tuk...tuk more than one or cannot run
<<
มีนาคม 2555
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
12 มีนาคม 2555

ลุยใต้สามพันกิโล ... ผลัด 18 วัดกุยบุรี วัดเพชรสมุทร บางกุ้ง เก้าห้อง



เริ่มต้นด้วยสโลแกนทริบก่อน


***


เป็นความฝันของหัวหน้าครอบครัวมาหลายปี

ที่จะพาครอบครัว ... ก็คือเรา ... ขับรถไปเที่ยวใต้

หลังจากกำหนดเส้นทาง ร้านที่อยากชิม สถานที่ที่อยากแวะ

ศึกษาที่ตั้งแหล่งพลังงานข้างทาง ... ปั๊ม LPG

วันที่หกกุมภาสองห้าห้าห้าออกจากโคราช

วันที่สิบสิบสองกุมภาสองห้าห้าห้ากลับถึงโคราชทั้งหมดประมาณ 3164 กม.


***


เช้าวันที่สิบเอ็ดกุมภาสองห้าห้าห้าออกเดินทางจากประจวบคีรีขันธ์

เพิงข้างทางขายสับปะรด







ประทับใจวิวเขาซ้ายมือ







ร้านข้าวแกง

จากเมืองประจวบ อยู่ตรงยูเทอร์น ก่อนถึงกุยบุรี 9-10 กม.

เคยแวะทานเมื่อไปทัวร์ตีกอล์ฟเมื่อ 4-5 ปีก่อน ... รสจัด เผ็ด อร่อยมาก

เพื่อนที่แนะนำตอนนั้นบอกว่า สังเกตุว่าที่ยูเทอร์นจะมีรถจอดเยอะ ๆ

ผ่านไป 4-5 ปี ร้านดูถาวรมากขึ้น รถบรรทุกอุ่นหนาฝาคั่งเหมือนเดิม







เมืองกุยบุรี


เป็นเมืองหน้าด่านเมืองแรกที่คอยสกัดทัพพม่าที่จะเข้าตีกรุงศรีอยุธยา

เพราะพม่าจะเข้ามาทางด่านสิงขร

และมาข้ามแม่น้ำกุยบุรีที่ท่าข้าม

ขุนรองปลัดชู วีรบุรุษไทยคนวิเศษชัยชาญ

คุมสมัครพรรคพวกรวม 400 คน

( เป็นที่มาชของชื่อวัดสี่ร้อยที่วิเศษไชยชาญ )

เป็นกองอาทฆาตไปในกองทัพพระยารัตนาธิเบศร์ (ไทยรบพม่า)

