Group Blog
 
<<
มีนาคม 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
5 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
เงาหัวใจในม่านฝน บทที่ 1


เสียงกรีดร้องของโทรศัพท์ที่ดังอย่างต่อเนื่องนั้นก็ไม่สามารถปลุกคนที่นอนหลับอยู่ให้ลุกขึ้นมารับสายได้ แต่คนที่โทรมาก็มีความพยายาม เพราะเสียงของมันยังคงดังอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งใครบางคนตวัดผ้าเต็นท์ขึ้นเดินหนัก ๆ เข้ามาข้างเปลสนามที่กางอยู่บนพื้น

สภาพของคนที่นอนอยู่ในเปลหน้าตายังคงมอมแมม แม้กระทั่งรองเท้าเจ้าตัวก็ไม่เสียเวลาถอดออก แต่คงจะล้มตัวลงนอนทันทีที่กลับเข้าสู่ฐาน ปืนยาวคู่กายวางแนบอกโดยใช้มือหนึ่งกอดเอาไว้ต่างหมอนข้าง เป้สนามยังถูกวางไว้อย่างลวก ๆ ข้างเปล ในขณะที่เครื่องโทรศัพท์อันจิ๋วยังส่งเสียงเรียกไม่ขาดสายตกอยู่ใต้เปล

“ไอ้ปืนตื่น”

เสียงปลุกมาพร้อมกับรอยถีบจากเท้าในรองเท้าคอมแบตหนัก ๆ กระแทกเข้าที่ปลายขาที่ห้อยลงมาจากเปลข้างหนึ่ง

“เฮ้ยย ตื่นได้แล้วเสียงโทรศัพท์ดังขนาดนี้ ทีเสียงปืนนะหูดีนักนะมึง เฮ้ยตื่นสักที”

ครั้นเห็นคนอยู่บนเปลสนามยังไม่ยอมตื่นจึงยื่นเท้าเข้าไปอีกครั้งหมายจะถีบเข้าอีกสักที แต่คนในเปลไวกว่าคว้าขาข้างนั้นไว้ แล้วออกแรงดึงเพียงนิดเดียวคนที่ไม่ทันได้ตั้งตัวถึงกับล้มลงทันที

“ไอ้ปืน เล่นบ้า” เสียงถอนฉุนดังมาจากคนที่กำลังลุกจากพื้น พร้อมกับมองหน้าเพื่อนที่ลุกจากเปลมายืนบิดขี้เกียจแทน พร้อมรอยยิ้มเยาะสะใจ

“ก็ใครให้เอ็งเอาตีนมาปลุกข้าล่ะไอ้ฑัยห์” คนพูดไม่พูดเปล่ายกปืนในมือขึ้นวางบนโต๊ะทำงานที่มีอยู่เพียงตัวเดียวในฐานปฏิบัติการเล็ก ๆ ภายในวัด

“ก็เสือกไม่ตื่นทำไมล่ะ” คนที่ลุกขึ้นมายืนได้ปัดฝุ่นออกจากกางเกง เท้าสะเอวมองหน้าเพื่อนซึ่งหยิบน้ำดื่มขึ้นมากินไปด้วยล้างหน้าไปด้วย

“เมื่อคืนกว่าจะเข้ามานอนก็เกือบตีห้าแล้ว เอ็งจะรีบปลุกข้าไปไหนว่ะ วันนี้เสียงปืนก็ยังไม่ดังระเบิดก็ไม่มี แถมวิทยุสื่อสารก็ไม่เห็น...”คล้ายนึกอะไรได้เจ้าตัวเลยเดินไปคว้าวิทยุที่วางอยู่ข้างเป้มาดูแล้วก็เข้าใจว่า ทำไมวันนี้เสียงวิทยุสื่อสารมันถึงได้เงียบนัก

“ไงเอ็งปิดมันหรือมันปิดตัวเอง”

“สงสัยจะได้เปลี่ยนเครื่องใหม่ไว ๆ นี้ เมื่อวานมันก็รวน ๆ ทีแล้วนี่ก็ดับอนาถไปเลย” เจ้าตัวถอนหายใจโยนวิทยุสื่อสารลงในเปลที่เขาเพิ่งลุกขึ้นมาอย่างไม่สนใจอีก “ว่าแต่เอ็งมีอะไร”

