พระพายทายรัก
เขียน: เฌอมา
สำนักพิมพ์: พิมพ์คำ
ราคา: 300
คำโปรย:
เพราะความเชื่อเก่าเเก่ของราชสกุลวายะวงศ์
หม่อมหลวงดลวัฒน์ จึงถูกทำนายทายทักว่า วันใดวันหนึ่งสายลมจะนำเจ้าสาวมาให้ เเต่ใครจะรู้ว่าขณะที่เขาเดินเล่นอยู่ดีๆ สายลมที่ว่าก็พัดพาเจ้าสาวมาให้จริงๆ พัดหล่นตุ๊บลงมาจากฟากฟ้าเสียด้วย!
ทว่าเธอออกจะเป็นความหวานชื่นที่หนักไปสักหน่อย เพราะหญิงสาวที่ 'พระพายทายรัก' ส่งมาให้ คือ หม่อราชวงศ์กนกวลี คู่อริ คู่กัด เเละคู่แค้นของเขาตั้งแต่เด็ก อีกทั้งสองราชสกุลก็ไม่ลงรอยกัน เเล้วจะให้คนไม่ถูกกันตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่มาเเต่งงานกันเนี่ยนะ
เเต่ในเมื่อพระพายเสี่ยงทายมาเเล้ว เขาก็จะขอลองเสี่ยงกับยายคุณหญิงเกี่ยวก้อยนี่ดูสักครั้ง งานนี้จะรักหรือจะร้าย! จะพ่ายหรือจะพินาศ! ต้องมาลองวัดดวงกันดู
ความเห็น:
☆ พระพายทายรักเป็นหนังสือที่เห็นอยู่ในบ้านมาพักหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่คิดจะหยิบมาอ่าน เนื่องจากเป็นมนุษย์ที่ไม่ชอบอ่านเรื่องราวที่เกี่ยวกับราชนิกูล หม่อมๆ เจ้าๆ นัก ถามว่าเพราะอะไร คงจะตอบว่าอ่านแนวนี้เยอะจนเอียน ผนวกเข้ากับไม่ชอบความเชื่อเหนือธรรมชาติ จนกระทั่งปิดเทอมมีเวลาว่างเยอะเกินจนจัดการหนังสือที่ดองไว้หมด วันนี้มีเวลาเลยหยิบคุณดลกับคุณหญิงก้อยมาอ่าน
☆ เรื่องพระพายทายรักแน่นอนว่าต้องเกี่ยวข้องกับ 'ลม' ซึ่งลมในเรื่องนี้มีบทบาทให้การหอบรัก หอบคำทำนายแกมบังคับจนมีการแต่งงานขึ้น
☆ เนื้อเรื่องมีฟินระดับ 8 หมอดลน่ารัก คอยหยอดคำหวานให้คุณหญิงก้อยตลอด ตัวละครฝั่งตัวร้ายก็ไม่ได้ร้ายน่าเบื่อ เป็นความร้ายระดับทั่วไป พอจะเดาทางได้อยู่ ส่วนพระนางมีความฉลาด ชอบตรงนี้มาก เนื้อเรื่องมีการผูกปมได้ดี พลอตดี วางตัวละครได้เหมาะสมมาก ทุกตัวละครมีปมของตนเอง แม้ตอนคลายปมจะรวดเร็วไปบ้างก็ตาม
☆ ด้านภาษา ยังรู้สึกมีติดขัด หรือแทนคำแปลกๆ อยู่บ้าง เช่นบางย่อหน้า 3 บรรทัด กลับมีคำว่า 'ทว่า' อยู่ติดกันเลย มีการใช้คำซ้ำกันค่อนข้างเยอะ แต่ท้ายเล่มปัญหาเหล่านี้ค่อยข้างลดลง เป็นกำลังใจให้นักเขียนพัฒนาฝีมือเรื่อยๆ
☆ ด้วยความไม่ชอบเรื่องงมงายอยู่เป็นทุน ทำให้เรามโนฉากจบ ตอนที่ท่านพัฒน์พูดกับคุณหญิงก้อยถึงเรื่องพระพายเสี่ยงทาย 'แค่วายะวงศ์เชื่อ จะทำให้เธอพลัดตกลงมาจากวังนรังสรรค์ได้ยังไง' ก่อนจะตบท้ายด้วย 'พระพายทายรักน่ะมีจริงๆ' เราเลยขอมโนว่าพระพายผู้เสี่ยงทายรักนี่เป็นมนุษย์นั้นแหละ เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว ทำให้พระพายกลายเป็นขั้นล้ำหน้ากว่าการคลุมถุงชนธรรมดาๆ ที่บอกให้แต่งก็ต้องแต่ง แต่การบอกเล่าถึงการมีตัวตนของพระพาย เปรียบเสมือนการเล่นกับความเชื่อของมนุษย์ จนกลายเป็นข้อปฏิบัติไป
ภาค 2 เลยบายยยย