Group Blog
 
<<
กันยายน 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
14 กันยายน 2548
 
All Blogs
 
~คิดถึงนิสัย..โอบอ้อมอารีของคนไทยจัง~

อังคาร....09::14::05


คนเราเป็นสัตว์สังคม.....
สังคมใครก็สังคมมัน....
ความแตกต่างนั้นค่อนข้างสูงทีเดียว.....
ตั้งแต่พี่ตุ๊กตาย้ายชีวิตมาอยู่อเมริกา...ได้เห็นนิสัยใจคอของพวกฝรั่งมังค่า....แล้วอดที่จะคิดถึงความมีน้ำใจของคนไทยไม่ได้เลย.....

สังคมฝรั่งนี่ตัวใครตัวมันจริง ๆ .....
เชื่อแล้วว่าคนที่มาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง....
ต้องมีนิสัยที่เหมือน ๆ กันคือ...อดทน...ต่อสู้...ช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด....ไม่สงสัยเลยค่ะว่าคนที่เรียนจบจากเมืองนอก ทำไมถึงมีนิสัยที่แตกต่างไปจากคนไทยทั่ว ๆ ไป... หลายคนชอบพูดว่าคนพวกนี้ หัวสูง...ทำงานตรงไปตรงมา ไม่เอาพวกพ้อง.นิสัยไม่เหมือนคนไทย....ก็จะให้เหมือนกันได้อย่างไรคะ...
เพราะว่า..ทุกอย่างต้องต่อสู้...ด้วยตัวเอง....เมื่อมาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ไม่มีใครมาช่วยเหลือเรา..ดังนั้น เราต้องเป็นที่พึ่งแห่งตน....คิดเอง ทำเอง...ไม่ต้องรอให้ใครมาตัดสินใจให้เรา...เด็กที่โตมาจากเมืองนอก ค่อนข้างจะมีความเป็นตัวตนของตนเองมากกว่าเด็กที่เมืองไทยมากทีเดียว...


เด็กฝรั่ง....โดนแยกนอนตั้งแต่เด็ก....ไม่รู้ว่าเด็กจะนอนหลับหรือไม่หลับ จับถึงเตียงแล้วก็แล้วกัน... เด็กจะมองอะไร...คิดอะไร...ตื่นมาไม่เห็นใคร...ก็หาขวดนมเอง...หาตุ๊กตามานอนกอดจนหลับไปเอง...ไปไหนมาไหนก็ใส่รถเข็น....หรือไม่ก็นั่งที่นั่งเด็ก ไม่ได้นั่งบนตักแม่....
ไม่เหมือนบ้านเรา สังคมไทยแม่ไม่ยอมให้ลูกห่างสายตาแม้แต่น้อย จนลูกโตจนแต่งงานแต่งการไปก็ยังเหมือนลูกยังเล็ก ๆ.....


นิสัยของเรา ตั้งแต่เล็ก....จนโต..เป็นประเภท... ขี้สงสารคน...เห็นใครลำบากก็อยากจะให้...มีอะไรก็ให้..มีแรงก็ช่วยแรง....มีเงินก็ช่วยเท่าที่กำลังช่วย...
เห็นเด็ก...เห็นคนแก่ขึ้นรถเมล์ก็ลุกให้นั่ง.....เจอใครก็ยิ้มให้เสมอ...ถึงว่าเราไม่รู้จักก็ตาม....

คนไทยเรามีน้ำใจมากกว่าคนชาติใดในโลก....

ไอ้นิสัยดี ๆ ที่เคยมีติดตัวมาก็ยังมีติดตัวอยู่เสมอนะคะ...
แต่บางครั้งการที่มาอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ต่างวัฒนธรรม...บางครั้งไอ้นิสัยโอบอ้อมอารีของเราก็กลับกลายเป็นถูกคนเอาเปรียบได้เหมือนกัน....


ตลอดเวลา เกือบ 6 เดือนที่ผ่านมา ได้ทำงาน...ได้เรียนรู้นิสัยฝรั่งที่ทำงานด้วยกัน...มีหลากหลาย....

