สุโขทัย ... โบราณสถาน วัดทุ่งเนินพยอม อ.กงไกรลาศ
เข้าสู่การเดินทางอีกครั้ง
ลำตะคองที่เขาน้อย
ยอมอ้อมไปปากช่อง เพื่อจะซื้อหมูแผ่นเจ้าอร่อยไปฝากเพื่อน
เก้าโมงเช้าร้านยังไม่ก็เปิด ทั้งที่เมื่อก่อนเปิดแต่เจ็ดโมงเช้า
สรุปเราจะลืมว่ายังมีหมูแผ่นเจ้านี้อยู่ในโลก
ใช้เล้นทางเล็กไปข้ามเขา
ไปยังบ้านลำนารายณ์ อ.ชัยบาดาล อ้อยยังไม่ปลูก ฝนยังไม่มี
หางนกยูงสวยจริง
ข้าวเที่ยงทานที่บึงสามพัน
เข้าทางขนาน มองหาที่รถจอดเยอะ และ มองเข้าไปในร้านมีคนนั่งเยอะ ได้ร้านนี้
เงาในตู้กระจะเป็นบ้านหลังใหญ่ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
ข้าวหมูแดงหมูกรอบ ... อร่อย 35 บาท
เย็นตาโฟอร่อย 35 บาท
เส้นทางเพชรบูรณ์ วังทองมีฝนตกลงมานิ๊ดนึงแถวทุ่งแสลงหลวง
แวะบ้านไกรป่าแฝก ตำบลป่าแฝก อำเภอกงไกรลาศ
ตำบลป่าแฝกเป็นชุมชนดั้งเดิมที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณเรียกว่า ไกรป่าแฝก
อะแซหวุ่นกี้ ไปรบกับจีนที่เชียงตุงที่มีไพร่พลมากกว่ามาก แต่ที่สุดจีนก็ขอสงบศึก
ทำให้ อะแซหวุ่นกี้จึงเป็นวีรบุรุษของพม่า
การที่พม่าติดพันศึกกับจีนทางเชียงตุง
ทำให้ พระเจ้าตากมีโอกาสรวบรวมบ้านเมือง
มีทหารเอกคือ เจ้าพระยาจักรี (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช)
กับ เจ้าพระยาสุรสีห์ (กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท) ที่พม่าตั้งฉายาว่า พระยาเสือ
พ.ศ. 2318 สมัยกรุงธนบุรี
อะแซหวุ่นกี้ทราบว่าทหารพม่าเกรงกลัวพระยาเสือกันมาก
อะแซหวุ่นกี้ได้เดินทัพจากเมาะตะมะ ผ่านด่านแม่ละเมา ผ่านตาก
ผ่านบ้านด่านลานหอย มุ่งตีพิษณุโลก
จับกรมการเมืองสวรรคโลก 2 ได้คน
ทราบว่าเจ้าพระยาสุรสีห์ ร่วมกับ เจ้าพระยาจักรียกไปตีเมืองเชียงใหม่จากพม่า
แทนที่อะแซหวุ่นกี้จะยกทัพไปตีเอาเมือง
กลับสั่งให้ทัพหน้าตั้งค่ายที่บ้านกงธานี ทัพหลวงตั้งที่เมืองสุโขทัย
และบอกเหล่าทหารว่า เจ้าของเขาไม่อยู่ อย่าเพิ่งไปเหยียบเมืองเขาเลย
เพื่อแสดงว่าอะแซหวุ่นกี้ ... เป็นวีรบุรุษ
เมื่อเจ้าพระยาจักรีกับเจ้าพระยาสุรสีห์ตีเมืองเชียงใหม่ได้
ได้ข่าวว่าพม่ายกเข้ามาจึงรีบยกทัพกลับพิษณุโลก
อะแซหวุ่นกี้ก็ตามมาตั้งค่ายล้อมเมืองไว้ทั้ง 2 ฟากแม่น้ำ
