บางครั้งโลกแห่งความจริงไม่สวยงาม...เฉกเช่นความฝัน แต่รู้สึกและจับต้องได้
Group Blog
 
 
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
18 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
ธรรมชาติและวัฒนธรรม(18)...แอ่วเชียงใหม่ ไหว้พระเสริมสิริมงคล








เป็นที่รู้กันดีในหมู่คนชอบเที่ยวว่า ถ้าใครไปแอ่ว “เวียงพิงค์” หรือ “เชียงใหม่” แล้ว ถ้าไม่หาโอกาสไปนมัสการ “พระธาตุดอยสุเทพ” สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสักครั้ง ก็เหมือนกับว่ายังไปไม่ถึงเชียงใหม่โดยสมบูรณ์

แต่นอกจากพระธาตุดอยสุเทพแล้ว ในตัวเมืองเชียงใหม่ ถิ่นที่เคยรุ่งเรืองด้านพระพุทธศาสนาในอดีต ยังมีวัดสำคัญ มีชื่อเสียง และมีความสวยงามชวนเที่ยวอีกมากมาย และนั่นจึงเป็นที่มาของการ ตะลอนทัวร์ไหว้พระเสริมสิริมงคลรับบรรยากาศปีใหม่ไทยหรือปี๋ใหม่เมืองหรือเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันนี้

โดยวัดแรกที่เรามุ่งหน้าเดินทางไปกันก็คือ “วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร” หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “วัดพระสิงห์” เป็นวัดเก่าแก่และมีความสำคัญวัดหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ เพราะมีพระพุทธสิหิงค์ประดิษฐานอยู่ ซึ่งเป็น 1 องค์ในจำนวนทั้งหมด 3 องค์ที่มีในประเทศไทย (อีก 2 องค์ มีที่หอพระพุทธสิงหิงค์ จ.นครศรีธรรมราช และที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กทม.)





ภายในวัดพระสิงค์มีสิ่งสำคัญที่น่าสนใจให้เที่ยวชมอยู่หลายจุด จุดแรกที่น่าสนใจก็คือ พระวิหารลายคำ ที่งดงามด้วยศิลปะการสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมแบบล้านนา ภายในพระวิหารมีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันสวยงามที่เขียนเรื่องราวสังข์ทอง และสุวรรณหงส์ ส่วนตรงกลางของพระวิหารเป็นที่ประดิษฐานของ พระสิงห์หรือพระพุทธสิงหิงค์ เป็นพระพุทธรูปหล่อสำริด ลงรักปิดทอง มีพุทธลักษณะอันงดงามด้วยฝีมือของสกุลช่างเชียงแสน เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา ที่ชาวเชียงใหม่เคารพบูชาเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในช่วงวันสงกรานต์ พระพุทธสิหิงค์ จะถูกอัญเชิญไปรอบเมืองเชียงใหม่เพื่อให้ประชาชนได้สรงน้ำ กราบไหว้สักการะบูชา

“ผู้จัดการท่องเที่ยว” ก้มลงกราบสักการะพระพุทธสิหิงค์ด้วยใจเคารพ และขอพรให้ท่านคุ้มครอง ให้ประสบแต่สิ่งที่ดีๆ แก่ชีวิต ก่อนที่จะออกไปดูยังจุดที่น่าสนใจอื่นๆ กันอีกไม่ว่าจะเป็น พระธาตุเจดีย์ เจดีย์เก่าแก่ลักษณะศิลปะแบบล้านนาหริภุญไชยผสมลังกา ภายในเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่นำมาจากทวีปลังกา พระธาตุเจดีย์นี้ถือว่าเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนที่เกิดปีมะโรง ถึงเราจะไม่ได้เกิดปีมะโรง แต่ก็ขอไหว้พระธาตุเพื่อเสริมความเป็นมงคลแก่ชีวิต





