บางครั้งโลกแห่งความจริงไม่สวยงาม...เฉกเช่นความฝัน แต่รู้สึกและจับต้องได้
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
29 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 
รักเอย(3)...ดอกไม้บานชั่วแล่น








ไม่มีใครสักคนเดียว ที่จะไม่ถูกบรรยากาศโลกครอบงำมาตั้งแต่กำเนิด เติบโตขึ้นด้วยความรู้ไม่เท่าทันมายาโลก จึงล้มลุกคลุกคลานอยู่กับความซ้ำซากเก่า ๆ ที่เป็นมาหลายชั่วคนเต็มที โดยไม่รู้จักเบื่อหน่าย ไม่รู้จักหลาบจำ ไม่รู้จักเข็ดหลาบ

ชีวิตแล้วชีวิตเล่าที่เกิดมาแล้วก็ตายไป วนซ้ำเวียนซาก ตามแบบฉบับรูปรอยชีวิตเดิม ๆ แม้จะเริ่มรู้สำนึกบ้าง ก็ไม่ยอมทำความกระจ่างชัด ปล่อยให้รอยโครอยเกวียนหมุนไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็คือของเก่าที่ลงเอยด้วยความเน่าเฟะมานานหนักหนา

อนิจจา ! ดวงตาที่มืดบอด ย่อมเห็นกงจักรเป็นดอกบัวตลอดชั่วกาลนาน ความประมาทในวัย หลงพลังแห่งความเป็นสาวในช่วงสั้น ๆ ย่อมถล่มทลายเส้นทางเดินของชีวิตให้ปรักหักพังพินาศไปได้ในชั่วพริบตา
บนเส้นทางชีวิตจากลมหายใจครั้งแรกในจนถึงครั้งสุดท้าย จากเด็กทารกไปจนถึงวัยชรา นับว่าสั้นแสนสั้น เผลอไปขณะหนึ่งเด็กน้อยก็เริ่มเดินได้ เผลออีกขณะหนึ่ง ร่างกายก็เริ่มแตกขยายเสียงแตกพร่า เผลออีกครั้งผมก็เริ่มหงอก เตรียมเดินทางเข้าสู่วัยชรา...แล้วก็ตายไปเร็วราวกับความฝันในยามดึก เร็วราวกับการสะบัดผมเพียงครั้งหนึ่งครั้งหนึ่ง แต่ในช่วงชีวิตอันสั้นแสนสั้น วัยแห่งดอกไม้บานสีสันสดสวย หยอกล้อกับเหล่าภุมริน ยิ่งกลับสั้นแสนสั้นยิ่งกว่านั้น

หากชีวิตคือการเดินทางของดวงตะวัน จากขอบฟ้าตะวันออกหมุนข้ามไปสู่ตะวันตก ชีวิตช่วงดอกไม้บาน ความรักกำลังปรี่ล้น ก็เปรียบราวกับน้ำค้างที่เกาะตามใบไม้ใหญ่น้อย สะท้อนแสงแวววับชวนเคลิบเคลิ้มในยามเช้า แต่อีกเพียงประเดี๋ยวภาพนั่นก็จะพลันหาย เหลือแต่ควันไอกระจายไปทั่ว

ชีวิตนั้นก็เหมือนฤดูกาล หมุนเวียนเปลี่ยนกันไป ความรักที่เริ่มกู่ร้องเมื่อวัยแตกเปลี่ยว ก็ราวกับลูกเห็บที่หล่นใส่หลังคา นาน ๆ จึงจะมีสักครั้ง...สักครั้ง

