.......ประเพณีบุญบั้งไฟล้าน กิ่งอำเภอเอราวัณ จังหวัดเลย........งานบุญบั้งไฟล้านนี้จัดขึ้นมาเป็นประจำทุกปี โดยนัดเป็นสัปดาห์ที่สามของเดือนมิถุนายน เป็นเวลาสามวัน วันแรก จะมีขบวนแห่ของนักเรียนของอบต. และของชาวบ้านทุกหมู่ของตำบลผาอินทร์แปลงในตอนบ่ายมีการตัดสินให้รางวัลในหลายหัวข้อเช่นขบวนแห่สวยงาม ขบวนเซิ้งสวยงามขบวนแห่ความคิดสร้างสรรค์ ขบวนแห่ท้าวผาแดง-นางไอ่ ผู้คนแต่งกายสวยงาม ยิ้มแย้มตลอดเวลาเป็นที่ครึกครื้น
งานบุญบั้งไฟล้านนี้จัดขึ้นมาเป็นประจำทุกปี โดยนัดเป็นสัปดาห์ที่สามของเดือนมิถุนายน เป็นเวลาสามวัน วันแรก จะมีขบวนแห่ของนักเรียนของอบต. และของชาวบ้านทุกหมู่ของตำบลผาอินทร์แปลง
บางขบวนสวยงามเกินจะบรรยายได้ นอกจากนั้นสิ่งที่เห็นก็ทำให้ตื้นตันน้ำใจไมตรีมีล้นเหลือ บางขบวนที่กำลังแห่ก็แจกน้ำ แจกตำบักหุ่ง ผัดหมี่ ให้กับคนดูกันไปตลอดทาง
ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสทั้งขบวนแห่และผู้เฝ้าดู เหมือนจะเย้ยแสงแดดเปรี้ยงว่า ... ไม่ทำให้เราท้อได้ .. ม้วนหลายขึ้นวันที่สองและสามจะเป็นงานบั้งไฟโดยเฉพาะผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่13 ตำบลเอราวัณเล่าให้ฟังว่า บั้งไฟล้านที่จุดในงานบุญนี้ มาจากจังหวัดยโสธรมี2บั้งด้วยกัน ซึ่งถือว่าเป็นส่วนของงานบุญ "..บั้งไฟล้านของเรามีน้อยบั้ง แต่ขบวนแห่ของเราหลายกว่า.." ผู้ใหญ่บ้านพูดไปยิ้มไปเรามาดูคำว่าบั้งไฟล้านกันดีกว่า ..ถามคนพื้นที่ว่าบั้งไฟล้านแปลว่าอะไรเค้าก็ตอบมาว่าเป็นบั้งไฟที่มีดินปืนล้านกิโล ยิงได้สูง ยิงได้นาน ขึ้นไปถึงชั้นฟ้าพญาแถนเรื่องเล่าก็มีอยู่ว่า พญาแถนบนชั้นฟ้าบันดาลไม่ให้ฝนฟ้าตกลง7ปี7เดือน7วันเพราะไม่พอใจมนุษย์ดินฟ้าแห้งแล้งอย่างหนัก มนุษย์เกิดความโกรธ เลยก่อสงครามกับพญาแถนและเหล่าเทวดา แต่ก็สู้ไม่ได้จึงขอความช่วยเหลือจากพญาคันคาก(คางคก) ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์เสวยชาติมาเกิดทำให้พญาแถนพ่ายแพ้ไป และรับปากว่าเมื่อจุดบั้งไฟขึ้นไปเตือนก็จะให้ฝนตกลงมาหากกบเขียดร้องก็แปลว่าฝนตกถึงพื้นดินแล้ว
ขึ้นวันที่สองและสามจะเป็นงานบั้งไฟโดยเฉพาะผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่13 ตำบลเอราวัณเล่าให้ฟังว่า บั้งไฟล้านที่จุดในงานบุญนี้ มาจากจังหวัดยโสธรมี2บั้งด้วยกัน ซึ่งถือว่าเป็นส่วนของงานบุญ "..บั้งไฟล้านของเรามีน้อยบั้ง แต่ขบวนแห่ของเราหลายกว่า.." ผู้ใหญ่บ้านพูดไปยิ้มไป