วันนี้อยากหยิบยกมา...เล่าให้ฟัง จะว่านินทาก็ได้น๊ะอิอิ

ที่ทำงานจะเป็นแผนก ขาย แฮม ชีส...มีแผนก Roti จะต้องทำไก่ย่างเป็นตัว ๆ เหมือนไก่หมุนบ้านเรา...และผลิตอาหารออกมาขาย...ด้วย.....

แมรี่ลีน........

เป็นผู้หญิงอายุราว ๆ 55 ปี...เป็นเบาหวาน....โดนตัดนิ้วเท้า เธอเดินไม่ค่อยถนัด.....แต่เป็นคนช่างพูด...พูด...และก็พูด...พูดจนลืมไปว่ากำลังทำงานอยู่....เมื่อไรที่เราได้ทำงานคู่กับเธอ....เราต้องเหนื่อยกว่าปกติอีก 2 เท่าตัว....
เพราะว่เธอเจอลูกค้าคนหนึ่งกว่าเธอจะเสร็จจากลูกค้าคนหนึ่ง....เรารับ order จากลูกค้าไปแล้วอีก 2 คน.... ช้าไม่ว่า...แต่เธอบอกว่เธอ เดินไม่ถนัด...เราก็เป็นคนขี้สงสาร....เราก็บอกว่าไม่เป็นไร ค่อย ๆ ทำ...สรุปแล้ว เราต้องทำทุกอย่าง ถ้าทำงานพร้อมกับเธอ...
ต้องล้างเครื่องเองหมด 4 เครื่อง....เธอบอกว่ามือเธอโดนน้ำมากจะเปื่อย....มีเลือดออก....เอ๊า.....ขยะก็ยกไปทิ้งไม่ไหว...เธอขาไม่ดี....เอ๊า...ก็เราเทขยะเอง....
ล้างพื้นก่อนกลับ....ก็ไม่ได้อีก โดนน้ำ....สรุป อิช้านก็เป็นคนทำงานมากกว่าเธอ 2 เท่า........




ซูซานน่า.......

เป็นผู้หญิงอายุราว ๆ 49 ปี
เธอจะประเภท....ที่ว่า....ฉันไม่สนใจฉันทำงานของฉัน เสร็จไม่เสร็จ อะไรจะค้างคาอย่างไร ถ้าถึงเวลาฉันจะBreak แม่คุณก็ทิ้งทุกอย่างออกไปหน้าตาเฉย....ไอ้เราก็เป็นคนอดที่จะทำต่อไม่ได้....เพราะว่ไม่อยากให้อะไรมันรกหูรกตา....ยกของหนัก ๆ เธอจะบอกว่าเธอปวดหลัง.....ให้เรายกให้ที.....จะหยิบอะไรก็ส่วนมาก...จะโยนให้คนอื่นไปหยิบให้เธอ.....เรียกว่างานหนักชอบเกี่ยงอ่ะ


รอล่า.........

เป็นผู้หญิง อายุ 31 ปี....
เป็นคนมีน้ำใจเหมือนเราเลย เราคุยกันทุกเรื่อง.....เธอไม่ชอบพูดเรื่องของคนอื่น ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด....ใครจะว่าอะไรก็วางเฉย....นิสัยเราเหมือนกัน...เราชอบเธอมาก เราจะทำกับข้าวไทยมาฝากเธอเสมอ....เธอชอบทานอาหารเผ็ด ๆ เธอมีลูกเล็ก ๆ 2 คน....เธอบอกว่าอยากให้เราเป็นแม่นม หรือ ให้ลูกเธอเรี่ยกเราว่าแม่....ดีจัง...
เธอจะได้อาหารเด็ก และนม ซีเรียล อะไรพวกนี้ เธอจะชอบเอามาให้เราเสมอ เธอบอกว่าลูกเธอกินไม่ทัน...ให้เราช่วยกินหน่อย..บางทีเอาซีเรียลมาให้ทีละ 6 กล่อง ไอ้เราก็กินไม่ทันเหมือนกันอิอิอิ

เบ๊ตตี้....