ว่ากันว่าขุนรองปลัดชูได้ไปตั้งทัพที่กุยบุรี

ประกอบพิธีทางไสยศาสตร์ทีวัดกุยบุรี

แล้วยกกองทัพอาทฆาตไปยันทัพพม่าที่อ่าวหว้าขาว

อำเภอเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์



วัดกุยบุรี







อยู่ซ้ายมือสามแยกกุยบุรี







หรือวัดกุย

เดิมมีอยู่ 2 วัด คือวัดกวย ทางทิศเหนือ และวัดกุยบุรีทางทิศใต้

มีอาณาเขตติดกัน

ต่อมารวมเข้าเป็นวัดเดียวเรียกว่าวัดกุย

ห้องกระจกที่เห็นทำครอบกุฏิหลวงพ่อ และ ... ไม่แน่ใจว่าโบสถ์หรือวิหาร

ดูจากหลังคาที่โผล่ออกมา



ภาพจากเวป //www.kuiburimun.go.th/index-wadkui.htm




หน้ากุฏิ







องค์ข้างหลังคือหลวงพ่อในกุฏิ








หลวงพ่อบุญมาก ท่านเป็นคนชุมพร

อยู่ในสมัยพระเจ้าเอกทัศ กรุงศรีอยุธยา

ท่านได้ธุดงค์มาที่นี่ขณะที่วัดกุยบุรีกำลังว่างเจ้าอาวาสปกครองวัด

เจ้าเมืองกุยบุรี และชาวเมืองจึงขออาราธนาให้หลวงพ่อรับเป็นเจ้าอาวาส

ท่านเป็นที่พึ่งของชาวบ้านในหลายด้าน

และเมื่อท่านว่างจากภารกิจต่างๆ ของวัด

ท่านเข้าบำเพ็ญภาวนา บางครั้งท่านจะเข้าสมาธิเจริญวิปัสสนาอยู่แต่ในกุฏิ

ตลอด 7 วันบ้าง 15 วันบ้าง

โดยท่านจะไม่ลุกและออกจากกุฏิของท่านไปไหนเลย

จึงได้มีคำเรียกท่านอีกคำหนึ่งว่า “หลวงพ่อในกุฏิ”

ชาวเมืองเมื่อใดได้รับความทุกข์ก็จะต้องหาโอกาสมาบนบานศาลกล่าว

ขอให้ช่วยปัดเป่าให้ผ่อนคลายหายจากทุกข์นั้นๆ

ครั้นเมื่อได้รับความสำเร็จแล้ว หรือสมความปรารถนา

ก็จะต้องมานมัสการ และปิดทองที่ตัวท่านเป็นจำนวนมาก

เล่ากันว่าหลวงพ่อท่านต้องถูกปิดทองทั้งเป็น

คือปิดตั้งแต่หัวเข่าของท่านลงไปจนถึง ปลายเท้าทั้งสองข้าง

หลวงพ่อท่านอยู่มาจนอายุ 108 ปีจึงละสังขาร ราวปี พ.ศ. 2412-13

ชาวบ้านจึงได้พร้อมใจกันปั้นรูปเหมือนของท่านไว้สักการบูชา

และได้บรรจุอัฐิของท่านไว้ภายใน ให้คล้ายกับว่าหลวงพ่อท่านยังมีชีวิตอยู่







มีเรื่องเล่าว่า

เมื่อประมาณ พ.ศ. 2486-7

เกิดฝนตกหนัก มีน้ำท่วมใหญ่ของชาวกุยบุรี

ในตลาดกุยบุรีมีน้ำท่วมสูงขนาดมิดศีรษะ

แต่พื้นที่ที่ตั้งกุฏิหลวงพ่อเก่าที่อยู่ทางทิศใต้ของวัด

อยู่ในพ้นที่ที่ต่ำ น้ำได้ท่วมกุฏิของหลวงพ่อ

สูงเลยธรณีประตูไม่ต่ำกว่า 70-80 เซนติเมตร

แต่น้ำนั้นมิได้เข้าไปในกุฏิหลวงพ่อได้เลยแม้สักหยดเดียว


***


ประมาณปี พ.ศ. 2488 สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ใกล้จะยุติ

ฝ่ายพันธมิตรได้ทิ้งระเบิดสถานที่ต่างๆ ตลอดถึงสะพานรถไฟ

ซึ่งใช้ขนส่งเสบียงอาหารและยุทธสัมภาระในการสงครามของญี่ปุ่น

สะพานรถไฟใหญ่ๆ จึงถูกฝ่ายพันธมิตรทำลายจนหมดสิ้น เช่น ราชบุรี เพชรบุรี ปราณบุรี

ที่กุยบุรี เวลาบ่ายจะมีเครื่องบิน ๒ เครื่องยนต์ บินมาทิ้งระเบิดสะพานรถไฟ หรือสะพานโค้งกุยบุรีทุกวัน เป็นเดือน