“หน็อย ไอ้ผู้กองข้าต่างหากที่ต้องถามเอ็งว่ามีปัญหาอะไร ไอ้หนูมิเตอร์แหกปากร้องเพลงจนคอแหบคอแห้งเอ็งก็ไม่รับสายสักที ดีนะไม่ได้ไปนอนในดง ไม่อย่างนั้นพวกนั้นคงรู้หมดแล้วว่าไอ้ผู้กองปืนนอนอยู่ตรงไหน”

คุณปืนก้มลงหยิบโทรศัพท์ที่คงตกตอนเขาล้มตัวลงนอน ขึ้นมาถือไว้ สายเรียกเข้าจากคน ๆ เดียวเกือบยี่สิบสาย ป่านนี้แม่เจ้าประคุณคงหน้างอง้ำเหมือนลิงไม่ได้ถ่ายมาสามวัน แล้วก็เจริญพรตามด้วยกันเทศน์อีกหลายบท ที่เขาไม่ยอมรับโทรศัพท์

จริง ๆ ก็ไม่ถึงกับไม่ได้ยินเสียงเพลงของหนูมิเตอร์ที่ตั้งเป็นเสียงเรียกเข้าหรอก เพียงแต่มันอยากจะหลับเอาเรี่ยวแรงอีกสักนิดเพราะเดี๋ยวก็ต้องออกไปลาดตระเวนต่ออีก และคนที่โทรแล้วโทรเล่าจนเพลงหนอนผีเสื้อมันดังวนไปวนมาก็มีอยู่แค่คนเดียวที่เขาตั้งไว้เพื่อเธอโดยเฉพาะ

นั่นเพราะเจ้าตัวบอกตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ยินว่า ชอบเพลงนี้ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเลยสักครั้งที่แม่ตัวแสบจะฟังเพลงลูกทุ่ง เห็นเจอกันทีไรก็ไม่พ้นเพลงฝรั่งมังค่าที่ฟังแล้วไม่กระดิกหูเอาเสียเลย แถมบางทียังมีแร็พโย่วมาเสริมอีกต่างหาก เฮ้อออ...

“ใครวะ” ฑัยห์เอ่ยปากถามเมื่อเห็นคนเป็นเพื่อนเงียบไปนาน

“เด็ก” คุณปืนตอบสั้น ๆ แต่คนฟังถึงกับตาโต เดินเร่มาหยุดยืนตรงหน้าพร้อมอมยิ้มเจ้าเล่ห์ทำตาวิบวับล้อเลียน “เด็กจริงๆ” คุณปืนยืนยันเสียงแข็ง

“อะ อะ...เด็กที่อายุเกินสิบห้าสมัยนี้ก็ไม่ถือว่าเด็กแล้วผู้กอง นี่ริจะกินเด็กหรือไง แต่ก็ระวังไว้หน่อยละกันเดียวจะหาว่าหมวดคนนี้ไม่เตือน เด็กสมัยนี้กินเข้าไปแทนที่จะชุ่มคอชื่นใจนึกว่าโสด ๆ ซิง ๆ ที่ไหนได้มารู้อีกทีก็ลองของไปเสียแล้ว ทำอะไรไม่ได้ดีไม่ดีต้องรับเลี้ยงดูกันอีกต่างหาก”

“ไอ้บ้า...ที่พูดถึงนี่มันน้องข้า แล้วเอ็งก็มีความรู้เรื่องเด็ก ๆ ดีนักนะไอ้ฑัยห์ไม่ใช่ว่าพอพัก กลับกรุงเทพฯ ก็ออกลาดตระเวณจีบเด็ก ๆ นะเอ็ง” คุณปืนดักคอเพื่อนหนุ่มที่หัวเราะชอบใจทันทีที่ได้ยินผู้กองหนุ่มพูดจบ

