Group Blog All Blog
|
แบกเป้เที่ยวสแกน 4 ผ่านมาสามตอนแล้ว อย่าเพิ่งเบื่อกันนะครับ ตอนนี้เราจะกลับเข้าสู่เมืองหลวงของ นอร์เวย์ กัน เพราะเรามาถึงแล้วก็ผ่านไปเมืองอื่น ก็เลยยังไม่ได้เที่ยวใน เมืองออสโล กันเลย กะว่ากลับมาถึงเย็นๆเข้าที่พักเส็จก็จะออกไปตลุยกันเลยเพราะกว่าจะมืด ก็สองสามทุ่มมีเวลาเดินเที่ยวกันอีกหลายชั่วโมง แต่ระหว่างนั่งรถไฟกลับ หิมะก็เริ่มตกลงมาเรื่อยๆ และอุณหภูมิก็ลดลงไปเรื่อยๆเพราะในรถไฟจะมีบอกไว้ตลอด อุณหภูมิจะมีตั้งแต่ ศูนย์องศาจนถึงติดลบเจ็ดองศา เราหวังว่าเมื่อไปถึงออสโล หิมะคงไม่ตก แต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่เราหวัง มีหิมะลงบางๆ สลับฝน ทำให้เราเปลื่ยนใจพักเอาแรงไว้ลุยตอนเช้าครั้งเดียวเลยดีกว่าเผื่ออากาศจะดีกว่านี้ แต่มันก็ไม่เป็นอย่างที่เราหวังไว้ สภาพอากาศยังเป็นเหมือนเดิมมีฝนตกปรอยๆ เราตัดสินใจว่ายังไงเราต้องไป เพราะถ้าไม่ไปเราก็จะเสียโอกาสเที่ยวชมเมืองหลวงของประเทศ เมื่อพร้อมก็ออกลุยกันเลย ตกลงกันว่าไปได้แค่ไหนแค่นั้น ด้วยสภาพอากาศอย่างนั้นเราเดินชมเมืองกันอยู่ 3-4 ชั่วโมง เราก็กลับมาที่พักกันเพราะว่าหนาวมากและถนนหนทางก็แฉะไปหมด ถ้าหนาวอย่างเดียวพอไหวมีฝนด้วยทำให้เดินลำบากมากยิ่งขึ้นขอยอมแพ้ กลับมานอนพักกันประมาณเกือบ 2 ชั่งโมงก็ได้เวลาต้องเดินทางต่อวันนี้เราต้องนั่งรถไฟข้ามประเทศเพื่อไป สตอกโฮม โดยนั่งรถไฟจากออสโลไป เมือง Kongsvinger แล้วต่อรถไฟไปเมือง Karlstad และต่อเข้า สตอกโฮล์ม เราใช้เวลาในการเดินทาง ตั้งแต่ 10.05 - 16.10 เราทานอาหารเที่ยงบนรถไฟจากอาหารที่เราทำมาตอนเช้า และฆ่าเวลาด้วยการเล่นไพ่แบบสนุกๆ จะได้ไม่เบื่อ และฝรั่งแม่ลูกที่นั่งตรงข้ามก็ถามว่าเราเล่นเกมส์อะไรกัน เราบอกว่าเล่นเกมส์ใครแพ้เลี้ยงไวน์ เขาก็หัวเราะ พอรถไฟไปถึงสถานีมันเป็นเวลาเลิกงานคนเยอะมาก จากสถานีรถไฟเดินประมาณ 15 นาที ก็ถึงที่พัก City Backpacker Stockholm เก็บสัมภาระเสร็จสองสาวขอพัก และจะหุงข้าวรอ ให้เราออกไปช็อปอยากกินไข่เจียวกัน แต่เราหาซุปเปอร์ไม่เจอ มีแต่ร้านแบบเซเว่น และเจอถนนช็อปปิ้งที่ยาวมากๆ มีตลาดขายผัก ผลไม้ ดอกไม้ด้วย เลยได้ผักกลับมาผัดกินกับน้ำพริก กินเสร็จอาบน้ำพักผ่อนดีกว่าพรุ่งนี้ต้องออกลุยแต่เช้า ห้องอาบน้ำที่นี้เป็นแบบรวม ( ทุกที่ๆผ่านมาจะอยู่ในห้องพักด้วย ) ห้องน้ำที่นี่มีสองห้องติดกันระหว่างห้องจะเป็นกระจกกั้นมองเห็นเป็นลางๆ ประตูก็มีผ้าปิดแค่นั้น ไม่เป็นไรตอนไปออนเซ็นที่ญี่ปุ่นยังรวมเลยไม่เห็นมีไรกั้นจะอายอยู่ใยรีบอาบรีบพักผ่อนเอาแรงดีกว่า ไม่มีใครมาสนใจเราหรอกเราก็ไม่ต้องสนใจเขามัวอาย ก็ไม่ได้อาบพอดี ที่นี้มีเน็ตให้เล่นฟรีนะ และมีมักกะโรนีให้ฟรีด้วย ตอนเช้าเราก็กินมักกะโรนีฟรีนี้แหละและทำเผื่อตอนเที่ยงไปกินที่สนามบินตอนรอบินไป เฮลซิงกิ ด้วยเพื่อประหยัด 555 ออกแนวงก ตอนเช้าเราออกชมเมือง 10 โมงเขาให้เช็คเอาท์ เราก็ตื่นเช้าหน่อย ส่วนมากเราจะตื่น 4-5-6 ออกเที่ยวไปเวลาไปก็กลับมา แล้วเดินทางต่อไป เที่ยวไป เราเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วอยู่แล้ว