การลาออกครั้งสุดท้าย

<<
มิถุนายน 2554
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
23 มิถุนายน 2554
 

วันที่ 115 สำเร็จเสียที..แต่ก็เหมือนเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่แหละนะ

วันจันทร์ บริษัทที่เคยไปสัมภาษณ์ตั้งแต่เดือนก่อน นัดให้ไปพบ เราเข้าใจว่าสัมภาษณ์รอบที่สามหรือยังไง เพราะไม่รู้ว่าเขาเรียกเราอีกทำไม ทีแรกเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลโทรมาบอก

"สวัสดีค่ะ หายไปนานเลย" เราตัดพ้อกะเค้า
"ขอโทษค่ะที่ทำให้รอนาน ทางบริษัทขอนัดพบอีกครั้ง คราวนี้มีคุณคนเดียว"
หมายความว่าไงเนี่ยะ ชั้นจะได้งานแล้วเหรอ อื้อ หรือว่าไม่ใช่ นัดไปคุยกันอีกครั้ง เอ๊ะ ยังไงจะดีใจหรือไม่ดีนะ

ขณะนั่งรอที่ห้องประชุม รู้สึกตื่นเต้นๆ จะคุยอะไรกับเรานะ ไม่เป็นไรถ้าไม่ได้ก็หาใหม่ ถ้าไม่ได้ก็ทำงานส่วนตัวไปซะสิ้นเรื่อง แล้วเขาก็เริ่มค้นด้วยการคุยเรื่องเงินเดือน ประมาณว่าเรายังไม่ได้คุยกะเค้าตั้งกะตอนสัมภาษณ์ครั้งนั้น

ไปๆมาๆ เราก็ได้งานแล้ว จะเริ่มวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เย้!

ก่อนหน้านั้นเราไปสัมภาษณ์อีกที่นึง เราก็สนใจ ลังเลๆ คิดๆอยู่ว่าถ้าที่โน้นโทรมาให้เราไปทำงาน ตัดสินใจกับชิวิตไม่ถูกแน่เลย

ผล...เค้าโทรมาบอกว่าเราไม่ผ่าน เฮ้อ ช่างเค้า เสียใจนิดๆที่ไม่ได้เป็นฝ่ายเลือกกลับถูกเลือก ไม่ค่อยชอบอารมณ์นี้เลย

เอาล่ะ เราจะต้องเป็นคนใหม่ ตั้งใจทำงาน เก็บเงิน กะว่าจะทำงานอีกสักแป็บ...เก็บเงินแล้วทำธุรกิจส่วนตัวสักวันในอนาคต

เราควรจะเตรียมพร้อมในการทำงาน ที่ดีที่สุดคือร่างกาย วิชาความรู้ที่จะไปทำงาน รื้อฟื้นความรู้กันหน่อย ทำร่างกายให้แข็งแรง ให้พร้อมกับการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องจิตใจจะได้ไม่วอกแวก วุ่นวาย พะวงเอาจิตเอาใจของคนอื่นมาทำร้ายใจเรา ที่สำคัญเราต้องรู้จักสำรวจและรักษาใจตนเองต่างหากล่ะ ไม่งั้นเรื่องความเครียดระหว่างการทำงานจะไม่สิ้นสุดเสียที

เลยเข้าไปหาข้อมูลเร่ื่องการปฏิบัติธรรม ถามเพื่อนๆและหาข้อมูลในพันธ์ทิพย์ อ่านบล็อคของเพื่อนๆ เจอวัดมเหยงค์ วัดอัมพวัน เสถียรธรรมสถาน ฯลฯ

อยากได้บรรยากาศและอารมณ์ของวัดที่มีธรรมชาติจริงๆ เรามันพวกไม่เคยนั่งสมาธิมืออาชีพ เคยนั่งเมื่อครั้งเรียนมัธยมหนึ่งครั้งต่ออาทิตย์ และสวดชินบัญชรแบบมืออาชีพ (ไม่ต้องอ่านเลยนะ) เรื่องอย่างนี้ต้องลองแบบค่อยเป้นค่อยไป เหมือนคนเพิ่งหัดวิ่งจ๊อกกิ้ง หัดว่ายน้ำ เล่นฟิตเนสนั่นแหล่ะ เอาแบบสบายๆไม่ต้องเร่ง หรือกดดันตัวเอง

เพื่อนบางคนอาสาจะไปส่งที่วัด อือ..ไม่ต้องหรอกเราไปกันเองได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เหมือนไปออกค่าย เหมือนไปเที่ยวทะเล ภูเขา ต่างกันเพียงแค่ว่าคราวนี้เราจะไปสูดอากาศและสูดลมหายใจของรสพระธรรม

ตกลงจะไปวัดมเหยงค์ดูแล้วธรรมชาติดี มีต้นไม้เยอะ ไม่เข้มมากเหมือนวัดอัมพวันซึ่งคนเยอะมากกกกกก ว่าจะไปวันศุกร์พรุ่งนี้ เสาร์ กลับวันอาทิตย์ แค่ 3 วันก่อนแล้วกันนะ มือใหม่หัดขับ

สำเร็จไปหนึ่่งเรื่อง เหลืออีกเรื่อง น้ำหนักที่รัก...ต้องทำให้ได้

ต้องนับหนี่งใหม่อีกน่ะซิ




 

Create Date : 23 มิถุนายน 2554
6 comments
Last Update : 23 มิถุนายน 2554 16:31:48 น.
Counter : 1105 Pageviews.