“บ้าคุกเชียวนะโว้ย” ฑัยห์ตอบกลับแบบคนอารมณ์ดี “แล้วนี่วันนี้เอ็งจะเข้าหมู่บ้านกับพวกเด็ก ๆ หรือเปล่า”

“อือ” คำตอบสั้น ๆ พร้อมกับดึงซองปืนพกที่วางพาดอยู่บนโต๊ะมาใส่เข้าประจำที่

“แล้วใครจะเข้าไปที่หน่วย”

“แกไง มีแกไว้ทำอะไรวันนี้ไม่ต้องออกลาดไม่ใช่หรือไง แกก็เข้าไปเสร็จแล้วก็รับเงินสวัสดิการ ข้าวของเข้ามาด้วยเลยนะ”

“ได้ทีสั่งใหญ่เลยนะโว้ยไอ้ผู้กอง”

“เออไอ้หมวด” คุณปืนหันมายักคิ้วใส่ “อีกอย่างหมู่บ้านที่เข้าลาดเมื่อวานนี้ดูมันเรียบร้อยชอบกลแกว่าไหม”

“เรียบร้อยแล้วไม่มีชอบกลต่อได้ไหมว่ะไอ้ปืน ฟังแล้วหนาวสันหลัง พักนี้ยิ่งเงียบ ๆ ทำให้ใจหวิว ๆ บอกไม่ถูก”

“ฝนมันตกด้วยล่ะมั้งแต่เงียบ ๆ อย่างนี้ระวังตัวให้มากหน่อยก็ดี ไม่รู้จะตูมตามกันอีกเมื่อไหร่” คุณปืนเดินมาตบบ่าเพื่อนเบา ๆ “ไงก็ฝากด้วยแล้วกันเรื่องเสบียงกับเงินสวัสดิการ”

“เหมือนกันนั่นแหละ ระวังตัวด้วยแล้วไงกลับมาจะเอาของดีมาฝาก” ฑัยห์ทำท่าจะเปิดประตูเต็นท์ออกไป

“ถ้าของดีที่ว่าเป็นยาเส้นกับใบจากไม่เอาแล้วนะโว้ย เอาหาของหนัก ๆ มากินให้อุ่นกันหน่อยดีกว่า”

“เออๆ จะหามาให้สักสองสามขวด”

คุณปืนยืนมองผ้าเต็นท์ที่ปิดลง พร้อมกับมองโทรศัพท์ในมือ แล้วตัดสินใจไม่โทรกลับไปหาเจ้าของสายเรียกเข้า แต่คิดในใจว่าเย็นนี้เขาต้องกลับมาแล้วโทรไปหาเธอให้ได้ ก่อนคว้าปืนคู่กายตวัดประตูเต็นท์เดินออกไปสู่หม่น ๆ ของท้องฟ้าครึ้มฝน

~:-:~~:-:~~:-:~~:-:~~:-:~~:-:~~:-:~~:-:~~:-:~~:-:~

“คุณเป้ ๆๆๆๆ”

เสียงเรียกยาว ๆ ของใครบางคนมาพร้อมกับเสียงวิ่งตึงตังเข้ามาในร้าน โดยไม่สนใจว่าภายในร้านจะมีลูกค้าอยู่หรือไม่

เจ้าของร่างบางที่ปีนี้สูงขึ้นอีกนิดหน่อย ถลาเข้ามาหยุดยืนอยู่หน้าเคานเตอร์ในมือกระดาษแผ่นบางถืออยู่ สีหน้าและแววตาดูมีความสุขไปกว่าทุกครั้งที่เคยเห็น

“คุณเป้” หญิงสาวเรียกชื่อเขาอีกครั้ง แม้จะหอบจากการวิ่งเข้ามาแต่เธอก็ดูมีความสุขดีในตอนที่ยื่นกระดาษแผ่นนั้นมาให้

“อะไรน่ะใบไม้”

“ไม้ใบต่างหากคุณเป้เนี่ย” เธอส่งค้อนคมที่ทำให้เขาเห็นว่าปีนี้ไม้ใบโตเป็นสาวขึ้นอีก และที่สำคัญมีหนุ่ม ๆ คอยมาขายขนมจีบอยู่บ่อย ๆ และเธอก็มักจะหลอกพวกหนุ่ม ๆ พวกนั้นมาที่ร้านเป็นประจำด้วยเหตุผลง่าย ๆ ว่า

....คุณเป้จะได้มีรายได้ไง อีกอย่างไม้ใบมากินฟรีหลายทีแล้วหาลูกค้ามาให้ก็คิดให้หนัก ๆ หน่อยแล้วกัน....