เรามาดูคำว่าบั้งไฟล้านกันดีกว่า ..ถามคนพื้นที่ว่าบั้งไฟล้านแปลว่าอะไรเค้าก็ตอบมาว่าเป็นบั้งไฟที่มีดินปืนล้านกิโล ยิงได้สูง ยิงได้นาน ขึ้นไปถึงชั้นฟ้าพญาแถน
ก่อนจะจุดบั้งไฟล้าน ช่างทำบั้งไฟก็ทำการล้างบั้งโดยใช้เหล็กที่มีปลายเป็นเกลียวขนาด2หุนกระแทกเข้าไปเป็นจังหวะแล้วลองเทียบดูว่าเข้าไปถึงไหนแล้วจากนั้นตามด้วยผ้าชุบน้ำล้างกันอีกหลายรอบ ก่อนที่จะปิดท้ายบั้งเหตุผลของการล้างนี้ได้รับคำตอบเพียงแต่ว่า "ไม่ล้างก็ระเบิดซีคุณ ไม่รู้หรือไง?" แห่ะๆ ไม่รู้จ้ะเมื่อบั้งไฟล้านที่ถูกชะล้างพร้อมแล้ว ก็นำไปติดตั้งยังร้านที่ทำไว้โฆษกในงานก็เข้าใจพูด หรือเป็นเพราะคนอีสานเป็นคนน่ารักและมีใจสามัคคีก็ไม่อาจรู้บั้งไฟขนาดใหญ่ต้องใช้ถึงสิบคนแบก ก็ได้ชาวบ้านช่วยกันลากเชือกให้สูงขึ้นเสียงโฆษกประกาศดัง "..พ่อแม่พี่น้องชาวเรา ช่วยกันร่วมบุญชักบั้งไฟขึ้นร้านมือใดได้จับเชือก มือใดได้ช่วยลากจูงถือเป็นกุศล ถือเป็นบารมีเด้อพี่น้องเด้อ.."แล้วบั้งไฟล้านก็ขึ้นสู่ลานบินของตนมีการจุดตะไลขึ้นนำ แล้วตามด้วยการจุดบั้งไฟล้านผู้คนต่างโห่ร้องยินดี ขนาดTwining เองก็ยังอดไม่ได้ที่จะช่วยโห่ด้วยความยินดีเมื่อบั้งไฟขนาดใหญ่เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วออกไปจากร้านเสียงดังข้างหู "...คุณนายตำรวจว่า200ไหม? เอาเท่าไหร่?.."คิดในใจ สงสัยเข้าใจผิดว่าเราเป็นคนอื่น เลยเพียงยิ้มให้จากนั้นรอบๆตัวก็กลายเป็นวงพนันขนาดใหญ่ คนเป็นพันๆต่างทำนายว่าบังไฟล้านนี้จะใช้เวลาเท่าไหร่พอโฆษกประกาศว่า 297 วินาที ผู้คนต่างโห่ร้องยินดีกันอีกครั้งแล้วแบ๊งค์ยี่สิบ แบ๊งค์ร้อย แบ๊งค์พันก็ต่างเปลี่ยนมือจากเจ้าของกันจ้าละหวั่น รอยยิ้มกระจายไปทั่วบริเวณตลอดบ่าย บั้งไฟขนาด1นิ้ว และ 2นิ้วที่ชาวบ้านทำมาแข่งขันกันขึ้นไม่มีเว้นว่างโดยมีเงินรางวัลจากคณะกรรมการไม่เยอะนัก แต่มากมายด้วยชื่อเสียงขจรไกลเหมือนบั้งไฟที่เค้าเป็นผู้จุดการแข่งขันเป็นไปด้วยความสนุกสนาน การวัดว่าบั้งไฟของใครจะชนะ อยู่ที่ระยะเวลาพอกรรมการกลางเริ่มนับ1-2-3 ก็เริ่มจับเวลาบั้งไฟจากท่อพีวีซีพุ่งแรงขึ้นสู่เวิ้งฟ้า ตาทุกคู่จับจ้องและทายผลกันว่าจะอยู่ถึงกี่วินาทีเมื่อสูงสุดย่อมมีการร่วงหล่น ตกถึงพื้นเมื่อไหร่เป็นหยุดเวลางานนี้เงินเดิมพันสะพัดทั่วทั้งอำเภอ ก่อนกลับมาเลยลองซื้อบั้งไฟน้อยที่ชาวบ้านทำเองกลับมาด้วยเพราะเป็นที่ระลึกถึงความรื่นเริงของพวกชาวบ้านร้านถิ่นที่มีน้ำใจ ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ตลอดเวลา Create Date : 20 มิถุนายน 2549 Last Update : 20 มิถุนายน 2549 20:48:50 น. 32 comments Counter : 6511 Pageviews. ShareTweet
