จะโสดหรือมีคู่ อยู่ที่ใครกำหนด ..













ยอม
รับเถอะน่า ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะกับการมีคู่เป็นตัวเป็นตน
แต่หลายๆคนกลับมองว่าการเป็นโสดนั้น เป็นเรื่องผิดปกติซะเหลือเกิน
โดยเฉพาะหากคนโสดที่ว่านั้น เป็นเพศหญิงยิงเรือด้วยแล้ว
ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไร ก็จะยิ่งถูกถากถางว่าเป็นคนที่ไม่มีใครเอา
หรือสังคมรังเกียจ ว่ากันไปนั่น
(สมัยนี้อยู่แค่ชั้นประถมก็มีแฟนมีกิ๊กกันแล้ว)
….. อัน
ที่จริง การจะตัดสินว่ามีคู่หรืออยู่เป็นโสด ปกติหรือไม่นั้น
มันต้องตัดสินกันด้วยตนเอง ไม่ใช่ให้ใครคนอื่นมาชี้นำ แล้วคุณจึงจะพบว่า
ไม่มีสูตรสำเร็จของชีวิตหรอกว่าต้องมีคู่หรืออยู่เป็นโสดถึงจะดีกว่ากัน



เรา
มีไกด์ไลน์มานำเสนอ ให้ทั้งคุณผู้ชายและคุณผู้หญิง ได้ประเมินตนเองว่า
คุณนั้นเหมาะที่จะมีคู่ หรือกรุณาอยู่เป็นโสดต่อไปนั่นแหละดีกว่า
ซึ่งจะทำให้ทุกท่านได้หายสับสนระหว่างความต้องการทางอารมณ์ (ชั่ววูบ)
รวมถึงความกดดันทางสังคม
VS ความต้องการที่แท้จริงของตัวเองในระยะยาวได้อีกด้วย





1. คุณมีแฟนมากี่คนแล้ว





ข้อ
นี้ขอให้คุณลองมองย้อนกลับไปในอดีต แล้วตอบตัวเองอย่างซื่อสัตย์ที่สุดนะ
ว่าบรรดาเพศตรงข้ามที่คุณเคยคบหามาเนี่ย มีมากน้อยแค่ไหน
นับให้หมดไม่ว่าจะทั้งแบบที่คบกันนานเป็นปี หรือจะแบบ 3 วันเลิก
หากรวมๆแล้วมากกว่าครึ่งหนึ่งของอายุคุณล่ะก็ คุณไม่เหมาะจะแต่งงานหรอก
สมมติคุณอายุ 30 ถ้าเคยคบมามากกว่า 15 คน
นั่นหมายความว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่คู่ของคุณแล้วล่ะ!





2. คุณมีแฟนคนแรกตอนอายุเท่าไร





อัน
นี้เกี่ยวข้องกับเรื่องชีววิทยาหน่อยๆ กล่าวคือ
คนที่มีแฟนตั้งแต่อายุยังน้อยๆนั้น หากเป็นผู้ชาย ก็เป็นพวกแรงขับทางเพศสูง
หากเป็นเพศหญิง ส่วนใหญ่จะเป็นพวกแสวงหาผู้ปกป้อง ซึ่งทั้งชายและหญิงทั้ง 2
ประเภทดังกล่าว เมื่อแต่งงานไป
ก็มีแนวโน้มที่จะสร้างปัญหาลำบากใจให้กับคู่ของตน
ดังนั้นหากคุณมีแฟนคนแรกตั้งแต่อายุยังไม่ 15 ปีแล้วล่ะก็
การอยู่คนเดียวจะทำให้ชีวิตราบรื่น
เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นมากกว่านะ
แถมคุณจะยังมีโอกาสเอาเวลาไปทุ่มเทให้ด้านการงานมากกว่าด้วย





3. คุณมีบทบาทอย่างไรในครอบครัว





หาก
คุณเกิดมาในครอบครัวที่มีพี่น้องกันหลายคน ข้อนี้จะสังเกตได้ง่ายหน่อย
กล่าวคือ หากคุณเป็นคนที่รับผิดชอบงานส่วนใหญ่ในบ้าน
หรือเป็นคนดูแลสมาชิกคนอื่นๆ คุณมักจะเติบโตมาพร้อมกัน
ห่วงที่
ยึดติดกับคนในครอบครัว ไม่เหลือใจเต็มร้อยไว้ให้กับคู่ของคุณในอนาคตแล้ว
หากคุณแต่งงานไป สิ่งนี้จะนำความขัดแย้งมาสู่ใจของคุณ
จนเป็นปัญหาใหญ่ทะเลาะกับคู่ของคุณได้ ว่าก็ว่าเถอะ
….คุณ
เองก็ไม่ได้อยากมีคู่สักเท่าไรหรอก
เพราะความสุขที่ได้จากการอยู่กับพ่อแม่ญาติพี่น้องนั้น มันสบายใจดีอยู่แล้ว
หากคุณเกิดมีบางครั้งที่อยากจะมีคู่แต่งงานล่ะก็ ให้ลองถามตัวเองดู
ว่าอยากมีไปเพื่ออะไร
คำตอบที่ได้ส่วนใหญ่มาจากอารมณ์ชั่ววูบทั้งนั้น





4. ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับพ่อแม่เป็นอย่างไร





ข้อ
นี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน กล่าวคือ หากคุณกับพ่อแม่
มักจะไม่ค่อยลงรอยกันแล้วล่ะก็ มันก็ยากที่คุณและคู่ของคุณจะลงรอยกัน
เพราะในจิตใต้สำนึกส่วนลึกที่สุดของคุณนั้น ได้ปลูกฝังให้คุณเชื่อว่า
ไม่มีใครรักและเข้าใจคุณอย่างแท้จริง
และคุณก็จะไม่สามารถมอบความรักให้ใครได้อย่างสมบูรณ์
เพราะคุณยากที่จะไว้ใจใคร
คุณมักจะกลัวว่าตัวเองจะเสียเปรียบในความสัมพันธ์ใดๆ
การพยายามกลับไปฟื้นฟูหรือเคลียร์ความสัมพันธ์กับพ่อแม่ของคุณให้ลงตัวก่อน (
Unfinished Business) หรือ
ไม่ก็อยู่คนเดียวไปจนกว่าคุณจะมีวุฒิภาวะทางอารมณ์สุกงอม
ไม่เก็บซ่อนความคับข้องใจเอาไว้แล้ว เป็นทางเลือกที่ดีกว่ามาก
ซึ่งหากคุณผ่านพ้นวัยกลางคนไปได้แล้วล่ะก็ ถึงตอนนั้นถ้าอยากจะมีคู่แต่งงาน
ก็ยังไม่สาย





5. คนรอบข้าง เห็นคุณเป็นคนอย่างไร




หาก
คุณมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับคนรอบข้าง
หรือรู้สึกว่าตัวเองมักจะถูกมองข้ามจากคนรอบข้างอยู่เสมอแล้วล่ะก็
การพยายามหาคู่เพื่อแต่งงาน อาจจะเป็นการพยายามชดเชยปมด้อยของคุณอยู่ก็ได้
กล่าวคือเป็นการเรียกร้องความสนใจ และถือเป็นการแก้แค้นพวกเขาอีกวิธีหนึ่ง
เนื่องจากบางครั้งคุณก็อยากให้ใครๆหันมามองคุณบ้าง หากคุณได้รับความสนใจ
และการเข้าหาจากคนรอบข้างเป็นปกติ คุณอาจจะไม่นึกอยากมีคู่เลยก็ได้ ดังนั้น
ควรจะสำรวจตนเองให้ดี ว่าอยากมีคู่เพราะถูกสังคมกดดัน
หรือเพราะอยากใช้ชีวิตก้าวไปข้างหน้าร่วมกับอีกคนหนึ่งจริงๆ



Create Date : 27 กันยายน 2554
Last Update : 27 กันยายน 2554 14:40:23 น. 7 comments
Counter : 464 Pageviews.

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ
ขอแอดบลอคหน่อยค่ะ


โดย: phuketian วันที่: 28 กันยายน 2554 เวลา:5:04:44 น.  

 
ฟ้ามาอรุณสวัสดิ์นะคะ

ยามรุ่งอรุณฟ้าสางกระจ่างแล้ว
ความเพริศแพร้วสุกละอองก็ผ่องใส
ยิ้มเริงร่าส่งกันทุกวันไป
ความแจ่มใสจงได้พบครบทุกคน...นะคะ



โดย: พิรุณร่ำ วันที่: 28 กันยายน 2554 เวลา:7:36:55 น.  

 
สวัสดีครับ รส..
ขอคุณที่แวะทักทายนะ


หนาว..ใต้แสงจันทร์


โดย: MOON11 วันที่: 28 กันยายน 2554 เวลา:7:50:52 น.  

 
จะโสดหรือคู่ ส่วนหนึ่งอยู่ที่เรากำหนด ขอให้เรารู้ใจตัวเองว่าต้องการเป็นเช่นไร กล้าที่จะเป็นตัวเราเอง คนอื่นก็ไม่มีผลมากนักหรอกครับ แค่ความเห็นหนึ่งเท่านั้น
ขอบคุณที่แวะไปทักทายที่บล๊อกครับ


โดย: moresaw วันที่: 28 กันยายน 2554 เวลา:8:31:48 น.  

 


โดย: ภายใต้ วันที่: 28 กันยายน 2554 เวลา:8:49:09 น.  

 
ขอบคุณค่ะคุณรสที่แวะไปทักทาย บล็อคนี้ให้แนวคิดกับคน(ที่คิดจะ)โสดจริงๆ ถ้ามีการงานที่มั่นคงก็คงไม่ห่วงแล้วล่ะที่จะต้องขึ้นคาน (ถึงแม้ไม่อยาก 555)


โดย: MAYDAY (Spring_in_May ) วันที่: 28 กันยายน 2554 เวลา:9:14:11 น.  

 
ขอบคุณคะที่แวะไปเยี่ยม
มาอ่าน วิธีการผ่าตัดตัวเองคะ
อ่านไปคิดไปตามที่ถาม เออ ก็ใช่เนอะ
แต่ทุกอย่างมันขึ้นตามยุคตามสมัย
ถ้าเป็นมะก่อน คำว่าไวไฟก็ไม่มีเพราะสื่อไม่มันล้นหลามแบบนี้ โทษสถาบันครอบครัวก็ไม่ได้หมดซะทีเดียวเพราะเด็กออกจากบ้านตั้งแต่ไก่โห่ กลับอีกทีก็เย็น เจอพ่อกะแม่ก็ตอนนอน หรือไม่ได้เจอเนอะ

มาชวนทานเจคะ เพื่อสุขภาพ


โดย: gymstek วันที่: 28 กันยายน 2554 เวลา:9:53:35 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kingkong0749
Location :
พะเยา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
 
กันยายน 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
27 กันยายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kingkong0749's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.