“วันนี้ไม่มีใครติดตามหรือไง” คุณเป้อดเย้าไม่ได้

“แล้วคุณเป้ล่ะ คุณครูลูกหว้าไปกับหนุ่มคนไหนถึงไม่ได้มาช่วยที่ร้าน”

“แก่แดดมากไปแล้วยัยใบไม้” เขาดุเสียงนุ่ม เอื้อมมือไปขยี้หัวทุย ๆ นั้นเล่นอย่างที่เคยทำเป็นประจำ “แล้วนี่อะไร” เขาหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาดู

“ไม้ใบติดครูแล้วนะ สอบได้แล้ว” เธอบอกพร้อมรอยยิ้มดีใจที่ไม่คิดจะปิด และตามด้วยประโยคที่ทำให้รอยยิ้มของคุณเป้หุบลงทันควัน แล้วมองหน้าเธออย่างตกใจเมื่อได้ยินประโยคต่อไปของหญิงสาวว่า “จังหวัดเดียวกับที่คุณปืนอยู่เลย”

“ไม้ใบ” เขาครางเสียงต่ำ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแม่สาวแสนแสบตรงหน้าต้องเป็นคนขอลงพื้นที่แถวนั้นแน่ ๆ เพราะพื้นที่ตรงนั้นมีคนอาสาเข้าไปเป็นครูน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย เป็นไปไม่ได้ที่ครูบรรจุใหม่จะถูกส่งไปที่นั่นหากไม่สมัครใจที่จะไปเอง โดยเฉพาะครูผู้หญิง

“จะไปทำไมกันไม้ใบ” เขาเงยหน้าจากเอกสาร ถามหญิงสาวที่เปรียบเสมือนน้องสาวของตนเอง

“ทำไมไปไม่ได้ล่ะ” เธอย้อนถามเสียงใส ไม่หวาดวิตก หรือกังวลใด ๆ ทั้งสิ้น

“อันตราย คุณปืนอยู่ที่นั่นคนเดียวคนทางนี้ก็เสียวหัวใจจะแย่แล้ว”

“ก็ไปอยู่สองคนจะไอ้มีเพื่อนอุ่นใจไง คิดในแง่ดีไว้สิคุณเป้ ถ้าคุณปืนติดต่อไม่ได้ก็ยังมีไม้ใบให้ติดต่ออยู่อีกคน เห็นมะดีจะตาย” เจ้าตัวยิ้มกริ่มพอใจบวกมั่นใจกับคำตอบที่ตอบออกไปด้วยการคิดเข้าข้างตัวเอง แต่คนฟังกลับปวดหัว ไม่เข้าใจเลยว่าหญิงสาวคิดอะไร

“แล้วพ่อกับแม่ว่าไง”

คำถามนั้นเรียกสีหน้าสดใสราวกับดอกไม้บานให้กลายเป็นดอกไม้เหี่ยว ๆ ได้ในทันที เจ้าตัวเบ้หน้าแล้วเอ่ยขึ้นว่า

“บ่นไปสามวันสิบวัน แต่ไม้ใบกล่อมให้โอเคเรียบร้อยแล้วล่ะ อย่างน้อย ๆ ท่านก็รู้ว่าไม้ใบตั้งใจไปสอนเด็กพวกนั้นจริง ๆ นั้น ถ้าคนเป็นครูกลัวกันหมดอย่างนี้เด็ก ๆ เหล่านั้นจะเรียนหนังสือได้ยังไง ในเมื่อครูในพื้นที่ยังย้ายออกกันแทบจะทุกเดือน”

