บางครั้งโลกแห่งความจริงไม่สวยงาม...เฉกเช่นความฝัน แต่รู้สึกและจับต้องได้
Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
11 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
ลำนำ(51)…ช้ำแค่ไหนก็จะเดิน








มนุษย์กำลังใฝ่คว้าแสวงหาอะไรกันขวักไขว่
ฉันก็กำลังคิดวิถีทางไปสู่ขอบฟ้าอันไกลลิบ
ยิ่งเดินขอบฟ้าก็ยิ่งหนี ไกลออกไปทุกที
เหนื่อยและเมื่อยล้า หมดแรงแล้วที่จะคว้าเอา

หยุดพักก่อน นั่งนึกตรึกตรองดูการกระทำในอดีต
จุดหมายปลายทางของเราคืออะไรนะ ?
ชีวิตนี้ต้องการอะไร ? เราจะเอาอะไรจากโลก ?
ชีวิตครอบครัวเล็กๆ มีลูกน้อยที่น่ารักหรือ ?
ชีวิตต่อสู้ด้วยความรุนแรงกับอำนาจรัฐหรือ ?
ชีวิตที่สุขุม สงบ อ่อนโยน จนๆ ซื่อๆ แต่เป็นประโยชน์

ฉันได้ตัดสินใจแล้วว่าเอาชีวิต สุขุม สงบดีกว่า
หัวเลี้ยวนี้เลือกได้แล้วด้วยความพิจารณาอยู่
หัวต่อที่จะเดินเล่า เราพร้อมเพียงใด
แปลกจริงหนอ ! ทางสายนี้มีด่านเก็บค่าผ่านด้วย
มองทางเดินร่มรื่น เงียบเหงา สงบวังเวงจัง

เอาละ ตัดสินใจแล้วก็ลองดูสักชาติหนึ่ง
ฉันคิดไว้ว่า ถ้าไม่ดีจริง ชาติหน้าค่อยเปลี่ยนใหม่
เดินไปถึงด่าน มีประตูแคบๆ นายด่านยิ้มอย่างใจดี
ถามว่า : จะไปไหน ทางนี้แน่ละหรือ?
ฉันยิ้มตอบ : จะไป...ด้วยเสียงนิ่มนวล
นายด่าน : หนทางไกล ผู้เดินทางต้องวางสัมภาระไว้ข้างนอก
ฉัน : ห้ามเอาอะไรเข้าไปบ้างละ ?
นายด่าน : ยิ้มอย่างเยือกเย็น ก็ สมบัติและญาติ
ฉัน : นิ่งสักครู่ ตรึกตรองอีกครั้ง
ฉันตอบว่า : ไม่มีปัญหา

นั่นใครวิ่งตามมา เรียกฉันให้หยุดด้วย
เพื่อน : เธอกำลังเห็นแก่ตัวที่สุด ทอดทิ้งอุดมการณ์
: เด็กน้อยตาดำๆ กำลังคอยเธออยู่
: พ่อ แม่ พี่น้องเรียกร้องหาเธอ
: แม่เธอกำลังป่วย เธอคนอกตัญญู
: หัวใจสะท้านเสียววูบ สำนึกความรับผิดชอบครบบริบูรณ์
ได้แต่รำพึงว่า เธอไม่เข้าใจฉัน
ทำอย่างไรได้ ฉันดำเนินชีวิตขบถเสียแล้ว

ฉัน : เพื่อนเอ๋ย ชีวิตเดิมๆ นั้น ไม่มีปัญหาหรอก
ฉันอยู่ได้อย่างสบาย ท่ามกลางไออุ่นและดอกไม้
ดูซิ ! แม้แต่ฟ้ายังร้องไห้ น้ำตาไหลคร่ำครวญ
โลกไร้คุณธรรม คนในโลกจึงโหดร้าย
ฉันจะติดอาวุธแห่งความรัก
เพื่อยิงกระสุนแห่งความเมตตาไปยังสรรพสัตว์
ภารกิจทางโลกมิได้ขาดแคลนนักหรอก
ผู้สืบสานต่อก็หาได้โดยไม่ยาก
ฉันไม่มีสิทธิเรียกร้องให้ใครมาเข้าใจ
มาเห็นใจ มาสรรเสริญ ชื่นชม

