออนเจิดจ้า เธอค่อยๆปรับสายตาให้ชิน เห็นใบหน้าต่างๆลอยอยู่เหนือร่างเธอหนึ่งในนั้นคือลั่นทมเพื่อนซี้ของเธอเองลั่นทม นี่ฉันเป็นอะไรไป แล้วที่นี่ที่ไหน คนพวกนี้เป็นใคร มามุงฉันทำไมกันนี่ โอ๊ย..ปวดหัวจังเลยเอ่อ..แกเป็นลมน่ะ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลแล้วคนพวกนี้ก็หมอกับพยาบาลที่มาช่วยดูแกไง ฉันเป็นลมไปหรือ ฉันจำได้ว่าฉันลงลิฟต์จะกลับบ้านแล้วเจอ.... ชวนชมหยุดคำพูดไว้เพียงนั้นเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาได้ติดตาแล้วลิฟต์มันก็ค้าง พอดีมีคนผ่านมาเจอเลยตามคนมาช่วยกันงัดลิฟต์ แล้วก็เจอแกนอนสลบอยู่บนพื้น ลั่นทมช่วยเล่าความต่อเมื่อเห็นเพื่อนเงียบไปเฉยๆคนไข้ฟื้นแล้วก็ไม่เป็นอะไรแล้วนะครับ เดี๋ยวนอนให้น้ำเกลือสักคืน น้ำเกลือหมดแล้วก็กลับบ้านได้นะครับ คุณหมอหนุ่มเอ่ยกับทั้งสองไม่นะ ไม่นอนโรงพยาบาล ฉันไม่เป็นอะไรแล้วขอกลับบ้านเลยแล้วกันนะคะคุณหมอชวนชมร้องลั่นขึ้นรีบผุดลุกจากเตียงอย่างแข็งขัน ให้ทุกคนเห็นว่าเธอสบายดี จากเหตุการณ์ที่เพิ่งประสบมาทำให้เธอแขยงไม่อยากเจอดีอะไรแถวๆโรงพยาบาลซ้ำเข้าอีก จะเล่าให้เพื่อนฟังตอนนี้ก็ไม่กล้าแม้แต่จะนึกเฮ้ย นอนพักสักคืนเถอะ หรือว่ากลัวผี เดี๋ยวชั้นนอนเป็นเพื่อนแกน่า ลั่นทมแซวเพื่อนโดยหารู้ไม่ว่าโดนเข้าอย่างจังไม่ ชั้นจะกลับบ้าน ชวนชมเสียงแข็งเอ่อ..ถ้าไม่อยากนอนหมอก็ไม่บังคับนะครับ คุณพยาบาลจัดการให้คนไข้กลับบ้านได้เลยนะ คุณหมอว่าอย่างรำคาญเต็มทนหันไปสั่งพยาบาลเสร็จก็เดินออกจากห้องไปงั้นแกไปนอนห้องชั้นก่อนนี่มันตีสามแล้ว เดี๋ยวเช้าค่อยกลับละกันบ้านแกอยู่ตั้งไกล กว่าจะถึงไม่ต้องนอนกันพอดีไม่ ไม่นะ ไม่ค้างห้องแก ชั้นจะกลับบ้าน ชวนชมยังคงเอ่ยเสียงแข็งยืนยันจะกลับบ้านท่าเดียว