“คุณเป้ว่าไม้ใบอยากไปอยู่ใกล้คุณปืนล่ะไม่ว่ากลัวคุณปืนมีแฟนใหม่หรือไง ไม่ต้องยกเหตุผลเรื่องเด็กตาดำ ๆ มาอ้างหน่อยเลย” คุณเป้ดักคออย่างรู้ทัน

“แหม...คุณเป้น่ะ..ไม้ใบอยากไปสอนเด็ก ๆ จริง ๆ นะ ส่วนเรื่องคุณปืนมันเป็นผลพลอยได้ต่างหาก จริง ๆ จะเลือกไปที่อื่นก็ได้แต่ไปอยู่ใกล้ ๆคุณปืนดีกว่า อุ่นใจด้วย” เจ้าตัวยิ้มจนดวงตายิบหยี แถมพยักหน้าประกอบคำให้การอีกต่างหาก

แต่คุณเป้นะหรือจะไม่รู้ทันไม้ใบ เด็กสาวที่เขาทั้งสามคนพี่น้องเห็นมาตั้งแต่เริ่มเป็นตัวแสบรุ่นเล็กจนเป็นแสบสาวในวันนี้ เหตุผลแรกที่ไม้ใบเลือกเรียนครูส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะอยากจะสอนเด็ก ๆ ที่เธอชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ในบรรดาเหตุผลที่เหลือต่อจากนั้น คุณเป้แน่ใจว่าคุณปืนเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ไม้ใบเลือกลงพื้นที่อันตรายตรงจุดนั้น

และหากน้องชายฝาแฝดของเขารู้เรื่องนี้ขึ้นมา มีหวังว่ายัยไม้ใบได้กลายเป็นไม้ใบโดนเผาเหลือแต่ซากแน่นอน เพราะเขารู้ดีว่าหากคุณปืนรู้เรื่องนี้ก่อน ไม้ใบจะไม่มีถูกบรรจุลงพื้นที่นั้นอย่างเด็ดขาด

ตอนนี้เขาได้แต่หวังว่า ไม้ใบคงต้องเตรียมตัวยิ่งกว่าการยิ้มสวย ๆ และพูดจาให้ถูกหูคุณปืนในตอนที่หมอนั่นกลับขึ้นมาและรู้เรื่องนี้ เพราะคุณปืนจะไม่ทำแค่โวยวายธรรมดาแน่นอน

“แล้วนี่ถ้าพี่ปั้นรู้เรื่อง” เขาถามถึงพี่ชายคนโต ซึ่งแน่นอนว่าหากรู้เรื่องไม้ใบก็กลายเป็นไม้ใบโดนย่างได้เหมือนกัน

สีหน้าอ่อย ๆ พร้อมกับรอยยิ้มแหย ๆ ของไม้ใบทำให้คุณเป้ไม่ต้องฟังก็รู้ว่าคำตอบคือ ..ยังแน่ ๆ ...

“ยังเลย แต่คุณเป้อย่าเผลอหลุดปากบอกตอนนี้ล่ะ รายนี้ยิ่งรู้จักเยอะอยู่ เคราะห์ดีเคราะห์ร้ายไม้ใบจะไม่ได้ไปเสีย” ไม้ใบทำคอหด ๆ เหมือนเต่าที่จะหดคอกลับเข้ากระดองตอนมีคนเอานิ้วไปแหย่ ๆ นั่นทำให้คุณเป้อดหัวเราะไม่ได้

“ปิดได้ไม่นานหรอกรับรองว่าพี่ปั้นต้องรู้ก่อนคุณปืนเสียอีก”

“ง่ะ...คุณเป้น่ะ อย่ามาเป็นหมอดูตอนนี้ได้เปล่า ให้ไม้ใบไปก่อนแล้วค่อยทำนายทายทัก” เจ้าตัวทำหน้าเง้า

“ไม่ต้องทำนายก็รู้ รับรองเลยว่าเราเตรียมตัวรับมือทั้งพี่ปั้นแล้วก็คุณปืนได้เลย”

“เชอะ...รายคุณปืนน่ะ รับรองว่าได้รู้ตอนไม้ใบลงไปบรรจุแน่ ๆ ถ้าไม่มีใครแอบไปบอกนะ” ท้ายประโยคตวัดสายตาคม ๆ มามองหน้าคุณเป้จริงจัง