เป็นผู้หญิงอายุประมาณ 50 กว่า...
เธอจะทำงานแผนก Roti ทีใคร ๆ ก็เกี่ยงที่จะไปทำ...เราก็เกี่ยงเหมือนกันนา...มันงานหนักอ่ะ...
เธอเป็นคนขี้บ่น...เอาเรื่อง เราต้องไปช่วยเธอเพื่อให้เธอหุบปาก 555555555 เธอชอบเรามากเพราะว่าเราชอบเข้าไปช่วยเธอทำงาน....

ยังมีอีหลาย ๆ คน....ส่วนมาก.....ทำงานแบบตัวใครตัวมัน....
ไอ้เราก็ทำงานมาแบบชอบช่วยเหลือคนอื่น....
ตั้งแต่มาทำตรง Roti เริ่มรู้นิสัยคนมากขึ้น....
แผนกนี้ทำหลายอย่าง....แต่ไม่เคยมีใครมาช่วยเราทำเลย....แต่เราช่วยงานคนที่ทำ Roti เสมอ....ถึงเวลา ดันเรียกเราไปช่วยงานด้าน Dile อีก...สรุป เราทำงานสองฟาก....แบบว่า....เราเป็นคนไม่พูดมาก...ไม่บ่น....แต่เราต้องเหนื่อยกว่าคนอื่น....

ถ้าเราทำงานเช้า...
พวกพนักงานก็จะแห่มา...เขาจะซื้ออาหาร หรืออะไรก็ตาม จะชอบมาจ่ายเงินที่เรา....ไอ้เราก็ยุ่ง....แต่ก็อย่างว่า เดี่ยวคนนั้นจะเอาครีม...คนนี้จะเอากาแฟ....พอบอกว่าหาไม่ได้ไม่รู้อยู่ไหนช่วยหาหน่อยก็ไม่มาช่วยหา งั้นก็อย่ากินมันเลย...ตอนหลัง ๆ เรารู้แกว....บอกว่าให้ไปจ่ายกับแคชเชียร์....เราไม่มี Till ตัดปัญหาไป...

วันนี้ก็เหมือนเดิมอีก....เราก็เล่นบทไม่สนใจใครละน๊า...
ใครเรียกก็บอกว่า ฉันไม่ว่าง....ฉันมีงานต้องทำอีกมาก....ทั้ง ๆ ไม่มีอะไรทำมากหรอก...เอิ๊ก....แต่ความที่คนอื่นเห็นแก่ตัวมาก....เหมือนการเอาเปรียบ....เราก็ได้เงินเท่ากัน...ทำไมเราต้องมาเหนื่อยกว่าคนอื่นละจริงม๊ะ....

ความรู้สึกเดิม ๆ มันเริ่มจางหายไป....
ความรู้สึกในการช่วยเหลือ...คงต้องลดระดับลงมา...นึกถึงตัวเองให้มากกว่านึกถึงคนอื่น....
เมื่อสังคมทำให้เราเป็นคนแบบนี้เราก็ต้องอยู่ในสังคมที่เป็นแบบนี้....

แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ....นิสัย เดิม ๆ ยังคงมีอยู่เช่นเดิมเสมอ....แม่สั่งสอนอะไรก็ยังคงทำเหมือนเดิม...
แต่คงต้องดุแล้วแหละว่า ถ้าสังคมที่อเมริกา....คงจะใช้นิสัยโอบอ้อมอารีกับคนที่นี่ไม่ได้มากนัก....ถ้าเราถูกเอาเปรียบ....เราจะเก็บนิสัยโอบอ้อมอารีนี้ไว้ข้างหลังก่อน....เพื่อความอยู่รอด และเพื่อไม่ให้คนอื่น มาเอาเปรียบเรา.......



คิดถึงคนอ่านนะคะ


Create Date : 14 กันยายน 2548
Last Update : 14 กันยายน 2548 22:17:51 น. 6 comments
Counter : 1324 Pageviews.