แล้วก็วางภาระเดินผ่านด่านเข้าไป
อะไรกันนั่น ! ทางเดินเกลื่อนไปด้วยเศษแก้ว เศษกระเบื้อง
และหนามแหลมจากต้นไม้เลื้อย
ดูเท้า ! ฉันก็ได้ทิ้งรองเท้าเสียแล้ว
คนที่เขาเดินไปก่อนลิบๆ หลายคน
บางคนเดินอย่างสบาย สดชื่นเบิกบาน
แต่ดูคนโน้นซิ เขาหกล้มแล้ว
กระเบื้องบาดเลือดออกแดง
นั่งลงร้องไห้ไม่ยอมเดินต่อ

อีกคนหนึ่ง เดินขากระเผลก ย่องๆ แบบเสียวเท้า
แต่ก็อดทนเดินต่อไป ด้วยความระทม
มีคนเดินสวนออกมา บอกฉันว่า...
กลับไปเถิดนะ ! ด้วยความหวังดี, แล้วจะเสียใจ
ฉันยืนครุ่นคิดอยู่ว่า เอ ! เราจะเดินแบบไหน
ทำไมจึงมีคนเดินอย่างสบาย มีคนบาดเจ็บ ร้องไห้
และมีบางคนหันหลังกลับ

อะไรเป็นเหตุให้แต่ละคนมีพฤติกรรมต่างๆ กัน ?
ไม่เอาละ ขาเป๋ ร้องไห้ ! เอาอย่างคนเบิกบานดีกว่า
แล้วจะทำอย่างไรดีละ เราก็ไม่ใช่ผู้ชำนาญเสียด้วยซิ
จะกลับหลังหันก็ใช่ที่ เพราะมิใช่วิสัย
ยังไม่ได้ทดลองเลย...เอาละนะ
เตรียมอกเตรียมใจ ... ฉันยอมทุกอย่างแล้ว

สติตั้งมั่น ระมัดระวังให้ดี
ค่อยๆ ก้าวอย่างมั่นคง แผ่วเบา ช้าๆ แต่แน่นอน
จิตแน่วแน่ เด็ดเดี่ยว เร่งกำลังต่อสู้ขึ้นมา
ก้าวได้สอง-สามก้าวแล้ว ยังปลอดภัย
มีอะไร เกิดขึ้นแล้วฉันจะบอกท่านต่อไป

ก้าวที่สี่ เอ ! นั่นคนสร้างถนนเขาจับกลุ่มคุยอะไรกันอยู่
มีทั้งผู้เฒ่าและคนหนุ่มสาวด้วยละ
นั่งอยู่ริมถนน นั่นผู้เฒ่าสตรีลุกยืนขึ้น
ชี้มือสั่งงาน พร้อมทั้งบอกบทอยู่
พอเหนื่อยก็เดินไปพักใต้ร่มไม้
สาวน้อยทั้งหลายก็ลุกขึ้นไปทำงานการ
เก็บเศษกระเบื้องจากถนนกองไว้ข้างทาง

แต่มีคนหนึ่งกลับเอาหินทุบกระเบื้องให้แตก
แล้วแอบโยนมาที่กลางถนนอีก น่าแปลกจัง
ทำอย่างนี้ไม่ถูกนี่นา ! ใจร้ายจังเลยละ
เดี๋ยวฉันก็เหยียบถูกเท่านั้นเอง ไม่ถูกต้องเลย
ทำไมเพื่อนเขาไม่ตักเตือนห้ามปราม
หรือว่าผู้นี้มีสิทธิพิเศษอะไร ? ให้เหตุผลไม่ได้
ฉันเองต้องระวังตัวเองให้มากที่สุด

อุ๊ย ! เสียวแปลบที่ใต้เท้าเลือดไหลซึมออกมา
เหยียบเศษกระเบื้องเข้าไปแล้วซิเรา ปวดไม่น้อย
ฉันอดทนเดินทางไปหาคนกลุ่มนั้น
เขาคงจะช่วยเหลือฉันได้แน่
นั่นคนที่ทุบเศษกระเบื้องให้แตกนั้น
ถามฉันอย่างเมตตาว่า..กระเบื้องตำหรือจ๊ะ
คงปวดมากน่าสงสารจัง

เป็นไปได้หรือนี่ที่คำพูดกับพฤติกรรมของเขาไม่ตรงกัน
มายาวีหรือเปล่าหนอ ?
คนเก็บเศษกระเบื้องพูดว่า
เซ่อเซอะซุ่มซ่ามอย่างนี้ก็สมควรแล้วที่จะเจ็บตัว
โธ่ ! ทำไมเขาต้องมาซ้ำเติมว่าฉันด้วยล่ะ
ผู้มีเมตตาท่านหนึ่งมาดูแผลให้ฉัน
ท่านจับเท้าฉันบ่งเศษวัสดุออก ใส่ยาให้อย่างไม่รังเกียจ