ต่างก็ส่งทหารออกรบกันทุกวัน ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะ
อะแซหวุ่นกี้จึงขอดูตัวเจ้าพระยาจักรีแล้วสรรเสริญว่า
รูปก็งาม ฝีมือก็เข้มแข็ง สู้รบเราผู้เป็นผู้เฒ่าได้
จงอุตส่าห์รักษาตัวไว้ ภายหน้าจะได้เป็นกษัตริย์เป็นแท้
เอาเครื่องม้าทองสำรับหนึ่งกับสักหลาดพับหนึ่ง ดินสอแก้วสองก้อน น้ำมันดินสองหม้อ มาให้
แล้วว่าจงรักษาเมืองไว้ให้มั่นคง เราจะตีเอาเมืองพิษณุโลกให้จงได้ในครั้งนี้
ไปภายหน้าพม่าจะตีเมืองไทยไม่ได้อีกแล้ว
อะแซหวุ่นกี้ล้อมเมืองพิษณุโลกจนเกิดขาดแคลนเสบียงอาหาร
เจ้าพระยาจักรีกับเจ้าพระยาสุรสีห์จึงตีฝ่าวงล้อมของพม่าไปรวบรวมพลที่เมืองเพชรบูรณ์
อะแซหวุ่นกี้เข้าเมืองพิษณุโลกได้เจอแต่เมืองที่ไม่มีอะไรเหลือ
พร้อมทั้งได้รับข่าวพระเจ้ากรุงอังวะสิ้นพระชนม์แล้วจึงยกทัพกลับ
วัดทุ่งเนินพยอม
อยู่ในบริเวณที่อะแซหวุ่นกี้เข้ามาตั้งทัพ
ตั้งอยู่บนเนินดินกลางทุ่ง มีต้นพยอมใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง
วัดสร้างในสมัยสุโขทัย ถูกพม่าเผาทำลาย
ซุ้มประตูย่อมุม
ฐานสิงห์
ปูนปั้นรูปเทวดาที่ข้างประตู หรือจะเป็นเซี่ยวกาง ? เทวดาผู้รักษาประตู ... ทวารบาล
ลายปูนปั้นบนกรอบประตู
เสาของวิหารก่อด้วยอิฐหน้าวัว
พระทศพลญาณ พระประธานในวิหาร ปางมารวิชัย
หลวงพ่อเหม และหลวงพ่อตู้ (พระแม่ธรณีบีบมวยผม?)
พระอุโบสถ
พักที่ อ.เมือง จ.สุโขทัย
ราตาเตียงเดี่ยว 490 /เตียงคู่ 590
อาหารเย็นไม่ประทับใจจึงไม่แนะนำ
ปิดด้วยภาพเผากันแต่เช้า ที่โขทัย
Create Date : 16 พฤษภาคม 2559 |
|
19 comments |
Last Update : 7 มกราคม 2562 14:35:00 น. |
Counter : 2355 Pageviews. |
|
|
เจ็บใจแทนเลยนะครับ อุตส่าห์ขับรถอ้อมไปจะเอาเงินไปให้ซะหน่อย ร้านดันไม่เปิดซะนี่ แฮ่ๆ
วัดนี้ อ.เต๊ะ อ่านประวัติดูแล้ว น่าเสียดายมากนะครับ
เพราะดูจากลวดลายปูนปั้น ที่หลงเหลือ รอดจากพม่าเผาแล้วนี้ ฝีมือช่างละเอียด และงดงามเอามากๆ เดาว่าพม่าสมัยนั้น ขี้อิจฉาไทยเราเอามากๆเลยนะครับ เหมือนเด็กเกเร อันไหนขโมยเอาไปไม่ได้ ก็ทุบทิ้งเผาทิ้งซะหมดเลย 555
ปล.ปิ๋วศรีน่ารักนะครับ ขยันเฝ้าบ้านให้ด้วย เห่า นกหนูกระรอก ลมพัดใบไม้มันยังเห่า ทั้งวันเลยครับ555
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น