 
 
 
 
แวะมาเยี่ยมค่ะ

ไปเยี่ยมบล็อกของน้ำชาได้ค่ะ ThaiLand Travel l สถานที่ท่องเที่ยว
 
 

โดย: nonguide วันที่: 23 มิถุนายน 2554 เวลา:16:45:56 น.  

 
 
 
เย้ ในที่สุดนางเมขลาก็มาช่วยแล้ว เป็นคนดีไว้ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ ดีใจมาก ๆ เลย ลืมไปนาน วันนี้นึกได้แวะมาดูได้ข่าวดีด้วย เห็นใจคนหัวอกเดียวกันมาก่อนน่ะ

เอ้ ไปวัดอัมพวันมาแล้วเหรอคะ คนหนาแน่นมาก เพราะวัดไม่กว้างมากน่ะค่ะ แต่อาจารย์ก็สอนว่าเราดูที่เท้าเราเวลาเดินจงกลมน่ะค่ะ ไม่ต้องไปมองหน้าใคร ตรงนี้แหละที่ทำให้เราจดจ่อได้มากกว่าวัดกว้าง ๆ อีกน่ะค่ะ แต่ถ้าใครไม่ชิน อาจจะไม่ชอบ จะบ่นกันน่ะค่ะ ก่อนมาวัดอัมพวันเราก็ไปวัดมเหยงค์เหมือนกันค่ะ ที่นี่ก็ดีไม่บังคับจิตใจกันมากค่ะ แต่ตอนนั้นเราสนใจธรรมะมาก ๆ แบบว่าเก็บกดมานานแล้วในบริษัท ตอนนั้นเราไปปี 2544 น่ะ วัดยังไม่เป็นแบบปัจจุบันซึ่งพัฒนาไปมาก พี่สาวกะหลานเจ็ดขวบไปมา หลานกลับออกมา ติดเดินจงกลมเลยค่ะ เล่น ๆ ไป เปลี่ยนมาเดินจงกลมต่อ
 
 

โดย: วันสดใส วันที่: 23 มิถุนายน 2554 เวลา:20:31:31 น.  

 
 
 
ขอบคุณค่ะคุณnonguide คุณวันสดใส

ก็ดูวัดอัมพวา เอ้ย วัดอัมพวัน ตามคุณสดใสน่ะค่ะ แต่ตัดสินใจ ไปวัดมเหยงค์ ก่อน คนมันไม่เคย เนี่ยะ เพิ่งจัดเป๋าเสร็จ รู้สึกเหมือนจะไปเข้าค่ายเลย อามรมณ์แบบนั้นเลย จะไปวันพรุ่งนี้แล้ว

โห ไปตั้งกะ ปี 2544 นานน่ะนั่น 10 ปีแล้ว ไม่เป็นลูกจ้างมานานแล้วซินะคะ

คุณ nonguide จะ link blog ทำไงดีคะ ชอบพวกท่องเที่ยวเหมือนกัน จะ link เก็บไว้ที่หน้่า blog เราเนี่ยะทำไงดี
 
 

โดย: อธิกาล09 (อธิกาล09 ) วันที่: 23 มิถุนายน 2554 เวลา:23:25:23 น.  

 
 
 
เอาลูกนอนเสร็จ กว่าจะนอนแม่ก็งอม นอนไม่หลับ ก็มาอ่านเรื่องราวคุณอธิกาลต่อ แบบไม่ละเอียดมาก เพราะสายตาไม่ดี แต่ชอบมากค่ะคิดว่าถ้าเป็นเล่มหนังสือ และมีเวลาจะอ่านให้หมดเลย โดยเฉพาะตอนเป็นครูค่ายอพยพน่ะค่ะ สำนวนตอนขี่จักรยานผ่านทุ่งนาน่ะค่ะ สวยงามมากเลย ช่างเป็นช่วงชีวิตที่สวยงามที่สุด แม้จะไม่ได้เป็นอะไรที่มุ่งหมายก็เหอะ อย่างเราน่ะชีวิตที่ตั้งเป้าหมายไว้ สุดท้ายมันก็ว่างเปล่าอะไรของมันก็ไม่รู้ว่างั้นเถอะ ถึงวันนี้แล้ว ชีวิตจริงๆ ความสุขจริง ๆ มันอยู่ตรงบัดนี้นี่แหละ ซึ่งบ่อยครั้งเหลือเกินที่ลืมนึกไป

ชอบชีวิตคุณอธิกาลมากค่ะ แปลกมากเลย วันนี้นึกถึงคุณอธิกาลพอดี คิดว่าเค้าเป็นงัย ได้งานยัง ไม่เห็นเค้าไปเยี่ยมบล็อคชาวบ้านบ้างเลย จะได้รู้ว่ายังดีอยู่รึเปล่า