เช้าวันรุ่งขึ้นในห้องนอนของชวนชม เธอตื่นขึ้นมาอย่างอ่อนเพลียเพราะนอนหลับได้ไม่สนิท ลั่นทมนอนหลับปุ๋ยอยู่ข้างๆไอ้เพื่อนเวร หลับสบายเชียวนะ ไม่รู้เล้ยว่ากรูไปเจออะไรมาบ้าง ชวนชมบ่นพึมอย่างหมั่นไส้เพื่อนสาวก่อนกระชากผ้าห่มอย่างแรง ส่งผลให้ร่างบางของลั่นทมหล่นตุ้บไปข้างเตียงโอ้ย..ไอ้บ้าเล่นไรแต่เช้าวะ เจ็บนะโว้ยปลุกดีๆก็ไม่ได้หยุด หยุดเลย เรามีเรื่องต้องคุยกัน ลุกมาเดี่ยวนี้ ชวนชมรีบตามไปซ้ำเอ๊ยไปกระชากแขนเพื่อนให้ลุกขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนทำท่าจะหลับต่อบนพื้นข้างเตียงไรว๊า..ไหนว่ามีงานเช้าไง ทำไมไม่ไปล่ะ ขอนอนแป๊บเดี๋ยวกลับเองไม่นอน ไม่ทำแล้วงาน โทรไปลาแล้วโว๊ย มีเรื่องสำคัญกว่านั้นให้ทำนะ เราต้องช่วยใครบางคนให้ไปผุดไปเกิดซะทีฮะ...อะไรนะชั้นหูเพี๊ยนหรือแกพูดไรผิดวะ ไม่ผิดหรอก แกรู้มั้ยเมื่อคืนชั้นเจออะไรมาก็ลิฟต์ค้างไงไม่ใช่แค่ลิฟต์ค้างนะ ชั้นเจอเด็กคนนั้นด้วยอ๋อเด็กที่แกให้ขนมน่ะเหรอ แล้วไง??เด็กนั่นติดอยู่ในลิฟต์แกไปไหนไม่ได้ต้องอยู่ที่นั่น เพราะแม่ของแกไม่ยอมไปด้วยอะไร แกพูดอะไรไม่เข้าใจว่ะ ลั่นทมงงงันไม่เข้าสิ่งที่ชวนชมพูดชั้นก็ไม่รู้ เด็กนั่นบอกชั้นว่าอย่างนั้น แกว่าแกอยากไปแต่ไปไม่ได้เพราะแม่ไม่ยอมไป แกจึงต้องอยู่ในลิฟต์ไปไหนไม่ได้เดี๋ยวนะ แกพูดวนไปวนมาน่ะนี่ สรุปว่าเมื่อคืนแกติดอยู่ในลิฟต์ที่ค้างกับเด็กคนนั้น ถูกไหม ลั่นทมพยายามลำดับเหตุการณ์ให้เพื่อนอย่างช้าๆอือ ใช่แต่ตอนที่เรางัดประตูออกมาได้มีแกนอนสลบอยู่คนเดียวนะอือ ก็ใช่แล้วเด็กนั่นล่ะ??อือ ไม่รู้ ชั้นสลบอยู่นะ ถ้าแกจำได้ แต่ชั้นว่าเด็กนั่นก็คงยืนดูอยู่แถวนั้นหล่ะแกบอกว่าจะตามคนมาช่วยถ้าชั้นจะช่วยให้แกออกไปจากลิฟต์นั้นได้น่ะแกรับปากเธอแล้วเธอก็หายวับไป อย่างงั้นเหรอเออ แล้วชั้นก็เลยเป็นลมไปงั้นเด็กนั่นก็เป็น.....นั่นล่ะใช่ แต่อย่าเอ่ยคำว่าผีออกมานะ อุ๊บ!! ชวนชมตะครุบปากตัวเองไว้แทบไม่ทัน ส่วนลั่นทมนั่งตัวแข็งไปแล้ว ถึงทั้งคู่จะไม่ใช่คนกลัวผีจนขึ้นสมอง แต่มาเจอจังๆกับตัวแบบนี้ ก็หวาดผวาไปเหมือนกัน แล้วเราจะทำไงกันต่อไปล่ะ ลั่นทมเอ่ยขึ้นในที่สุดแกไม่น่าไปรับเด็กนั่นเลยนะ เราจะช่วยแกได้ยังไงก็..ไปนิมนต์พระมาทำพิธีเชิญวิญญาณดีไหมอือ..ก็ดี แต่เราต้องขออนุญาตเจ้าของอพาร์ตเม้นต์ก่อนนะ ชั้นมีเบอร์โทรตกลง