ชาวเมืองกุยบุรีได้บนบานบอกกล่าวให้หลวงพ่อในกุฏิได้ช่วยปัดป้องคุ้มครอง

ในระหว่างที่เครื่องบินกำลังบินวนทิ้งระเบิดอยู่นั้น

มีคนจำนวนมากเห็นมีพระองค์หนึ่ง

ยืนอยู่บนสะพานโค้งรถไฟทุกวันที่เครื่องบินมาทิ้งระเบิด

เมื่อสงครามยุติหลวงพ่อก็ได้มาเข้าฝันชาวบ้านว่า

ได้ปัดป้องคุ้มครองสะพานโค้งไว้ จนมือระบมไปหมด

แต่ก็ปัดป้องพลาดไปลูกหนึ่ง

ก็พยายามช่วยไว้ไม่ให้เสียหาย

คือระเบิดได้ตกลงมาถูกสะพานแต่ไม่ระเบิด

แต่กระดอนไประเบิดห่างจากสะพานเป็นอันมาก


***


เมื่อสงครามญี่ปุ่นเลิกได้ไม่นานนัก

ขณะฤดูร้อนราวเดือนมีนา-เมษา

ทางด้านหลังของตลาดกุยบุรีเกิดไฟลุกไหม้เข้ามาหาบ้านห้องแถว

ทั้งชาวจีนและชาวไทยต่างก็ได้บอกกล่าว ให้คุณพ่อในกุฏิช่วยกันทั้งตลาด

จะด้วยเดชะบุญบารมีของหลวงพ่อในกุฏิ

หรือเพราะดวงชะตาของชาวตลาดกุยบุรี ก็ไม่ทราบได้

เมื่อไฟโหมไหม้เข้ามาใกล้รั้วของตลาดกุยบุรี

ก็เหมือนอย่างมีลมพัดเปลวไฟให้ไกลออกไป และได้มอดดับในที่สุด




โบสถ์หรือวิหาร ?? หลังกุฏิ












ผ่านปราณบุรี







ข้ามแยกไปวัดห้วยมงคล







ชะอำ







จากชะอำ

ถนนใหม่ใช้ขาล่อง 3 ช่องจราจร

ถนนเก่าทั้งสาย 4 ช่องจราจร ... ตรงกลางเป็นต้นไม้

ทำให้บ้านนอกโคราชที่หลงเข้ามาช่องกลางอดแวะ !!!







พระนครคีรี







เขาย้อย












แยกวังมะนาว












เป็นโรคจิตแบบหนึ่งที่ข้ามสะพานจะต้องถ่ายรูป







ตลาดไหนหนอ







ไปวัดเพชรสมุทรวรวิหาร

เดิมชื่อว่า วัดศรีจำปา มีอายุไม่น้อยกว่า 500 ปี







เพราะชาวบ้านแหลมหนีภัยพม่ามาจากเพชรบุรี

อพยพมาตั้งถิ่นฐานที่ปากคลองแม่กลองฝั่งใต้ใกล้กับวัดศรีจำปา

เรียกว่า พวกบ้านแหลม







ต่อมาช่วยกันบูรณะวัดศรีจำปาที่ร่วงโรยทรุดโทรมให้ดีขึ้น

จึงเรียกวัดศรีจำปาเสียใหม่ว่า "วัดบ้านแหลม"







ตามตำนานเล่าว่า

ชาวประมงบ้านแหลมออก ไปลากอวนในอ่าวแม่กลอง

ได้พระพุทธรูปติดมา 2 องค์

องค์หนึ่งเป็นพระพุทธรูปนั่ง

ได้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้ที่วัดเขาตะเครา จังหวัดเพชรบุรี