จากสตอกโฮล์ม เราบินไป เฮลซิงกิ เรานอนที่ เฮลซิงกิ สองคืน แล้วจะเล่าในตอนต่อไป  ได้เวลาออกลุย เมืองออสโล จะเห็นว่าง 6 โมงยังไม่สว่างดี และถนนก็เปียกเพราะฝนยังตกลงมาเป็นช่วงๆ แต่นั่นหาเป็นอุปสรรคอันใดไม่อิอิ  ย่านช็อปปิ้งยามเช้ามืดร้างผู้คนไร้รถรา  โบสถ์เก่าของเมือง ใหญ่โตมาก  ให้เห็นว่าใหญ่แค่ไหน  ย่านช็อปปิ้ง ถนนสายหลักยาวเป็นกิโลๆแต่ยามนี้ไร้ผู้คนทางโล่ง  ทางเดินไปพระราชวัง  โรงละครระหว่างทางไปพระราชวัง  เดินขึ้นเนินเพื่อจะไปพระราชวัง ที่มองเห็นอยู่ข้างหน้า  ก่อนถึง ขอซักหน่อย ทางเดินมีหิมะต้องเดินระวังไม่งั้นอาจลงไปกองที่พื้นได้  เรามาเช้ามากแต่หากสังเกตดีๆมีคนมาก่อนเราอีก  ระหว่างทางเดินกลับที่พัก หนาวมากๆกลับดีกว่า ฝนก็ตกไม่ยอมหยุด เข้าที่พักชื่อเท่มาก Backpacker Hostel  ขากลับเริ่มมีผู้คนมากขึ้น  ถึงแล้ว เฮลซิงกิ ตอนที่สนามบินเราไม่ได้ถ่ายรูป มีแต่รูปตอนนั่งบัสมาถึงแล้ว  ด้านในสถานีรถไฟเฮลซิงกิ  กว่าจะมาถึงที่พักเดินหลงไปมา ถามคนมาหลายคน สุดท้ายมีคุณยายพามาชี้ทางให้ ขอบคุณมากๆครับ  ที่พักใน เฮลซิงกิ มีครบทุกอย่าง Wifi ในห้อง เครื่องซักผ้า เครื่องล้างจาน มีแก้วไวน์ ที่เปิด ไวน์ต้องซื้อเอง อิอิ  ออกลุยต่อทันที เจอฝนอีกแล้ว แค่นี้ทำอะไรเราไม่ได้หรอก  ฝนตกแดดออกร้อนหนาว ห้ามไม่ได้ก็ต้องเนียนๆไปกับมัน คุณว่าไหม  รูปปั้นต่างลีลาไม่รู้หนาวในสวนสาธารณะ  เก้าอี้ยาวสีสวยชวนนั่งแต่กลับร้างผู้คนยามนี้ ในสวนธารณะที่ยาวคู่ขนานไปกับแนวถนน  อยากนั่งนะ แต่มันเปียกและเย็นมากเลยออกมาเป็นงี้  ร้านอาหารน่ารักๆ แถวสวนสาธารณะ รสชาติเป็นไงม่ายรู้ๆแต่ว่าราคาสุดโหดสำหรับคนแบกเป้อย่างเราๆ  ใครสวยกว่ากัน  แถวท่าเรือ ที่เราจะมาจองตั๋วเพื่อข้ามไปเมืองทาลลิน ประเทศ เอสโตเนียพรุ่งนี้  โบสถ์แถวท่าเรือ  เรือข้ามฟากระหว่างประเทศ ทั้งสองแบบ  อาคารรัฐสภาไฮไลต์หนึ่งของเฮลซิงกิ  อนุสาวรีย์พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ ช่วงกลางวันจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนเฮลซิงกิ  วณิพกผู้มากับเสียงจากขวดหลากประเภท คล้ายๆจะบอกว่าถึงเราจะแตกต่างแต่เราก็อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข  ศิลปินเปิดหมวก ในย่านช็อปปิ้ง  คงหนาวมากเลยเหลือแค่เนี๊ย  มหาวิหารแบบรัสเซีย Uspensy  อีกมุมหนี่ง  ตระหง่านบนเนิน  เริงร่าท่าหนาว  อาหารเย็นวันนี้ แซลม่อน ย่างจิ้มน้ำจิ้มซีฟู๊ด  ก่อนเป็นน้ำจิ้มซีฟู๊ด พริกที่เห็นน่ะราคาเกือบสองร้อย เป็นพริกแม็กชิกัน เผ็ดมาก  ระหว่างทางไปท่าเรือข้ามประเทศ  ตามป้าย มีเหมือนกัน  บ้านน้อยในเกาะเล็ก ระหว่างออกจากท่า เมือง เฮลซิงกิ  จากบนเรือ ถ่ายกลับไปยัง เมือง เฮลซิงกิ ตอนหน้าเจอกันที่เอสโตเนีย
ขำรูปปั้นค่ะ
โดย: tuk-tuk@korat
 วันที่: 13 กันยายน 2556 เวลา:9:47:12 น. |
tuiontour
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] ชีวิตคือการเดินทาง ถึงไม่เคลื่อนที่ เวลาก็เปลี่ยนไป แม้ไม่ทำอะไร โลกก็หมุนไป ไยไม่สนุกกับชีวิต Link |
||||||||||||
