ฟิคyและเรื่องที่อยากจะเล่าให้ฟังของtsktonight.
ตอนที่ 57 ขอดูแล 2...(yaoi)

*** ///เรื่องนี้เป็นนิยายวายมีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย/// บอกไว้ให้สำหรับคนที่ไม่ชอบแนวนี้จะได้ไม่ต้องอ่านนะคะ แต่ถ้าใครสนใจ หรือชอบแนวนี้ ก็เชิญให้ลองอ่านและติดตามกันได้ตามอัธยาศัยค่า^^ เนื่องจากเรื่องนี้อาจมีคำไม่สุภาพค่อนข้างเยอะ เพื่อให้เข้ากับเนื้อเรื่องและลักษณะนิสัยของตัวละครแต่ละตัว เพราะฉะนั้นถ้าใครไม่ชอบใจขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่า คนแต่งขอขอบคุณแฟนๆไว้ก่อนล่วงหน้า (จุ๊บๆ รักครับผม)









..........สามวันแล้วที่ผมไม่ได้กลับบ้าน
พ่อไม่ยอมคืนโทรศัพท์ให้ผม ไม่ให้กลับบ้านยังไม่พอโรงเรียนก็ไม่ยอมให้ไป อาทิตย์หน้าจะสอบแล้ว

“จ๋า แล้วแบบนี้จะให้เรียนจบได้ยังไงโรงเรียนก็ไม่ให้ไป”
ผมรีบถามพ่อทันทีที่เจอหน้า อย่างน้อยพ่อน่าจะเห็นเรื่องเรียนสำคัญ นิ่งใส่ผมมาสามวันในที่สุดวันนี้ก็ยอมตอบ
“ทำเรื่องขอหยุดให้แล้วไม่ต้องห่วงหรอก ถึงวันก็ไปสอบเลย” โอ้โหดูพ่อผมตอบสิครับ
“อย่างน้อยขอโทรหาแม่จ๋า..”
“พ่อคุยกับแม่แล้ว”
“ไม่จริงอ่ะ! แม่จ๋าไม่มีทางยอมให้มาอยู่ที่นี่หรอก”
“..........ตกลงกันแล้วว่าพ่อจะส่งเรียนมหาวิทยาลัยเอง ให้มาอยู่ที่นี่...แลกกับ”
“แลกกับ....อะไร”
“แลกกับยอมให้ลูกคบไอ้นั่น..”
“ห๊ะ............”
ไม่อยากเชื่อหูตัวเอง สิ่งที่พ่อพูด ลองคิดตามแล้วไอ้ที่กำลังทำอยู่เนี่ยนะคือยอมให้คบเดย์ได้
แค่ชื่อเดย์พ่อยังไม่อยากพูดออกมาเลย

“บอกแม่เขาไว้แล้ววันหยุดจะพาไปหา แล้วต่อจากนี้จะถ้าไปเจอไอ้เด็กนั่นต้องอยู่ในสายตาพ่อตลอด
เอาเรื่องสอบเรื่องเรียนต่อเราให้มันเสร็จก่อน ไม่เจอกันแค่นี้ถ้ารักกันจริงก็ต้องทำได้สิจริงมั้ย”

“ห๊า.......จ๋า.....นี่จ๋าดูละครเรื่องอะไรม๊า!|||||||||||” ผมฝันไปรึเปล่าครับเนี่ย น้ำเน่าโคตร
“ละครบ้าอะไรล่ะ!/////*// เรื่องจริงนี่เว้ย!”
“จ๋า จ๋าเอาอะไรมาพูด จ๋าต้องทำงานนะอยู่กับลูกตลอดไม่ได้หรอก ลูกเป็นผู้ชายไม่เห็นต้องห่วงขนาดนั้น”
“เป็นผู้ชายแล้วทำไมไปชอบผู้ชายห๊า! จริงๆเลยเฮื่อย..เวลาพ่อไม่อยู่ลูกต้องอยู่กับพี่เลี้ยง”
“พี่เลี้ยง!!? ตลกแล้ว ไม่ใช้ไอ้ซีน่อนซีโน่นะจ๋า!”
“เออน่า จ้างมาแล้ว นู่นไม่เชื่อไปชะโงกดูที่หน้าต่าง”

ผมรีบวิ่งไปชะโงกดูอย่างที่พ่อบอก แม่งตาค้างเลยครับ ที่เฝ้าวนเวียนแถวใต้หน้าต่างกับหน้าบ้านพ่อ
ขยี้ตาดูกี่ทีก็คล้ายคิงคอง! พี่เลี้ยงบ้าอะไรเล่าอย่างกับนักมวยปล้ำ! สไตล์การ์ดคุมผับพ่อชัดๆ||||||||| ตั้งห้าคน

“เกินไปแล้วจ๋า!”
“ทีทำกับพ่อไม่เกินไปเหรอ!”
“ทำอะไร”
“ก็ทำให้เสียใจอยู่นี่ไง!!!”
“.............”
ผมจะพูดอะไรได้ ทำไมพ่อต้องเสียใจ ผมก็เป็นผม เขาอยากให้ผมเป็นแบบไหน จะให้เป็นอย่างอื่นได้ยังไง

“แล้วโทรศัพท์”
“ไว้ทำตัวดีจะคืนให้”
แปลว่าตอนนี้ผมไม่ดีสินะ.. ผมโอดครวญฟุบหน้ากับหมอนได้แต่ฟังเสียงพ่อปิดประตู
วันนี้พ่อเลิกล็อคกุญแจคงเพราะจ้างคนมาเฝ้า แม่ยอมให้มาอยู่กับพ่อผมจะได้ไม่ต้องเลิกกับเดย์งั้นเหรอ
แล้วอย่างนี้แม่จ๋าจะนอนร้องไห้คิดถึงผมไหม เพื่อนๆจะเป็นห่วงผมแค่ไหน เดย์จะหัวร้อนอยู่รึเปล่า..
ไอ้สิ่งที่พ่อกำลังทำอยู่ มันไม่เห็นมีส่วนไหนบอกว่าพ่อยอมเปิดใจสักนิด

ผมไม่เอาแบบนี้ได้ไหม............... ผมอยากกลับบ้าน

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


………วันเสาร์พ่อพาผมไปรับน้องๆออกจากโรงพยาบาล
ตลอดทางระหว่างที่อยู่ในรถผมไม่คุยกับพ่อจนแม่แพทริเซียสังเกตได้ แม่แหม่มใจดีครับ
เขาเอ็นดูและเป็นห่วงผมแต่ก็ขัดใจพ่อไม่ได้หรอก หันมาถามผมที่นั่งเบาะหลังกับน้องๆ
“เป็นอะไรลูกคิด มีอะไรบอกแม่ได้นะ”
“เปล่าครับ”
“เรื่องย้ายบ้านใช่ไหม ถ้าไม่อยากอยู่กับแม่ จะไปอยู่หอก็ได้นะ”
“จริงเหรอครับ”
ผมตาลุกวาว ยิ้มออกด้วยความดีใจ ไม่อยากโดนพ่อคุม

“พูดอะไรคิดบ้าง! ทำให้พ่อเสียใจคนเดียวไม่พอจะทำให้แม่แพทริเซียเขาเสียใจอีกคนเหรอ ไอ้ลูกคิด!!”
พ่อดุผมเสียงดังทันควัน ผมต้องหุบยิ้มก้มหน้าพูดขอโทษแม่แพทริเซียเสียงอ่อย
ไม่ใช่ว่าไม่อยากอยู่ด้วยเพราะไม่ชอบอะไรเขา แค่ไม่อยากโดนบังคับ..

“ยังไงก็ดูมหาวิทยาลัยที่จะเข้าก่อน ถ้ามันไกลบ้าน พ่อจะไปหาบ้านเช่าให้อยู่ ยังไงแกก็ต้องอยู่กับพี่เลี้ยง”
“....ห๊ะ||||||||.........” เซ็ง... แม่งเอ๊ย พี่เลี้ยงหรือผู้คุมนักโทษกันแน่

ไอ้สองแฝดที่หายดีดื้อได้ รุมถามว่าทำไมผมทำหน้าเหมือนคนขี้ไม่ออกตลอดเวลา... -*-
“พี่ลูกคิดไม่อยากอยู่บ้านซีโน่เหรอฮะ?” เจ้าซีโน่เอียงคอทำปากยื่น
“พี่ลูกคิดมาอยู่บ้านซีน่อนนานๆเลยนะ” เจ้าซีน่อนกอดแขนผมเอียงหัวซบ
แม่แพทริเซียบอกพวกมันตั้งแต่ที่โรงพยาบาลแล้วว่าต่อไปนี้ผมจะมาอยู่ด้วย พวกมันร้องเฮดีใจลั่นห้อง
จนโดนเอ็ด ตอนนี้มารุมกอดผมกันใหญ่ จะรู้บ้างไหมว่าผมอยากร้องไห้จะตายอยู่แล้ว

จู่ๆซีน่อนก็ถาม “พี่ลูกคิด....แล้วคนใจร้ายจะมาบ้านเราไหม”
ผมอึ้งไปเลยครับ... คนใจร้ายของพวกมันก็คือไอ้เดย์
คงเพราะตอนที่น้องๆไปค้างบ้านผมไอ้เดย์มาหาทุกวัน
พ่อผมคงไม่ทันได้ยินอะไร เจ้าซีโน่แหกปากร้องเพลงให้แม่มันฟังอยู่ ผมรีบเอานิ้วชี้แตะที่ปากซีน่อน
ส่งเสียง “ชู่ว!” เป็นเชิงห้ามว่าไม่ให้ถาม ก่อนจะถอนใจแล้วเบนสายตามองออกไปนอกหน้าต่างรถ


*************************************************************

กลับถึงบ้านพ่อไม่มีท่าทีจะพาผมไปบ้านแม่เลยจนผมต้องทวงถามอย่างหงุดหงิด
“จ๋า!! ไหนว่าจะพาไปหาแม่จ๋าไง”
“เดี๋ยววันจันทร์ก็ไปโรงเรียนแล้ว วันไปสอบจะพาไปเจอแม่ทุกวันนั่นแหละ วันนี้ยังไม่ต้องไปหรอก”
“ผิดสัญญาอ่ะ!”
“อยากไปเจอมันมากรึไง!”
แน่นอนว่า มัน ของพ่อไม่ได้หมายถึงแม่ แต่หมายถึงคนที่ผมรัก

ผมไม่อยากเถียงกับพ่อเลยเดินหนีเข้าห้องไป ตอนนี้พ่อเลิกขังผมแล้วก็จริง แต่ผมจะไปไหนได้
โทรศัพท์ก็ไม่มี เงินก็ไม่มี ทางก็ไม่รู้จัก แถมยังมีลูกน้องพ่อคอยคุมอีก

หนีไปนั่งร้องไห้คนเดียวในห้อง แค้นใจครับ จนมืดก็ไม่ออกไปกินข้าวแม่แหม่มเลยให้น้องๆมาตาม
เจ้าแฝดคุยกันเสียงดังหน้าห้องว่าผมท่าทางจะไม่สบาย ผมเลยต้องออกไปบอกน้องๆว่าแค่ง่วงนอน
พวกมันอยากขอนอนกับผมด้วย แต่ผมอยากอยู่คนเดียวเลยไล่พวกมันไปกินข้าวก่อน เอาไว้วันหลังค่อยมา
เจ้าพวกแสบจะงอแงผมเลยรีบปิดประตูหนีไป

กลับมานอนกอดตัวเองที่เตียง นึกถึงความรู้สึกที่ต้องห่างจากคนที่เรารัก
คิดถึงกอดของแม่....กอดของเดย์...

ผมอยากกลับบ้าน....

“ฮึก....ฮึกฮึก....”
แต่ทำได้แค่นี้เองครับ ร้องไห้จนปวดหัว กากอะไรอย่างนี้วะชีวิต

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ถึงวันสอบ..
ผมไม่มีความสุขเลยครับ เหมือนวิญญาณออกจากร่าง เดินเข้าโรงเรียนพร้อมพ่อเหมือนซอมบี้
ไอ้ความหวังที่จะได้เจอหน้าเพื่อนๆเจอหน้าไอ้เดย์ตอนที่มาโรงเรียนสลายเป็นผุยผง

ผมต้องเข้าห้องสอบแบบแยกเดี่ยวครับ ยิ่งได้รู้จากอาจารย์ที่มาคุมสอบผมคนเดียวเรื่องวีรกรรมของพ่อ
ผมโคตรเศร้า พ่อผมจะไม่ยอมให้มาสอบ ถ้าหากว่าต้องสอบรวมกับเพื่อนในห้อง
แถมพ่อยังให้พี่เลี้ยงหอบข้าวกล่องมานั่งเฝ้าหน้าห้องสอบ รอเวลาพ่อมารับออกจากโรงเรียน

นี่มันเชี่ยอะไรวะเนี่ย!!!

พวกอาจารย์แม้แต่ผอ.โรงเรียนที่ไม่รู้จักผมด้วยซ้ำ เขายังเห็นแก่อนาคตของผม ไม่อยากให้ผมต้องเสียเวลา
ไปเรียนใหม่ ยอมอนุญาตให้ผมแยกสอบคนเดียวได้ ตอนนี้แม้แต่เพื่อนในห้องยังไม่ให้เจอ เกินไปแล้ว T T
ไม่ต้องพูดถึงเดย์เลย อยู่ในโรงเรียนเดียวกันแท้ๆเงามันผมก็ไม่เห็น

ตอนที่กำลังเขียนคำตอบในกระดาษข้อสอบ
ภาพเดย์ติวหนังสือให้ผมมันผุดขึ้นมาในหัว จนผมต้องนั่งปาดน้ำตาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง
มันสอนผมตั้งมากมาย ผมจำได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่ที่จำได้ชัดเจนที่สุดคือความรักของมัน
ผมพยายามทำข้อสอบเท่าที่จะทำได้ ผมทนสุดๆแล้วที่จะไม่ทำให้กระดาษเปื้อนรอยน้ำตา

อาจารย์เห็นน้ำตาผมก็เดินมาหา ยื่นทิชชู่ให้ บีบไหล่เบาๆ
“อาจารย์ไม่รู้หรอกนะว่าบ้านเธอมีปัญหาอะไร แต่เธอต้องสู้นะธีทัต..”
“....ครับ”
ผมตอบได้แค่นั้น..............ผมไม่มีแรงแล้วครับอาจารย์

.......................................
.....................
...........