สรุปแล้วคุณอธิกาลเรียนจบสาขาอะไรกันแน่ การเขียนเรื่องที่หนึ่งเลยค่ะ

กลับจากวัดมาก็ได้เริ่มงานใหม่แล้ว เตรียมตัวให้พร้อมเลยค่ะ กลับจากวัดแล้วเริ่มงานเนี่ย เท่ห์ค่ะ สมองโปร่งใสที่หนึ่งเลย ดีใจมาก ๆ เลย เห็นบ่นท้อแท้ สั่นคลอนมาสี่เดือนได้พอดีเลย บททดสอบจากสวรรค์ ขอดูกำลังใจกันน่ะค่ะ จะได้เอาคุณอธิกาลเป็นตัวอย่างด้วยในยามท้อแท้
 
 

โดย: วันสดใส วันที่: 24 มิถุนายน 2554 เวลา:0:56:36 น.  

 
 
 
ขอบคุณค่ะ คุณสดใส

กำลังใจนี่สำคัญนะคะ อ่านที่คุณสดใส comment ข้างบนแล้วรู้สึกดีมากๆค่ะ

กลับมาจากปฏิบัติธรรมแล้ว กำลังรีรอๆที่จะเขียนลงในบล็อคให้เพื่อนๆได้อ่านอย่างละเอียด

ตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่ไปปฏิบัติธรรมครั้งนี้ เพื่อทำการ Reload ตัวเองเหมือนที่เราทำ overhall เครื่องยนต์ไงคะ

อยากให้ครั้งนี้เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่เราจัดระเบียบให้ดีที่สุด อย่างน้อยจะไม่ทำความผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่าอีก

เรื่องราวต่างๆที่เขียนไป แปลกตัวเองเหมือนกัน เป็นมหัศจรรย์ของชีวิตที่คนๆหนึ่งได้ผ่านชีวิตการงานมามากมาย จะพยายามเขียนต่อไปให้จบ ซึ่งยังไปไม่ถึงครึ่งทางเสียด้วยซ้ำ

ขอบคุณค่ะ ขอบคุณจริงๆเลย ที่มีใครบางคนเช่นคุณสดใสได้เข้ามาอ่าน ทำให้รู้ว่ามีคนติชม วิจารณ์ ให้ความเห็น อย่างน้อยทำให้เรารู้ว่ามีคนสนใจอยู่บ้าง

เคยคิดอยู่ว่าเรามีความสามารถและมีความสุขกับอะไร...ก็การเขียนเรื่องนี่แหละค่ะ

ถ้าทำได้จะลองอ่านบล็อคคนอื่นบ้างค่ะ
 
 

โดย: อธิกาล09 วันที่: 27 มิถุนายน 2554 เวลา:17:17:37 น.  

 
 
 
คนที่ทำผิดพลาดเยอะ ๆ คือคนที่เก่งที่สุดในวันนี้น่ะค่ะ เขามีการเรียนการสอนแบบเรียนรู้จากข้อผิดพลาดกันเป็นล่ำเป็นสันเชียวนา อย่าตำหนิตัวเองเลย เขาว่าคนที่ทำผิดคือคนที่ทำงาน ส่วนคนที่ทำไม่ผิดคือคนที่ไม่ทำอะไรเลย

ที่บริษัทเมื่อก่อน เป็นนักบัญชีน่ะค่ะ แต่สะเพร่าเป็นที่หนึ่ง ไม่รู้มาจับอาชีพนี้ได้งัยยายคนนี้ แต่หัวหน้าก็แสนดี ให้อภัย แต่เราก็ปรับปรุงพยายามไม่ให้ซ้ำซากน่าเบื่อ ให้ผิดแบบใหม่ ๆ บ้างน่ะ สุดท้ายตัวเองล่ะเบื่อเอง พยายามให้เขาไล่เราออกจะได้เงินชดเชยก็ไม่สำเร็จ

คือหัวหน้าทุกคน รู้ว่าลูกน้องน่ะพัฒนาได้ ที่บริษัทเป็นเหมือนกันโทรหานายฝรั่งตีสอง เขาก็ไม่ว่าอะไร ทุกวันนี้ยังอยู่กันจนนายฝรั่งไปเองค่ะ คือผิดพลาดเป็นครูน่าภูมิใจกว่าคนไม่เคยทำผิดค่ะ

กลับจากปฏิบัติธรรมมาเป็นอย่างไรบ้าง รอฟังเรื่องเล่าอยู่ค่ะ อย่าเขียนเพลินจนลืมเตรียมตัวไปงานใหม่นะคะ อีกสามวันเอง เดี๋ยวเรื่องราวใหม่ ๆ ก็จะมาให้ท้าทายอีกแล้ว
 
 

โดย: วันสดใส วันที่: 27 มิถุนายน 2554 เวลา:22:17:21 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

อธิกาล09
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"Life was like a box of chocolates. You never know what you're gonna get."
[Add อธิกาล09's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com