“เหอะ...” คุณเป้ทำเสียงเบื่อ ๆ

“ส่วนพี่ปั้นน่ะ ไม้ใบจะทำตัวหายไปหายมาเป็นนิจจาสักพัก ให้พี่ปั้นตามตัวไม่เจอรับรองว่าไม่มีทางหรอก”

“แน่ใจเหรอว่าจะหลบพ้น” คุณเป้ถาม ไม้ใบพยักหน้ารับแบบมั่นใจเต็มที่ โดยไม่รู้เลยว่าคนตรงหน้ากำลังมองไปที่บานประตูที่ร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีเข้มกำลังเดินตรงเข้ามา “ให้มันแน่ใจด้วยนะว่าจะพ้นโน่นหันไปดูเสียก่อนว่าใครมา”

ไม้ใบไม่รอช้าหันกลับไปมองด้านหลังด้วยความมั่นใจว่า โดนคุณเป้หลอกแน่ ๆ เพราะเวลาอย่างนี้ปกติแล้วคุณปั้นพี่ชายคนโตของบ้านปอ ปลา คงไม่เสียเวลาอันแสนมีค่าของทนายความชื่อดัง ผู้มีธุรการงานยุ่งวุ่นวายยิ่งกว่าท็อปโมเดลนับเบอร์วันของเมือไทย แวะมาแน่นอน

แต่ดูท่าความมั่นใจของหญิงสาวคงจะกลายเป็นหมันไปเสียแล้ว ทันทีที่เธอหันไปมองยังประตูทางเข้าร้าน พี่ชายคนโตของบ้าน ปอ ปลา กำลังเดินหน้ายุ่ง มือหนึ่งหิ้วกระเป๋าใส่เอกสาร ส่วนอีกมือกำลังคลายปมเนคไทออกจากคอ ไม้ใบอ้าปากค้างในทันที

“พี่ปั้น” เธอครางเสียงแผ่ว หันไปมองคุณเป้ที่หัวเราะกับกิริยาอาการตกใจของหญิงสาวไม่หยุด “ยังมาหัวเราะอยู่ได้พี่เป้ ไม้ใบไปแล้วนะ แล้วถ้าเรื่องของไม้ใบแดงขึ้นมาเพราะพี่เป้ ไม้ใบจะให้คุณครูลูกหว้าจัดการพี่เป้แทน” ว่าแล้วเจ้าตัวก็คว้ากระเป๋าวิ่งปรู๊ดเข้าไปยังประตูหลังร้านทันที

คุณปั้นเดินเข้ามาถึงในร้านในตอนที่ คุณเป้น้องชายหันมาสบตาด้วยรอยยิ้มที่ค้างอยู่บนริมฝีปากแบบคนอารมณ์ดี

“อารมณ์ดีจริงนะพ่อนายทหารปลดประจำการ” คุณปั้นเย้า พร้อมกับวางกระเป๋าพร้อมกันเนคไทที่ถอดออกกองบนโต๊ะหน้าเคาน์เตอร์ “ตะกี้เห็นหลังไว ๆ ใช่ยัยไม้ใบหรือเปล่า”

“เฮ้ย ..พี่ปั้นไม่ใช่หรอก ตาฝาดไปมัง”

...ไม่ได้กลัวว่าจะโดนครูลูกหว้าจัดการอย่างที่ไม้ใบว่าหรอกนะ แต่เกรงใจไม่อยากให้ครูลูกหว้าเหนื่อยต่างหาก... คุณเป้พึมพำในใจ

“พี่ปั้นแวะมาทำไมตอนนี้ วันนี้ว่างหรือไง”

“พอดีขับรถผ่านมาทางนี้เลยกะมาหาอะไรดื่มให้ตามันสว่างหน่อย เมื่อคืนเก็บรวบรวมเอกสารจนเกือบเช้า ได้นอนไปไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องไปขึ้นศาลอีก”

“งั้นเอากาแฟดำไหมล่ะ”