สอบเสร็จพ่อพาไปหาแม่จ๋าตามสัญญา แม่กอดผมไว้ตลอดตอนที่คุยกันหลังผมเก็บเสื้อผ้าเสร็จ
พ่อซื้อเสื้อผ้าของใช้ใหม่ให้ผมตอนอยู่ที่นู่น แต่ผมอยากได้ของของผมมากกว่า
“ทำไมผอมลง อะไรเนี่ยแค่ไม่กี่วัน”
“กินข้าวไม่ลงอ่ะจ๋า”
“เออ แม่คิดถึงลูกนะ ฮึก..” แม่พูดแล้วก้มหอมหัวผมที่ซุกกับอกแม่
“อื้อ...ฮึกก คิดถึงแล้วจ๋าให้ไปอยู่กับพ่อจ๋าทำไม”
ผมไม่เคยห่างแม่เลยครับ อย่างมากก็ตอนไปเข้าค่ายลูกเสือ

“ไม่อยากเลิกกับเดย์ไม่ใช่เหรอ”
“ไม่อยากอยู่ที่อื่นด้วย อยากอยู่กับจ๋า”
“ถ้าอยากอยู่ที่นี่พ่อเขาก็ไม่ยอม เฮ้อ แม่ไม่อยากให้เลิกกับเดย์ ลูกอยากเลิกกับเดย์เหรอ สงสารเดย์นะ”
“....ใครว่าอยากเลิก ไม่ได้อยากเลิกแล้วก็ไม่อยากไป... จ๋า ทำไมเราต้องยอมด้วย”
“ยังไงก็พ่อ ตอนนี้อดทนไปก่อนนะลูก”

ถ้าอยากอยู่กับแม่ต้องเลิกกับเดย์ แต่ถ้าไปอยู่กับพ่อจะให้คบกับเดย์เปิดเผยได้ตอนจบมหาวิทยาลัย
ระหว่างนี้ห้ามเจอกันลับหลังพ่อ นี่คือข้อตกลงของพ่อผม ไม่ห้ามให้โทรหากันแต่จนบัดนี้ก็ยังไม่คืนมือถือให้

“จ๋าทนได้เหรอ”
“ทนได้สิ เราก็ได้เจอกันทุกอาทิตย์ไง แม่จะรอ...ลูกจะได้ไม่เสียใจ”
“ใครว่าไม่เสียใจล่ะ...ไม่อยากให้จ๋าอยู่คนเดียว เป็นห่วงจะตาย ไม่อยากไป”
“อยู่คนเดียวที่ไหน เดย์ก็อยู่ที่นี่”
“มันดูแลจ๋าดีไหม”
“ดี ดีมาก”
“............ฮึก...ฮึก ฮึก...ไม่อยากอยู่ที่นู่น”
“แต่พ่อเขาสัญญาแล้วถ้าจบมหาลัยจะเลิกยุ่ง ตอนนี้เขาอยากเห็นว่าพวกลูกจริงจังแค่ไหน
อีกหน่อยเป็นผู้ใหญ่กว่านี้พ่อเขาก็จะปล่อย”
“จ๋า...จ๋าไปอยู่ด้วยกันนะ”
“ลูกเอ๊ย...แม่จะไปได้ยังไง พ่อกับแม่ตัดกันไปนานแล้ว เหลือแต่ลูก...อย่าตัดพ่อเลยนะ”
“ทำไมต้องมาขอดูแลตอนที่ไม่ต้องการ เมื่อก่อนวิ่งตามเขายังไงก็ไม่ยอมกลับมา”
“.......เฮ้อ อย่าคิดมากลูกคิด ยังไงพ่อเขาก็รัก”

ผมยอมรับว่ากลับมางอแงกับแม่เหมือนเด็ก พ่ออยู่หน้าบ้านคุยโทรศัพท์ ลูกน้องพ่อก็เฝ้าอยู่แถวนั้น
ผมได้แต่ชะเง้อคอมองหาเดย์ ผมกลับมาบ้านตั้งนานแล้วทำไมมันยังไม่มา จนพ่อพากลับ มันก็ไม่มา...


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตลอดการสอบผมไม่ได้เจอเพื่อนหรือเดย์เลย ยังดีที่ได้เจอแม่ จนกระทั่งสอบเสร็จวันสุดท้าย
“ทำไมเดย์ไม่มา จ๋า”
“.......เฮ้อ มา มาทุกวัน มาหาแม่”
“อ้าวแล้วทำไม!? ..” ผมยังโวยไม่ทันจบจ๋าก็รีบบอก
“เขาบอกอยากตั้งใจสอบ เอาไว้จะโทรหาลูกเองตอนลูกได้มือถือคืนแล้ว”
“อะไรของมันเนี่ย ไม่คิดถึงกันบ้างเลยรึไงวะ!” นึกว่าจะได้เจอ กลับแห้วทุกวันเลยครับ
ผมน้อยใจมันมาก คิดถึงแทบตายแต่มันแค่บอกไว้จะโทรหา แค่นี้เหรอ
หรือว่า............ มันไม่อยากมาเจอหน้าพ่อผม... ต่างฝ่ายต่างเกลียดกันขนาดนี้จะยอมลงให้กันได้ยังไง

ผมกอดแม่แน่นๆ กว่าจะได้เจออีกตั้งอาทิตย์
ได้แต่น้อยใจ จะมีใครคิดถึงใจผมเหมือนแม่บ้าง

.....................................
................................

มาถึงบ้านเจอไอ้แฝดวิ่งมาหาหัวเราะร่ามีความสุขกันจริงว้อย พี่พวกมึงทุกข์อยู่เนี่ยรู้กันบ้างไหม
“จ๋า โทรศัพท์!” ผมรีบตะโกนขอมือถือคืนก่อนพ่อเดินไป
“เอาไว้ก่อน”
คำตอบของพ่อทำผมเดินคอตกกลับห้อง ไอ้ตัวแสบสองตัวนั่นก็จะวิ่งตามเข้าห้องมาผมรีบปิดประตูหนีมัน
ไม่มีอารมณ์เป็นเพื่อนเล่นน้องๆหรอกครับ ตั้งแต่ต้องมาอยู่บ้านพ่อ น้องๆผมก็รบเร้าขอเข้ามาเล่นในห้อง
แต่ผมไม่ยอมให้พวกมันเข้ามา พวกมันชอบพูดว่าจะเข้ามาดูแลผม ใครต้องดูแลใครกันแน่วะ เฮ้อ

ตลอดเวลาคุณพี่เลี้ยงตัวยักษ์ทั้งหลายก็เฝ้าผมไม่ห่าง ตามติดเป็นขี้ปลาทองเลยล่ะครับ
ตั้งแต่ที่โรงเรียนยันหน้าห้องนอน เวลาที่พ่อไม่อยู่ด้วยจะไปไหนทำอะไรก็มีพี่เลี้ยงอยู่ด้วยตลอด
หดหู่กว่านี้มีอีกไหม |||||||||| ไม่ใช่ว่าบ้านพ่อผมรวยแล้วผมจะมาอยู่สุขสบาย เหมือนเป็นนักโทษมากกว่า

“น้องลูกคิดครับ คุณพ่อเรียกให้ไปหาครับ” เสียงพี่เลี้ยงเรียกผมผ่านประตูห้องเข้ามาให้ได้ยิน
โหย เขาพูดกับผมอย่างที่พูดกับพวกลูกคุณหนูตลอด ขนลุกทุกทีครับมันไม่ชิน ผมชินกับการเป็นไอ้ลูกคิด
ลูกชายคุณนายลูกเกดช่างเม้าท์ ที่บ้านเปิดร้านขายของชำร้านเดียวในซอย... มีแฟนเป็นลูกชายเจ้าของร้านทอง
...
“ไอ้บ้าเดย์!”
นึกแล้วโมโหครับ มันไม่มาหาผมเลย ทั้งๆที่รู้ว่าตอนนี้ผมไม่ได้ใช้มือถือ มันก็ไม่ยอมไปเจอผมที่บ้านแม่

ผมเดินออกจากห้องไปอย่างเซ็งๆ ไม่รู้พ่อจะเรียกไปทำไม จะด่าอะไรเรื่องเดย์อีกรึเปล่า ผมเบื่อ
“พี่ลูกคิดๆๆๆๆ” เห็นผมออกจากห้อง เจ้าตัวป่วนคนพี่วิ่งมากระตุกมือเรียกผมรัวๆ
ผมก็ถามอย่างเหนื่อยใจว่ามีอะไร เจ้าตัวป่วนคนน้องก็วิ่งอ้อมมาพูดกับผมอีกข้าง
“พี่ลูกคิด ซีโน่กับซีน่อนจะดูแลพี่ลูกคิดเองนะฮะ”
“หือ? พี่ไม่ได้ป่วย พี่แค่เครียดเรื่องสอบ เลยไม่ได้เล่นด้วย เข้าใจไหม”

“พี่ลูกคิดไม่ยิ้มเลยอ่ะ ทำยังไงดีอ่ะ” ซีน่อนมันหันไปคุยกับซีโน่ครับ ผมอดเอ็นดูพวกมันไม่ได้
ผมเลยฝืนยิ้มให้น้องๆแล้วขยี้หัวพวกมัน เอ๊ะ... พอยืนเทียบกับตัวผมแบบนี้แล้ว รู้สึกว่าเจ้าพวกนี้
มันสูงขึ้นนะ ทั้งคู่เลย ดีจังนึกว่าจะไม่โตแล้วเป็นลูกครึ่งเสียเปล่า ผมอยากให้พวกมันตัวโตกว่านี้
จะได้ไม่ต้องโดนเพื่อนที่โรงเรียนแกล้งเอาอีก

“งั้นซีโน่กับซีน่อนขอเข้าไปเล่นกับพี่ลูกคิดในห้องนะฮะ”
“....ไว้วันหลังนะ”
คงเพราะไม่ค่อยออกมาเจอ น้องๆตื้อจะเข้าห้องให้ได้ เจอหน้าผมก็พากันพูดอยู่เรื่องเดียว

“แต่..” เจ้าซีโน่กำลังจะอ้อนต่อ แต่คุณพี่เลี้ยงร่างบึกรีบพูดเตือนผมขึ้นมาก่อน
“คุณพ่อมีแขก ทุกคนรออยู่นะครับ”
เหมือนเป็นการเร่งให้ผมรีบไป เลยได้แต่บอกไอ้สองแสบให้ไปเล่นที่อื่นก่อน
พวกมันก็ทำปากจิ๊จ๊ะบ่นงึมงำแก้มป่อง “วันหลังทั้งปีอ่ะ”

**************************

พอไปหาพ่อ เจอแขกของพ่อ ผมนี่อึ้ง ตกใจแทบวิ่งหนี เชื่อแล้วว่าโลกโคตรกลม กลมชิหาย

“เฮ้ย!” ไอ้ไลค์! ไอ้ไลค์ครับ! นี่มันมายืนหน้าเอ๋อในบ้านพ่อผมได้ยังไงเนี่ย!!?
“อ้าว!” ไม่ใช่แค่ผมครับ ไอ้ไลค์มันก็ตกใจยืนเหวอเหมือนกัน

พ่อผมกับคนที่น่าจะเป็นพ่อไลค์(เพราะหน้าเหมือนกันอย่างกับแกะ) นั่งมองพวกผมยืนชี้หน้ากันแบบงงๆ
“นี่รู้จักกันด้วยเหรอ” พ่อผมขมวดคิ้วถามกรอกตาไปมา
ไอ้ไลค์มันยิ้มเหมือนกำลังจะพยักหน้า ผมรีบส่ายหน้าปฏิเสธเสียงลั่นจนมันชะงัก
“ไม่ๆๆๆๆ ไม่เลย! ไม่เคยรู้จักกันเลย!!!”
“อ้าว..” ไลค์มันเกาหัวงง ผมรีบบอกพ่อว่าจำคนผิด
“นึกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่ ขอโทษทีนะ แหะๆ”
ต้องขอบใจมันที่เออออห่อหมกตามน้ำผมไป “อ๋อ....ครับ ไม่เคยรู้จักกันครับคุณลุง จำผิดเหมือนกัน555555”
พ่อไอ้ไลค์ขำใหญ่บอกว่าพวกผมตลก เรียนกันคนละโรงเรียนอยู่ไกลกันคนละที่ไม่เคยเจอกันก็ไม่แปลก
ตอนแรกทำท่าเหมือนรู้จักกันยังแปลกใจ “ไม่ๆๆๆ ไม่รู้จักกันไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนเลยครับ5555|||||||||”

“เอ้าสวัสดีลุงศักดิ์ชายเขาสิ เพื่อนพ่อเองลุงเขาเป็นหุ้นส่วนผับกับร้านอาหารที่พ่อเปิด
สองบ้านเราก็เหมือนญาติกันนี่แหละ”
ผมสวัสดีพ่อของไลค์เขาก็รับไหว้ “ส..สะ..สวัสดีครับ”
“ไหว้พระลูก555 เพิ่งเคยเจอนะ พ่อเราเขาโม้ว่ามีลูกชายโตเท่าลูกลุงให้ฟังมานานได้เจอซะทีหน้าตาดีนะเนี่ย”
“แหะๆๆ ขอบคุณครับ||||||||”

ไอ้ไลค์ยิ้มให้ผมแล้วแกล้งแนะนำตัวเอง
“เราชื่อไลค์นะ นายชื่ออะไร(55)”
“(-*-) ชื่อลูกคิด”

ไม่อยากเชื่อเลย ว่าพ่อผมกับพ่อไอ้ไลค์จะเป็นเพื่อนกัน แถมยังเป็นหุ้นส่วนกัน ...งั้นผับที่ผมเห็นตอนปีใหม่
นั่นของพ่อผมด้วยน่ะสิ ผมไม่เคยยุ่งเกี่ยวอะไรทางบ้านพ่อมาก่อน ไม่รู้ก็ไม่แปลก
แต่โลกนี้แม่งโคตรแปลก||||||||||| ทำไมผมวนมาเจอไอ้ไลค์อีกได้เนี่ย

ผมเห็นไลค์มันทำหน้าเหมือนมีเรื่องอยากถามผมเป็นร้อยเรื่อง แต่ผมทำเป็นไม่สนใจ จนนึกอะไรดีๆขึ้นมาได้
“เฮ้ยเอ่อ..นายกะจะเข้ามหาลัยไหนเหรอไลค์”
“เอ่อ...ก็ ที่...”
“เฮ้ยเราก็สนใจอยู่ แนะนำหน่อยได้ป่ะ”
“ได้ ได้สิ” ไอ้ไลค์พยักหน้างงๆ
ในใจผมลิงโลดมากรีบหันไปขออนุญาตพ่อ “พ่อจ๋า ให้ไลค์ดูแผนแนะนำมหาวิทยาลัย
ที่อาจารย์แนะแนวเขาให้มาที่ห้องลูกได้มั้ย มีเรื่องอยากถามตั้งเยอะอ่ะ”
ผมลุ้นมาก พ่อผมกรอกตาคิดมองหน้าผมเหมือนสงสัย แกคงเห็นว่าจู่ๆผมก็อารมณ์ดีขึ้นคงแปลกใจ