ส่วนพระพุทธรูปยืนนำมา

ประดิษฐานไว้ที่วัดบ้านแหลม สมุทรสงคราม












อีกที่ที่อยากไปคือ วัดบางกุ้ง







พ่อค้าขายผลไม้หน้าวัดเพชรสมุทรบอกว่า

ให้ไปตามทางใหญ่เรื่อย ๆ







ถึงตรงที่เขาวางกรวยทำถนน







ให้เลี้ยวข้ามสะพานไปอีกฝั่ง แล้วมีป้ายบอก ... สุดยอดของการบอกทาง

ขอบคุณค่ะ







ข้ามแม่กลอง

















ค่ายบางกุ้ง







วัดบางกุ้ง

เป็นวัดที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา

โบลถ์ ถูกต้นไม้ขึ้นปกคลุม







คือ โพธิ์ ไทร ไกร กร่าง







ไทร







ไกร







กร่าง












พระประธาน หลวงพ่อนิลมณี







จิตรกรรมฝาผนัง
















สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ปีพ.ศ. 2308

กองทัพพม่ายกเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยา

สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ทรงให้หัวเมืองทางใต้

ยกกองทัพเรือมาตั้งค่ายสร้างกำแพงล้อมวัดบางกุ้ง คือ “ค่ายบางกุ้ง”

เพื่อต้านทานกองทัพพม่าซึ่งยกทัพเข้ามาตามลำน้ำแม่กลอง

แต่ไม่สามารถต้านทานไว้ได้ค่ายบางกุ้งจึงแตก

เมื่อกรุงศรีอยุธยาแตกในปี พ.ศ. 2310 ค่ายบางกุ้งก็ร้าง

เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชสถาปนากรุงธนบุรี

โปรดให้ชาวจีนรวบรวมสมัครพรรคพวกมาตั้งเป็นกองทหาร

รักษาค่ายเก่าที่บางกุ้ง จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ค่ายจีนบางกุ้ง”

... จะเห็นว่าที่นี่ก็ยังมีศาลเจ้าอยู่ด้วย ...

ในปี พ.ศ. 2311 หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาไปประมาณ 8 เดือน

กองทัพพม่านำโดยเจ้าเมืองทวาย

ยกทัพบกและทัพเรือลงมาล้อมค่ายจีนบางกุ้งไว้

แต่เพราะมีกำลังน้อยกว่าจึงเกือบจะเสียค่ายแก่พม่า

สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงทราบจึงยกกองทัพมาตีทัพพม่าแตกพ่ายไป







กลางวันจะไปทานก๋วยเตี๋ยวบ้านโป่ง







โน่นแหละผ่านดำเนินสะดวก







ผ่านอำเภอบ้านแพ ไปออกเพชรเกษม







ก๋วยเตี๋ยวหมูบ้านโป่ง

อร่อยที่หมูบะฉ่อ

ร้านเก่าแก่เขาก็เปิดมาราว ๆ น่าจะรุ่นสอง

เพื่อนที่แนะนำมาให้ไปร้านที่เขาเรียกว่า ซิ้มสวย ... เคยประกวดนางงาม

ชื่อร้านเป็นภาษาจีน เราจำชื่อไม่ได้

ร้านเป็นห้องแถวไม้ อยู่ขวามือก่อนถึงวงเวียน ถ้าเข้าเมืองมาทางกรุงเทพ ฯ

วันนั้นเราช่างโชคร้ายสุด ๆ เพราะเขาปิดไป vacation ต.ป.ท. พอดี

ร้านที่ติดกันเลยขายดีเป็นพิเศษคนยืนรอโต๊ะอยู่เต็มร้าน

ก็เลยเดินเลยต่อไปอีก 3-4 ห้อง ผ่านร้านขายหมูสะเต๊ะ

มีก๋วยเตี๋ยวหมูอีกร้าน เป็นห้องแถวไม้เล็ก ๆ

แต่เครื่องในตู้และเส้นที่เตรียมไว้บ่งบอกว่าขายดี

และอร่อยจริง ๆ ด้วย เขาเรียกว่าเจ๊หมวย

ทำช้าน่าดูเหมือนกัน เพราะแกจะชอบคุยตลอด

ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะกำลังโมโหหิวนิด ๆ







ทานเสร็จก็แวะคุยกับเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันที่เชียงใหม่อีกคนสองชั่วโมงมั้ง