โอ ! คนใจดีก็มีอยู่
ท่านช่างเอื้ออารีจริงหนอ !
ท่านไม่พูดมาก แต่มีคนว่าท่านอยู่มาก
ท่านยิ้มน้อยๆ ให้ฉันแล้วกล่าวอย่างสุภาพว่า
"อดทน สังวรระวังให้ดี อย่าเพิ่งเข็ดขยาด
จงเดินช้าๆ ด้วยความสุขุม รู้จักประมาณกำลังของตน

การเดินตามแฟชั่นนั่นไม่ใช่เรื่องจริง
ผู้มีปัญญาแล้วย่อมรู้และเข้าใจตัวเอง
เดินต่อไปเถอะเพื่อให้ถึงที่หมาย
ไม่เดินเวลานี้ วันนี้ ชาตินี้
ก็ต้องเดินเวลาหน้า วันหน้า ชาติหน้า"

ฉันกราบขอบพระคุณท่าน ทำท่าจะเดินต่อไป
ท่านถาม..หายเจ็บแล้วหรือ ?
ฉัน...พอทนได้
ผู้มีเมตตา...นั่งพักผ่อนก็ได้ กายใจพร้อมแล้วค่อยเดิน
ฉันถาม... "ทำไมคนที่นี่ตัวใหญ่จังเลย ?
..ทำไมเขาแกล้งโยนกระเบื้องไปกลางถนน
ทำไมผู้เฒ่าบางคนจึงใช้อำนาจบาตรใหญ่ข่มขู่เด็ก
ในเมื่อทางประตูเข้า เขียนไว้ว่า

ช้า สุขุม อ่อนโยน เบิกบาน หยุด
ไม่เห็นเป็นจริงเลยนี่นา..."
ผู้ทรงปัญญาท่านหนึ่งนั่งฟังอยู่ใกล้ๆ ยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก
ผู้ทรงปัญญา..ที่นี่ไม่ใช่ที่มาเสพย์สุขหรือหลบลมร้อน
..ที่นี่เป็นแหล่งสำรอกพิษร้าย (กิเลส)
..ผู้มีมรรคผลเท่านั้นที่ทนอยู่ได้
..จงฉลาดในการนำเอาพิษร้ายมาทำเซรุ่ม
เพื่อสร้างภูมิต้านทานให้แก่ตนเองยิ่งขึ้น

พฤติกรรมต่างๆ ที่ได้พบเห็นนี้
ผู้ฉลาดก็เรียนรู้ ได้รับประโยชน์จากกิเลสของคน
ผู้โง่เขลาเท่านั้นแหละที่ถือสา ไม่ปล่อยวาง
จงเลิกถามว่า ทำไมเขาจึงเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ?
ถามตัวเองซิว่า ทำอย่างไรเราจึงจะอยู่กับเขาเหล่านั้นได้
เอ้า ! ให้คาถากันหอกปากคมดาบ

จงได้ยินสักแต่ว่าได้ยิน เสียงเป็นเพียงพลังงานรูปหนึ่ง
จงอ่อนน้อมถ่อมตนให้มากที่สุด
เพื่อสลายอัตตา เขาทิ่มแทงหอกมาจะได้ไม่โดน
แล้วท่านผู้ทรงปัญญาก็ลุกเดินออกไป
ฉันนั่งใคร่ครวญคำพูดของท่านอยู่ครู่หนึ่ง
พอจับต้นชนปลายเข้าใจด้วยเหตุปัจจัย
ว่าเพราะสิ่งนั้นเป็นเหตุสิ่งนี้จึงเกิดขึ้น
เอาละ ! ลุกเดินต่อไปดีกว่า นั่งแป้นอยู่นานแล้ว



จากกัลยาณมิตร(ใบบัวบก)
เสียงประกอบ //www.palungjit.com





Create Date : 11 มกราคม 2554
Last Update : 11 มกราคม 2554 18:07:55 น. 0 comments
Counter : 1022 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

atruthoflife10
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




กลับคืนสู่ธรรมชาติ ด้วยสุขภาพที่ดีกว่า

ไตรลักษณ์
เกิดขึ้น 26 พ.ย.2553

ดับไป....???

Friends' blogs
[Add atruthoflife10's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.