“เอาสิ ไป ไปช่วยเพื่อนหน่อยไอ้ไลค์” พ่อผมยังไม่ทันพูดอะไรพ่อไอ้ไลค์รีบอนุญาตเลยครับ
ผมแทบจะวิ่งนำมันไปทางห้องผม ไอ้ไลค์มันก็เดินตามผมไปทำหน้างงอยู่นั่นแหละ

พอถึงห้องพวกพี่เลี้ยงก็ยืนเฝ้าหน้าห้อง ผมรีบดึงมือไอ้ไลค์เข้ามาในห้องอย่างดีใจ
ปิดประตูได้ผมรีบบอกมันว่าอย่าเสียงดังให้คุยกันเบาๆ พวกที่ยืนหน้าห้องจะได้ไม่ต้องได้ยิน

“ลูกคิด นี่ลากเรามาปรึกษาเรื่องมหาลัยในห้องนอนเหรอ...55ไม่น่าจะใช่มั้ง” ไอ้บ้านี่ก็ฉลาดไม่เปลี่ยน
“พูดมากน่า”
“โลกกลมเนอะ พรหมลิขิตแน่ๆ”
“บอกว่าพูดมากไง เลอะเทอะนะมึงอ่ะ เอาโทรศัพท์มา!”
“หา..มือถือเราน่ะเหรอ”
“ใช่! เร็วๆ อย่าเสียงดังด้วย พ่อกูยึดมือถือกูไปอ่ะ เอาของมึงมายืมหน่อย”
“............ อื้ม ได้ ได้สิ”
ผมยิ้มกว้างดีใจรีบแบมือรอรับ แต่ไอ้บ้าไลค์มันจะวางมือถือมันใส่มือผมก็ไม่วางยึกยักดึงกลับไป
“บอกมาก่อน ไปไงมาไงเนี่ย เรางงไปหมดแล้ว มาอยู่ที่นี่ได้ไง แล้วทำไมพ่อต้องยึดมือถือลูกคิดด้วย”
“โถ่ไอ้ไลค์!”
“ทำไมต้องทำเป็นไม่รู้จักกันด้วย ใจร้ายไม่เปลี่ยนเลยนะลูกคิด”
“ไลค์~~~~~ มึงอย่าลีลา เอามือถือมายืมก๊อนนน”
“แต่ก็น่ารักไม่เปลี่ยนด้วยนะเนี่ย”
“.......แล้วก็ไม่ชอบมึงไม่เปลี่ยนด้วย เลิกพยายาม”
“เซ็ง..”
ไอ้บ้านี่ทำมองบนใส่ผม ผมรำคาญเลยพุ่งเข้าไปแย่งมือถือมัน มันก็หลบผมเป็นพัลวัน หนีไปหนีมา
“ไอ้ไลค์!”
“จุ๊ๆๆๆ เสียงดังไปรึเปล่าลูกคิด55”
ผมฮึดฮัดรีบลดเสียงลง นั่งหอบหน้างอบนเตียง มันก็ขำๆเข้ามานั่งข้างๆ
“ผอมลงนะลูกคิด”
เสียงนุ่มๆแฝงด้วยความเป็นห่วงผมมากมาย แต่ผมไม่ยอมพูดกับมันเพราะมันไม่ยอมให้ผมยืมมือถือเสียที
“ขอโทษลูกคิด อย่างอนน่า อ่ะๆๆเอาไปใช้”
ไอ้ไลค์เลิกลีลาแล้วยัดมือถือเครื่องแพงใส่มือผมมันปลดล็อคให้เสร็จสรรพ ผมตาโตเลิกหน้างอได้
“ขอบใจเว้ยไลค์”
“โทรหาใครเหรอ”
“หาเดย์”
พอได้ยินชื่อเดย์ ไลค์มันรีบคว้ามือถือคืนไปเลยครับ
“เอ๊า!”
“ถ้าโทรหามันเราไม่ให้โทรหรอก”
“ไลค์!”
“.........ก็รู้ว่าไม่ชอบมัน”
ผมนั่งคอตก แม่งความหวังของผม
“ทำไมพ่อลูกคิดต้องยึดโทรศัพท์ด้วย”
“.....”
“ถ้าลูกคิดไม่บอกอะไรเรา เราจะเดินออกไปบอกพ่อลูกคิดเดี๋ยวนี้เลยว่ารู้จักกันมานานแล้ว
แล้วเราก็ชอบลูกเขามากแค่ไหน”
“มึงหยุดเลยไลค์ ถ้าทำแบบนั้นกูโดนยิ่งกว่าเดิมแน่ มึงไม่เห็นเหรอว่ากูโดนคุมอยู่เนี่ย”
“เกิดอะไรขึ้น”
“พ่อกูรู้เรื่องกูกับเดย์แล้วน่ะสิ”
“....ลุงไม่โอเคใช่มั้ย”
“ก็เดาได้ไม่ยากใช่มั้ยล่ะ”
“ถ้าเปลี่ยนเป็นเรา ...จะโอเคไหม”
“ต่อให้มึงเป็นลูกลุงศักดิ์ชาย กูก็ไม่รับประกันหรอกนะว่ามึงจะโดนพ่อกูถีบออกจากบ้านรึเปล่าไลค์
มึงอยากเห็นพ่อพวกเราทะเลาะกันไหมล่ะ|||||||||||”
“.........ขนาดนั้นเลยเหรอ|||||||||”
“พ่อกูเกลียดไอ้เดย์อย่างกับขี้ ลากกูมาอยู่ที่นี่ แม้แต่เพื่อนสักคนก็ยังไม่ยอมให้ติดต่อกูเลย
ขืนเขารู้ว่ามึงรู้จักกูมาก่อน ไม่ยอมให้คุยกันตามลำพังอย่างนี้แน่ กูถึงทำเป็นไม่รู้จักมึงไง
แล้วถ้าเกิดเขารู้ว่ามึงเคยชอบกูมาก่อน มึงคงไม่ได้เหยียบบ้านกูอีกแน่นอน”

“ไม่ได้เคยชอบ ตอนนี้ก็ยังชอบ” ดูไอ้บ้านี่ยังจะพูด
ไลค์ท้าวแขนไปข้างหลังมันพ่นลมออกปากอย่างโล่งอก “เกือบไป”

ผมแอบเหล่มองหน้าไอ้ไลค์อย่างนึกสงสัยจนมันรู้สึกตัว “แอบมองเรา แอบชอบเราด้วยรึเปล่า”
แม่งจู่ๆก็ยื่นหน้ามาหาใกล้มาก ผมตกใจผงะหน้าหนีแทบไม่ทัน พอมองระแวงมันก็ขำ
“เราไม่ทำอะไรลูกคิดหรอกน่า555 เดี๋ยวพวกพี่หน้าห้องก็เข้ามารุมกระทืบจมดินพอดี5555”
“คนมันเคยคิดชั่วทำชั่วไง!”
“หูยยยยยย เจ็บนะเนี่ย เลิกระแวงได้แล้วน่า พ่อเรามาด้วยนะวันนี้ไม่ทำอะไรบ้าๆหรอกน่า”
“..............นี่.... พ่อมึงรู้เรื่องมึงรึเปล่า”
“เรื่องอะไร”
“ก็ที่มึงชอบผู้ชายอ่ะ ที่เคยตามตื้อกูด้วย”
“ไม่ เขาไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้หรอก อีกอย่างเราได้ทั้งผู้หญิงผู้ชายนะ”
“อันตรายจริงๆเลยมึงเนี่ย||||||||||” ได้หมดเหมือนไอ้บ้าเดย์เลย...

ตัวผมเองตอนนี้ชักไม่แน่ใจแล้วว่าจะกลับไปรู้สึกกับผู้หญิงได้เหมือนเดิมหรือเปล่า ไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน
เพราะในหัวมีแต่เดย์คนเดียว...ทั้งใจของผมก็มีแต่มัน

ผมนั่งก้มหน้าสักพักไอ้ไลค์ก็ยื่นมือถือมันมาให้ตรงหน้า “อ่ะ..” ผมแปลกใจมองหน้ามัน มันก็ยิ้มๆ
“อย่าร้องนะ เอาไปโทรไป”
“.................ขอบใจ” เพิ่งรู้ว่าตัวเองกำลังทำหน้าแบบไหนอยู่
ไลค์ขยับไปนั่งพิงหัวเตียง มันกอดอกมองไปทางอื่น.... กูขอโทษนะไลค์..

ผมรีบโทรหาเดย์ “ฮะ..ฮัลโหล! เดย์! เดย์!..................อึก....”
ไอ้ไลค์รีบขยับมาหาผมทันทีที่เห็นผมนิ่งอึ้งไป ผมเหล่มองไอ้ไลค์ “........? ลูกคิด? เป็นอะไร” มันเขย่าแขนผม
ผมรีบพูดขอโทษปลายสายแล้วกดวาง ไอ้ไลค์มองหน้าผมอย่างไม่เข้าใจ ส่วนผมไม่กล้ามองหน้ามัน

“กูจำเบอร์มันไม่ได้อ่ะ|||||||||| กดผิดไปติดร้านส้มตำที่ไหนก็ไม่รู้ว่ะ”
“555555555555”
“ไม่ต้องมาขำเลย////*//เฮ้อ... กูจำได้แต่เบอร์แม่เบอร์เดียวเพราะกูเติมตังค์ให้แม่ประจำ”
“งั้นก็โทรไปหาแม่สิ ให้แม่ขอเบอร์มันไว้ ก็ได้ พรุ่งนี้เรามาหาจะให้ยืมโทรนะ”
“จริงนะ! เอ่อไลค์.........มึงโอเคเหรอวะ”
“ก็ไม่อยากเห็นคนร้องไห้”
“..............ทำไมมึงต้องชอบกูด้วยวะ เราน่าจะเป็นเพื่อนกัน”
“ไม่ทันแล้ว ชอบไปแล้วนี่”
คราวนี้ไลค์มันยื่นหน้ามาใกล้ผมอีก ผมไม่ถอยหนีทำให้มันแปลกใจแต่ก็อมยิ้มชอบใจ
“กูก็ดันชอบคนอื่นไปก่อนมึงแล้ว ไม่ทันแล้วจริงๆไลค์ ขอโทษจริงๆ”
มันหุบยิ้มทันทีที่ผมพูด
“เฮ้อ...55โคตรตรง เฮ้อ ไม่คิดจะหวั่นไหวให้กันบ้างเลยน้า”
ไอ้บ้านี่บ่นแล้วมาดึงแก้มผม ผมผลักมันให้ถอยออกเพราะเจ็บ มันก็ขำ
“หวั่นไหวบ้าอะไร มึงแค่ชอบเอาชนะเหมือนเดิมนั่นแหละไลค์”
“ตามใจลูกคิดเถอะ” แน่ะ ทำงอนเว้ย

สุดท้ายผมก็ยังไม่ได้คุยกับเดย์ ได้แต่แอบโทรไปหาแม่ ฝากแม่ขอเบอร์ไอ้เดย์
แม่จ๋าบ่นผมว่าขนาดเบอร์แฟนตัวเองยังจำไม่ได้อีก ก็ไม่เคยกดเลขเวลาโทรเคยหาแต่ชื่อ ใครจะไปจำได้ล่ะครับ
ผมฝากถึงเดย์ว่าไม่ต้องโทรมาเบอร์นี้เดี๋ยวพ่อจะบ่น ผมจะติดต่อไปเอง
“ละนี่เบอร์ใครลูก”
“ขอยืมคนอื่นโทรมาน่ะจ๋า”
“เดย์รู้คงดีใจ จะได้คุยกับลูกแล้ว”
จ๋าบอกไอ้เดย์ซึมๆไป ถึงจะพยายามทำตัวร่าเริงเวลาอยู่กับด้วยกัน แต่แม่ก็ดูออกว่ามันคิดถึงผมมาก
ได้ยินอย่างนี้โกรธมันไม่ลงเลยครับ แล้วทำไมไม่ไปหาผมที่บ้านแม่..ไอ้บ้า

ก่อนจะกลับบ้านไลค์มันยังไม่วายกวนผม
“ให้เรานอนเป็นเพื่อนไหมลูกคิด”
“กลับบ้านมึงไปเลยไลค์////*//”
มันบอกว่าจะมาหาผมใหม่แต่ต้องหลังจากนี้อีกสองวัน เพราะมันไม่ว่างต้องไปบ้านญาติต่างจังหวัดกับพ่อ
ไลค์มันสัญญาว่ากลับมาแล้วจะรีบมาหาผม ทำทีเป็นซื้ออะไรมาฝากพ่อผม
ผมหวังจะได้โทรหาเดย์ ถึงมันจะดูใจร้ายกับไอ้ไลค์ไปหน่อย แต่ผมพึ่งมันได้คนเดียวในตอนนี้

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สองวันผ่านไป มืดแล้วไอ้หอกไลค์ยังไม่โผล่มาเลย ผมนั่งคอยาวชะเง้อรอไอ้ไลค์ที่บันไดหน้าบ้าน
มีคุณพี่เลี้ยงทั้งหลายก็ยืนตบยุงเป็นเพื่อนหลายคนไม่เหงาเลยครับ แต่ผมอยากหนีไปให้ไกลๆ
(กูอยากอยู่คนเดียวโว้ยยยยยยยยยยย!!!)

