วังสวนผักกาด แห่งนี้ สร้างเพื่อประทับในช่วงสุดสัปดาห์กับชายา
บนพื้นที่ 6 ไร่ เป็นเรือนไทยโบราณ ๘ หลัง ที่ได้รับมรดกตกทอด มาจากบรรพบุรุษ

ที่ถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติของสวนสวย มีพรรณไม้แปลก หายากทั้งในและต่างประเทศ
มีสระน้ำเหมือนคลองเล็กๆ และเรือนไทยบางหลังก็ปลูกอยู่ริมน้ำ มีศาลาท่าน้ำ
จะลงพายเรือเล่น ก็มีเรือไว้สำรับพายลัดเลาะชมสวนก็ได้

ซึ่งบ่งบอกถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ อันสุขสงบ ร่มรื่นอยู่กับธรรมชาติจริงๆ
อย่างไม่น่าเชื่อว่า ยังมีสถานที่เช่นนี้ หลงเหลืออยู่ในกรุงเทพมหานคร









ที่ชื่อ "วังสวนผักกาด" เพราะว่า ...

เสด็จในกรมฯ ซึ่งเป็นพระราชนัดดา (หลาน)ในรัชกาลที่ 5 และ
ม.ร.ว.พันธุ์ทิพย์ บริพัตร(ชายา) ผู้เป็นเจ้าของวัง ได้มาซื้อที่ดิน ของคนจีน
ที่ปลูกเป็นแปลงผักกาดอยู่ค่ะ เรือนไทยที่นี่มีความเก่าแก่ อายุมากกว่าร้อยปี











★ เสด็จในกรมฯ ทรงชอบสะสมโบราณวัตถุ และศิลปะโบราณวัตถุมีค่าอันเป็นมรดก
ทางวัฒนธรรม และทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ที่ค้นพบในประเทศไทยและซื้อหา
มาจากประเทศอื่นๆไว้เป็นจำนวนมาก ท่านเชื่อว่า โบราณวัตถุเหล่านี้ ไม่ควร
เก็บไว้ชมแต่เพียงผู้เดียว ถือเป็นมรดกตกทอดของมนุษยชาติด้วย


จึงได้เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าชมศิลปะและโบราณวัตถุที่สะสมไว้
โดยที่เจ้าของบ้านยังใช้เป็นที่พำนักอยู่ได้ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๙๕ กล่าวได้ว่า ...

เป็นบ้านแห่งแรก ที่เปิดให้ผู้อื่นเข้าชมบ้านได้
















จขบ.ได้มีโอกาสมาชื่นชม ซึมซับบรรยากาศความเป็นไทย
ในอดีตของ "วังสวนผักกาด" เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๐ ม.ค.
๒๕๕๖ ต้องขอบอกว่าชอบมากๆ ในบรรยากาศความร่มรื่น ที่อยู่
ท่ามกลางสวนสวย มีทั้งต้นไม้ใหญ่-เล็ก ปลูกประดับอย่างเป็นระเบียบ
และมีป้ายบอกชื่อพันธุ์ไม้ชนิดนั้นๆ ติดไว้ด้วยแทบทุกต้นค่ะ

จขบ. ขออนุญาตนำภาพบรรยากาศของ "วังสวนผักกาด"
มาประกอบเรื่องเล่า และเชิญชวนเพื่อนๆ ที่ชอบท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
และอนุรักษ์วัฒนธรรม ชอบชมโบราณวัตถุ โบราณสถาน รวมถึงวิถีการ
ดำเนินชีวิตของบุคคลในยุคสมัยอดีต มาเที่ยวชมที่นี่กันได้เลยค่ะ

ซึ่งสะดวกง่ายต่อการเดินทางสำหรับคนกรุงเทพฯ แบบเราๆ ที่ไม่ค่อย
ได้ออกเที่ยวตามต่างจังหวัดไกลๆ คุ้มค่าสุดๆกับเวลาที่ได้มาเที่ยวชม
ณ พิพิธภัณฑ์ วังสวนผักกาด มีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำและ
อำนวยความสะดวกให้ดีมากๆอีกด้วยค่ะ
























❉ประวัติที่มาเป็น พิพิธภัณฑ์ วังสวนผักกาด❉


● พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร หรือ เสด็จในกรมฯ และชายาได้ย้ายเข้ามาพำนักอาศัย
เป็นการถาวร หลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ สงบลง จุดเริ่มต้นทรงเปิดแสดงศิลปวัตถุโบราณ
ที่สะสมไว้ให้พระสหาย และคนที่รู้จักมาชมก่อน แล้วจึงเปิดให้บุคคลภายนอกเข้าชม



หลังจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร สิ้นพระชนม์
ใน พ.ศ. 2502 พระชายา คือ หม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ บริพัตร ได้มอบ

"วังสวนผักกาด" ให้อยู่ในความดูแลของ มูลนิธิจุมภฏ-พันธุ์ทิพย์
และเปิดเป็น ... "พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด " นับแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน












❀ระเบียบการเข้าชม พิพิธภัณฑ์
วังสวนผักกาด❀







อันดับแรกซื้อตั๋วเข้าชม ที่จุดจำหน่ายบัตร ที่อยู่ใน อาคารศิลปาคารจุมภฏ-พันธุ์ทิพย์
(ตึกแรกซ้ายมือ จากทางเข้ามา จะเห็นหลังแรก ดูจากภาพค่ะ) อาคารนี้ก่อสร้างขึ้นใหม่เมื่อ
พ.ศ. ๒๕๓๖ เพื่อใช้เป็นที่ทำการของมูลนิธิฯ และเพื่อจัดกิจกรรม หรือ นิทรรศการทาง
ศิลปะและวัฒนธรรม จะมีเจ้าหน้าที่แจกแผ่นพับ และอธิบายเส้นทางการเดินชมใน
วังสวนผักกาด ว่าต้องเริ่มต้นจากตรงไหนก่อน-หลัง
จะให้เราเดินชมเองตามสะดวก

***ห้ามถ่ายภาพในส่วนภายใน เรือนไทยที่จัดแสดงทั้งหมด***

ยกเว้นภาคพื้นดินบริเวณที่เรายืนอยู่เท่านั้น สามารถยกกล้องกดชัตเตอร์
ได้ตามความพอใจค่ะ จขบ.เลยได้เก็บภาพบรรยากาศโดยรอบๆมาฝากกัน เพียงบางส่วน
มาประกอบเรื่องราวของ วังสวนผักกาด นะค่ะ เริ่มจาก ...






❉หอเขียน ❉


ถือเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของพิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด
เป็นเรือนไทย มรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ที่ยังคงหลงเหลือไว้ให้คนรุ่นหลัง ๆ
ได้ศึกษาต่อไป "หอเขียน" หลังนี้ อายุอยู่ในช่วงสมัยอยุธยาตอนปลาย
ขนาดเล็ก ๆ กำลังดี พื้นโปร่งแบบเรือนไทยโบราณ

ได้นำมาจากวัดบ้านกลิ้ง จ.อยุธยา หลังการซ่อมแซม และบูรณะเสร็จ
เสด็จในกรมฯ ทรงประทาน "หอเขียน" หลังนี้ เป็นของขวัญแก่คุณท่าน
ซึ่งเป็นชายา เนื่องในโอกาสที่มีอายุครบ ๕๐ ปี ในวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๐๒













❉ภายนอก "หอเขียน" มีภาพแกะสลักไม้ ทาสีทอง ซึ่งชำรุดลบเลือนไปบ้าง
เนื่องจากถูกแสงแดด ลม และฝน เป็นเวลานาน







● ใต้ถุนชั้นล่าง มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ประดิษฐานอยู่หลังฉากไม้นี้ค่ะ
(จขบ. ขอเคารพกฎกติกามารยาท มิกล้าถ่ายภาพพระพุทธรูปมาค่ะ)






❉ภายใน "หอเขียน" นั้น มีลวดลายและช่องหน้าต่างเป็นศิลปะ
ยุโรป มีภาพลายรดน้ำเรื่องพุทธประวัติ รามเกียรติ์ เป็นหลัก สวยงามมากจริงๆ
เหมือนที่เราเคยเห็นในพระอุโบสถวัดหลวงใหญ่ๆ นั่นละค่ะ มีตู้พระไตรปิฎกด้วย








(ภาพจาก...แผ่นพับ วังสวนผักกาด)







★ เรือนไทย หลังที่ ๔


จะเป็นเรือนไทยหลังใหญ่อีกเรือนหนึ่งที่ปัจจุบัน ยังมีการใช้งานในโอกาสต่างๆ อยู่
ในอดีต... ใช้สำหรับต้อนรับแขก และ รับประทานอาหารค่ำ
ปลูกอยู่ริมน้ำ เพียงหลังเดียว
















❉โถงชั้นล่าง ของเรือนไทย ๔ มีโต๊ะสำหรับประชุมงาน หรือ จัดเลี้ยง
ตามโอกาสสำคัญ ทำจากต้นไม้ทั้งต้น ที่เลื่อยเป็นแผ่น ขัดขึ้นเงาแวววับ
แสดงถึงการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดี







❉ ศาลาริมน้ำ มีปลาตัวใหญ่ๆว่ายวนไป-มา น่าเอ็นดู...







❉มีเรือพาย จอดไว้ที่ใต้เรือนไทย






❉อีกมุมมองภายนอก ของศาลาเรือนไทยหลังที่ ๔






❉สนามหญ้าเขียวขจี














❉มีสะพานข้ามข้างๆสระน้ำ ชื่อ สะพานศริพร












ชื่อ สะพานราชเทวี เป็นสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก ต่อมาตัวสะพานได้ถูกรื้อถอนไป
เมื่อมีการถมคลองเพื่อขยายถนน ชื่อสะพานจึงถูกนำมาเก็บรักษาไว้ที่ วังสวนผักกาด

**คำว่า "ราชเทวี " มาจากชื่อพระนาม สมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี
เป็นพระนางเธอในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)













❉ต้นอินทนิล ไม้ใหญ่กลางสวนสวย ของ "วังสวนผักกาด"







❉ระเบียงบนเรือนไทย หลังที่ ๔ ริมน้ำ







❉ภายในเรือนไทยแต่ละหลัง จะมีการจัดแสดงของสะสมประเภทต่างๆ เช่น ...
แร่หินที่มีค่ามีความสวยงาม เปลือกหอย และฟอสซิลปลา เครื่องถ้วยเบญจรงค์
โบราณวัตถุบ้านเชียง ห้องพระ พิพิธภัณฑ์โขน ....