คำตอบคือการพยักหน้าง่าย ๆ คุณเป้เลยหันไปจัดการออเดอร์ที่ได้รับมา กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นอบอวนไปทั้งร้าน เพียงพักเดียว กาแฟดำสีเข้มควันลอยกรุ่นก็มาวางอยู่ตรงหน้าคุณปั้นแทน

“ได้ข่าวนายปืนบ้างหรือเปล่า” คุณเป้เอ่ยถามทันทีที่กาแฟคำแรกถูกจิบ และรสชาติของมันซึมซาบผ่านลิ้นไปอย่างช้า ๆ และเขาหวังว่ากาแฟดำแก้วนี้คงทำให้เขาตื่นได้อย่างน้อย ๆ ก็ให้งานที่ค้างอยู่เสร็จสิ้นไปก่อนที่เขาจะหมดแรงไปเสียก่อน

“อาทิตย์ก่อนน่ะโทรมา แต่อาทิตย์นี้ยังเงียบ ๆ อยู่”

“พักนี้ข่าวทางนั้นก็เงียบ ๆ นะ ตั้งแต่เรื่องตชด.ถูกลอบยิงพร้อมกับที่เฮลิคอปเตอร์ตกคราวก่อน เมื่อไหร่นายนั่นจะขึ้นมาเสียที”

“ผมก็ไม่รู้นะ แต่คิดว่าคงเร็ว ๆ นี้แหละ เพราะได้ข่าวว่าจะมีการแข่งขันกระโดดร่มนานาชาติ ถ้ามันยังอยู่ดีมีสุขมันก็คงจะปลีกตัวขึ้นมาอยู่แล้ว”คุณเป้บอกพร้อมมองดูพี่ชายคนโตจิบกาแฟเงียบ ๆ ก่อนเอ่ยถาม “มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า”

คุณปั้นหรือปริเยศเหลือบสายตาจากแก้วกาแฟมองน้องชายตรงหน้า ก่อนถอนหายใจเฮือกยาว วางแก้วกาแฟลงบนจานรอง แล้วก็ถอนหายใจอีกเฮือก

“ถอนหายใจยาวขนาดนี้ไปตกหลุมรักสาวที่ไหนเข้าล่ะ” คุณเป้หลิ่วตาล้อเลียน กางหูยังคอยฟังคำตอบ

“ไอ้บ้า...ใครจะว่างไปตกหลุมรักสาวที่ไหนเหมือนแกล่ะ” คุณปั้นตวัดสายตาขวาง ๆ มองน้องชายตัวดีคนที่ดูท่าจะมีความสุขกว่าใคร “พอดีงานมันเจอตอนิดหน่อย”

“มีอะไรที่น้องชายคนนี้ช่วยได้ไหมล่ะ” คุณเป้เสนอตัวทันที เพราะตอนที่เขามีปัญหาหนักทั้งคุณปั้นและคุณปืน ต่างก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้วยกันทั้งนั้น และถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากจะช่วยเหลือคุณเป้ที่กำลังมีปัญหาเหมือนกันหากเขาสามารถช่วยได้

“ไม่เป็นไรจะค่อย ๆ หาทางไปเอง”

“เรื่องงานหรือ” คุณเป้หยั่งเชิง คุณปั้นพยักหน้ารับเบา ๆ พร้อมถอยหายใจอีกเฮือก

“ถ้ามีอะไรต้องการให้ช่วยพี่ปั้นต้องบอกนะ” เขาย้ำ สีหน้ากวน ๆ หายไปแล้ว เหลือเพียงความจริงจังที่ปรากฏขึ้นมาแทน

“เอาเป็นว่าถ้าคุณปืนขึ้นมา ให้มันโทรไปหาหรือแวะไปหาด้วยล่ะ”

คุณปั้นบอกด้วยน้ำเสียงเหนื่อย ๆ ก่อนขยับตัวลุกจากเก้าอี้หน้าเคานเตอร์เดินออกไปเงียบ ๆ เหมือนตอนที่เข้ามา คุณปั้นมองแผ่นหลังของพี่ชายคนโตด้วยความไม่เข้าใจ


(โปรดติดตามตอนต่อไป)






Create Date : 05 มีนาคม 2552
Last Update : 5 มีนาคม 2552 19:31:58 น. 4 comments
Counter : 1107 Pageviews.