ไม่ได้เหรอ ชวนชมร้องเสียงหลงเมื่อลั่นทมวางสายจากเจ้าของอพาร์ตเม้นต์หลังจากพูดสายกันอยู่นานทำไมแค่พิธีเชิญวิญญาณเองนะ เราทำเพื่อพวกเขานะ คนที่อาศัยอยู่ที่นั่นจะได้เลิกหวาดกลัวซะที เขารู้ว่ามีอะไรในลิฟต์เขาถึงห้ามใช้ลิฟต์ตอนกลางคืน พวกคนอื่นๆก็รู้ แต่ทำไมไม่มีใครคิดทำอะไรเลยล่ะเฮ้ย ใจเย็นเพื่อนฟังชั้นอธิบายก่อน เขาบอกว่าเขาเคยทำพิธีเชิญวิญญาณแล้ว ตอนเกิดเรื่องใหม่ๆ ทั้งทำบุญพรมน้ำมนตร์ สารพัด แต่ก็ไม่ได้ผลเด็กนั่นไม่ยอมไปไหน แต่เธอก็ไม่ได้ออกมาหลอกหลอนอะไร แค่เราเลี่ยงไม่ใช้ลิฟต์ตอนกลางคืนคนเดียวเท่านั้น พวกเขาอยู่กับผีอย่างสงบสุขมานานแล้วนะแต่เด็กนั่นไม่มีความสุข เธออยากไปเกิดใหม่ แล้วแกจะทำอะไรได้ พวกเขาพยายามแล้วนึกได้แล้วชวนชมร้องอย่างลิงโลด เด็กนั่นบอกว่าเธอไปไม่ได้เพราะแม่ของเธอไม่ยอมไป แล้วไง แม่เธออยู่ไหน ใครเป็นแม่ของเธอ แล้วไม่ยอมไปไหนไม่รู้อ่ะ ชวนชมตอบเสียงเบาอย่างเริ่มหมดหวัง ทำไมเธอถึงตาย ทำไมถึงติดอยู่ในลิฟต์ แม่ของเธอเป็นใครอยู่ที่ไหน ถามชั้นเหรอ ชั้นจะไปรู้ได้ไง เพิ่งย้ายมาได้วันเดียว เจอดีเลยกรู ลั่นทมบ่นอย่างเบื่อหน่ายรำคาญเพื่อนเต็มทนแล้วทำไมเราไม่ถามคนที่อยู่มาก่อนล่ะ หรือถามเจ้าของอพาร์ตเม้นต์ก็ได้เขาต้องรู้สิ จริงมั้ย
จากคำบอกเล่าอย่างไม่เต็มใจนักของเจ้าของอพาร์ตเม้นต์ เมื่อสามปีที่แล้วเด็กหญิงคนนั้นอาศัยอยู่กับพ่อแม่ในห้องสุดทางเดินบนชั้นหก วันนั้นพ่อของเธอออกไปทำงานตามปกติแต่เขากลับบ้านดึกโดยไม่ได้บอกกล่าว แม่ของเธอทิ้งให้เธอนอนหลับอยู่คนเดียวในห้อง แล้วออกไปตามหาสามีเธอคิดว่าสามีออกไปหาอีหนูที่ไหนสักแห่ง เด็กหญิงตื่นมากลางดึกไม่พบใคร จึงลงลิฟต์มาคนเดียวเพื่อหาแม่ของเธอ แต่ลิฟต์เกิดค้างเธอตกใจกลัวมากโรคหอบกำเริบกว่าคนจะมาช่วยเธอก็ขาดอากาศหายใจตายไปแล้ว พ่อของเธอโกรธแม่ของเธอมากเขาโทษว่าเป็นความผิดของเธอที่ทำให้ลูกสาวที่น่ารักต้องตายอย่างเดียวดาย เขาทิ้งเธอไปไม่กลับมาอีกเลย แม่ของเธอยังคงอยู่ที่ห้องนั้น ไม่ยอมออกไปไหนเธอรอให้สามีกลับมาทุกค่ำคืน