บางครั้งโลกแห่งความจริงไม่สวยงาม...เฉกเช่นความฝัน แต่รู้สึกและจับต้องได้
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
6 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
ผู้สละโลก(11)...ไปตายดาบหน้า








ธรรมลิขิตโดย อ.วศิน อินทรสระ
ธรรมบรรยายโดย มูลนิธิธรรมสันติ


"อันว่าบุคคลผู้เดินอยู่ในที่มืด ใครมีแสงสว่างในมือเท่าใด ก็เห็นความจริงที่ปรากฏเฉพาะหน้าได้เท่านั้น คนที่มีแสงสว่างน้อย ก็เห็นได้น้อย และเห็นได้เฉพาะวัตถุหยาบ ผู้มีแสงสว่างมากก็เห็นได้กว้างไกล และแม้วัตถุละเอียดก็พอมองเห็นได้ฉันใด ในโลกสันนิวาส อันมืดมิดด้วยโมหะนี้ก็ฉันนั้น ผู้ใดมีแสงสว่างคือปัญญาน้อย ก็ได้เห็นความจริงของชีวิตน้อย ผู้มีปัญญามาก ลึกซึ้งกว้างขวาง ก็ได้เห็นความจริงของชีวิตมาก" วศิน อินทสระ

ผู้สละโลก เป็นเรื่องราวของพระอริยะสาวกหลายท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระอัครสาวกเบื้องขวา พระสารีบุตร และพระอริยะสาวกเบื้องซ้าย พระโมคัลลานะ พระราหุล ผู้เป็นพุทธชิโนรสขององค์ศาดา นอกจากนั้นยังมี พระมหากัสสปะ, พระรัฐปาละ, และพระมหากัปปินะ
เป็นเรื่องราวการสละโลกียสุข ของผู้มีใจเด็ดเดี่ยว ถึงแม้จะเป็นการเสียสละที่ทำได้ยาก ทั้งนี้เพื่อเผยแพร่คำสอนของพระพุทธองค์ไปยังผู้ที่มีดวงตาเห็นธรรม......ทัศนะ

ประวัติของท่านพระปุณณมันตานีบุตร โดยย่อ

ผู้เป็นเลิศในบรรดาพระธรรมกถึก

ท่านพระปุณณมันตานีบุตร เป็นบุตรพราหมณ์มหาศาล ในบ้านพราหมณ์ ชื่อว่า โทณวัตถุ ไม่ห่างไกลจากกรุงกบิลพัสดุ์ เดิมชื่อ "ปุณณ" เรียกนามตามที่เป็นของนางมันตานีพราหมณี ว่า ปุณณมันตานีบุตร ปุณณมาณพเป็นหลายของท่านพระอัญญาโกณฑัญญะ เพราะนางมันตานีพราหมณีผู้เป็นมารดาเป็นน้องสาวของท่าน การที่ปุณณมาณพจะได้เข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา ก็เพราะอาศัยพระอัญญาโกณฑัญญะผู้เป็นลุง เป็นผู้ชักนำมาให้บวชในเมื่อพระบรมศาสดาประทับอยู่ ณ กรุงราชคฤห์ ท่านได้ไปสู่กรุงกบิลพัสดุ์ให้ปุณณมาณพผู้เป็นหลายชายบวชในพระพุทธศาสนา ครั้นพระปุณณะบวชแล้วไปอยู่ในประเทศชื่อ ชาติภูมิ บำเพ็ญเพียรไม่นามนัก ก็ได้บรรลุพระอรหัตผล

ท่านพระปุณณะตั้งอยู่ในธรรม ๑๐ อย่าง คือ
๑. มักน้อย ๒. สันโดษ ๓. ชอบสงัด ๔. ไม่ชอบเกี่ยวข้องด้วยหมู่ ๕. ปรารภความเพียร ๖. บริบูรณ์ด้วยศีล ๗. สมาธิ ๘. ปัญญา ๙. วิมุตติ ๑๐. ความรู้เห็นในวิมุตติ

แม้เมื่อมีบริษัท ท่านก็สั่งสอนให้ตั้งอยู่ในคุณธรรมสิบประการ ครั้นต่อมาภิกษุที่เป็นบริษัทของท่านลาไปเฝ้าพระบรมศาสดา ทูลพรรณนาคุณพระอุปัชฌาย์ของตนว่าตั้งอยู่ในคุณธรรมสิบประการนั้น และสั่งสอนให้บริษัท ตั้งอยู่ในคุณธรรมสิบประกานนั้นด้วย ในเวลานั้น ท่านพระสารีบุตรนั่งอยู่ ณ ที่นั้น ได้ยินภิกษุเหล่านั้นทูลพรรณนาคุณของพระปุณณะ มีความประสงค์อยากจะรู้จักและสนทนาด้วย เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จมาเมืองสาวัตถีแล้ว ท่านพระปุณณะมาเฝ้า พอหลีกไปจากที่เฝ้าแล้ว พระสารีบุตรทราบข่าว จึงเข้าไปหาสนทนาปราศรัยกันแล้ว ไต่ถามถึงวิสุทธิ ๗ ประการ ท่านพระปุณณะก็วิสัชนาชักอุปมาอุปมัยเปรียบด้วยรถ ๗ ผลัด ในที่สุดแห่งการปุจฉาวิสัชนาวิสุทธิ ๗ ประการนั้น พระเถระทั้งสองก็อนุโมทนาภาษิตของกันและกัน

ท่านพระปุณณมันตานีบุตรนั้น อาศัยความที่ตนตั้งอยู่ในคุณธรรมเช่นใดแล้ว สอนผู้อื่นให้ตั้งอยู่ในคุณธรรมเช่นนั้นด้วย พระบรมศาสดาจึงยกย่องสรรเสริญว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้เป็นธรรมกถึก ท่านดำรงชนมายุสังขารอยู่สมควรแก่กาลแล้ว ก็ดับขันธปรินิพพาน


dhammathai.org



Create Date : 06 ธันวาคม 2553
Last Update : 22 ธันวาคม 2553 19:42:27 น. 0 comments
Counter : 428 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

atruthoflife10
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




กลับคืนสู่ธรรมชาติ ด้วยสุขภาพที่ดีกว่า

ไตรลักษณ์
เกิดขึ้น 26 พ.ย.2553

ดับไป....???

Friends' blogs
[Add atruthoflife10's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.