แต่ก็น่าแปลก ที่แม้วัยแห่งการหาคู่สืบพันธุ์ อันใครๆ พากันเรียกอย่างเพราะพริ้งว่า "วัยแห่งความรัก" จะเป็นช่วงชีวิตที่สั้นแสนสั้น ทุกคนต่างก็ต่อสู้แย่งชิงยอมสละแม้กระทั่งชีวิตอันเป็นที่รัก เพื่อหวังเป็นเจ้าของครอบครอง ต่อให้เลือดเนื้อถูกเชือดเฉือนออกเป็นชิ้น ๆ ทุกคนต่างก็ยอมลงทุน ทุ่มทุนอย่างไม่อั้น ด้วยคิดว่าคุ้มแสนคุ้ม แต่หลังจากนั้น เขาก็พบว่า การลงทุนครั้งกระโน้น มันช่างไร้แก่นสารเสียนี่กระไรความหิวกระหายแห่งกามตัณหา บ้างปั่นป่วนราวกับทะเลบ้า บ้างพับเพียบเรียบร้อยประดุจผ้าแพรรีด แต่ภายในกลับกู่ร้องโหยหวนอย่างซุกซ่อน ด้วยเขาต่างคิดว่า สิ่งนี้ขาดไม่ได้

เมื่อมีชีวิตก็ต้องมีกามตัณหาประดุจเงาตามติด แต่ยามบำบัดสมอยาก อารมณ์กลับสงบราบเรียบ จิตเริ่มแจ่มใส ได้คิด แค่นี้...แค่นี้เองหนอกามตัณหา มิเห็นรุนแรงน่าหวาดหวั่นมีสาระเท่าใด แต่ถึงคิดได้ก็สายเกินไปเสียแล้ว สายใย สายสัมพันธ์เกาะเกี่ยว ได้งอกงามผูกพันชีวิตต่อชีวิตไว้อย่างเหนียวแน่น และแข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าเหล็กศิลา ทะเลแห่งตัณหา เข้าง่าย แต่ออกยาก

หน้าที่-สำนึก-มโนธรรม ถูกกระชากขึ้นขี่หลังเสือลงไม่ได้ ทุก ๆ อย่างเลยตามเลย มิหวนกลับ ปล่อยให้สายใยแห่งความผูกพันเกี่ยวกระหวัด รัดคอ รัดขา รัดร่างกาย ยากจะดิ้นน่าหัวเราะ ชีวิตอันหยิ่งทระนงหลงภาคภูมิ แต่แล้ววันหนึ่งกลับยอมสยบ สยบแทบเท้าให้กับชีวิตอีกชีวิตหนึ่ง ที่ยากจะซึ้งกระจ่างในกำพืด

โอหนอ ! ก็ขนาดเราเองยังไม่กระจ่างตัวเราเองเลย...อนิจจา !
ดอกไม้บานแล้ว ภุมรินบินว่อน อีกไม่นานดอกเริ่มเหี่ยวโรย ชีวิตนี้สั้นนัก จะทำอะไรได้สักกี่อย่างก็พลันจาก แต่แม้สั้นขนาดนี้ กลับอุตส่าห์พลีถวายวางแทบฝ่าเท้าจอมกามเทพ ขอเป็นทาสผูกพันตลอดกาล ที่ต่อแต่นี้อย่างพึงหวังอิสระเสรีในทุ่งกว้าง

นกสองตัวเมื่อผูกขากัน ด้วยต่างหวังจะบินทะยานสู่ฟากฟ้า มันช่างเป็นชีวิตตลกอันแสนเศร้า เป็นไปได้อย่างไรกันนอกจากฝันเพ้อ เราจะประคอง เราจะช่วย เราจะฟันฝ่า เราจะให้กำลังแก่กันและกัน ฝันเถิด ทุกคนมีสิทธิจะฝัน แต่มันจะเป็นจริงไปได้หรือไม่ นรกเท่านั้นที่จะรู้...ดวงตะวันอ่อนแสง อีกมินานก็จะลับเหลี่ยมเขา ชีวิตนั้นสุดแสนสั้น บัดเดี๋ยวเกิด บัดเดี๋ยวแก่ บัดเดี๋ยวตาย ยากนักที่สิ่งใดจักหยุดยั้งเดินทาง...ชีวิตล้วนต่างต้องเดินทาง สู่จุดสูงสุดแห่งวิวัฒนาการของชีวิต