ไปต่อที่บางปลาม้าสุพรรณ ไปทางอำเภอสองพี่น้อง












สองข้างทางยังมีน้ำ สุดลูกหูลูกตา ไม่รู้ว่าเป็นบึงหรือน้ำท่วม

















ใกล้ถึงบางปลาม้า







เห็นคำว่าเก้าห้อง






















เป็นตลาดห้องแถวเก่าแก่ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน

สร้างประมาณต้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว







ช่องเดินทะลุไปตลาดทางขวา







เขาว่าตลาดคนจะมากวันอาทิตย์

เราไปวันเสาร์เงียบมาก












ร่องรอยน้ำท่วม







หอดูโจร







ทางขึ้น ... มันคับ







สะพานข้ามแม่น้ำสุพรรณบุรี







เข้าสุพรรณ ออกไปป่าโมก

ผ่านโคกโคเฒ่า ... ชอบชื่อมาก












บางช่วงยังไม่เสร็จ







เจอฝนแถว อ. นครหลวง ถนนสายนี้แย่มากหลังน้ำท่วม

หลงมาแล้วก็ต้องลุยต่อ







ไปถึงปากช่องราวหกโมงเย็น มาจากประจวบ 570 กม. เอง

วันรุ่งขึ้นจึงกลับโคราช อีก 85 กม.


ปิดท้ายด้วยคู่มือเดินทาง





ขอบคุณที่มาร่วมท่องเที่ยวสาหร่ายด้วยกันค่ะ




 

Create Date : 12 มีนาคม 2555
22 comments
Last Update : 28 มีนาคม 2555 10:23:46 น.
Counter : 4403 Pageviews.

 

เที่ยวคนแรกค่า

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
tuk-tuk@korat Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา 12 มีนาคม 2555 16:26:26 น.  

 

มาเที่ยวใต้ด้วยคนค่ะคุณตุ๊ก


ดูภาพไปเหมือนกับว่าเดินทางไปด้วยเลยนะคะ

ขอบคุณมากเลยค่ะที่แวะไปเจิมและฟังเพลงด้วยกันที่บล็อกนะคะ

 

โดย: LoveParadise 12 มีนาคม 2555 17:59:17 น.  

 


ภาพวิวข้างทางที่พี่ตุ๊กประทับใจ เห็นทิวเขาเหลื่อมสลับกันสวยนะคะ เสียดายภาพไหว เพราะถ่ายขณะรถวิ่ง....


ได้แวะวัดดังทั้งขาไปขากลับเลยค่ะ

เล่าให้คนขับรถข้างๆ ฟังค่ะ อ่านให้ฟังระยะทาง ระยะเวลาที่พี่ตุ๊กเดินทางด้วย ก็หวังว่าเค้าจะพาหนูไปตามความฝันเหมือนพี่ตุ๊กบ้าง อยากไปน้อ...




 

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 12 มีนาคม 2555 18:20:59 น.  

 

ท่องเที่ยวสาหร่ายคือไรค่ะ


รู้ล่ะ 3 พันโลของพี่ตุ๊กคือการไปไหว้พระนี่เอง ได้บุญเยอะนะคะ ตกลงกี่วัดได้นับป่าว


ด่านสิงขรกับ วัดห้วยมงคลเคยไปแล้วค่ะ (อยากอวดมั่ง 555)


โหวตหมวดท่องเที่ยวแล้วกันนะคะ

 

โดย: กรุ๊ปบีราศีสิงห์ 12 มีนาคม 2555 18:21:14 น.  

 

สวัสดีตอนค่ำๆค่ะคุณตุ๊ก
หายไป2-3 วัน กลับเกือบถึงโคราชแล้วเหรอคะ
ตามตั้งแต่ไปจนกลับ ขาดบ้างหายบ้าง
แต่ยังงัยก็จะไปตามเก็บค่ะ...

 

โดย: phunsud 12 มีนาคม 2555 19:48:00 น.  

 

วันนี้มาเสียค่ำเลย
คงต้องส่งเข้านอนแล้วล่ะค่ะ
คืนนี้นอนหลับฝันดีนะคะ
รอชมทริปเที่ยวเหนือต่อค่ะ

 

โดย: เนินน้ำ 12 มีนาคม 2555 20:47:03 น.  