“ทำไมไม่เข้าบ้านลูกคิด”
พ่อผมเดินออกมาเมียงมองแล้วตะโกนถามผมที่อยู่ห่างออกไป
“.........มาดูดาว”
ผมจะกล้าบอกเหรอครับว่ามานั่งรอผู้ชายเพราะอยากโทรหาผู้ชายอีกคน โดนฆ่าตายพอดี||||||||||

พ่อเดินออกมาเงยหน้ามองหาดาวที่หน้าบ้าน... คืนนี้แม่งเจือกไม่มีดาวสักดวง
“ไหนดาว”
“ก็...ไม่มีเลยนั่งหาอยู่เนี่ย แต่พระจันทร์ก็สวยดี นั่งดูพระจันทร์ก็ได้” ก็คนจะแถอ่ะ..
“คิดถึงแม่ใช่มั้ย”
“จ๋าก็รู้ ยังจะถาม”
“โตแล้ว ห่างแม่ไว้เดี๋ยวก็ชิน”
“......” ผมถอนใจแล้วนั่งกอดเข่าเหม่อมองพระจันทร์ สงสัยวันนี้ไอ้ไลค์จะเบี้ยวผมแล้วหรือมันจะลืม..
“พรุ่งนี้พ่อจะไปใต้ ถ้าไม่กลับดึกๆก็กลับเช้าอีกวัน ยังไงก็ช่วยแม่แพทริเซียดูแลน้องๆหน่อย สนใจพวกมันบ้าง”
พ่อพูดมาแบบนี้ทำผมสะอึก นึกถึงพวกน้องๆที่พยายามเข้าหา แต่ผมก็ทำเหมือนรำคาญพวกมันตลอด
ผมแค่เครียดกับเรื่องของตัวเองจนลืมสนใจน้องๆไม่ใช่ว่าไม่รักพวกมัน

รู้สึกเหมือนพ่อกำลังจะเดินเข้าไปในบ้าน ผมรีบหันกลับไปถาม “ทำไมจ๋าไม่คืนโทรศัพท์ให้สักที”
พ่อถอนใจใส่ซะงั้น “ไม่ได้คุยกับมัน แล้วจะอยู่ไม่ได้ให้มันรู้ไป”
“อะไรเนี่ย” จะทักท้วงอะไรพ่อก็ไม่ทัน แกรีบเดินหนีไปเลย คิดจะไม่ให้คุยกันเลยรึไง!
ผมฮึดฮัดขัดใจทำไมมีแต่คนไม่รักษาสัญญาวะ!

……………………………..
………………….
*********
เช้าวันต่อมา

“พี่ลูกคิดดดดดดด” เจ้าน้องชายฝาแฝดประสานเสียงเรียกผมมาแต่ไกล
ผมหรี่ตามองหน้าไอ้สองแสบอย่างเหนื่อยใจ “ไม่ไปโรงเรียนกันเหรอ ทำไมหยุดบ่อยจังวะ”
“โรงเรียนซีน่อนปิดเทอมแล้ว”
เออ...จริงสิ มิน่า ออกจากห้องมาก็เห็นไอ้สองตัวนี่วิ่งไปวิ่งมาตลอด
เจ้าซีโน่ซีน่อนรีบชักชวนกันมาจูงมือผมไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว แม่บ้านทำโจ๊กกุ้งร้อนๆไว้ให้
“พี่ลูกคิดกินข้าวเยอะๆน้า ซีโน่ป้อนไหมฮะ”
น้องๆเถียงกันว่าใครจะป้อนผม ผมอดยิ้มไม่ได้ ขอโทษนะไอ้พวกตัวแสบที่พี่ไม่สนใจพวกมึงเลย
“ไม่ต้องเถียงกัน รีบๆกินข้าวเข้า เดี๋ยวพี่จะเล่นด้วยนะวันนี้”
“เย่!!!!เย่!!!!” ทั้งสองคนทำท่าดีใจปล่อยพลังใส่กันแล้วหัวเราะคิกคักแปะมือกันใหญ่
แม่แหม่มแพทริเซียที่นั่งอมยิ้มมองอยู่บอกขอบใจผม ถามผมว่าฝากดูน้องๆได้ไหมถ้าแม่จะไปทำธุระข้างนอก

ธีทัตซะอย่างครับรับปากจะดูแลให้ไม่ต้องห่วง ยิ้มรับแม่แหม่มเสร็จผมก็ตักโจ๊กเข้าปาก
แค่คำแรกก็ต้องขอชมเลยว่าอร่อยเหาะ คุณแม่บ้านทำอาหารอร่อยทุกอย่างเลยครับ....
แต่ผมไม่รู้ทำไมผมคิดถึงโจ๊กกึ่งสำเร็จรูปของแม่จ๋า นั่งกินโจ๊กไปก็คิดถึงแม่ไป ไม่ถึงครึ่งชามก็อิ่มกินไม่ลง

“พี่ลูกคิด ปะ ไปเล่นในห้องกันฮะ” เจ้าซีโน่ที่กินอิ่มก่อนพี่รีบดึงมือผมจนแฝดพี่มันต้องท้วงให้รอด้วย
ซีน่อนมันรีบยัดโจ๊กเข้าปากจนเกือบติดคอ ผมต้องรีบเอาน้ำให้กินแล้วดีดหน้าผากมันบอกใจเย็นๆ

โดนไอ้สองแสบช่วยกันลากมือคนละข้างเดินมาจนเกือบถึงห้อง ผมก็นึกแปลกใจ
ทำไมพวกมันต้องอยากเข้าไปเล่นในห้องผมนักหนาวะ ในห้องไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ
นอกจากจะอยากเข้าไปรื้อของของผมเล่น
“ไม่ต้องไปเล่นในห้องพี่หรอก ไปเล่นข้างนอกหรือห้องเก็บของเล่นดีกว่า”
พวกมันมองหน้ากัน แล้วปล่อยมือผมกอดคอกระซิบกระซาบ ปรึกษาอะไรกันไม่รู้ครับ
อื้อหือแค่เล่นกันพวกมึงต้องปรึกษาหารือวางแผนกันขนาดนี้เลยเหรอวะ

“ไม่ได้อ่ะ ซีน่อนกับซีโน่ไม่ให้คนอื่นเล่นด้วยนะ! ให้พี่ลูกคิดเล่นด้วยคนเดียวนะ!”
“หือ?”
ผมเหลือบไปมองคุณพี่เลี้ยงอีกสองคนที่เดินตามมาข้างหลังแล้วหลุดหัวเราะ น้องๆผมทำหน้าขึงขังเชียว
“อ่ะๆๆ งั้นไปหยิบของเล่นกันมาแล้วมาห้องพี่ไป เอามาเผื่อพี่ด้วยนะ”
“รับทราบฮะ! ปฏิบัติการฮับ!” ทั้งคู่ทำท่าตะเบ๊ะแบบตำรวจแล้ววิ่งแข่งกันไปหัวเราะเสียงใสลั่นบ้าน

......................... มานั่งเบื่อๆรอน้องในห้องผมก็นึกถึงไอ้ไลค์ คอยดูนะถ้ามันโผล่มาจะด่ามันให้น่าดู
แต่ต้องหลังจากโทรหาเดย์ก่อน(เดี๋ยวมันไม่ให้ยืม)

“พี่ลูกคิด ชู่วๆ”
“เฮ้ย!!!”
ผมนี่มองมือถือตรงหน้าตาแทบถลน มองเจ้าซีน่อนที่ยิ้มหน้าบานยื่นโทรศัพท์ให้
ผมยังอ้าปากค้างอยู่ เจ้าซีโน่โผล่มายื่นหน้าป้องปากพูดอีกคน “มีคนบ้าอยากคุยด้วยฮะ” ผมมองหน้าจอมือถือ
มันขึ้นว่าใช้สายอยู่นี่หว่า “เดี๋ยวนะ! นี่โทรศัพท์ใครวะ แล้วโทรหาใคร!?คนบ้าที่ไหนวะ!?”
เจ้าสองแสบรีบช่วยกันตะครุบปิดปากผมไว้ กระซิบกระซาบพูดกันเสียงเล็กเสียงน้อยไม่อยากให้พวกพี่เลี้ยง
ที่ยืนคุมหน้าห้องได้ยิน ผมหันไปมองที่ประตูพวกมันปิดห้องเรียบร้อย

“นี่มือถือของซีน่อนไงฮะ แดดดี๊บอกว่าอย่าให้พี่ลูกคิดยืมโทรศัพท์ ซีน่อนกับซีโน่เลยแอบเอามาให้ฮะ”
“ขอบใจนะ! โคตรน่ารักเลย!!” ผมดีใจคว้าเจ้าสองตัวมากอด พวกมันเห็นผมยิ้มกว้างก็หันไปพูดกันเอง
“จริงด้วยแฮะ”
“นั่นจิ จริงๆด้วยอ่ะ”
ผมสงสัยก็ผละมามองพวกมันงงๆ “อะไรจริง?”
ซีน่อนยื่นโทรศัพท์ที่ยังไม่วางสายให้ผม ผมรับมาแนบหูฟัง พวกมันทำให้ผมประหลาดใจสุดๆไปเลยครับ
“พี่เดย์บอกว่าถ้าเอาโทรศัพท์ให้พี่ลูกคิด เดี๋ยวพี่ลูกคิดจะยิ้มแฉ่งเลยแหละ”

“ฮัลโหล..”

เดย์!

“ไง กว่าจะรับได้นะมึง คิดถึงจะตายอยู่แล้ว”

เสียงเดย์! ไม่ได้ฝันไปใช่ไหม!!

ผมรีบปิดปากตัวเองกันเสียงดัง ปล่อยให้น้องๆเล่นกระโดดแกล้งกันบนเตียง แล้วเดินไปนั่งคุยโทรศัพท์กับมัน
ตรงมุมห้อง เสียงผมสั่นไปหมด เอาแต่เรียกชื่อเดย์อู้อี้ซ้ำไปซ้ำมาจนมันหัวเราะ
“ฮึกฮึก....ฮือออออออ เดย์ฮืออออ”
“อย่าร้องไห้ดิ”
“คิดว่าจะไม่ได้คุยกะมึงแล้ว ฮือออออ”
“ขี้แยจังวะ55 สงสัยต้องไปรับกลับแล้วมั้ง”
“ฮือออ รีบมารับกูเลย”
“โอเค (จุ๊บ) รออยู่นั่น เดี๋ยวเดย์ไปครับ”
“ห๊ะ!?////////”
มันวางสายไปดื้อๆเลยครับ ผมยังนั่งกระพริบตาที่ยังมีคราบน้ำตาเกาะแบบมึนงง

จะมาจริงดิ!

พวกน้องๆเห็นผมนั่งอ้าปากเหวอจ้องมือถือก็วิ่งเข้ามาหา “พี่ลูกคิดเป็นอะไรฮะ” ซีโน่มันทำหน้าสงสัยใหญ่
ซีน่อนรีบอ้อน “พี่ลูกคิดอย่าบอกแดดดี๊นะฮะว่าซีน่อนเอามือถือมาให้พี่ลูกคิดยืมอ่ะ เดี๋ยวแดดดี๊ดุ”
ผมพยักหน้ารับปาก “อื้อ ไม่บอกรับรอง แต่ซีน่อนกับซีโน่ก็ห้ามบอกแดดดี๊นะว่าเราโทรคุยกับพี่เดย์”
ผมลูบหัวน้องๆพวกมันก็พากันพยักหน้ายิ้มให้ บอกผมว่าเรื่องนี้พี่เดย์บอกพวกมันก่อนแล้ว

“แล้วนี่มีเบอร์พี่เดย์กันได้ยังไง ไปคุยกันตอนไหนวะ” ทำไมผมไม่รู้เรื่องเลย
เจ้าสองแสบอ้ำอึ้งเหลือบมองหน้ากันไปมาเหมือนไม่แน่ใจว่าควรบอกผมหรือเปล่า จนผมต้องเอ่ยปาก
ว่าจะไม่ดุไม่ว่าอะไรทั้งนั้น

“พี่เดย์อ่ะแย่งมือถือซีน่อนไปใส่เบอร์ตัวเองไว้ตั้งแต่วันที่จะกลับจากบ้านพี่ลูกคิดแล้วฮะ”
“โห! นานขนาดนั้น!” เดย์มันแอบติดต่อกับน้องผมทำไมวะ มันไม่เคยบอกผมเลยนะ
แต่ผมก็อดแปลกใจไม่ได้เพราะพวกมันไม่ถูกกันนี่หว่า ทำไมคุยกันเองได้

“ก็โทรคุยกับพี่เดย์บ่อยๆฮะ พี่เดย์สอนวิทยายุทธ์ให้ซีน่อนด้วย55”
“ช่ายๆ ตอนนี้พวกไอ้อ้วน(เด็กเกเรที่โรงเรียน)ไม่มีใครกล้าแกล้งซีโน่แล้วฮะ ซีน่อนอ่ะเก่งที่สุด
พวกนั้นกลัวหัวหดเหมือนเต่าอย่างนี้ๆ555 พี่เดย์บอกว่าอีกหน่อยจะสอนให้เราคุมโรงเรียนไปเล้ย5555555”

“หา...........”

อะไรวะเนี่ย! ไอ้บ้าเดย์มันจะสอนให้น้องผมคุมโรงเรียนเนี่ยนะ ไอ้บร๊า!!!! เด็กประถมนะโว้ยยย!!

“...........หึหึ..ฮะฮะฮะ ฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะ”
ผมขำจนหยุดไม่ได้ รักมันจัง เดย์ มึงเป็นห่วงน้องกูสินะ

“5555ซีน่อน ซีโน่ ไม่ชอบพี่เดย์ไม่ใช่เหรอ”
น้องๆผมมองหน้ากันก่อนพูดแทบจะพร้อมกัน “แต่พี่ลูกคิดชอบพี่เดย์นี่ฮะ”
เด็กๆคงไม่ได้หมายถึงเรื่องที่ผมเป็นแฟนกับไอ้เดย์หรอก พวกมันคงหมายถึงเรื่องที่เดย์ทำให้ผมยิ้มเสมอ
ผมดึงพวกมันมากอดแล้วหอมแก้มคนละฟอด ไอ้พวกตัวแสบทำไมน่ารักอย่างนี้นะ

แล้วน้องๆผมก็เล่าให้ฟังว่าเดย์คอยแอบโทรมาหา บอกให้หาทางเอาโทรศัพท์ให้ผมอย่าให้ใครเห็น
ผมนี่มันแย่จริงๆ ถ้าผมใส่ใจน้องมากกว่านี้คงได้คุยกับไอ้เดย์ไปนานแล้ว
“แล้วคุยอะไรกับพี่เดย์อีกบ้างหือ”
“ตั้งแต่พี่ลูกคิดมาก็ชอบถามเรื่อยเลยว่าแดดดี๊กะหม่ามี๊จะไม่อยู่บ้านตอนไหน น่ารำคาญเนอะ
ไอ้คนบ้าเอ๊ยถามทุกวันเลยอ่ะ อุ้ย..”
ผมขำเจ้าซีโน่ที่บ่นว่าไอ้เดย์เป็นบ้า55

“พี่เดย์บอกว่าเราต้องทำให้พี่ลูกคิดกินข้าวเยอะๆนะ แล้วซีน่อนซีโน่ก็ต้องนอนกอดพี่ลูกคิดด้วยนะ
..แต่ พี่ลูกคิดกินข้าวนิดเดียว พี่ลูกคิดไม่ยอมให้ป้อน แล้วพี่ลูกคิดก็ไม่ให้เข้าห้องด้วยอ่ะ..”
พอซีน่อนพูดผมเหมือนน้ำตาจะร่วงอีกรอบ ได้แต่อดทนฝืนยิ้มให้น้อง แค่นี้ก็รู้สึกว่าตัวเอง
เป็นพี่ชายที่แย่มากแล้ว เป็นผมเองที่ถอยห่างจากน้องจนไม่รู้เรื่อง มิน่าล่ะพวกมันถึงขอเข้ามาเล่นในห้อง
ขอมานอนกับผมทุกวัน เพราะอยู่ข้างนอกมีพวกพี่เลี้ยงคุยเรื่องเดย์ไม่ได้

“เดี๋ยวนะ.....มันว่าจะมา!” ผมนึกขึ้นได้ ก็เป็นห่วงเป็นกังวล ต่อให้พ่อไม่อยู่แต่พี่เลี้ยงที่คอยเฝ้าผม
เดินกล้ามแตกกันให้พรึ่บเต็มบ้าน ไอ้เดย์จะทำยังไง...