ข้ามฝั่งวังวนข้ามฝั่งวัฏสงสาร พลังทุกขุมขน จะต้องปลุกระดมเร่งเร้า ผลักดันชีวิตสู่ความใฝ่ฝัน สูญเสียไม่ได้ ตกหล่นไม่ได้พลังชีวิตจะต้องได้รับการคุ้มครอง และทะนุถนอมเพื่อการนี้ แต่เหตุใดเล่า เหตุไฉนจึงมัวเมาประมาทแบ่งปันพลังสู่ชีวิตคู่ หากมิใช่ความโง่เขลาแห่งจิตวิญญาณ ก็นับว่าเยาะเย้ยหลักธรร พระพุทธองค์ว่าง่ายกระนั้นหรือ ? หยดน้ำค้างพราวพร่าง พลันหายสาบสูญยามสาย โอ ! ชีวิตใกล้ด่วนลับ แต่กลับหลงระเริงมัวเมา ชื่นชมสิ่งมายาข้างทาง ก็ไหนว่าโลกนี้สุดจะทุกข์ ก็ไหนว่าชีวิตนี้สุดจะเศร้า

อยากชนะ อยากเหนือโลก หมดสะอื้น สิ้นน้ำตาแห่งความเศร้าโศก ยืนเด่นท้าทายพายุฝนสายฟ้าอันบ้าระห่ำอย่างอาจหาญ ด้วยรอยยิ้มอันสงบ...สุขเย็น บนเส้นทางสายนี้ มีแต่ความหนาวเย็นเท่านั้น ที่จะฟักชีวิตแห่งโลกุตระให้เติบกล้า ความอบอุ่น เบื้องหลังของมัน ผ่านการมอบจากมือซาตาน ชีวิตต่างชื่นชม แต่ก็ล้วนแคระแกร็น ซูบซีดโอหนอ ! ใครจะรู้ ไฟนรกประลัยกัลป์ล้างผลาญชีวิต ได้แอบแฝงแปลงกายซ่อนเร้นเป็นไฟแห่งความอบอุ่น ที่จะทำให้เหล่าชีวิต อ่อนแอ ! อ่อนแอ ! ปวดร้าว ! มีน้ำตาเป็นอาหาร มีความปรารถนาอันไม่มีที่สิ้นสุดเป็นลมหายใจ

ตัดสินใจเดี๋ยวนี้ เราจะอุทิศตนให้แก่ผู้ใด ไฟจากซาตานอันแสนอบอุ่น หรือไฟแห่งความหนาวเย็น ภายใต้การประทานจากหัตถ์พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ?

จากเพื่อนกัลยาณมิตร(โลหิตะสัจจา)


Create Date : 29 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 28 ธันวาคม 2553 22:24:40 น. 4 comments
Counter : 699 Pageviews.

 
ตามมาอ่านค่ะ


โดย: ขนม-ผิง วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:18:48:54 น.  

 
ขอบคุณน่ะครับ


โดย: ทัศนะ (atruthoflife10 ) วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:17:52 น.  

 
เขียนดีมากซึ้งๆตรงประเด็นที่กำลังเป็นข่าวฮือฮาในสังคมตอนนี้


โดย: ตะเกียงธรรม IP: 182.53.4.84 วันที่: 1 กรกฎาคม 2556 เวลา:13:24:02 น.  

 
ขออนุญาตก๊อปวางหน้าFaceนะค่ะ


โดย: ตะเกียงธรรม IP: 182.53.4.84 วันที่: 1 กรกฎาคม 2556 เวลา:13:26:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

atruthoflife10
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




กลับคืนสู่ธรรมชาติ ด้วยสุขภาพที่ดีกว่า

ไตรลักษณ์
เกิดขึ้น 26 พ.ย.2553

ดับไป....???

Friends' blogs
[Add atruthoflife10's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.