หนึ่งเดือนหลังจากนั้นก็พบศพเธอเน่าเปื่อยส่งกลิ่นคลุ้งอยู่ในห้องเพียงลำพัง เจ้าของอพาร์ตเม้นต์ทำความสะอาดห้องนั้นอย่างดีและปล่อยให้คนเช่า แต่ไม่มีใครอยู่ได้เกินหนึ่งคืนบางรายว่าได้กลิ่นเหม็นเน่าคลุ้งอยู่ตลอดเวลา บางรายว่าเห็นหญิงสาวเดินไปเดินมาอยู่ในห้อง บ้างก็ได้ยินเสียงร้องไห้คร่ำครวญ บางคืนเธอก็ออกมาเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์จัดให้เข้าที่ทางเดิมที่มันเคยอยู่ วิญญาณของเธอไม่ยอมไปไหนยังรอคอยสามีอยู่ที่นั่นทุกค่ำคืน ชั้นเข้าใจละ เด็กนั่นอยากจะไปเกิด แต่ยังเป็นห่วงแม่ของเธอที่ยังติดอยู่ที่ห้องนั้น และแม่ของเธอจะไปเกิดไม่ได้เพราะเธอยังรู้สึกผิดเธอต้องได้รับการให้อภัยจากสามีของเธอก่อน เธอจึงจะหลุดพ้น ชวนชมเอ่ยขึ้นหลังจากฟังเรื่องราวของเด็กหญิงคนนั้นจบลงแล้วเราจะไปหาพ่อของเธอได้จากที่ไหน เขาเป็นใครไปอยู่ไหนเราก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆนะเขาใจร้ายมากเลยที่ทิ้งภรรยาผู้โศกเศร้าไว้คนเดียวแบบนั้นน่ะ เขารู้ไหมนะว่าภรรยาเขาตายไปแล้วน่ะ ลั่นทมพูดอย่างหมดหวังต้องมีทางสิ เจ้าของเขาต้องมีสัญญาเช่าอยู่ ในนั้นต้องมีชื่อของพ่อเด็กนั่นแน่ แถมอาจจะมีเบอร์โทรด้วยก็ได้ถ้าเขายังเก็บไว้อยู่อ่ะนะ ไงก็ต้องลองล่ะ เอ้าโทรสิยะหล่อนวันนี้ชั้นโทรหาอีตาเจ้าของนี่สามรอบแล้วนะ ลั่นทมโวยโทรไปๆ อย่าบ่นหรืออยากจะอยู่กับผีไปตลอดล่ะ ฮึ
พิธีเชิญวิญญาณผ่านพ้นไปอย่างเรียบร้อย พ่อของเด็กหญิงสามีของผู้หญิงห้องข้างๆเดินทางมาถึงแต่เช้าตรู่เขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่รู้ว่าภรรยาของเขาตรอมใจตายและวิญญาณยังวนเวียนไม่ยอมไปไหน ตลอดเวลาสามปีที่ผ่านมาเขาได้แต่ฝันถึงเธอทุกค่ำคืนโดยไม่รู้เลยว่าเธอได้ตายไปแล้ว หากเขารู้ว่าจะเป็นแบบนี้เขาคงไม่ทิ้งเธอไป แต่ตอนนั้นเขาโกรธเธอมาก มากจนไม่ให้อภัยและหลงลืมไปว่าไม่มีแม่คนไหนอยากให้ลูกต้องตาย วันนี้นอกจากจะเป็นการปลดปล่อยวิญญาณของสองแม่ลูกแล้วยังเป็นการปลดปล่อยตัวเขาเองอีกด้วย เขาว่าเขาจะบวชให้ลูกเมียสักพรรษาหนึ่งเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้พวกเธอเรื่องราวจบลงด้วยดีนะ ว่ามั๊ย ลั่นทมเอ่ยเสียงใสกับเพื่อนสาวที่ยืนอยู่ข้างๆนั่นสิ ต่อไปก็ใช้ลิฟต์ได้อย่างสบายใจแล้วล่ะนะเธอน่ะฮื่อ..ขอให้ทั้งสองแม่ลูกไปสู่สุขคติเถอะนะ สาธุ
