#4 เที่ยวหลวงพระบางครั้งแรก!!! ไหว้พระที่วัดเชียงทองและไปต่อที่พระราชวังหลวงพระบาง หรือ ที่เรียกว่าพ

ต่อจากรีวิวครั้งที่แล้วนะคะ  จากตอนที่แล้วที่เราตื่นมาตักบาตรข้าวเหนียวตั้งแต่เช้ามืด และทานอาหารเช้าที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว ตอนสายก็จะเริ่มออกเดินเที่ยวในเมืองหลวงพระบางกันค่ะ วันนี้เราวางแผนกันว่าเราจะเดินชมเมือง จากตอนแรกคิดว่าจะเช่าจักรยาน แต่เกิดเปลี่ยนใจเดินเอาดีกว่า เพราะเราคิดว่าเดินเอา เราจะถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เดินดูบ้านเรือนและวิถีชีวิตในหลวงพระบางไปด้วยไม่ต้องรีบ ถ้าปั่นจักรยานไหนจะต้องมองทางระวังรถนู่นนี่อีกก็เลยตัดสินใจเดินดีกว่า  จุดหมายปลายทางแรกในวันนี้เริ่มต้นจากที่แรก ที่เราจะไปคือ "วัดเชียงทอง" wat-xieng-thong

 เริ่มออกเดินทาง สถานที่แรกคือ วัดเชียงทอง  ระหว่างทางที่ไปก็ถ่ายภาพบ้านเรือนต่างๆ ไปด้วย ส่วนใหญ่ก็จะเปิดให้บริการเป็นเกสเฮ้าต์ ที่พักในหลวงพระบางมีค่อนข้างเยอะ มาหลวงพระบางไม่ต้องกลัวไม่มีที่พัก ตลอดเส้นทางที่เดินไปวัดก็จะเจอเกสเฮาต์ เฮือนพักเยอะแยะเลย

ระหว่างทางก่อนถึงวัดเชียงทองเห็นร้านภาพเขียนศิลปะวางขายอยู่ริมถนน

เดินมาได้สักพักก็ถึงแล้ว วัดเชียงทอง Wat Xieng Thong ซื้อบัตรค่าเข้าชมในราคาคนละ 20,000 กีบ ภาพด้านล่างเป็นบรรยากาศ สถาปัตยกรรมต่าง ๆ ในวัดเชียงทอง

ไหว้พระ ถ่ายรูป ที่วัดเชียงทองพอสมควรแล้ว สถานที่ต่อไปคือร้านส้มตำเจ้ติ๋ม เวลานี้ก็ใกล้จะเที่ยงพอดี อ่านรีวิวจากหลายๆที่เขาว่ากันว่ามาหลวงพระบางทั้งทีต้องไปกินส้มตำร้านเจ๊ติ๋ม หากไม่มาถือว่ามาไม่ถึงหลวงพระบาง ขนาดนั้นเชียวต้องไปลองหน่อยหล่ะ  ภาระกิจต่อไป เดินตามหาร้านส้มตำเจ๊ติ๋ม

ระหว่างทางเดินไปร้านเจ๊ติ๋ม เจอเกสเฮาต์ ก็ถ่ายรูปๆ

ร้านอาหารอีกร้านที่เล็งไว้ คิดกันว่า หากไม่เจอร้านเจ๊ติ๋ม หรือ ไปถึงแล้วหมดก่อน ก็จะกลับมากินมื้อเที่ยงที่ร้านนี้

เดินเรื่อยๆ ถ่ายรูปไปมา อ้าว! นี่ไง ถึงแล้ว ร้านส้มตำเจ๊ติ๋มที่เขาว่าอร่อยหนักอร่อยหนา

ร้านส้มตำเจ๊ติ๋ม ตั้งอยู่หน้าวัดหนองสีคูนเมือง

บรรยากาศหน้าร้านส้มตำเจ๊ติ๋ม

เข้ามาข้างในร้าน นั่งทำหน้าเครียดๆ คือ มีความพยายามจะอ่านเมนูที่เขียนเป็นภาษาลาว ฮ่าฮ่า

ได้แล้วแมนูแรกที่สั่ง หมูแดดเดียวทอด (แอบบอกว่ามันเหนียวมาก คือกินได้ชิ้นเดียว ) เสียดาย ห่อกลับด้วยแล่ะ กะว่าเอาไว้กินตอนเย็นก็ได้เผื่อหิวอีก แต่สุดท้ายต้องทิ้งมันเคี้ยวไม่ได้จริงๆ เหนียวมากกกกกก!!!!