จากพระธาตุเจดีย์เดินมาด้านหน้าจะเจอกับ พระอุโบสถสองสงฆ์ เป็นพระอุโบสถที่มีมุข 2 ด้านหันหน้าไปทางทิศเหนือและทิศใต้ ทั้ง 2 ด้านมีซุ้มประตูตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นวิจิตรงดงาม ภายในมีมณฑปตั้งอยู่ตรงกลาง เป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าทองทิพย์จำลอง และพื้นที่ภายในพระอุโบสถแบ่งเป็น 2 ส่วน สันนิษฐานว่าสร้างให้เห็นถึงคติเลียนแบบสมัยพุทธกาล ที่ภิกษุณีสงฆ์ต้องบวชในสงฆ์ 2 ฝ่าย คือบวชในภิกษุณีก่อนจึงบวชในภิกษุสงฆ์ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีพระวิหารหลวงที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมล้านนา กู่ลายเป็นเจดีย์ทรงปราสาท และมีหอไตรแบบล้านนาที่สวยงามอยู่ด้านหน้าวัด

เราออกจากวัดพระสิงห์ เดินทางไปยังวัดที่อยู่ไม่ไกลกันมากนัก และตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่เลยคือ “วัดเจดีย์หลวง” หรือ วัดโชติการาม หรือ ราชกูฏา หรือ กุฏาราม เป็นวัดสำคัญมากวัดหนึ่งของเมืองเชียงใหม่มาตั้งแต่อดีตเพราะมีประวัติว่าเคยเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตมาก่อน ภายในวัดมีสิ่งก่อสร้างที่ควรค่าแก่การมาชม และมาไหว้สักการะเป็นอย่างมาก

สิ่งแรกที่เมื่อเข้ามาในวัดแล้วจะเห็นตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่นั่นก็คือ เจดีย์หลวง เป็นเจดีย์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นเมื่อ พ . ศ . 1934 สมัยพระยาแสนเมืองมา นับเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในอาณาจักรล้านนา มีความสูงถึง 80 ม. แต่เมื่อปีพ.ศ. 2088 ได้เกิดแผ่นดินไหว ทำให้ยอดเจดีย์หักโค่นลงมา ทำให้ปัจจุบันนี้เจดีย์มีความสูงเหลือเพียง 40.8 ม. มีฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส กว้างด้านละ 60 ม. มีช้างปูนปั้นประดับอยู่ 28 เชือก ทั้งสี่ด้านมีบันไดทางขึ้นสู่ลานประทักษิณของเรือนธาตุได้ ตรงกลางเป็นเรือนธาตุสี่เหลี่ยมเพิ่มมุม ประดิษฐานพระพุทธรูปทั้งสี่ทิศ





นอกจากความยิ่งใหญ่ของเจดีย์หลวงแล้ว เมื่อเดินมาทางด้านหลังเจดียืหลวง ยังมีสิ่งก่อสร้างและพระให้กราบไว้สักการะกันอีก ไม่ว่าจะเป็นวิหารพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ที่ภายในมีรูปปั้นหลวงปู่มั่นประดิษฐานอยู่ และมีพระอัฐิธาตุของท่านให้กราบไหว้ ถัดมาเป็นพระวิหารจัตุรมุขบูรพาจารย์ และใกล้ๆ กันมีพระเจ้าทันใจให้กราบไหว้ขอพรกันด้วย เดินถัดมาอีกนิดก็จะเจอกับพระนอน หรือ พระพุทธไสยาสน์ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่คู่กับพระเจดีย์ ที่มีพุทธลักษณ์สวยงามมาก มีพระมหาสังกัจจายน์ ที่คาดว่ามีความเก่าแก่พอ ๆ กับพระนอน ตั้งประดิษฐานอยู่ให้ได้อธิษฐานขอพรกัน และยังมีเสาอินทขิล หรือเสาหลักเมืองของเชียงใหม่ ให้สักการะเพื่อความมั่นคงของชีวิตและครอบครัว





เราเดินชมและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์จนรอบวัดเจดีย์หลวงกันแล้ว ก็ไม่รอช้ารีบออกจากวัดและไปต่อกันทันที โดยมุ่งหน้าไปที่ “วัดเชียงมั่น” หรือวัดเชียงหมั้น เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในตัวเมืองเชียงใหม่ สร้างขึ้นเมื่อครั้งพ่อขุนเม็งรายมหาราชสร้างเมืองเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 1839 พระองค์ทรงยกตำหนักที่ประทับชื่อตำหนักเชียงมั่นถวายเป็นพระอารามและให้ชื่อว่าวัดเชียงมั่น

วัดเชียงมั่นนี้มีสิ่งที่น่าสนใจและชวนให้สักการะมากมาย อย่างแรกที่เมื่อมาถึงวัดแล้วต้องไปสักการระ คือ เข้าไปภายในพระวิหารไปไหว้พระพุทธรูปสำคัญของเชียงใหม่ 2 องค์ คือ พระเสตังคมณี หรือพระแก้วขาว เป็น พระพุทธรูปปางมารวิชัย แกะจากผลึกหินสีขาวขุ่น มีขนาดหน้าตักกว้าง 4 นิ้ว สูง 6 นิ้ว และพระพุทธรูปศิลาปางปราบช้างนาฬาคีรี หรือ พระศิลา เป็นพระพุทธรูปแกะสลักด้วยหินชนวนดำ ฝีมือช่างปาละของอินเดียพระพุทธรูปทั้ง 2 องค์นี้ประดิษฐานอยู่ในมณฑปที่ทางวัดได้ทำลูกกรงเหล็กล้อมพระพุทธรูปไว้อย่างแน่นหนาเพราะเป็นพระพุทธรูปที่มีค่ามากจึงกลัวถูกขโมย





เราออกมาจากพระวิหารแล้วเดินมาทางด้านหลังก็จะพบกับ พระเจดีย์ช้างล้อม ที่สร้างสมัยพญามังราย เป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมผสมทรงกลมสูง ( ทรงปราสาท ) ตรงฐานเจดีย์ทำเป็นรูปช้างล้อม16 เชือก สันนิษฐานว่าสร้างเลียนแบบเจดีย์ช้างล้อมของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชที่เมืองศรีสัชนาลัย ถัดมาเป็นหอไตร ที่ชั้นล่างก่ออิฐฉาบปูน ชั้นบนเป็นไม้ลงรักปิดทองสวยงาม ถัดมาอีกนิดเป็น พระอุโบสถทรงล้านนา เป็นพระอุโบสถที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมล้านนา และเป็นที่ตั้งของศิลาจารึกอันเก่าแก่ ที่กล่าวถึงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของเมืองเชียงใหม่ และการสร้างวัดเชียงมั่น

หลังจากไหว้พระขอพรที่วัดเชียงมั่นกันเสร็จแล้ว เราก็ไปแสวงบุญไหว้พระกันต่อที่ “วัดโลกโมฬี” เป็นอีกหนึ่งวัดเก่าแก่ที่ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่วัดเล็กๆ ในตัวเมืองเชียงใหม่ แต่ก็มีความสำคัญเพราะเป็นวัดที่พระนางเทวีจิรประภาแต่งเครื่องราชบรรณาการไปถวายแด่พระไชยราชาธิราชแห่งอโยธยา และเชิญเสด็จมาทำบุญที่วัดแห่งนี้ ซึ่งภายในวัดโลกโมฬี มีสิ่งที่น่าไปเที่ยวชมอยู่ไม่น้อยเลย





