Group Blog All Blog
|
[Review] สูญสิ้นความเป็นคน สูญสิ้นความเป็นคน
คำโปรย: ผมผ่านชีวิตอันมากด้วยความอัปยศ... ความคิดเห็น: หลังจากเราได้อ่านหนังสือเล่มนี้สิ่งแรกที่ปิ๊งขึ้นมาในหัวคือ อ่อนแอก็แพ้ไป เป็นคำพูดที่คนเรานิยมพูดกันติดปาก แต่คำนี้เป็นคำที่ทำร้ายความรู้สึกของผู้ที่เป็นโรคซึมเศร้าอย่างมาก ทันทีที่ผ่านบทนำจบ เราสัมผัสได้ว่าโยโซ เป็นเด็กที่มีปัญหาคนหนึ่ง ซึ่งเขาน่าจะป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แต่ในสมัยนั้นโรคซึมเศร้ายังไม่เป็นที่รู้จัก พ่อแม่เองก็ไม่เข้าใจในตัวลูกชาย จึงทำให้ตัวละครโยโซพบกับหนทางชีวิตที่มืดบอดลงไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายเขาเลือกที่จะจบชีวิตของตัวเองลง ยังคงอยู่ในประเด็นของโรคซึมเศร้ากันนะคะ ปกติหากเราพูดถึงโรคซึมเศร้าปุ๊ป เรามักจจะจินตนาการว่า คนจะต้องเอาแต่ซึมเศร้า วันๆ ไม่ทำอะไร แต่ความจริงแล้ว ผู้ป่วยอาจจะเก็บอาการเอาไว้ แล้วคอยแสดงว่าตัวเองโอเค ตัวเองยังไหวก็ได้ ซึ่งข้อนี้เองจะตรงกับบุคลิกของโยโซ โยโซมักจะบอกว่าตัวเองเป็นมืออาชีพในการปกปิดตัวตนที่แท้จริง และไม่ให้ใครเข้าถึง เราคิดต่างว่าทุกสังคมล้วนมีหน้ากากค่ะ วันหนึ่งเราดำรงบทบาทเป็นลูก เป็นเพื่อน เป็นติวเตอร์ และเป็นนักศึกษา แต่ละบทบาทที่เราสวมเราย่อมมีหัวโขนของบทบาทนั้น ซึ่งแน่นอนว่าตัวตนเราเปลี่ยนไปเมื่อเราเข้าสังคมใหม่ เพราะฉะนั้นเราจึงคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ หัวโขนหรือหน้ากากเป็นตัวช่วยให้มนุษย์ดำรงชีวิตร่วมกันได้ค่ะ ลองคิดดูหากมนุษย์ทุกคนล้วนต่พูด หรือทำสิ่งที่ตัวเองต้องการ โลกเราจะวุ่นวายขนาดไหน เพราะฉะนั้นการไม่พูดก็เป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้มนุษย์เกลียดกันน้อยลงนั่นเอง ซึ่งเรื่องนี้สำหรับโยโซแล้วเขาไม่คิดว่าตัวเองปกติ เขาคิดว่าตัวเองแปลกแยก อ่านจบหลายๆ มีประเด็นหนึ่งที่ทำให้เราฉุกคิด เมื่อเห็นข่าวการฆ่าตัวตาย จะมีความคิดเห็นหนึ่งเด่นขึ้นมา พร้อมกับมีคนมากดถูกใจ คือ เรื่องแค่นี้เองทำไมต้องฆ่าตัวตาย อย่าลืมว่ามนุษย์เรามีความอดทนไม่เท่ากันค่ะ ในเรื่องโยโซเองก็เจอเรื่องราวกระทบจิตใจมากมาก และเขาไม่มีกัลยาณมิตรคอยช่วยเหลือเลย ทำให้เขาจมดิ่งลงหาความซึมเศร้า อีกทั้งญี่ปุ่นมีข่าวการฆ่าตัวตาย ทำให้เรานึกถึงพฤติกรรมเลียนแบบ ตลอดไปจนถึงความเชื่อเรื่องการฆ่าตัวตาย เช่น การฮาราคิรี เป็นต้น ทำให้วิธีการฆ่าตัวตายเป็นอีกหนึ่งการแก้ปัญหาที่มีคนทำเป็นจำนวนมาก ตัวโยโซนี่เป็นเด็กที่ฉลาดและบริสุทธิ์เกินไป เขาคิดหาคำตอบในคำถามที่ไม่มีคำตอบ หรือมีคำตอบรออยู่ในระดับชั้นสูงๆ เช่น ทำไมคนเราต้องกินข้าว(หน้า16) เพราะชีวิตเขาไม่เคยรู้จักกับความหิวโหย ทำให้เกินคำถามเช่นนี้ แต่หากเขาเรียนรู้ในอนาคต วิทยาศาสตร์จะสามารถให้คำตอบเขาได้เช่นกัน หนึ่งสิ่งที่เราอ่านแล้วได้แต่ส่ายหัวไปมา คือ คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล แม้จะต่างสังคม แต่สุภาษิตนี้ยังคงใช้ได้เสมอ อีกหนึ่งสิ่งที่เราไม่เห็นด้วยก็คือ โยโซไม่ได้มีพรสวรรค์เรื่องผู้หญิง แต่เขาเป็นผู้ชายประเภทคลำดูไม่มีหางก็จับทำเมีย ขอโทษที่ใช้คำไม่สุภาพ แต่นึกคำอื่นไม่ออกจริงๆ สุดท้ายของประเด็นเนื้อหาในเรื่องคือ เราไม่เข้าใจว่าทำไมหนังสือที่น่าหดหู่และเต็มไปด้วยการมองโลกในแง่ร้ายถึงเป็นที่นิยมและโด่งดังมากขนาดนี้... เราหดหู่ที่เมื่อก่อนมีคนฆ่าตัวตายด้วยโรคซึมเศร้าอย่างไร ปัจจุบันก็ยังมีคนฆ่าตัวตายด้วยโรคซึมเศร้าเช่นนั้น การศึกษาและวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่พัฒนา ไม่ได้ช่วยอะไรจริงหรือ... ถัดมาเป็นเรื่องของหนังสือ เราไม่ชอบใจอย่างมากตรงที่เชิงอรรถอยู่ท้ายเล่ม อ่านลำบากมากค่ะ
ซื้อมาดองงงงง
คงต้องจัดระเบียบสมองก่อนอ่าน เพราะถ้าทางจะเครียดนะ โดย: Prophet_Doll วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:14:42:11 น.
|
TungmayRitar
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?] ตังเม = เป็นผู้หญิงที่มีความสนใจทุกสิ่ง ทุกอย่างรอบตัว ชอบขีดเขียน วาดรูป ถ่ายรูป รักความสวยงาม ชอบกิน ชอบกีฬา รักหมา ติดต่อ Thisistungmay@gmail.com ห้ามนำภาพถ่ายภายใน Blog ไปใช้ก่อนได้รับอนุญาต ติดตาม IG คลิกด้านล่างเลยค่ะ
Follow @tungmayritar
Friends Blog
Link |
ป.ล. ชอบปกของไทยจัง ที่เรามีเป็นภาษาอังกฤษหน้าปกสีชมพู