ก๊อกๆๆ
“น้องลูกคิดครับ มีแขกมาครับ”
เสียงพี่เลี้ยงที่เฝ้าหน้าห้องเคาะประตูบอก ผมตกใจ อะไรวะ ทำไมถึงเร็วปานนี้!
ผมรีบวิ่งออกไปดูพร้อมน้องๆด้วยความดีใจที่จะได้เจอหน้าเดย์

“ไอ้ไลค์||||||||||*||” อารมณ์เสีย..ไปถึงเจอแต่ไอ้บ้าไลค์กับกองของฝากเต็มโต๊ะรับแขก

“อย่าหน้างออย่างนี้สิครับลูกคิด”
“เมื่อวานทำไมมึงไม่มาวะไลค์”
“เอ่อ.....พอดีเราติดธุระนิดหน่อย55 แต่วันนี้เราจะพาไปเลี้ยงไอติมนะดีใจมั้ย เย่!”
ไม่มีใครเย่กับมันด้วยหรอก ผมกอดอกมองมัน น้องๆก็ทำท่าตาม

“โธ่ ลูกคิดได้ออกไปข้างนอกดีกว่าอยู่ในบ้านนา เอ้าเด็กๆเตรียมตัวไปข้างนอกกันเร็ว55”
“กูไปกับมึงไม่ได้หรอกไลค์” ผมต้องรอไอ้เดย์ คนอย่างเดย์ มันบอกจะมา มันต้องมาแน่

คุณพี่เลี้ยงที่คอยเดินตามผมทุกฝีก้าวมีอยู่สองคน ถ้าไม่นับอีกสามคนที่เฝ้าหน้าบ้านหลังบ้านและเดินรอบบ้าน
(นี่พี่เลี้ยงรึยามฟะ) หนี่งในนั้นเขยิบมากระซิบพูดกับผม
“น้องลูกคิดออกไปข้างนอกได้นะครับถ้าไม่ไกลมาก คุณพ่อสั่งไว้ให้พวกพี่ไปด้วย”
หมายความว่าผมจะออกไปไหนก็ได้ในละแวกบ้านถ้ามีพี่เลี้ยงตามตูดตลอดเวลาสินะ
แค่ได้ยินก็ไม่อยากไปไหนแล้วครับอารมณ์เสีย มันอึดอัดนะครับการที่มีคนคอยจับตาดูตลอดเวลา
นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมอยากอยู่แต่ในห้อง เพราะพวกพี่เลี้ยงทั้งหลายจะหยุดการตามอยู่แค่ที่หน้าห้องผมเท่านั้น

“น่านะ ลูกคิด เราพาไปหาอะไรกินข้างนอกดีกว่า อยู่ในบ้านอุดอู้จะตาย ดูสิ น้องๆนายน้ำลายไหลใหญ่แล้ว”
ไอ้ไลค์พูดไปขำไป มันพยักยามชักชวนผม ผมหันไปมองน้องๆไอ้พวกตัวแสบรีบเช็ดน้ำลายกันใหญ่
ไม่น่าจะหิวข้าวครับอาการนี้ น่าจะอยากไปกินไอติมแล้วเล่นกันนอกบ้านมากกว่า

ผมต้องรีบกระซิบกระซาบบอกน้องๆ “ซีน่อน ซีโน่! พี่เดย์บอกว่าจะมาหา พี่ออกไปไม่ได้”
พวกตัวเล็กมันพร้อมจะอยู่กับผม ถ้าผมไม่ไปพวกมันก็บอกว่าไม่อยากไปไหนทั้งนั้น
พวกเราสามพี่น้องหันไปส่ายหน้าปฏิเสธไอ้ไลค์อีกรอบ ไอ้ไลค์ถึงกับถอนใจแล้วจู่ๆมันกลับหัวเราะซะงั้น
ซีน่อนเขย่าแขนผม เอามือป้องปากถามเบาๆอย่างระแวง “เขาเป็นอะไรฮะพี่ลูกคิด ทำไมหัวเราะคนเดียว||||||||”
ผมกระซิบตอบน้องขำๆ “เป็นบ้ามั้ง”
เจ้าซีโน่ที่เงี่ยหูฟังด้วยตาโตทำหน้าเหลือเชื่อ เอามือป้องปากกระซิบถามผมอีกคน
“มีคนบ้าเหมือนพี่เดย์ด้วยเหรอฮะ”
ผมหัวเราะดัง คุณพี่เลี้ยงทั้งสองหันมองอย่างไม่เข้าใจ ไอ้ไลค์ก็ถามว่าผมขำอะไร
ผมไม่ตอบแต่ถามมันกลับ “แล้วมึงล่ะไลค์ เมื่อกี้ขำอะไร”

ไลค์อมยิ้ม มันส่ายหัวแล้วพึมพำ “เออ เชื่อแล้ว เฮ้อ...ก็ได้วะ” ถึงมันจะพูดคนเดียวเบาๆแต่ผมก็ได้ยินนะ
“รอแป๊บนะ ขอคุยธุระเดี๋ยว” มันพูดแล้วหยิบมือถือขึ้นโทร “อื้ม! เป็นอย่างที่คิดนั่นแหละ”
งงเหมือนกันครับไลค์มันพูดแค่นี้แล้วก็วางสายไป แต่ไม่กี่อึดใจผมก็หายงง เปลี่ยนมาตกใจแทน
ซีน่อนที่อยู่ข้างหลังสะกิดๆเรียก น้องกระซิบบอกอย่างตื่นเต้นไม่ให้ใครได้ยินนอกจากผม
“พี่ลูกคิดฮะ! พี่เดย์ไลน์มาบอกว่าให้ไปข้างนอกกับพี่ไลค์ฮะ!”

ผมเหวอไปชั่วขณะ นี่พวกมึงแลกไลน์กันด้วยเรอะ! แล้วไอ้ไลค์! นี่อย่าบอกนะว่ามึงก็ติดต่อกับไอ้เดย์อีกคน!!!

ขณะที่น้องๆผมสองคนมันวิ่งวุ่นไปมาแล้วชวนกันไปหยิบเป้ของพวกมันเตรียมออกจากบ้าน
ผมได้แต่ยืนอึ้งไม่หาย ไม่กล้าพูดอะไรเพราะแค่นี้คุณพี่เลี้ยงก็งงกับอาการลิงโลดของพวกน้องชายพอแล้ว

“ตกลงจะออกไปข้างนอกกับคุณไลค์ใช่ไหมครับน้องลูกคิด”
หนึ่งในพี่เลี้ยงถามผมเพราะเห็นน้องๆแหกปากว่าจะได้ไปเที่ยวให้ลั่นบ้าน ทั้งที่ตอนแรกผมบอกว่าไม่ไป

ผมมองหน้าไอ้ไลค์ยังสงสัยไม่หาย มันก็เอาแต่ยิ้มๆให้แล้วพยักหน้าชวนผมอีก คราวนี้ผมคงปฏิเสธไม่ได้แล้ว
“อ่า...ครับ ครับๆ ไปครับ” ผมหันไปบอกพี่เลี้ยง พวกพี่เขาบอกจะไปเตรียมรถให้ แต่ไอ้ไลค์รีบขัด
“พวกพี่ไม่ต้องตามไปก็ได้นะครับ ยังไงคุณลุงก็ขอให้ผมมาอยู่เป็นเพื่อนลูกคิดอยู่แล้ว”
ไอ้ไลค์ทำผมเหวอได้อีก ผมโคตรงงเลยครับตอนนี้
“ไม่ได้หรอกครับ คุณผู้ชายสั่งว่าถ้าออกไปข้างนอกพวกพี่ต้องตามดูแลครับ”
“งั้นก็ตามสบายครับ ให้ลูกคิดไปรถผมได้ไหมครับพี่” ไอ้ไลค์ยังพยายามต่อรอง
“ไม่ได้ครับ คุณผู้ชายสั่งไว้ด้วยครับต้องให้นั่งรถที่บ้านออกข้างนอกเท่านั้นครับ”

ผมจะบ้าตาย พ่อผมจะเข้มงวดอะไรขนาดนี้ ไอ้ไลค์เลยต้องยอมบอกให้พวกพี่เขาขับรถตามไปแล้วกัน
พวกเจ้าแฝดวิ่งกลับมาพร้อมกระเป๋าเป้มินเนี่ยนกับหมวกคนละใบ วิ่งมาจูงมือผมให้รีบออกจากบ้านไป

ตลอดทางใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ ลุ้นระทึกว่าไอ้พวกบ้านี่มันจะทำอะไรกันแน่โว้ยยยย

..........................
...............
........
แล้วรถที่ผมนั่งมาก็ขับตามไอ้ไลค์มาถึงร้านอาหารที่เน้นขายขนมหวานกับไอศกรีมไม่ไกลบ้านมากหรอกครับ
พวกน้องๆลงรถได้ก็วิ่งเฮเข้าไปจองที่ในร้านอย่างเริงร่า
“ซีโน่จะกิน 10 ถ้วย55555”
“ขี้โม้ ซีน่อนจะกิน 20 ถ้วยเล้ย วะ55555555 เคี้ยกๆๆๆ”
ชะอุ้ย! ผมสะดุ้งเล็กน้อย มึงท่าจะคุยกะไอ้พี่เดย์ของมึงมากไปรึเปล่าซีน่อน ไปเลียนแบบเสียงหัวเราะมันมาด้วย
น้องๆเรียกผมให้นั่งข้างๆสั่งเมนูให้พวกมันเร็วๆ ผมยังเอ๋อๆอึนๆงงกับชีวิตไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น
ไลค์มันนั่งมองพวกน้องชายผมอย่างเอ็นดู
“ใครแพ้โดนๆๆๆๆๆ”
“ได้เล้ย เคี้ยกๆๆๆ”
เจ้าสองแสบพูดอะไรกันไม่รู้ผมไม่เข้าใจ แต่ขอร้องเหอะซีน่อนมึงเลิกเลียนแบบไอ้เดย์ที|||||||||

ไลค์มันงงไม่ต่างจากผม พูดกับน้องๆผมอย่างใจดี
“โดนอะไรเหรอครับเด็กๆ แข่งอะไรกันเหรอมีแพ้มีชนะด้วย ให้พี่เล่นด้วยคนได้ไหมครับ”
ซีน่อนรีบทำหน้าขึงขังดุไอ้ไลค์เฉย “ไม่ให้เล่น” ซีโน่ก็หันควับมาว่าไอ้ไลค์อีกคน “อย่าเจ๋อได้ม๊ะ”
เดี๋ยวๆนี่คนเลี้ยงข้าวเลี้ยงขนมพวกมึงนะ “พูดดีๆซีน่อนซีโน่!!” ผมขมวดคิ้วพยายามปรามน้องๆเสียงเข้ม
แต่ก็หลุดขำพรืดที่ไอ้ไลค์หน้าแหก ไอ้สองแสบพากันพูดขอโทษเหมือนหุ่นยนต์แบบไม่เต็มใจ
“ลูกคิด/////*//” ไลค์มันเรียกเหมือนจะห้ามผมไม่ให้ขำมัน

ผมพยายามกลั้นขำนึกในใจว่าไลค์มันยังโชคดีนะ ไม่โดนรุมเตะเจาะยางกัดแขนตั้งแต่แรกเจอเหมือนไอ้เดย์
แค่นึกถึงเดย์ผมก็ยิ้มขึ้นมาเองอย่างช่วยไม่ได้ คิดถึงมันสุดๆ ป่านนี้ไม่รู้อยู่ที่ไหน บอกจะมาหา
แต่ดันให้ผมมากับไอ้ไลค์ทั้งที่พวกมันไม่ถูกกัน ผมไม่เข้าใจจริงๆครับ เราจะเจอกันได้ยังไง
มีคำถามในหัวตั้งมากมายอยากจะถามไอ้ไลค์เรื่องไอ้เดย์ แต่ก็กลัวคุณพี่เลี้ยงที่นั่งโต๊ะข้างหลังจะได้ยิน

“กินข้าวกับเราก่อนนะลูกคิด”
“ไลค์... เอ่อ กูไม่เข้าใจเลยว่ะ”
“เรื่องอะไรเหรอ...”
“..........” ผมทำตาล่อกแล่ก ไอ้ไลค์ก็ขำบอกผมไม่ต้องกังวล กินข้าวกับมันก่อน
“ถ้าไม่ยอมกินอะไรเลยเราไม่บอกอะไรดีๆนะ”
“ไลค์..” ไอ้บ้านี่มันยิ้มอารมณ์ดีขณะที่ผมหน้ามุ่ยอยากรู้เรื่องเดย์ ต้องยอมสั่งข้าวมากิน

“ไอติมมาแล้วเย่!!” ซีน่อนตาโตดีใจ
“มาแข่งกันซีน่อน” ซีโน่ได้ถ้วยก็รีบตักกินตักกิน แล้วหลับตาปี๋ร้องว่าเย็นขึ้นหัวจี๊ด มันดิ้นๆ
ซีน่อนเห็นอีกฝ่ายนำหน้าไปหลายคำมันก็รีบกินบ้าง แล้วอาการก็ไม่ต่างกันเลยครับ
เข้าใจแล้วว่าพวกมันแข่งกินไอติมกันนี่เอง ไอ้สองแสบนี่พวกมึงไปตั้งคณะตลกด้วยกันเลยไป
ผมขำออกเพราะน้องๆตลอดหลังจากที่เครียดมานาน รู้สึกรักพวกมันจริงๆ

“กินดีๆ ไอ้พวกบ้าเลอะเทอะเป็นเด็กอนุบาลเลย โตใกล้จะขึ้นม.ต้นกันอยู่แล้ว เฮ้อ55”
ผมเอื้อมมือไล่เอาทิชชูเช็ดมุมปากให้พวกน้องชายที่ขำคิกคักต่อรองขอแข่งกันกินไอติมก่อน
ถึงจะยอมกินข้าวผัดที่สั่งไว้
“ลูกคิด กินข้าวก่อนเหอะ มัวแต่ดูน้อง... ผอมลงตั้งเยอะ กินข้าวเยอะๆนะครับ สั่งขนมอีกมั้ย”
ไลค์มันพูดกับผมเสียงโคตรอ่อนโยน ผมไม่ได้พูดอะไรแต่แค่หันไปยิ้มให้แล้วส่ายหน้า มันก็ยิ้มตอบ

“เย่~~~! ซีโน่แพ้แล้ว แบร่ๆไอ้ขี้แพ้ๆๆหมาขี้แพ้แบร่ๆๆ”
ผลที่แข่งกินไอศกรีมของพวกตัวแสบคือคนพี่ชนะ ไอ้แฝดน้องมันเลยกอดอกทำหน้างอแก้มป่องออกๆ
งอนแฝดพี่มันที่แลบลิ้นหลอก ล้อเลียนว่ากินช้าทั้งที่ขี้โกงตักกินก่อน
“ฮึ! จำไว้เลย ซีน่อนนิสัยไม่ดี! ไม่ชอบซีน่อนแล้ว!”