 

นอกจากได้เที่ยวไปกับพี่ตุ๊กแล้ว ยังสอดแทรกประวัติศาสตร์ในจุดที่น่าสนใจไว้ด้วย เยี่ยมยอดเลยครับ

 

โดย: ปลายแป้นพิมพ์ 12 มีนาคม 2555 21:05:24 น.  

 

ทริปนี้ผ่านสองพี่น้องบ้านแม่ผมซะด้วย

ขอบคุณเรื่องข้อมูลนก King Fisher นะครับ

 

โดย: NATSKI13 12 มีนาคม 2555 22:04:53 น.  

 

ตอนเป็นวัยรุ่นไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่อ่างทอง
วิถีชีวิตความเป็นอยู่น่าอยู่มากครับ
คิดเลยว่าโตขึ้นจะใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัด
แต่จนบัดนี้ท่าจะหมดหวังเพราะ
ภรรยาไม่ต้องการ อยากใช้ชีวิตบั้นปลายอยู่ที่
หนองจอกครับ

 

โดย: ปรานทยา IP: 110.168.207.182 12 มีนาคม 2555 22:40:09 น.  

 

เพิ่งลงจากการไปนอนกลิ้งเล่น
ประมาณครึ่งชั่วโมงเศษ
บนจุดบ่งชี้ทางภูมิศาตร์ว่า
จุดที่ระบุว่า
อยู่ที่ดอยสูงสุดของประเทศ
และไปวนรอบพระเจดีย์สามร้อย
บนดอยที่มีพระธาตุตั้งตามชื่อ
มหาฤาษีวาสุเทพ

มานั่งอ่านกุยบุรี
เลยนึิกถึงหลวงพ่อยิด
วัดหนองจอก กุยบุรี
ตำรับปลักขลิกบิน
และสรงน้ำีปีละครั้ง
ใช้แปรงทองเหลืองขัดไม่เข้า
(ท่านมรณภาพไปแล้ว)

 

โดย: ravio 12 มีนาคม 2555 23:02:49 น.  

 

หัวหน้าครอบครัวน่ารักจังเลยค่ะ
มีความฝันแบบนี้ น่ารักมากๆ

บุ๊งไม่เคยไปที่นี่เลย
ขอเกาะล้อไปเที่ยวด้วยคนได้หรือเปล่าคะ

 

โดย: Close To Heaven 13 มีนาคม 2555 0:33:41 น.  

 

ตื่นมารอดูบอลอังกฤษก่อนเวลา ก็เลยแวะชมบล็อกประจำก่อน ถ้าประจวบก็นึกย้อนไปประมาณปี2510
วึ่งเขาจัดรับน้องทันต(PD)ที่บ้านพักของทหารอากาศ
อ่าวมะนาว ตอนนั้นหนุ่มน้อย(ยังไม่20)ไปจับปูลมตอนกลางคืนสนุกมาก เป็นจังหวัดภาคใต้ที่ลงไปจังหวัดแรก เพราะเกิดโคราช เรียนหนังสือชั้นประถมและมัธยมที่ชัยภูมิ แล้วมัธยมปลายถึงมหาลัยก็กทม. ขณะนั้นจึงไม่เคบลงไปเที่ยวภาคใต้เลย ลงไปอีกทีก็ปี2515ไปรับราชการที่จ.ยะลา1ปีเต็ม ก็เที่ยวหมด4-5จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง(มีพยาบาลสาวเป็ไกด์)ทะลุไปถึงมาเลเซีย ชื่นมื่นมาก ส่วนจ.สุพรรณไปเที่ยว
เหราะใกล้บ้านน้องเขย(อยุธยา) ถ้านั่งรถยนต์มาจากจังหวัดอื่น พอเข้าเขตจ.สุพรรณจะรู้เลยเพราะถนน
ดีกว่าจังหวัดใกล้ ตั้งแต่ท่านบรรหารเป็นนายกครับ

 

โดย: คนโคราช (Ni.Somsak ) 13 มีนาคม 2555 1:57:24 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับพี่ตุ๊ก




 

โดย: กะว่าก๋า 13 มีนาคม 2555 6:32:24 น.  

