|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
รักเอย(7)...ฆ่ามันด้วยมือเรา
หากรู้สักนิด ว่าบ้านหลังนี้อีกไม่ช้าจะพังถล่ม เราคงจะไม่กุลีกุจอหอบข้าวหอบของ เข้าไปอยู่อาศัย
หากรู้สักนิด ว่าคู่ชีวิตอายุสั้น คงจะมีคนจำนวนมากที่ไม่ยอมแต่งเพื่อรอเป็นม่าย
หากรู้สักนิด ว่าคนที่เรา "กำลังจะ" รัก "กำลังจะ" มอบหัวใจให้หมดทั้งสี่ห้อง อีกไม่นานจะทุพพลภาพ พึ่งตนเองไม่ได้ตลอดชีวิต เราคงไม่ยอมหรอกที่จะกล้ารัก รอเป็นทาสรับใช้ในอนาคต
หากรู้สักนิด ว่าคนรักที่แสนดีขณะนี้ จะมีนิสัยเลวชั่วในภายภาคหน้า ไม่รักลูกรักครอบครัว เราคงยอมอกหัก ตัดรักเดี๋ยวนี้ ดีกว่าจะเสียน้ำตา ณ เบื้องกระโน้น
การหัดมองชีวิตในแง่ร้าย มิใช่สิ่งเสียหาย เรามองมิใช่เพื่อให้หวาดกลัว ตื่นตระหนก แต่เพื่อให้หัด "ทำใจ" ในสิ่งไม่คาดฝัน โลกนี้ไม่เที่ยง มีกฎไตรลักษณ์เป็นผู้ครอบครอง สรรพสิ่งไม่สามารถคงอยู่นิรันดร์ มีการปรวนแปรเป็นปกติธรรมดา
ความพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ความไม่ประสบสิ่งที่รัก เป็นของเกิดคู่กับโลก ผู้มีรัก แน่นอนที่จะต้องมีทั้งหัวเราะและร้องไห้ ใครรักทั้งเสียงหัวเราะและร้องไห้ก็ไม่ว่ากัน เพราะชีวิตเป็นกรรมสิทธิ์ของแต่ละคน แต่หากเบื่อหน่าย ไม่อยากทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ ก็เห็นจะต้อง "ฆ่ามันด้วยมือเรา" !
เมื่อกามราคะสุกงอม ในบทบาทหนึ่ง มันก็จะหยาบคายก้าวร้าว และในอีกบทบาทหนึ่งนั้น มันก็จะสุภาพและอ่อนโยน ใคร ๆ ต่างก็เรียกมันว่า "ความรัก"
แต่หารู้ไม่ว่า มันเป็นเสียงมายาบทหนึ่งแห่งกาเม ใครหนอจะกล้าพูดว่า รักเพราะใคร่ ทุกคนต่างก็เชื่อมั่นว่า รักเพราะรัก บทบาทแห่งจิตจึงยอกย้อน และเจ้าเล่ห์จนแม้เจ้าของชีวิต ก็ตามไม่ทัน ความใคร่จึงถูกสวมหน้ากากกลายเป็นความรัก
แต่มีอะไรหนอที่จะเที่ยงแท้ในสังสารวัฏอันกว้างใหญ่ เกิดมาแล้วก็จากไป ดั่งพยับแดดและเกลียวคลื่น เราพบกัน คุยกันหัวเราะกัน แล้วทุกอย่างก็ตกอยู่ในความมืด และในความเงียบอันกว้างใหญ่ไพศาล
โลกหนอโลก จะเอาอะไรกันนักหนา การเดินทางของชีวิต คล้ายดุจนั่งอยู่บนรถเมล์ ต่างเมื่อถึงที่หมายก็ทยอยลง แต่สำหรับผู้มีความออดอ้อนแห่งอัตตา ยังมีความโพรกเพรกในหัวใจ เขาก็จะแสวงหา จะเกาะเกี่ยวผู้โดยสารข้างเคียง นะ...นะ...จ๊ะ...จ๊ะ...จ๋า...จ๋า... และสุดท้ายรถเมล์ก็จะเหลือแต่ความว่างเปล่า ไม่มีใครคนนั้นที่ฝันถึง ไม่มีใบหน้าอันงามสง่า ไม่มีรอยยิ้มพิมพ์ใจ ไม่มีดวงตาหวานซึ้งแบบนั้นอีกต่อไป
โอ ! ชีวิต สำหรับผู้หลงเกาะเกี่ยว ช่วงเจ็บปวดสิ้นดี มีอะไรบ้างไหมหนอ ที่ไม่รู้จักการพลัดพราก อย่าไปเกาะอยู่เลยสหาย พรากออกเสียแต่เดี๋ยวนี้ ดีกว่าจะต้องไปพรากในวันต่อไป
เพราะหากเป็นวันนี้ มือของเรานี่แหละ คือผู้ลิขิต แต่ถ้าเป็นวันข้างหน้าธรรมชาติแห่งชีวิต จะเป็นผู้แยก ให้ทั้งเราและเขา หลุดออกจากกัน แน่นอน มันย่อมไม่แยกอ่อนโยนหรือทะนุถนอม แต่มันจะฉีกเราทั้งสองให้สาดกระจาย
ด้วยความทรมาน ด้วยความปวดร้าว พรากเสียแต่วันนี้เถิด สหายแห่งเรา ยังไม่สายเกินไป อย่าเสียดาย อย่าพะวง ถึงรอยยิ้ม... ถึงใบหน้า... ถึงดวงตา... ถึงนิสัยใจคอของเขา เพราะอีกไม่นาน มันก็จะผุกร่อน แตกสลาย สูญหายไปกับแผ่นดิน แผ่นน้ำ และแผ่นฟ้า โลกนี้มีแต่ความแปรปรวน ชีวิตเกิดมาแล้วก็ตายจาก แยกจากกัน ไยจึงให้ความรักมาผูกพันให้ปวดร้าวเล่นอยู่ทำไม ?
จากกัลยาณมิตร(วิราคา)
Create Date : 02 ธันวาคม 2553 |
Last Update : 28 ธันวาคม 2553 22:17:40 น. |
|
0 comments
|
Counter : 516 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|