สถานที่แรกเมื่อเดินเข้าไปในวัด เราเข้าไปในวิหารที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ที่มีความสวยงามทั้งภายในและภายนอก เป็นศิลปะผสมผสานกันระหว่างไม้แกะสลักและปูนปั้น และด้านในวิหารมีพระประธานตั้งอยู่ให้ได้กราบไหว้ขอพรกัน จากนั้นเดินเข้ามาด้านในเพื่อมาสักการะองค์เจดีย์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ เป็นเจดีย์ทรงปราสาทขนาดใหญ่ ที่แต่ละด้านมีซุ้มจระนำประดิษฐานพระพุทธรูป และมีรูปปั้นเทวดาประดับอยู่อย่างสวยงาม ด้านล่างฐานเจดีย์ยังมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่เพื่อให้ได้กราบไหว้กันอีกด้วย

และภายในวัดยังมีศาลาที่ประดิษฐานรูปปั้นของพระนางเจ้าจิรประภามหากษัตริยาแห่งล้านนา ให้ทุกคนได้มากราบไหว้ขอพร ว่ากันว่าหากขอพรเรื่องราวเกี่ยวกับความรักมักจะสมหวัง อันนี้จะจริงหรือไม่จริง เราก็ขอให้รักเราสมหวังเช่นกัน..สาธุ





หลังจากนั้นเราก็ออกจากวัดโลกโมฬี เพื่อตรงไปยังวัดสุดท้ายที่รออยู่คือ “วัดเจ็ดยอด” หรือ วัดโพธารามมหาวิหาร เป็นวัดขนาดใหญ่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าติโลกราช เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์ที่สำคัญคือเป็นที่ทำสังคยานาพระไตรปิฎกเป็นครั้งแรกในสยาม ซึ่งภายในวัดมีสิ่งก่อสร้างมากมายให้ได้ชม โดยมีจุดเด่นที่กลายมาเป็นชื่อเรียกของวัด ก็คือ เจดีย์เจ็ดยอด ที่ตั้งอยู่ด้านใน มีลักษณะคล้ายกับเจดีย์พุทธคยาที่อินเดีย มียอดเจดีย์อยู่ 7 ยอด และที่เจดีย์ยังมีลายปูนปั้นรูปเทวดายืนและนั่งขัดสมาธิประดับเรียงรายอยู่โดยรอบ มีทั้งแบบที่สมบูรณ์สวยงามและบางรูปก็พังบ้างไปตามกาลเวลา





นอกจากเจดีย์เจ็ดยอดที่เป็นจุดเด่นแล้ว ภายในวัดยังมี สถูปเจดีย์พระเจ้าติโลกราช ที่เป็นที่บรรจุพระอัฐิของพระองค์ และมีพระวิหาร 700 ปี ที่ภายในมีพระเจ้า 700 ปี ที่สร้างขึ้นเมื่อครั้งเชียงใหม่มีอายุครบ 700 ปี ให้ได้กราบสักการะขอพรตามใจปรารถนา “ผู้จัดการท่องเที่ยว” ต้องบอกเลยว่าการได้มาตะลอนทัวร์ไหว้พระที่เชียงใหม่ในทริปนี้ช่างอิ่มบุญ และอิ่มสุขเสียจริงๆ แต่เราก็ไม่ได้คิดจะขอพรจากพระท่านแล้วรอให้สมหวังอย่างเดียวหรอกนะ เพราะเราก็ตั้งใจและตั้งมั่นที่จะทำความดี เป็นคนดีด้วยเช่นกัน เพื่อผลบุญจะได้หนุนนำให้ประสบพบเจอแต่สิ่งที่ดีงามในชีวิตต่อไป

เรื่องและภาพจาก ผู้จัดการออนไลน์
เสียงประกอบ //www.palungjit.com/




Create Date : 18 ธันวาคม 2553
Last Update : 31 ธันวาคม 2553 16:09:56 น. 0 comments
Counter : 1187 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

atruthoflife10
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




กลับคืนสู่ธรรมชาติ ด้วยสุขภาพที่ดีกว่า

ไตรลักษณ์
เกิดขึ้น 26 พ.ย.2553

ดับไป....???

Friends' blogs
[Add atruthoflife10's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.