แล้วผมก็อดเอ็นดูไม่ได้ที่เจ้าแฝดพี่จู่ๆก็หน้าจ๋อยลง มันชูนิ้วก้อยมาหาน้องมันด้วยนะ โคตรน่ารักเลยน้องๆผม
พอเห็นเจ้าซีโน่ไม่ยอมยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวด้วยยังหน้างอ คนพี่มันก็จับนิ้วก้อยน้องให้มาเกี่ยวเอง
“ซีโน่~~~ ดีกันๆๆ นะๆๆ ให้ซีโน่ชนะก็ได้” ซีน่อนบ่นไปทำปากยื่นไป แฝดน้องมันก็ทำตาเหล่มองหน้า
หน้าไอ้เจ้าสองแฝดโคตรตลกผมกับไอ้ไลค์พากันขำ ก่อนจะชะงักกันเล็กน้อยตอนเห็นเจ้าซีโน่ยื่นหน้าไป
หอมแก้มแฝดพี่มันดังฟอด “555งั้นวันนี้ซีโน่ก็ชนะ เย่! ซีน่อนแหละแพ้ไปเลยแพ้ต้องโดนหอมแก้ม”

เออเว้ยพวกเด็กนี่มันดีกันง่ายดีเว้ย.. ผมอมยิ้มมองน้องๆที่ยังนิสัยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน เจ้าคนพี่น่ะชอบแกล้ง
แกล้งน้องได้มันจะมีความสุขมาก แต่ถ้าน้องมันมารยาแกล้งงอนขึ้นมาเมื่อไหร่ไอ้คนพี่เป็นต้องแพ้ทุกที55
เหมือนไอ้ตัวพี่จะร้ายแต่สรุปไอ้ตัวน้องน่าจะร้ายกว่านะครับ

“น่ารักจังน้องชายลูกคิดหอมแก้มกันด้วย รักกันดีจังนะ55” ไลค์มันก็พูดอย่างเอ็นดู
ยังไม่ทันขาดคำ ซีน่อนก็โดนน้องมันดีดหน้าผากดังเปรี้ยงร้องโอยแล้วไอ้คนทำก็ขำก๊าก
“ฮ่าฮ่า กลับบ้านไป ซีน่อนต้องเป็นหมาให้ซีโน่ขี่หลังตามสัญญาด้วย!555” เจ้าซีโน่ขำชอบใจน่าดู
ผมกับไอ้ไลค์อดขำพวกมันไม่ได้ เจ้าแฝดพี่ชนะแท้ๆไหงโดนทำโทษวะ
“ไม่เอา ให้หอมแก้มกับดีดหน้าผากพอ ที่จริงซีน่อนชนะนะ!” พี่มันประท้วง
“ก็ซีน่อนมาล้อซีโน่ทำไมล่ะ กลับบ้านไปเป็นหมาเลย” ไอ้น้องก็ไม่ยอม
“ไม่เอา!” แล้วพวกมันก็เถียงกันไปมา ไล่หยิกไล่ต่อยกันเบาๆเอาไปเอามาพวกมันก็จั๊กจี๋กันจนขำเสียงดัง
ผมต้องบอกให้พวกน้องๆลดเสียงลงเพราะอยู่ร้านอาหารไม่ใช่ที่บ้าน

พอเลิกจั๊กจี๋กันได้ผมก็ได้ยินเจ้าซีโน่แอบทำปากยื่นบ่นตอนเขี่ยข้าวในจาน “ไม่ต้องมาแกล้งจุ๊บเค้าเลย”
ผมจะไม่สงสัยอะไรเลยถ้าไอ้แฝดพี่มันไม่สะดุ้งรีบสะกิดให้น้องหยุดพูด
“มีอะไรกัน งอนอะไรกันอีกล่ะ” ผมถาม ซีน่อนมันก็รีบส่ายหน้าบอกว่าเปล่า แต่ไม่วายโดนซีโน่ฟ้องจนได้

“ก็ตอนไปเอาเป้ซีน่อนบอกว่ามาแข่งกินไอติมกัน ถ้าซีโน่ชนะ จะได้หอมแก้มได้ดีดเหม่งได้เป็นเจ้านาย
ซีน่อนจะเล่นเป็นหมาให้ขี่รอบบ้านเลยฮะ แต่ถ้าซีโน่แพ้ ก่อนนอนซีโน่ต้องยอมให้ซีน่อนจุ๊บดีๆ”
เจ้าซีโน่พูดจ้อยๆจนแฝดพี่มันต้องเอามือมาปิดปาก “ก็บอกว่าไม่ให้บอกใครไงซีโน่!”
ผมฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ ไอ้ไลค์ก็คงเหมือนกัน มันทำหน้าบอกไม่ถูกไม่ต่างจากผมนัก
บทลงโทษการแข่งขันของเด็กๆทำให้ผมอดคิดไม่ได้ นี่เจ้าคนพี่มันกำลังหลอกล่อน้องอยู่ใช่ไหม

ยังไม่ทันถามอะไรเพิ่มเจ้าซีน่อนก็ทำหน้างอใส่น้องพูดอู้อี้เหมือนน้อยใจขึ้นมา
“แค่จุ๊บเอง หม่ามี๊แดดดี๊ยังจุ๊บซีโน่ได้เลย เมื่อก่อนซีโน่ยังมาจุ๊บซีน่อนบ่อยๆ ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยทำอ่ะ”
เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าฝาแฝดกัน นี่คนพี่มันโดนน้องเมินรึ

อย่างที่รู้ครับพวกน้องชายผมเมื่อปิดเทอมที่แล้วยังอาบน้ำด้วยกันนอนกอดกันอยู่เลย
เรื่องหอมแก้มหรือจุ๊บกันก่อนนอนเป็นเรื่องปกติของพวกมันมาก แม่แหม่มสอนพวกมันตั้งแต่จำความได้
ให้รักกันไว้ ถึงพวกมันชอบทะเลาะกันบ่อยแต่ก็ตามประสาเด็กๆนั่นแหละครับ ผมรู้ว่าเจ้าฝาแฝดรักกันมาก
มันรักกันดี

“ก็........................เดี๋ยวนี้ซีน่อนชอบมาจุ๊บไม่เหมือนที่หม่ามี๊แดดดี๊จุ๊บเค้านี่!/////*//”
ได้ยินอย่างนี้ยิ่งข้องใจครับ “จะ..จุ๊บยังไงวะ???”
ซีโน่มันอึกอักเหมือนลังเลที่จะบอก ผมเห็นชักใจไม่ดีรีบเร่งให้น้องพูด ส่งสายตาห้ามให้เจ้าซีน่อนมายุ่ง

“ก็ซีน่อนมันชอบมาดูดๆตรงนี้อ่ะ!(ชี้ที่ริมฝีปากล่างตัวเอง) ชอบเลียปากซีโน่ด้วยอ่า////*//
เวลาใส่ลิ้นเข้ามาในปากมันแปลกๆนิ”

พอได้ฟังไอ้แฝดน้องพูดถึงสิ่งที่แฝดพี่ทำกับมันแล้ว
คือ............ ผมกับไอ้ไลค์ นั่งตัวแข็งเป็นหินไปเลยครับ ...

พวกมึงทำอะไรก๊านนนนนนนนนนนน!!!!!!!!!!!!!

ไอ้คนน้องฟ้องผมเสียงเบาอ้อมแอ้ม ส่วนคนพี่นั่งเซ็ง มันทำปากมุ่ยบ่นขมุบขมิบคนเดียว “จิ๊...ขี้ฟ้อง”

“ซีน่อนเหมือนหมาเลยพี่ลูกคิด บางทีก็มางับๆด้วยอ่ะ มาดมๆ มันจั๊กจี๋นิ แล้วเวลาจุ๊บปากก็ชอบจุ๊บน๊านนาน
บอกว่าให้จุ๊บแป๊บเดียวก็ไม่ยอม แบบว่าจ๊วบๆปากเหมือนในหนังปะ..”

“ว๊ากกกกก หยุด! หยุดเลย!!” ผมรีบปิดปากไอ้คนน้องให้หยุดกลัวพวกพี่เลี้ยงโต๊ะหลังได้ยินมันพูด
แล้วเอื้อมไปเขย่าแขนไอ้ตัวแสบคนพี่ “มึงเล่นแบบนี้กับน้องไม่ได้นะซีน่อน!!!”
มันจะพิเรนทร์เกินไปแล้ว สรุปไอ้แฝดพี่นี่ร้ายที่สุด!!! ถ้าแดดดี๊พวกมึงรู้โดนเชือดทั้งบ้านแน่||||||||||||

“ทำไมเล่นไม่ได้ฮะ” ดู๊ ดูมันเอียงคอถามผม ผมว่าไอ้แฝดพี่มันตีมึนใส่ผมแล้ว
“แล้วทำไมเวลาทำถึงไม่ให้น้องบอกใคร” ผมแกล้งเอียงคอยิ้มเย็นถามเจ้าซีน่อนบ้าง มันยิ้มแหยให้ผมทันที
มึงมันร้ายนักนะไอ้ซีน่อน เดี๋ยวเถอะมึงๆ -*- ผมขู่มันทางสายตา เจ้าตัวแสบรีบลุกมากอดผมเลย
“พี่ลูกคิดอย่าโกรธซีน่อนนะฮะ ซีน่อนรักพี่ลูกคิด” ทำมาอ้อนนะมึง โอ๊ยยยยไอ้เด็กกะล่อนเอ๊ย

“ไว้รอให้โตก่อนค่อยเล่นแบบนี้ เข้าใจนะไอ้ดื้อ! ร้ายนัก! ตัวแค่นี้ไปกินนมให้โตก่อนไอ้เด็กบ้า”
แต่เอาจริงๆแล้ว พวกมันถือว่าสูงขึ้นมากจากที่เห็นครั้งสุดท้ายตอนปีใหม่
“เอาไว้ค่อยเล่นกับซีโน่ตอนที่โตแล้วเหรอพี่ลูกคิด” ยัง มึงยังไม่หยุด ผมอยากจะเป็นลมกับความทะลึ่งมัน
“นี่น้อง! เล่นแบบอื่นได้เว้ย แต่เล่นแบบนี้ไม่เอา! แล้วอย่าให้ใครรู้เรื่องนี้เชียวนะมึง”
ผมดุไอ้แฝดพี่พยายามข่มเสียงแล้ว กันไม่ให้พวกพี่เลี้ยงหันมาสนใจ แต่ซีน่อนมันกลับยิ้มกวน พูดเหนือๆใส่
“ไม่ให้ใครรู้มาตั้งนานแล้วน่า ถ้าซีโน่มันไม่ขี้ฟ้องวันนี้พี่ลูกคิดก็ไม่รู้หร๊อก”
“ไอ้ซีน่อน!////*//” ไอ้เด็กอันตราย มึงเป็นน้องกูรึน้องไอ้เดย์กันแน่วะ มึงมาเบอร์นี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!

“ไอ้ดะ..เอ๊ย..ไอ้คนใจร้ายมันสอนมึงหรือมึงแก่แดดเองวะ สารภาพมานะซีน่อน”
ผมคาดคั้นน้อง ขณะที่ไอ้ไลค์พยายามนั่งไม่รับรู้ อายมันจะตายอยู่แล้ว////////*//
“พี่ดะ..” ซีน่อนเกือบหลุดพูดชื่อไอ้เดย์เสียงดังผมต้องรีบปิดปากมัน น้องก็รู้งานใช้สรรพนามเรียกไอ้เดย์ใหม่
“คนใจร้ายบอกว่าถ้าอยากโตมาเป็นผู้ชายเท่ๆ ต้องปกป้องคนที่ตัวเองรักให้ได้ แล้วก็ต้องจุ๊บๆเก่งๆด้วยฮะ”

ผมตบหน้าผากตัวเอง แต่เดี๋ยวเอาไว้ผมจะตบกบาลไอ้บ้าเดย์ด้วย////*// ไอ้ตัวต้นเหตุ
“แต่คนใจร้ายไม่ยอมสอนจุ๊บเลยอ่ะ ซีน่อนเลยฝึกเองฮะ” มึงยังมีหน้ามาภูมิใจอีกไอ้เด็กเวร
“เฮ้อ ซีน่อน ปกป้องน้องได้น่ะดีแล้ว แต่เอาน้องมาฝึกอะไรแบบนี้ไม่ได้โว้ย รอโตแล้วไปหาแฟนมึงโน่น”
“เป็นแฟนกับซีโน่ไม่ได้เหรอฮะ ก็ซีน่อนชอบซีโน่ที่สุดแล้วอ่ะ” ตรรกะอะไรของมึงวะ
“ไม่ได้ มึงเป็นพี่น้องกันไอ้บ้า รักแฟนมันไม่ใช่รักแบบนี้ เฮ้อ.....เออ เอาเหอะพวกมึงคงยังไม่เข้าใจ
เอาไว้โตแล้วก็เข้าใจเอง” ผมเหมือนเสียพลังงานไปมากมาย หมดแรง กำชับแค่ให้มันเลิกใช้น้องฝึกบ้าๆได้แล้ว

ไอ้สองตัวแสบหันไปแกล้งผลักกันไปมาเล่นหยอกกันตอนกินข้าว
เหมือนเหตุการณ์ใสๆไม่มีอยู่จริงเมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้น
ทิ้งให้ผมทำหน้าพูดไม่ออกบอกไม่ถูกรับหน้าไอ้ไลค์ที่ยิ้มแหยๆให้|||||||||||


“อิ่มแล้วเหรอลูกคิด กินน้อยจัง”
ไลค์ถามทันทีที่เห็นผมวางช้อนส้อมในมือลงนั่งนิ่ง ใครจะไปกินลงฟะ

พอเห็นผมนั่งหน้าเศร้าไม่กินอะไรแล้ว ไลค์ก็เอื้อมมือมาจับมือผมที่วางบนโต๊ะ ผมดึงหลบไม่ทัน
เพราะมัวแต่เหม่อ “ละ!” ขมวดคิ้วจะด่ามันแต่ยังไม่ทันพูดมันรีบทำตาโตส่งซิกห้ามผม
“ชู่ว!!!”
“หือ?”
“ชู่วๆ!!” ไลค์กำชับไม่ให้ผมเอ็ดไป ทำมือชี้ๆไปที่น้องๆแล้วชี้ที่ตัวมันก่อนทำมือเป็นเครื่องหมายโอเค
มันจะดูแลน้องผมให้เองให้ผมรีบไป ไลค์ขยับปากแต่ไม่ออกเสียง บอกผมช้าๆ [ มัน รอ อยู่ ใน ห้อง น้ำ ]

มันรออยู่ในห้องน้ำ! ไอ้เดย์แน่ๆ!

