|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
+*+*เวียงกุมกาม อาณาจักรใต้แผ่นดิน+*+*
วันนี้อยากที่จะรู้จักเวียงกุมกาม อาณาจักรใต้แผ่นดิน ให้มากขึ้น จึงเห็นว่าน่าสนใจมากๆ เลยเอามาให้อ่านกันครับ
ความหมายของชื่อเวียงกุมกาม
หลักฐานเก่าที่สุดที่กล่างถึงเวียงกุมกามคือ ศิลาจารึก วัดรพระยืน จังหวัดพระยืน เขียนเป็น อักษรไทย สุโขทัย คำว่า กุมกามอยู่ในด้านที่ 1 บันทัดที่ 31 เขียนว่ากูมกาม คำอ่านปัจจุบันคือ กุมกาม กาม หมายถึง บ้านเมือง แต่ในการศึกษาครั้งแรกก็มิได้รู้ว่าเป็นอะไร แต่สันนิฐานจากเวียงอื่น ที่ลงท้ายด้วยคำว่ากาม คือ เวียงพุกาม ซึ่งในภาษา พม่า กามแปลว่า บ้านนั่นเอง กุม หมายถึง รักษา เนื่องจากเป็นภาษาไทยยวนมีความหมายคล้ายกับคำว่า "คุม" ในภาษาไทย กลาง ซึ่งหมายความว่า ป้องกันรักษา คอยกำกับดูแล เพราะฉะนั้น เวียงกุมกาม หมายถึง รักษาบ้านเมือง
มูลเหตุกำเนิดเวียงกุมกาม เวียงกุมกามกำเนินขึ้นเพราะพญามังรายทรงประสงค์จะสร้างเมืองหลวงแห่งใหม่ แทนที่เมือง หริภุญไชย ด้วยความไม่พอใจในเมืองหริภุญไชย คงเป็นเพราะข้อบกพร่องของตัวเวียง ที่สร้างมาประมาณ 500 ปี มีขนาดเล็ก คับแคบไม่สามารถขยายเวียงได้ จึงหาสถานที่สร้างเมืองหลวง ขึ้นใหม่ โดยให้ เมืองหริภุญไชย มีฐานะเป็นเมืองศูนย์กลางพุทธศาสนา ขณะที่เมืองหลวงแห่งใหม่จะเป็น ศูนย์กลางการค้า และการเมือง พญามังราย จะเลือกสร้างในเขตแอ่งที่ราบ เชียงใหม่ - ลำพูน โดยไม่กลับไป สร้างเมือง หลวงในเขต ที่ราบลุ่ม แม่น้ำกก ซึ่งอยู่ทางตอนบน ทั้งนี้ในที่เวียงกุมกาม เป็นที่ราบติดต่อกันไปเป็นผืนใหญ่ ที่สุดในภาคเหนือ จะสามารถปลูกข้าวได้อย่างกว้างขวาง และยังสามารถทำการค้นกับเมืองทางตอนใต้ได ้อย่างสะดวก
สาเหตุการย้ายเมืองหลวงจากเวียงกุมกามมาเชียงใหม่ เชียงใหม่มีลักษณะภูมิศาสตร์ที่เหมาะกว่าเวียงกุมกามกล่าวคือตัวเวียงเป็นรูปสี่เหลี่ยมตั้งอยู่ ระหว่าง เชิงดอยสุเทพ และแม่น้ำปิง ที่ตั้งลาดเทจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก ลักษณะชัยภูมิ ของการตั้งเวียง เชียงใหม่ ตรงกับจารีตเดิม ของชาวไทยยวนที่ชอบตั้งคือให้ภูเขาอยู่ทาง ทิศตะวันตกของเวียง(หันหลังให้เขา) หนหน้าเขาน้ำ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ สายน้ำจากดอยสุเทพ ไหลลงมาหล่อเลี้ยงตัวเมืองเชียงใหม่ตลอดเวลาและในปัจจุบันหากเปรียบเทียบ ลักษณะ ทางกายภาพ ระหว่างเวียงกุมกามและเมืองเชียงใหม่จะพบว่าเวียงกุมกามมีข้อด้อยกว่าเชียงใหม่อย่างชัดเจน กล่าวคือ เวียงกุมกาม ตั้งอยู่ในบริเวณลุ่มต่ำ เป็นไปได้ว่าหลังจากสร้างเวียง กุมกาม แล้วประมาณ 2 - 3 ปีก็เริ่มเห็นข้อบกพร่องในจุดนี้ของ เวียงกุมกาม ครั้นพบที่ตั้งของเชียงใหม่ซึ่งเหมาะสมกว่า จึงย้ายมาสร้างในที่แห่งใหม่และการย้ายมาสร้างเชียงใหม่ มิใช่ เพราะเวียงกุมกามถูกน้ำท่วมใหญ่ แล้วจึงย้ายมาสร้างเวียงเชียงใหม่ ทั้งนี้ในหลักฐานทางธรณีวิทยา บ่งชัดว่า เวียงกุมกาม ถูกน้ำท่วม เพียงครั้งเดียว เมืองก็ล่มสลายลง ในสมัยพม่าปกครอง