 
รอติดตามตอนต่อไปค่ะ น่าสนใจค่ะ


โดย: โบว์ IP: 130.88.170.215 วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:22:50:34 น.  

 
เริ่มงงว่า ไม้ใบใช่คนเดียวกับ "เธอผู้เป็นที่รัก"ในบทนำหรือเปล่า


โดย: unna_jung IP: 124.121.88.208 วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:23:28:31 น.  

 
นั่นสิสงสัยเหมือนคุณunna_jungไม้ใบจะใช่คนเดียวกับเธอผู้เป็นที่รักในบทนำมั้ย


โดย: mimny วันที่: 6 มีนาคม 2552 เวลา:0:31:03 น.  

 


โดย: ฮิปโปร้อยฝัน วันที่: 8 กรกฎาคม 2552 เวลา:8:55:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เปียร์รุส
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




In Rememberกองความทกข์ทับถมกองพะเนินเหมือนกองหิมะขาวโพลนตรงหน้าแต่..มันจะแตกต่างกันตรงที่ เมื่ออากาศเริ่มอบอุ่นขึ้น กองหิมะก็จะละลายกลายเป็นน้ำไป...แต่ความทุกข์ที่เกาะกุมแนบแน่นอยู่ชิดติดเนื้อใจนั้น...วันใดถึงจะหายเจ็บปวดและ...ทรมานเสียที



:::คำเตือน:::ขอสงวนสิทธิ์ใด ๆ ตามกฎหมาย ในการทำคัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง ส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดของนิยาย เรื่องสั้น ในบล็อคแห่งนี้ โดยไม่ได้รับอนุญาต และ หากผู้ใดกระทำการคัดลอกหรือนำไปโพสในเวปอื่น ๆ หรือบล็อค โดยมิได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือ หากนำเรื่องไปเสนอต่อสำนักพิมพ์ ถือเป็นการเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 800,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ.กฏหมายลิขสิทธิ์

:::แจ้งข่าว:::
10 ส.ค. 57 อัปฯ นิยาย

เรื่อง : ตราบเวลามิอาจกั้นรัก บทที่ 1

สวัสดีค่ะ หล้งจากห่างหายไปนานมากกกับ การเขียนนิยายในบล็อค พยายามเจียดเวลามาจัดการงานค้างในไหดองค่ะเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ คนไหนยังคงจำกันได้และแวะเวียนมาอ่าน ลงคอมเม้นให้ด้วยนะคะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจล่วงหน้าค่า... ^_^

ขอบคุณค่ะ
นัท
เปียรุส / ปรานต์ปัณฑ์
วังน้ำเขียว โคราชค่ะ




:::บอกเล่า::: ห้องที่งดการให้กุญแจ คือ

ฝากฟ้าถามดาวถึงข่าวคราวความรัก

เกลียวใจใยรัก (หัวใจที่ปลายฝัน)

ก็แค่ใครคนหนึ่งซึ่งคิดถึงเธอ

ทะเลทรายลายดาว

เรื่องสั้นขนาดยาว Season Of Love

เรื่องสั้นขนาดยาว Project Love & Kiss

ริ้วทรายใต้ตะวัน

เรื่องสั้นขนาดยาว Silver Fall's รสรักกรุ่นหัวใจ

หัวใจเพื่อรักความรักเพื่อลืม

มหรรณพแสงจันทร์

นิยายที่อยู่ในห้องที่ใส่กุญแจหาอ่านได้ตามร้านหนังสือนะคะ

ขอบคุณค่ะ

นัท...เปียรุส /ปัณณธร


รวมผลงานของเปียรุส , ปรานต์ปัณฑ์

ผลงานเดี่ยว



รวมเล่มกับนักเขียนท่านอื่น



Season Of Love

โดย ปัณณธร (เปียร์รุส)



Friends' blogs
[Add เปียร์รุส's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.