จะต้องให้ผมเหวออีกสักกี่รอบกันครับวันนี้ เห็นผมตาโตอ้าปากค้างไอ้ไลค์ก็ทำหน้าดุ ผมเลยต้องเลิกเหวอ
เพราะเดี๋ยวคุณพี่เลี้ยงตัวบึ๊กที่ตามมาด้วยทั้งสองจะหันมาเห็นแล้วสงสัยเอา ตอนแรกพวกพี่เขาจะเฝ้าหน้าร้าน
แต่ไลค์มันบอกว่าจะนั่งนานเลยชวนให้มาคอยข้างใน แถมเลี้ยงข้าวอีกต่างหาก

“ปะ...ไปห้องน้ำก่อนนะ!” ผมรีบลุกยืนพูดให้ทั้งโต๊ะผมและโต๊ะพวกพี่เลี้ยงได้ยิน
แทบอยากจะวิ่งครับ จริงๆเหรอ นี่เดย์รอผมอยู่ในห้องน้ำจริงๆใช่ไหม!

เห็นผมรีบร้อนจะไป ไอ้แฝดสองแสบมันหัวเราะคิกคักถามว่าผมขี้แตกงั้นเหรอ ไอ้พวกเด็กบ้า

กูจะรีบไปหาแฟนโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยย//////////



.................. ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก

ผมเร่งฝีเท้าก้าวเข้าห้องน้ำได้ก็ยืนจังก้าตั้งสติมองซ้ายมองขวา มีคนยืนปล่อยเบาที่โถด้านนอกสองคน
แต่ไม่ใช่เดย์ ส่องทางห้องที่มีประตูก็มีปิดอยู่สองห้อง ผมยืนเก้ๆกังๆด้วยใจระทึก รอให้คนทยอยออกไป
โดนมองแปลกๆด้วย|||||||| สุดท้ายเหลือห้องที่มีประตูยังปิดอยู่ห้องเดียว เลยตัดสินใจลองส่งเสียงเรียกดู

“วู้! วู้!! เดย์!! เดย์!!” แล้วก็มีเสียงตอบกลับมาครับ “จุ๊กกรู้!”

แน่แล้ว! ไอ้เดย์แน่แล้ว!!! หัวใจผมเต้นแรง ต้องเป็นไอ้บ้าเดย์แน่นอน555555

ดีใจมากครับผมรีบถลาไปปิดล็อคประตูทางเข้าห้องน้ำกันคนเข้ามา พอหันกลับไปก็เจอ
ไอ้คนที่ผมคิดถึงมันทุกวันจนต้องนอนร้องไห้ เปิดประตูห้องน้ำออกมาส่งยิ้มกว้างให้
“คนหล่ออยู่นี่คร้าบบบบบ”
“เดย์!!!” เราโผกอดกันแน่น อยากจะยิ้มหรือร้องไห้ผมเลือกไม่ถูกเลยครับ
“อื้อออออ5555555” เดย์ขยี้หัวผมไปมา เอาจมูกโด่งๆของมันมาฟัดที่แก้มผมอย่างหมั่นเขี้ยว
ผมมองหน้ามันเต็มๆตา เดย์มาอยู่ตรงหน้าผมแล้วจริงๆ “มึงรู้ไหมกูอยากเจอมึงแค่ไหนเดย์”

ไอ้บ้าเดย์จูบหน้าผากทำผมพาลจะร้องไห้ เรายืนกอดกันคุยกันอยู่อย่างนั้น
“รู้ดิ เหมือนที่กูอยากเจอมึงไง โอ้ย..ผอมเลย มึงทำไมไม่ค่อยกินข้าวหือ ไอ้หนอนแฝดมันฟ้องกูทุกวัน”
“ฮึก กูกินลงก็บ้าแล้ว ไอ้บ้า ฮึก แล้วแอบคุยกับน้องกูไม่บอกกูเลยนะมึง เดี๋ยวกูจะคิดบัญชี ไหนจะไอ้ไลค์อีก”
“อ้าวด่ากูอีก5555โอ๋ๆ พูดแล้วก็อยากออกไปด่าเชี่ยไลค์แม่ง ปล่อยให้กูรอในส้วมเป็นชั่วโมงไอ้หอกเอ๊ย”
“เรื่องมันยังไงเนี่ยเดย์” ผมสงสัยเต็มทีพวกมันไม่ถูกกันมาร่วมมือกันได้ไง แถมไอ้ไลค์ยังช่วยมันอีก

“ก็มึงเอาเบอร์ใครโทรไปหาแม่เพื่อขอเบอร์กูล่ะ”
“เบอร์ไอ้ไลค์” นาทีคงไม่ต้องปิดบังกันแล้วครับ พูดนำมาขนาดนี้ไอ้เดย์รู้แล้วแน่นอน
“กูก็โทรกลับดิ”
“โหย กูบอกแล้วว่าอย่าโทรมา ดีนะพวกมึงไม่มีเรื่องกันอีก”
“กลัวกูรู้ว่ามึงเจอกับมันใช่ไหมล่ะ ดีนะที่กูไม่เชื่อมึงลองโทรกลับเพราะกูโคตรสงสัยเลย”
“โกรธไหมเดย์” ผมถามมันเสียงอ่อยตาละห้อย ไอ้เดย์หัวร้อนเรื่องไลค์แต่ไหนแต่ไรมา แต่คราวนี้มันส่ายหน้า
“ตอนแรกโกรธ ด่ากับมันไปหลายยกแล้ว แต่เมื่อวานมันบอกจะช่วยให้กูได้เจอกับมึง เลยหยุดด่ามันก่อน”
“อย่าไปด่ามันเลย ยังไงไลค์มันก็ช่วยให้เราได้เจอกันนะเดย์”
“ที่เมื่อวานมันไม่ไปหามึงเพราะกูจะมาหามึงวันนี้ไง เลยให้มันเปลี่ยนแผนนัดมึงออกมาวันนี้แทน
ใครจะไปยอมให้อยู่กันสองต่อสองอีกวะ แต่มึงน่ารักมากลูกคิดที่ไม่ตามมันออกมาจนกว่ากูจะอนุญาต”
เดย์หอมแก้มผม ผมเขินๆ ไอ้บ้านี่รู้ความเคลื่อนไหวผมทุกอย่าง

“ทำไมไลค์มันถึงยอมช่วยเราวะเดย์ กูไม่เข้าใจ”
“กูก็บอกมันว่าถ้ายอมช่วยให้กูเจอมึงวันนี้ กูจะบอกให้มึงกินข้าวแล้วก็ดูแลตัวเองตอนที่อยู่ที่นี่ มันเลยยอมช่วย”
“...........เพื่อกู เหรอ”

ผมฟังแล้วพูดไม่ค่อยออก เพราะอย่างนี้มันเลยยอมช่วยให้ผมได้เจอกับเดย์เหรอ ...ไลค์ ขอบคุณมึงจริงๆนะ


“ก่อนหน้านี้ทำไมไม่มาเจอหน้ากูบ้างเลยไอ้บ้าเดย์”
“เพราะพ่อมึงเลย พ่อมึงทำกูไว้แสบมากไอ้ลูก ฮึ่ย!”
“พ่อทำอะไรมึงเดย์!?”
“แม่งหลอกกู”
“หา”
“บอกว่าวันสอบอย่าเพิ่งไปหามึง ถ้าทำได้จะยอมให้กูอยู่กับมึงทั้งวันก่อนพามึงกลับพัทยา
หลังจากเราเข้ามหาลัยกันแล้วเขาจะยอมให้กูเจอกับมึงถ้าอยู่ในสายตาเขาด้วย”

“ว่าไงนะ” เดี๋ยวนะครับที่ไอ้เดย์เล่ามานี่มันหนังคนละม้วนแล้ว

“พ่อมึงไปดักรอกูหน้าโรงเรียนให้คนเรียกกูไปคุยในรถ แต่อย่าเพิ่งบอกแม่จ๋าบอกมึง
เพราะเขาไม่อยากเสียฟอร์ม รอมึงสอบเสร็จก่อน แม่ง! กูก็โง่เชื่อพ่อมึง กูก็หลงดีใจไปเหอะ
แล้วสุดท้ายพ่อมึงก็พลิกลิ้นใส่กูเฉย ตาลุงหัวเถิกเอ๊ยยยยยยยยยย กูแค้นนัก!!!”

“จะ...ใจเย็นเว้ยเดย์ เฮ้ยทำไมพ่อทำอย่างนี้วะ แต่จะว่าไปพ่อจ๋าบอกให้คุยกันทางโทรศัพท์ได้
แต่ก็ไม่ยอมคืนมือถือให้กูสักที”
มิน่าไอ้เดย์ไม่ไปหาผมที่บ้านแม่เลย พ่อผมหลอกไอ้เดย์ซะเปื่อย มันทำหน้าเจ็บใจใหญ่

“เขากันไม่ให้กูไปหามึงไง พอกูทวงสัญญาหลังสอบแม่งก็หลอกกูไปเรื่อยๆ อ้างนู่นอ้างนี่
กูจะโทรหามึงแม่งบอกกูว่ามือถือมึงพังไปแล้ว ขนาดเพื่อนเรายังโดนกันออกไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้มึง
คงกลัวว่ากูจะติดต่อกับมึงได้ เชื่อเขาเลยพูดกับกูอีกอย่างแต่ทำอีกอย่าง แบบนี้คือยอมให้คบกันตรงไหนวะ”

ทำไมพ่อผมทำถึงขนาดนี้ จะต้องให้ผมเสียใจไปถึงไหน หลอกผมไม่พอ ยังหลอกแม่ด้วย
แถมหลอกไอ้เดย์ไว้อีก พ่อจ๋านะพ่อจ๋า!

“กูรู้มาว่าพ่อมึงคิดจะให้ไอ้ไลค์คอยเป็นเพื่อนมึงตอนอยู่ที่นี่ แต่หารู้ไม่ว่าไอ้หอกนั่นมันก็ชอบมึง
กูล่ะอยากจะขำให้ฟันหัก” เดย์มันประชดประชันพ่อผม

“แล้วยิ่งกูรู้ว่าพวกมึงได้เจอกันตอนอยู่ที่นี่ แต่กูเจอไม่ได้แม้แต่เสียงยังไม่มีสิทธิ์ได้ยิน กูจะทนพ่อมึงได้อยู่ไหม”
เดย์มองหน้าผมจริงจัง ผมเข้าใจมันนะว่ามันผิดหวัง เสียใจกับเรื่องนี้ พ่อทำเกินไปจริงๆ

“เขาคิดว่ายังไงกูก็ไม่มีปัญญาทำอะไรได้สินะ”
“เดย์..”
“ลูกคิด ถ้าขืนเป็นแบบนี้..”
ผมกลัวสิ่งที่มันจะพูด รีบผวาเอาหน้ามุดอกไอ้เดย์ “ไม่เอานะ! กูจะอยู่กับมึงอ่ะ ฮึก...”
เดย์มันลูบหัวผม “ไม่ต้องกลัว มึงจำได้ใช่ไหม กูเคยบอกว่ากูจะไม่มีวันทิ้งมึงไงลูกคิด”
ผมยังกอดเดย์แน่นแต่เงยหน้าขึ้นมองสบตากับมัน “อื้ม”
ใช่ มันบอกผมไว้ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ได้เป็นแฟนกันด้วยซ้ำ เดย์ไม่เคยผิดคำพูด

“ลูกคิด ไปกับกูนะ”

ผมมองหน้าเดย์ ตะลึงไปกับคำพูดนั้น............... ในใจมีคำถามว่าไปที่ไหนวะ แต่ปากกลับบอกมันแค่

“อื้ม!ไป!”