ลักษณะทางกายภาพเวียงกุมกาม
ร่องรอยของเวียงกุมกามปรากฏอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีระยะห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 5 กิโลเมตร ลักษณะ ที่ตั้งและรูปร่างของเวียงกุมกามนั้นจากการศึกษาภาพถ่ายทางอากาศและจากการสำรวจ ร่องรอย ของคูน้ำคันดินที่เป็นกำแพงเวียงโบราณที่เหลืออยู่พบว่า เวียงกุมกาม มีผังเป็น รูปสี่ เหลี่ยม ผืนผ้ามีความยาวประมาณ 850 เมตร ไปตามแนวทิศตะวันออกเฉียงใต้สู่ทิศตะวันออก เฉียงเหนือ และกว้างประมาณ 600 เมตร ตัวเมืองยาวไปตามลำน้ำปิงสายเดิมที่เคยไหล ไปทางด้าน ทิศตะวันออกของเมือง ดังนั้นในสมัยโบราณตัวเวียงกุมกาม จะตั้งอยู่บนฝั่ง ทิศตะ วันตก หรือฝั่ง เดียว กับเมืองเชียงใหม่ แต่เนื่องจากกระแสของแม่น้ำปิงเปลี่ยนทิศทาง จึงทำให้ เวียงกุมกาม เปลี่ยนมาตั้งอยู่ทางฝั่งด้านตะวันออกดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ช่วงเวลาของการ เปลี่ยนแปลง กระแส น้ำ ดังกล่าวคาดว่าน่าจะอยู่ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 23 การเปลี่ยนแปลง ของกระแสน้ำครั้งนั้น ทำให ้เกิดน้ำท่วมเวียงกุมกามครั้งใหญ่จนเวียงกุมกามล่มสลาย และวัดวาอารามจมอยู่ใต้ดินทราย จน กลายเป็นเมืองร้างไปในที่สุด
โบราณสถานเวียงกุมกาม
วัดเจดีย์เหลี่ยม หรือ วัดกู่คำ
ประวัติความเป็นมาเริ่มที่ เวียงกุมกาม ของ พญามังราย นั้น พระองค์ให้ขุดคูเวียงหาทั้งสี่ด้าน และไขน้ำปิงเข้าสู่คูเวียง และตั้งลำเวียง (ค่าย) ไว้โดยรอบ แล้วให้ขุดหนองสระไว้ใกล้ที่ประทับ ในขณะที่ขุดนั้น พระองค์ทรงเยี่ยมพระ แลดูคนขุดทกวัน หนองนั้นจึงได้ชื่อ หนองต่าง (หน้าต่าง) พระองค์ทรงโปรดให้ เอาดินที่ขุดออกจากหนองนี้ ปันอิฐก่อเจดีย์กู่คำ คือ เจดีย์เหลี่ยม ไว้ในเวียงกุมกามนั้น เพื่อให้เป็นที่สักการะ ของประชาชนทั้งหลาย เจดีย์นี้มีฐานกว้าง ๘ วา ๑ ศอก สูง ๒๒ วา เป็นรูปเสมอกัน โดยถ่ายแบบมาจาก วัดจามเทวี (วัดกู่กุด) ลำพูน ซึ่งเป็นแบบศิลปกรรม ของลพบุรีมีพระพุทธรูปยืน อยู่ในซุ้มพระทั้งสี่ด้าน ด้านละ ๑๕ องค์ รวม ๖๐ องค์ กล่าวกันว่าเป็น การเฉลิมพระเกียรติพระชายาทั้ง ๖๐ พระองค์ ยอดเจดีย์แปลมขึ้นเป็นตุ่ม ไม่มีฉัตรเหมือนเจดีย์ทั่วๆ ไป คล้ายกับสถูป คนทั้งหลายจึงเรียกว่า เจดีย์กู่คำ
วัดพญามังราย