(ภาพจาก...แผ่นพับ วังสวนผักกาด)









❉รวมถึงเครื่องใช้ส่วนพระองค์ เครื่องแก้วลายทอง คริสตัล เครื่องเงิน
และเครื่องลายคราม เครื่องดนตรี พระพุทธรูปปางต่างๆ ฯลฯ ทั้งในประเทศ
และต่างประเทศ ที่เสด็จในกรมฯ ทรงสะสมไว้

ที่สำคัญอีกชิ้นหนึ่ง คือ มี แจกันรูปผักกาด ที่เป็นสัญลักษณ์ของวังสวนผักกาดแห่งนี้




☆ ★ ☆ ☆


❉เรือนเก็บ " เรือพระที่นั่งเก้ากึ่งพยาม "❉







● เป็นเรือที่ ร. ๕ พระราชทานแก่ ทูลกระหม่อมบริบัตร ฯ
เพื่อใช้เป็นกระบวนเรือตามเสด็จประพาสต้น ... ตัวเรือทำด้วยไม้
ตะเคียนทอง เก๋งเรือและหลังคา ทำด้วยไม้สักทอง









❉หมู่เรือนไทยโบราณ วังสวนผักกาด❉

รายล้อมไปด้วยพรรณไม้นา ๆชนิดทั้งของไทยและต่างประเทศ ส่งกลิ่นหอม
อ่อนๆ ยามเดินผ่าน บริเวณนี้เป็นเรือนไทย หลังที่ ๕ - ๘ ที่ปลุกใหม่เพิ่มเติมภายหลัง














●บริเวณนี้ คือ หมู่เรือนไทย หลังที่ ๑ - ๔ ที่ปลูกสร้างไว้ครั้งอดีตดั้งเดิม
มีสะพานเชื่อมโยงถึงกันได้ และสร้างเชื่อมต่อไปยังเรือนไทย หลังที่ ๖-๘ ด้วย

































เรือนไทย หลังที่ ๑ ชั้นล่าง จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ดนตรี พระองค์ได้รับการยกย่องเป็น
พระบิดาแห่งเพลงไทยสากล มีห้องดนตรี พร้อมเครื่องดนตรีจัดแสดงอยู่



















สวน ... วังสวนผักกาด

วังสวนผักกาด นอกจากจะเป็นแหล่งรวบรวมโบราณวัตถุ และศิลปวัตถุอันทรง
คุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมแล้ว ยังมีสวน ที่มีพรรณไม้หายากทั้งของไทยและต่างประเทศ
จำนวนมาก จึงทำให้วังแห่งนี้มีความสวยงาม ร่มรื่น และน่าสนใจ

ในส่วนของบรรยากาศ ... จะสร้างความประทับใจไม่รู้ลืม
แก่ผู้มาเยี่ยมชม และ จขบ. แบบเราคนนี้ด้วยค่ะ




● ต้นมะฮอกกานี●
















● ต้นไม้ทุกต้น มีชื่อติดบอกไว้ด้วย






ป้ายพิพิธภัณฑ์ วังสวนผักกาด
ทางเข้า - และอาคาร ศิลปคาร จุมภฎ-พันธุ์ทิพย์: จุดจำหน่ายบัตร








● แผ่นพับ และ ตั๋วเข้าชม "วังสวนผักกาด"












เพื่อนๆ ได้อ่านและเห็นจากภาพ บอกเรื่องราว พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด อย่างนี้
ชวนมาเที่ยวชมกันนะค่ะ ปัจจุบัน "พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด" ยังคงมีลักษณะ การจัดการแสดง
และตกแต่งเหมือนบ้าน มากกว่า พิพิธภัณฑ์ ดูอบอุ่น ร่มรื่นกับธรรมชาติรอบตัว
และของสะสมที่สวยงามมีคุณค่าหาชมได้ยาก เพื่อส่งเสริมในด้านการศึกษา
การอนุรักษ์ด้านศิลปวัฒนธรรม เป็นอีกหนึ่งสถานที่ๆ มีความน่าสนใจ
และ ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งทางประวัติศาสตร์ไทยของเราค่ะ











พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด

● เปิดบริการ ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00 น.-16.00 น.
● บัตร คนไทย 50 บาท ต่างชาติ 100 บาท

● สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. ๐๒-๒๔๖๑๗๗๕ -๖
**คลิกดูรายละเอียดเพิ่ม www.suanpakkad.com



"ขอบคุณทุกๆท่าน...ที่ติดตามชมค่ะ"