เมนูที่สอง กระดูกหมูทอด เนื้อเยอะดี เมนูนี้ โอเค

จานสุดท้าย พระเอกของงาน  จัดว่าเด็ด! แซ่บ สมคำร่ำลือ เส้นมะละกอบางและกรอบมาก เส้นมะละกอ ไม่ได้สับ เหมือนบ้านเรา เขาจะฝานบางๆ ซึ่งมันกรอบ อร่อยมาก เชียร์เลยเมนูนี้ไม่ผิดหวัง ถ้าใครชื่นชอบการกินส้มตำ ถ้าไปหลวงพระบาง ต้องไปลอง ส้มตำเจ๊ติ๋ม อยู่หน้าวัดหนองสีคูนเมือง

ค่าเสียหายมื้อเที่ยงที่ร้านเจ๊ติ๋ม น้ำ 1 ขวด ข้าวเหนียวสองกระติ๊บ หมูแดดเดียว กระดูกหมูทอด ส้มตำ  ค่าเสียหายทั้งสิ้น 115,000 กีบ จะจ่ายเป็นเงินบาทก็ได้ ที่หลวงพระบางพ่อค้าแม่ค้ายินดีต้อนรับมากๆ แต่ถ้าจ่ายเป็นเงินบาทเราจะเสียเปรียบกว่าถ้ามีเงินกีบจ่ายเป็นเงินกีบจะดีกว่า แต่พอดีเงินกีบเราหมด ถ้าจะจ่ายเป็นเงินบาทเขาก็คิดเป็นเงินบาทอยู่ที่ 500 บาทถ้วน โอ้วววว! แพงเหมือนกันนะ    ห้าร้อยก็ต้องจ่าย ก็กินเข้าไปหมดแล้วนี่นา  ค่าครองชีพที่ลาวแพงเหมือนกันนะเนี่ย

กินข้าวเสร็จอิ่มท้องแล้วเดินเข้าไปถ่ายรูปในวัดหนองสีคูนเมืองซะหน่อย

ถ่ายรูปเสร็จแล้ว เดินกันต่อ สถานที่ต่อไปคือ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง

ถึงแล้วค่ะ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง

มาถึงพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบางก็เป็นเวลาบ่ายแก่ๆ แล้ว ซึ่งวันนี้แดดร้อนมาก  กำลังจะไปซื้อบัตรเข้าไปชมข้างในพระราชวังแต่คนเยอะมาก แดดก็ร้อน คิวก็ยาว ก็เลยไม่ได้เข้าไปชมข้างใน ซึ่งข้างในพระราชวัง ห้ามเอากล้องถ่ายรูปเข้าไปถ่ายสัมภาระต่างๆ ก็ต้องฝากไว้ในล็อกเกอร์ข้างนอก เดินมาค่อนวัน ทั้งเหนื่อยทั้งร้อน คนก็เยอะตัดสินใจไม่เข้าไป ขอถ่ายรูปข้างนอกนี้ก็พอ

ข้างในนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระบาง พระคู่บ้านคู่เมืองของหลวงพระบางค่ะ  ด้านในห้ามถ่ายรูปเช่นกัน ถ่ายได้แต่เพียงด้านนอก

อากาศร้อนมาก ซื้อน้ำแตงโมปั่น กะจะดูดให้ชื่นใจเสียหน่อย แต่ปรากฎว่ามันจืดมาก ไม่มีรสชาติของแตงโม  น้ำแข็งก็ไม่ค่อยจะมี อารมณ์ประมาณเหมือนน้ำที่เราปั่นตั้งทิ้งไว้นานแล้วจนทุกอย่างละลายหมดแล้วประมาณนั้นเลยค่ะ  แก้วนี้ 10,000 กีบ

ขณะที่อยู่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง เป็นเวลาประมาณบ่ายสองกว่าๆ แดดร้อนจัดมาก จนไปต่อไม่ไหว จากเดิมที่คิดว่าจะไปนั่งพักร้อนดื่มเครื่องดิ่มเย็นๆ ที่ร้านกาแฟโจมาก็ไปไม่ไหวเสียแล้ว จึงต้องกลับไปพักที่โรงแรมก่อนสักสองชั่วโมง แล้วเดี๋ยวตอนเย็นเราจะกลับมาที่นีอีกครั้ง เพื่อที่จะไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่เขาพูสี ซึ่งเขาพูสีอยู่ตรงข้ามกับ ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบางนี่เอง และตรงถนนด้านหน้าพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบางตลอดทั้งเส้น ตอนค่ำถนนเส้นนี้ก็คือตลาดมืด เดี๋ยวหลังจากดูพระอาทิตย์ตกเสร็จแล้ว เดี๋ยวไปเดินที่ตลาดมืดกันต่อ เผื่อได้ของฝากติดไม้ติดมือกลับเมืองไทย

ไว้มาต่อกันอีกทีตอนหน้านะคะ กับตอนดูพระอาทิตย์ตกที่เขาพูสีค่ะ

//www.tungyaatour.com/

Create Date : 21 มีนาคม 2560		5 comments
Last Update : 22 มีนาคม 2560 1:52:57 น.
Counter : 1311 Pageviews.
Share Tweet