ตั้งอยู่ในเขตกำแพงเมืองเวียงกุมกาม ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประกอบด้วยด้วย เจดีย์อยู่หลังวิหาร อุโบสถ และซุ้มประตูโขง อยู่ทางด้านหน้า ลักษณะเจดีย์ เป็นศิลปะแบบล้านนา ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม จัตุรัสยกเก็จ รองรับเรือนธาตุที่ซุ้มพระ ๔ ด้าน ประดับลวดลายปูนปั้น คล้ายกับเจดีย์ป่าสัก เมืองเชียงแสน วัดพญามังราย สันนิษฐานว่าคงสร้างราว ในพุทธศตวรรษที่ ๒๐ ซึ่งปัจจุบันได้รับการบูรณะแล้ว
วัดพระเจ้าองค์ดำ
ตั้งอยู่ในเขตท้องที่หมู่ที่ ๑ ตำบลท่าวังตาล ตั้งอยู่ภายในเขตกำแพงเวียงกุมกาม ทางมุมด้านทิศเหนือ พื้นที่ทั่วไปเป็นตะกอนลูกคลื่น ภายในวัดมีเนินโบราณสถาน เนินดินแรกอยู่ทางเหนือ กว้างประมาณ ๔๐ เมตร ยามประมาณ ๑๔ เมตร สูง ๓.๕๐ เมตร วางตัวทางแนว ทิศเหนือ-ใต้ เนินดินนี้ชาวบ้านเรียกว่า เนินพญามังราย ซึ่งปัจจุบันได้รับการบูรณะแล้ว
วัดกู่ป้าด้อม
ตั้งอยู่ในเขตบ้านท่าวังตาล ตำบลท่าวังตาล อยู่นอกเขตเวียงกุมกาม ติดกับแนวคูเมือง กำแพงเมือง ด้านทิศตะวันตกเลียงใต้ สามารถเดินทางมาจาก วัดปู่เปี้ย หรือ ตามถนนทางแยกเข้าเวียงกุมกาม ด้านหน้าวัดเจดีย์เหลี่ยม (กู่คำ) ประกอบด้วย วิหารเจดีย์ และแท่นบาชาจำนวน ๒ แท่น ล้อมรอบด้วยแนวกำแพงแก้ว ซึ่งปัจจุบันรับการบูรณะแล้ว วัดกู่ป้าด้อม น่าจะก่อสร้างขึ้นในระยะที่พญามังราย ประทับอยู่ที่เวียงกุมกาม ระหว่างปี พ.ศ. ๑๘๓๕ - ๑๘๓๙ วัดกู่ป้าด้อม (กู่เป็นภาษาถิ่น หมายถึง เจดีย์ ไม่ปรากฏประวัติความเป็นมาในเอกสาร และตำนานทางประวัติศาสตร์ เป็นชื่อที่ชาวบ้าน เรียกกัน เนื่องจากอยู่ในเขตที่ดินของป้าด้อม
มีรถม้าบริการนำเที่ยวด้วยครับ สนนราคา200บาทต่อคัน <
ปล.นิทานเชียงใหม่ตอนที่2ขอเลื่อนออกไปก่อนครับผม คนบนรถม้าหน้าตาดีเนอะ
Create Date : 25 มกราคม 2550 |
|
23 comments |
Last Update : 25 มกราคม 2550 10:11:23 น. |
Counter : 1295 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: เสลาสีม่วง (เสลาสีม่วง ) 25 มกราคม 2550 10:28:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: N_BEE810 25 มกราคม 2550 12:06:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: brabra (brabra ) 25 มกราคม 2550 12:26:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) 25 มกราคม 2550 12:51:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: sak (psak28 ) 25 มกราคม 2550 13:45:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: อุ้มสี 25 มกราคม 2550 15:34:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: fonrin 25 มกราคม 2550 15:58:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: ดาว..กลางวัน (ดาว..กลางวัน ) 25 มกราคม 2550 17:12:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: peeko 25 มกราคม 2550 20:35:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: WiNO (winos ) 27 มกราคม 2550 23:26:21 น. |
|
|
|
|
|
|
|