ตีสองแล้วธราดลเพิ่งลงจากรถแท็กซี่ที่บริเวณหน้าอพาร์ตเม้นต์เปลี่ยว หลังเสร็จจากการสังสรรค์ประจำวันกับเพื่อน เขาเพิ่งย้ายมาอยู่เมื่อวานนี้รอด้วยครับ รอด้วย ชายหนุ่มร้องเรียกเมื่อเห็นประตูลิฟต์กำลังจะปิดลง เขาวิ่งเหยาะๆมาทันเวลาพอดี ประตูลิฟต์เปิดอ้าออกเขารีบก้าวเท้าเข้าไปในลิฟต์ ขอบคุณครับ เขาหันไปขอบคุณผู้ที่มาก่อนเป็นหญิงสาวและเด็กหญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งซึ่งยืนอยู่ด้านใน แสงสลัวในลิฟต์ทำให้มองเห็นหน้าทั้งคู่ไม่ถนัดนัก ทั้งสองไว้ผมยาวเลยบ่าปล่อยตกลงมาระใบหน้าไว้จนเกือบมิดประตูลิฟต์เลื่อนปิดลงอย่างเชื่องช้า และค่อยๆเลื่อนขึ้นไปหลอดไฟที่เบื้องบนกระพริบสองสามครั้งก่อนจะดับวูบลง สองแม่ลูกเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้กับเขา
................................
ดอกฝนโปรยโชยฉ่ำแต่คืนค่ำ
คงชื้นย้ำตราบเช้ามาถึงสาย
ละอองใสพลิ้วพัดกระจัดกระจาย
เหงาเอยเหงาวุ่นวายไยกรายเมียง
อวลบางบางร้างร้าวทอด..สอดซ่าน
สะพานอ้างว้าง..เปิดทางไร้สุ้มเสียง
สิ่งรอบกายคล้ายพร้อมล้อมลำเลียง
ส่งแต่เพียงระทม..ระดมกอง
เสียงเปาะแปะ เลาะไล่ ไข้ขึ้นหา
หมดปัญญาลาวิเวกเที่ยวสอดส่อง
ข้างหน้าต่างหยดน้ำขำขันมอง
แต่น้ำนองที่ตากลับคิดลี้
ตรงป่าใกล้ลั่นทมพรมราวเพ้อ
กลิ่นว่างเปล่าเอ่อล้นยังซ่านถี่
ดอกสีขาวราวร่ำพร่ำวจี
เหมือนเบื่อเสียงเสียดสีของสายลม
เนิ่นนานแล้วกับสายกาลพานฝัน
มาถึงวันร่วงผล็อยผลิดอกขม
สะท้อนวันก่อนเก่าเคยเฝ้าชม
แล้วฝันแห้งหลุดล้มเหลือเพียงรอย
สิ้นสุดแล้วนะ...ความพันผูก
ปลดแปลงปลูกดอกสวรรรค์ด้วยจิตกร่อย
ทุกข์ทิ่มแทงแห่งทรงจำก็พลอย-
ค่อยค่อยคล้อยเคลื่อนไปตามเพรงเคย
สวัสดีวันฝนชุกๆค่ะพี่ท่านหญิง