อีกสองไฮไลต์ ของสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ในจ.กาญจนุรี
ที่นักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างชาติไม่ควรพลาดคือ...

- สะพานข้ามแม่น้ำแคว (The Bridge of the River Kwai)
- สุสานทหารสัมพันธมิตร (Kanchanaburi War Cemetery)






สะพานข้ามแม่น้ำแคว ... จังหวัดกาญจนบุรี สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2







- เป็นสะพานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่ง ทางประวัติศาสตร์ หรือเรียกอีกแบบว่า
" เส้นทางรถไฟสายมรณะ " ตั้งอยู่ที่ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง
จังหวัดกาญจนบุรี ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือ ตามทางหลวงหมายเลข
323 ประมาณ 4 กิโลเมตร แยกซ้ายประมาณ 400 เมตร มีป้้ายบอกทางชัดเจน







สาเหตุที่ถูกเรียกว่า " เส้นทางรถไฟสายมรณะ " เพราะ...

- สร้างโดยกองทัพญี่ปุ่น ได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน
ออสเตรเลีย ฮอลันดา และนิวซีแลนด์ประมาณ 61,700 คน สมทบด้วยกรรมกรชาวจีน ญวน
ชวา มลายู ไทย พม่า และอินเดีย อีกจำนวนมาก มาก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์นี้






- เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า ซึ่งเส้นทางช่วงหนึ่งจะต้องข้ามแม่น้ำแควใหญ่
จึงต้องมีการสร้างสะพานขึ้น และการสร้างสะพานทางรถไฟสายนี้ เต็มไปด้วยความยาก
ลำบาก ...ความทารุณของสงครามและโรคภัย ตลอดจนการขาดแคลนอาหาร
ทำให้เชลยศึกหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง...















สะพานข้ามแม่น้ำแควใช้เวลาสร้างเพียง 1 เดือน โดยนำเหล็กจากมลายูมาประกอบ
เป็นชิ้น ๆ ตอนกลางทำเป็นสะพานเหล็ก 11 ช่วง หัวและโครงสะพานเป็นไม้
มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2486








ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2487 ในช่วงสงคราม มหาเอเชียบูรพา ได้ถูกทิ้ง
ระเบิดหลายครั้ง จนสะพานหักท่อนกลาง ภายหลังสงครามสิ้นสุดลง รัฐบาลไทยได้
ซ่อมแซมใหม่ด้วยเหล็กรูปเหลี่ยม เมื่อปี พ.ศ. 2489
จนสามารถใช้งานได้ ปัจจุบันมีการยกย่องให้เป็น สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ







✥แม่น้ำแคว (The River Kwai)

เมืองกาญจน์ มีแม่น้ำสำคัญ 2 สาย คือ แม่น้ำแควใหญ่ และแม่น้ำแควน้อย ซึ่งไหล
มาบรรจบรวมกันเป็นแม่น้ำแม่กลอง ที่บริเวณอำเภอเมืองกาญจนบุรี













วันนี้ถือเป็นการอัพเดทพาเที่ยวเมืองกาญจน์ จขบ.ไปเที่ยวชมเมื่อวันจันทร์ 25 พ.ค
2558 ถือเป็นไฮไลน์อันดับที่ 2 หลังจากได้ไปชมประตูเมืองเก่า หน้าจวนท่านผู้ว่า






แนะนำเพื่อนๆเลยนะค่ะ ที่เคยไปนานแล้วหรือยังไม่เคยไป มีโอกาสลองไปเที่ยว
เมืองกาญจน์ ย้อนรำลึกเรื่องราวในอดีต และถ่ายภาพกันไว้เป็นที่ระลึกด้วยอีกสักครั้ง
จขบ.เคยมาเที่ยวที่นี่ 2-3 ครั้ง เท่าที่จำได้เกือบ 20 ปี มาครั้งนี้ ยังรู้สึกได้ว่า
มีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นกว่าเดิมมากมาย ...











และในทุกๆปีช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ถึงต้นเดือนธันวาคม บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำ
แคว จะมี การจัดการแสดงแสงสีเสียง (Light and Sound) แสดงให้เห็น
ถึงประวัติศาตร์สมัยสงคราม โดยใช้สะพานข้ามแม่น้ำแควเป็นฉากประกอบ เพื่อย้อนวัน
เวลากลับไปให้เราได้จินตนาการ ในช่วงการสร้างสะพาน และขณะที่สะพานโดนทิ้งระเบิด
จากฝ่ายพันธมิตร มีการใช้เอฟเฟคระเบิด พลุ และแสงสีที่สวยงามตระการตา
ถือได้ว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ประจำปี สัญลักษณ์ของจังหวัดกาญจนบุรี




✥สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก✥
(Kanchanaburi War Cemetery)

หรือ "สุสานทหารสหประชาชาติ" หรือที่ชาวจังหวัดกาญจนบุรีทั่วไปเรียกว่า
"ป่าช้าอังกฤษ" ... ตั้งอยู่บนถนนแสงชูโต อำเภอเมืองกาญจนบุรี






สุสานแห่งนี้ ออกแบบโดย คอลิน เซนต์ แคลร์ โอ๊คส์ (Colin St Clair Oakes)
เป็นสุสานขนาดใหญ่บนพื้นที่ 17 ไร่ บรรจุศพเชลยศึกที่เสียชีวิตระหว่างการสร้าง
ทางรถไฟสายมรณะถึง 6,982 หลุม โดยเชลยศึก 300 คนเสียชีวิตด้วยอหิวาตกโรค






- บรรยากาศในสุสานเงียบสงบและร่มรื่น พื้นที่ภายในได้รับการตกแต่งไว้อย่างเป็น
ระเบียบสวยงาม เหนือหลุมฝังศพทุกหลุมมีแผ่นทองเหลืองจารึก ชื่อ อายุ
และประเทศของผู้เสียชีวิต บรรทัดสุดท้ายเป็นคำไว้อาลัยที่โศกเศร้า ทุกปีจะมีวันที่รำลึก
ถึงผู้เสียชีวิตเฉพาะของคนชาติต่างๆเช่น อเมริกา เนเธอร์แลนด์ และออสเตรเลีย











































- เป็นอนุสรณ์สถานแห่งหนึ่งที่เปิดให้เข้าเยี่ยมชม เพื่อรำลึกถึงผู้ที่สูญเสียในช่วง
สงครามโลกครั้งที่สอง โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่เป็นเชลยศึกสงครามในครั้งนั้น

สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก เปิดให้เข้าชมทุกวัน
โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ - เปิดเวลา 8.00 - 17.00 น.











❉ข้อแนะนำ ในการเข้าชม❉

- ควรเข้าเยี่ยมชมด้วยอาการสงบ เคารพต่อสถานที่ และผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
- ไม่ควรถ่ายภาพที่ไม่เหมาะสม หรือทำท่าหยอกล้อ ล้อเลียน บริเวณสุสาน
- ไม่ควรเดินข้ามหลุมศพ
- ไม่ควรส่งเสียงดัง - วิ่งเล่นในบริเวณสุสาน
- ไม่อนุญาติให้นำอาหาร - เครื่องดื่มทุกชนิเข้าไปรับประทาน
- ไม่อนุญาติให้จัดกิจกรรมทุกประเภทภายในบริเวณสุสาน




ความหลากหลายทางประวัติศาสตร์ของเมืองกาญจนบุรี ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
สร้างความน่าสนใจไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้ เป็นเมืองที่คนไทยไม่ควรพลาดไปเที่ยวกันนะค่ะ



"ขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาอ่าน และเยี่ยมชมค่ะ