เดย์ยิ้มดีใจจับแก้มผมแล้วจูบที่ปากเบาๆ บอกให้เรารีบออกไปจากที่นี่ เพราะผมหายมาได้สักพักแล้ว
เดย์หยิบชุดใหม่ออกมาจากเป้ที่พกมาด้วย บอกให้ผมเปลี่ยนชุด โอ้โห นี่แสดงว่ามันเตรียมการมาแล้วอย่างดี
“แล้วเราจะออกไปยังไงไม่ให้ลูกน้องพ่อกูเห็นวะเดย์” ผมยังหวั่น
“เออน่า มึงเปลี่ยนชุดก่อน”
พอผมเปลี่ยนเสร็จ เดย์มันก็หยิบวิคผมที่ยาวกว่าผมบนหัวของผมมาให้ใส่ เห็นวิคผมแล้วอดขำไม่ได้
แต่มันก็รอบคอบดี เดย์ยื่นแมสปิดปากกับหมวกให้ผมก่อนที่มันจะใส่หมวกให้ตัวเองด้วย

“กูจะออกไปสตาร์ทรถรอ มึงไม่ต้องรีบเดินนะลูกคิด เนียนๆออกไป อ่ะสะพายเป้กูแล้วใส่แมสปิดหน้าไว้
เดินก้มหน้าดีๆแต่อย่าวิ่งนะมึง เดินไปให้พ้นหน้าร้านก่อนเดี๋ยวกูเข้าไปรับมึงเอง”
“มึงเอารถใครมา”
“รถกูไง”
“มึงมีรถด้วยเหรอเดย์!?”
“ทำเป็นไม่รู้ พูดเหมือนไม่เคยซ้อน หึหึ”
“เชี่ยยยยย|||||||||| อย่าบอกนะว่ามอไซค์มึงอ่ะ”
“ถูก”
นี่กูต้องเตรียมตัวเหาะไปฝ่าดงระเบิดภูเขาเผากระท่อมกับมึงใช่มั้ยเดย์
ไอ้บ้านี่ขี่รถได้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับขี่จรวด ผมเดินไปขึ้นรถเมล์แทนได้ไหมครับ

“ไม่ยกล้อหน้านะกูขอ” ผมทำหน้าเหมือนทุกทีที่ไม่อยากซ้อนมอเตอร์ไซค์มัน มันก็ชอบแกล้งนะ
“ได้ เดี๋ยวกูยกล้อหลังให้สองที เคี้ยกๆๆ”
“ฟาย”
“อ๋อ จะให้บิน จัดไป”
“กูไหว้ กรุณากูเถอะ”
“ล้อเล่นน่า โอเคไม่เล่นท่า แต่ขอบิดเร็วนิดนึงนะ”
“นึดนึงของมึงนี่กูไม่อยากจะคิดเล้ย”

ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าเดย์จะพาผมไปไหน รู้แต่ไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่บ้านพ่อ

ไอ้เดย์เดินออกไปแล้ว ผมแอบมองตาม มันโคตรเนียน เดินห่างจากโต๊ะที่ไอ้ไลค์นั่งออกไป
เดย์เดินไปแบบธรรมดาขยับหมวกปิดหน้าเยอะๆแล้วออกไปได้สบายๆเลยครับ
ไอ้ไลค์มันนั่งหันหน้ามาทางที่เดย์เดินผ่านแท้ๆ แต่ก็ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาสนใจอะไร

“โอ๊ย ปวดฉี่ๆ”
เหวอ! ผมหันหลังหลบพวกน้องชายที่อยู่ดีๆวิ่งแข่งกันมาเข้าห้องน้ำแทบไม่ทัน สวนกับพวกมันแล้ว
รีบเดินไปในใจก็นึกเป็นห่วงขึ้นมา แต่คุณพี่เลี้ยงที่บ้านตามมาตั้งสองคน ไหนจะไอ้ไลค์อีก คงไม่เป็นไร

ผมลองทำตัวเนียนๆเหมือนไอ้เดย์ คนที่บ้านคงไม่มีใครคิดว่าผมจะหนีออกไปอย่างนี้
ชำเลืองดูตอนเดินผ่าน เห็นพวกพี่เลี้ยงเริ่มชะเง้อคอมองไปทางเข้าห้องน้ำ ไอ้ไลค์มันรีบชวนพวกนั้นคุย
ว่าอยากกินอะไรเพิ่มหรือเปล่า พวกพี่เลี้ยงผมต่างก็บอกว่าเกรงใจแค่นี้ก็อิ่มกันแล้ว นั่นเป็นจังหวะดี
ที่ผมจะรีบออกจากร้านไป พ้นโต๊ะพวกนั้นมาได้ก็ลิงโลดในใจครับ

แล้วจังหวะนั้นเองไอ้ฝาแฝดสองแสบก็วิ่งหน้าตื่นมา “ทำไมพี่ลูกคิดไม่มีอ่ะ!?”
เสียงเจ้าซีน่อนดังจนคนรอบข้างหันไปมอง เจ้าซีโน่ที่วิ่งรูดซิบกางเกงมาก็รีบพูด
“พี่ลูกคิดไม่เห็นอยู่ในห้องน้ำเลย!? ฮือ พี่ลูกคิดไปไหน”
ไอ้ไลค์กับพวกพี่เลี้ยงลุกพรวดพร้อมกันเลยครับ ผมขาสั่นแล้วตอนนี้ ดีที่พวกนั้นวิ่งกลับเข้าไปหาผมในห้องน้ำ
แต่ยกเว้นอยู่คนเดียว “ลูกคิด!” ไอ้ไลค์เรียกผมจากด้านหลัง เล่นเอาผมสะดุ้งหยุดเดิน เชี่ยแล้ว!!!!||||||||

แต่แล้วไลค์มันก็วิ่งออกไปทางหน้าร้านแทน “อ้าว....” ผมมองไอ้ไลค์วิ่งหน้าตื่นไปอย่างโล่งใจ
มันรู้ว่าไอ้เดย์มาหาผม คงเข้าใจว่าผมออกไปกับเดย์แล้ว มันออกไปมองหาผมนอกร้านแต่ก็ไม่เจอ
ไอ้ไลค์วิ่งกลับเข้ามาอีกทำคนในร้านแตกตื่นมองตาม สวนกับผมที่แกล้งเดินก้มหน้ารื้อค้นของในเป้ทำตัวยุ่งๆ
ค่อยๆเดินออกจากร้านไป อาจเพราะผมใส่วิคแถมเปลี่ยนชุดเลยไม่ใช่จุดสังเกตุของไอ้ไลค์

รู้ดีว่าจากนี้จะทำให้หลายคนเป็นห่วงและเดือดร้อน แต่ขอโทษจริงๆครับ ผมจำเป็นต้องไป
ตอนนี้ผมทนอยู่กับพ่อไม่ได้จริงๆ

ออกมานอกร้านได้ผมรีบเดินให้ห่างร้านออกไป ไม่กี่อึดใจก็มีคนขี่มอเตอร์ไซค์มาเบรกปาดหน้า
เป็นไอ้เดย์เปิดกระจกหมวกกันน็อคมาขยิบตาให้ผมข้างนึง มันใส่หมวกกันน็อคด้วยครับวันนี้ ทำผมยิ้มออก

“ไหนว่ารถมึง” ผมมองรถมัน นี่ไม่ใช่คันที่ซ้อนทุกที เดย์ยื่นหมวกกันน็อคที่เตรียมไว้อีกใบให้ผม
ผมถอดหมวกถอดวิคออกแล้วรับมาใส่อย่างลนๆ รีบขึ้นซ้อนรถ
“รถเดย์ไง คันนี้เหมือนไม่แต่ง แต่เครื่องแรงหายห่วงครับขอบอก”
“กูเป็นห่วงไอ้ตรงนี้แหละ||||||| นี่อย่าบอกนะมึงซื้อใหม่เหรอ!?”
“พอดีรวย”
“ฆ๊วยยยยยยยยยยยยย กูบอกให้มึงเก็บตังค์!” อยากถอดหมวกกันน็อคมันมาตบกบาล
“เอาน่า คันนี้ดีเชื่อกู”
“แล้วทำไมไอ้ไลค์ไม่เห็นมึงวะ เมื่อกี้มึงอยู่ตรงไหนเดย์”
“กูอยู่หลังรถบรรทุกคันโน่น” เดย์มันชี้ด้วยนิ้วโป้งไปข้างหลัง ผมชะเง้อมองตามพยักหน้าเข้าใจ
“พร้อมนะ!”
“อื้อ!”
ไอ้เดย์บิดกระชากออกตัวรถเร่งเครื่องอย่างแรง ผมหลับตาปี๋กอดเอวมันแน่นสู้กับความเร็วแสง
นิดนึงของมึงเนี่ยนะเชี่ยเด๊ยยยยยย!

...........................
...............

บิดหนีกันมาได้สักพักเดย์ก็ลดความเร็วลง ข้างหน้ามีด่าน ดีที่พวกเราใส่หมวกกันน็อคทั้งคู่
แถมรถไอ้เดย์ก็ไม่ใช่รถแต่งเต็มขั้นแบบคันก่อน เราค่อยๆขี่ผ่านด่านไปอย่างสวยงามครับ
ไม่ช้าพวกเราก็ออกจากพัทยาไปไกล

แล้วจู่ๆไอ้เดย์มันก็แวะจอดรถข้างทางทำท่าทางรำคาญ ถอดหมวกกันน็อคเต็มใบออกมา
“มีอะไรเหรอเดย์” ผมถอดหมวกกันน็อคออกมาสูดอากาศบ้าง ร้อนใช่เล่น
เดย์ล้วงมือถือจากกระเป๋าเสื้อด้านในออกมา “........ห่าไลค์ แม่งโทรอยู่ได้ ปิดเครื่องแม่ง”
มันจะกดปิดเครื่องหนีไอ้ไลค์ที่โทรตาม แต่ผมห้ามไว้ “อย่าเพิ่งเดย์ กูอยากขอโทษมัน”
“มึงไม่ต้องคุยกับมันนะ เดี๋ยวกูคุยเอง” ไอ้บ้านี่ก็หวงไม่เลิก
ทันทีที่เดย์กดรับสายอย่างเสียไม่ได้ เสียงไอ้ไลค์ด่าอย่างหัวเสียก็ดังทะลุออกมาจนผมที่นั่งซ้อนข้างหลังยังได้ยิน

[ มึงพาลูกเขาหนีไปได้ยังไงวะไอ้เชี่ย! พาลูกคิดกลับมาเลยเดี๋ยวนี้เลยนะโว้ย! คนอย่างมึงแม่ง!!! ไอ้!xxxxxxx! ]
ไอ้ไลค์มันชอบมีมาดยังไงก็ต้องมาสติหลุดเพราะไอ้บ้าเดย์ทุกทีไป ไลค์โมโหมากที่เดย์พาผมไปด้วย
ทั้งที่บอกกับมันว่าแค่ขอเจอ

“...........อ่ะ มึงคุย” เดย์ยัดมือถือมันใส่มือผมแทนแล้วแคะหูบ่นเหมือนหูมันอื้อ.... เออดี โยนขี้ให้กูเลย||||||||

“ฮะ..ฮัลโหลไลค์ ไลค์ มึงใจเย็นๆนะ”
“ลูกคิด!!”
“น้องๆกูกลับบ้านเรียบร้อยดีใช่มั้ย”
“ดีอะไรเล่า โกรธเราใหญ่เลยที่ทำพี่พวกมันหาย||||||||| เราผิดอะไรเนี่ย”
“ขอโทษนะ กูอยู่ที่นั่นไม่ได้จริงๆว่ะ”
“แล้วลูกคิดจะไปไหน!?”
“ยังไม่รู้เลย”
“บ้าใหญ่แล้ว กลับบ้านเถอะนะ!”
“ที่นั่นไม่ใช่บ้านกูไลค์”
“ลูกคิด... เราเป็นห่วงนะ”
“ขอบใจ”
“อยู่ที่ไหน เดี๋ยวเราไปรับ”
“ไม่ กูไม่กลับ”
“ลูกคิด พ่อลูกคิดต้องโกรธมากแน่ๆ เขารู้เรื่องแล้วนะ”
“อึก...” ผมจับมือไอ้เดย์แน่นจนเดย์ขมวดคิ้วสงสัย “ไม่กลับ” ผมยังยืนยันแล้วไอ้เดย์ก็คว้ามือถือไปคุยเอง

“ฝากมึงไปบอกตาลุงคนนั้นด้วยนะ ว่าต่อให้ขี่ม้าสามศอกไปแจ้งความกูก็ไม่กลัว5555เคี้ยกๆๆๆ”
ผมได้ยินไอ้เดย์พูดชักใจไม่ดี นี่อย่าบอกนะว่าพ่อผมบอกไลค์ว่าจะไปแจ้งความตามหาผม
พอเดย์เก็บมือถือผมรีบเขย่าแขนถามมันใจไม่ดี “เดย์! ถ้าพ่อกูแจ้งความขึ้นมาจะทำยังไงอ่ะ”
“จะแจ้งได้ยังไง มึงเต็มใจมากับกู ผู้ปกครองมึงก็อนุญาต”
“ผู้ปกครอง!?”
“แม่มึงไง ไฟเขียวให้กูแล้ว”
“ห๊า!!!???”
“กูรับปากจ๋าจะพามึงไปดูแลอย่างดี มึงไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น”
“จริงดิ!”
“ก็จริงดิ555555555555”

นี่แม่จ๋าร่วมมือกับมันด้วยเรอะ!!!?
ไอ้เดย์หัวเราะลั่น ผมนั่งหน้าเหวอมองมันที่เอี้ยวตัวมาหา
“อื้มมมมม////////” จู่ๆก็โดนจูบครับ เดย์จูบผมแบบไม่สนใจรถที่ขับผ่านเราไปไม่ว่ากี่คัน
ถอนจูบออกมาแล้วผมเขินสายตาของมันจนต้องหลบตา มันทำผมใจเต้นแรงโคตรๆ

“แล้วเราจะไปไหนกันเดย์ กลับบ้านแม่เหรอ”
“ตอนนี้ยังกลับไม่ได้ ขืนกลับไปพ่อมึงก็ตามเจอดิ แต่ไม่ต้องห่วง เดย์มีที่ไป”

ไอ้เดย์ยักคิ้วให้ก่อนหันกลับไปใส่หมวกกันน็อคแล้วสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์
ผมถามเดย์ว่าแล้วตกลงเราจะไปที่ไหน แต่เสียงเครื่องที่เร่งแรงดังจนกลบคำถามผม

เอาเถอะ ที่ไหนผมก็จะไปกับมัน









tsktonight…

***ให้โหวตว่าตกลงใครร้ายที่สุดคะ555
ตอนหน้าเดย์กับลูกคิดจะเจออะไรบ้าง รอลุ้นกันนะคะ



สมาชิกหมายเลข 4468429 ---ขอบคุณที่แวะมานะคะ^^

อาณาจักรแห่งเรา --- วายไทยสไตล์ค่ะ55555 พระเอกไม่ได้ขี่ม้ามาค่ะขี่มอเตอร์ไซค์มา555

SmileSmileTem --- เดี๋ยวตอนหน้ามาอ่านอีกทีรับรองเลิกโมโหเลยจ้า555









Create Date : 25 เมษายน 2561
Last Update : 25 เมษายน 2561 0:30:13 น. 1 comments
Counter : 465 Pageviews.

 
ค่อยรู้สึกว่าเป็น fict ของคุณวิหน่อย ปล่อยให้ drama และหน่วงไม่นาน พอให้เจ็บแปล๊บนิดหน่อย ก็กลับมาสุขอีกครั้ง


โดย: อาณาจักรแห่งเรา วันที่: 23 มิถุนายน 2561 เวลา:21:59:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tsk.love
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]




เพื่อนกัน คนที่มีใจรักวายๆๆๆๆ
Group Blog
 
<<
เมษายน 2561
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
25 เมษายน 2561
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tsk.love's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.