 

สวัสดีครับคุณตุ๊ก มาขอบคุณที่ไปอวยพรวันเกิด
ให้ แหะ ๆ เห็นคำอวยพรแล้ว นึกถึงสมัยก่อนตอน
เป็นเด็ก ดี กับ ชอบมากครับ ปันใหญ่ปันสูง

หันฮูปตี่คุณตุ๊กไปแอ่ว ดูแล้วเพลิน จำได้แม่นก่อ
ตรง ต้นไม้สัก ก่อนถึงสามแยกวังมะนาว

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 13 มีนาคม 2555 6:48:30 น.  

 


 

โดย: Kavanich96 13 มีนาคม 2555 8:06:19 น.  

 

ตามมาทันที่กุยบุรี....ดินแดนแห่งสับปะรดหวาน
แถวนี้ปลูกสับปะรดมีคุณภาพดีที่สุดในโลกเลยนะนั่น.

 

โดย: wicsir 13 มีนาคม 2555 9:10:17 น.  

 

โก ชญฺญา มรณํ สุเว
ใครเล่ารู้ว่าจะตายวันพรุ่ง

ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท ตลอดไป...นะคะ



 

โดย: พรหมญาณี 13 มีนาคม 2555 10:02:00 น.  

 

โห พี่ตุ๊ก
ขับรถกันอึดมากๆ นะครับ

 

โดย: grilled chicken 15 มีนาคม 2555 10:59:28 น.  

 

ติดตามตั้งแต่ตอนแรกเลยครับสนุกมากครับสารคดีท่องเที่ยวคุณภาพตอนต่อไปเพิ่มเรื่องอาหารด้วยครับภาพอาหารแต่ละที่น่ะครับ ขอบคุณมากครับ

 

โดย: เมศร์ ครับผม IP: 182.52.29.229 19 มีนาคม 2555 10:20:33 น.  

 

ขอบคุณค่ะพี่เมศร์

 

โดย: tuk-tuk@korat 19 มีนาคม 2555 11:09:48 น.  

 

เที่ยวแบบมีข้อมูล ได้ความรู้ดีค่ะ

 

โดย: Aisha 1 กรกฎาคม 2555 7:30:02 น.  

 

ดีมากเรยครับติดตามครั้งแรก ขอลงบ่อยๆๆนะครับ ถ่ายภาพสวย ชัดมาก มีโอกาส อยากไปบ้างครับ

 

โดย: วิศนุ IP: 124.120.132.81 11 มิถุนายน 2556 18:56:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


tuk-tuk@korat
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 148 คน [?]




งานหลักคืองานอดิเรก

10 บล็อกล่าสุด


What I Did For Love - Josh Groban ... ความหมาย


วัดพระธาตุเสด็จ อำเภอเมือง ลำปาง



Oh, Pretty Woman - Roy Orbison ... ความหมาย


I Will Whisper Your Name - Michael Johnson ... ตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 349


เชียงใหม่ - วัดสันทรายหลวง อำเภอสันทราย



In Dreams - Roy Orbison ... ความหมาย



ลำปาง - วัดพระธาตุหมื่นครื้น ... อย่างฉุกละหุก ตะพาบหลักกิโลเมตรที่ 348



For Lovin' Me - Gordon Lightfoot ... ความหมาย


เชียงใหม่ - วัดสันทรายมูล อำเภอสันทราย


When I Dream - Crystal Gayle ตะพาบหลักกิโลเมตรที่ 347 ติดเป็นนิสัย















ของแต่งบล็อกจาก
ป้าเก๋า "ชมพร"
คุณญามี่
คุณ Rainfall in August
ขอบคุณค่ะ

[Add tuk-tuk@korat's blog to your web]