เมื่อบั้งไฟล้านที่ถูกชะล้างพร้อมแล้ว ก็นำไปติดตั้งยังร้านที่ทำไว้โฆษกในงานก็เข้าใจพูด หรือเป็นเพราะคนอีสานเป็นคนน่ารักและมีใจสามัคคีก็ไม่อาจรู้บั้งไฟขนาดใหญ่ต้องใช้ถึงสิบคนแบก ก็ได้ชาวบ้านช่วยกันลากเชือกให้สูงขึ้นเสียงโฆษกประกาศดัง "..พ่อแม่พี่น้องชาวเรา ช่วยกันร่วมบุญชักบั้งไฟขึ้นร้านมือใดได้จับเชือก มือใดได้ช่วยลากจูงถือเป็นกุศล ถือเป็นบารมีเด้อพี่น้องเด้อ.."แล้วบั้งไฟล้านก็ขึ้นสู่ลานบินของตนมีการจุดตะไลขึ้นนำ แล้วตามด้วยการจุดบั้งไฟล้านผู้คนต่างโห่ร้องยินดี ขนาดTwining เองก็ยังอดไม่ได้ที่จะช่วยโห่ด้วยความยินดีเมื่อบั้งไฟขนาดใหญ่เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็วออกไปจากร้านเสียงดังข้างหู "...คุณนายตำรวจว่า200ไหม? เอาเท่าไหร่?.."คิดในใจ สงสัยเข้าใจผิดว่าเราเป็นคนอื่น เลยเพียงยิ้มให้จากนั้นรอบๆตัวก็กลายเป็นวงพนันขนาดใหญ่ คนเป็นพันๆต่างทำนายว่าบังไฟล้านนี้จะใช้เวลาเท่าไหร่พอโฆษกประกาศว่า 297 วินาที ผู้คนต่างโห่ร้องยินดีกันอีกครั้งแล้วแบ๊งค์ยี่สิบ แบ๊งค์ร้อย แบ๊งค์พันก็ต่างเปลี่ยนมือจากเจ้าของกันจ้าละหวั่น รอยยิ้มกระจายไปทั่วบริเวณตลอดบ่าย บั้งไฟขนาด1นิ้ว และ 2นิ้วที่ชาวบ้านทำมาแข่งขันกันขึ้นไม่มีเว้นว่างโดยมีเงินรางวัลจากคณะกรรมการไม่เยอะนัก แต่มากมายด้วยชื่อเสียงขจรไกลเหมือนบั้งไฟที่เค้าเป็นผู้จุดการแข่งขันเป็นไปด้วยความสนุกสนาน การวัดว่าบั้งไฟของใครจะชนะ อยู่ที่ระยะเวลาพอกรรมการกลางเริ่มนับ1-2-3 ก็เริ่มจับเวลาบั้งไฟจากท่อพีวีซีพุ่งแรงขึ้นสู่เวิ้งฟ้า
มีการจุดตะไลขึ้นนำ แล้วตามด้วยการจุดบั้งไฟล้านผู้คนต่างโห่ร้องยินดี ขนาดTwining เองก็ยังอดไม่ได้ที่จะช่วยโห่ด้วยความยินดี
ตลอดบ่าย บั้งไฟขนาด1นิ้ว และ 2นิ้วที่ชาวบ้านทำมาแข่งขันกันขึ้นไม่มีเว้นว่างโดยมีเงินรางวัลจากคณะกรรมการไม่เยอะนัก แต่มากมายด้วยชื่อเสียงขจรไกลเหมือนบั้งไฟที่เค้าเป็นผู้จุดการแข่งขันเป็นไปด้วยความสนุกสนาน
เคนได้ยินมาว่า บั้งไฟหมื่น จะใช้ดินปืนที่ทำจากดินประสิวหนัก ๑๒ กิโลกรัม
คือนับเฉพาะน้ำหนักของดินประสิว ไม่นับรวมถ่านและส่วนประกอบอื่น
ส่วนบั้งไฟแสน ก็นับเฉพาะน้ำหนักของดินประสิว ๑๒๐ กิโลกรัมเช่นกัน
ฟังมาอย่างนี้ก็เอามาบอกครับ
หากมีท่านใดที่ได้ยินมาเป็นอย่างอื่น จะช่วยบอกเล่ากันหน่อยก็จะขอบคุณยิ่งครับ