 
มาอ่านแล้วก็เหนื่อยแทน เพราะมังคุดก็มีนิสัยไทยๆอยู่เต็มตัว แถมยังเป็นประเภทใจอ่อนกับใช้คนไม่เป็น มีแต่คนอื่นใช้ซะส่วนใหญ่ นิสัยอย่างนี้มันก็ดีแต่ในสังคมคนไทยอย่างเรานี่ละมั้งคะ ส่วนสังคมฝรั่ง ก็ตัวใครตัวมัน ขนาดมังคุดไปเที่ยวแค่เดือนเดียว ยังรู้สึกได้ว่าถึงแม้คนแปลกหน้าเดินผ่านจะทักทายกัน แต่ในคำทักทายนั้น ไม่มีเยื่อใยใดๆเหมือนที่คนไทยยิ้มให้กัน หรือทักกันว่า ไปไหนมา กินข้าวหรือยัง ตอนนี้ก็เตรียมใจอยู่ค่ะ เรียนจบแล้วก็อาจจะต้องไปอยู่ที่อเมริกา แต่ว่า ถ้าเค้าเกิดเปลี่ยนใจอยากไปผจญภัยในยุโรป ก็คงจะหนักกว่าอเมริกาแน่ๆ เพราะต้องหัดเดินใหม่เลย แถมภาษาก็ยังใหม่อีกต่างหาก

ยังไงก็ขอให้พี่ตุ๊กตาสู้มากๆนะคะ ถ้ามีเงินเหลือเยอะๆแล้วก็อย่าลืมกลับมาเยี่ยมเมืองไทยบ้างนะคะ


โดย: mungkood วันที่: 14 กันยายน 2548 เวลา:22:56:38 น.  

 
สังคมอเมริกันในที่ทำงานก็แบบนี้แหละพี่ตา เราไม่ต้องไปแคร์มาก แน่ะไม่แคร์ อิอิ กลายว่าเราเป็นแบบเขาไปซะแล้ว สังคมมันพาไป อิอิ แต่ถ้าเจออย่างพี่ตา ทรายก็ไม่เอื้อเฟื้อกับเขาเหมือนกันหละค่ะ เอาเปรียบกันแบบนี้


โดย: ทราย IP: 68.54.123.77 วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:0:59:17 น.  

 

เอามาให้ดูเผื่อจะหายคิดถึงครับ


โดย: แป๊กก วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:2:56:40 น.  

 
หวัดDค่ะ แวะมาทักทายนะคะ



โดย: ทูน่าค่ะ วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:13:24:57 น.  

 
ซาหวาดดีค่าคุณตุ๊กตา ^__^ แวะมาทักทายคะ ดาวระยิบระยับเหมือนเคย ท้องฟ้า ในบล๊อคคุณตุ๊กดูสดใส นะจ๊ะ แต่ท้องฟ้าบ้านแหม่ม ไม่ค่อยจะสดใสเลย ฉ่ำไปด้วยฝนมา 2-3วันแระ ละ เมื่อไหร่จะหายน้ำท่วมไม่รู้เนี่ย ไว้จะแวะมาทักทายอีกนะคะ


โดย: mam28 วันที่: 15 กันยายน 2548 เวลา:21:50:43 น.  

 
มาอ่านเรื่องเล่าครับ น่าเห็นใจครับพี่ตุ๊กตา เเต่ที่พี่ตุ๊กตาทำ
ผมว่าก็สมควรเเล้วครับ ดีกับคนที่เขาดีกับเรา
เอาใจช่วยครับ ขอให้เข้มเเข็ง


โดย: Dark Secret วันที่: 17 กันยายน 2548 เวลา:21:51:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tukata001
Location :
Texas United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [?]




พี่ตุ๊กตา ยินดีต้อนรับทุกท่านที่มาเยี่ยมบล๊อคนี้นะค

pk12th

 

Tukata Hemphill

Create Your Badge
Friends' blogs
[Add tukata001's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.