|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ลำนำ(40)
สุนทรียภาพนิรันดร์
แม้ว่าจะมีความทุกข์ในชีวิต ชาวพุทธจะไม่เป็นผู้เศร้าโศกต่อสิ่งนั้นจะไม่โกรธหรือขัดใจต่อความทุกข์ ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาความชั่วในชีวิต
ตามทัศนะทางพุทธศาสนา คือความขัดใจหรือความโกรธ ปฏิฆะได้แก่ ความตั้งใจที่ไม่ดีต่อสัตว์ทั้งหมดต่อความทุกข์ทั้งมวล และต่อสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความทุกข์
หน้าที่ของมันคือสร้างฐานแห่งความไม่เป็นสุขและความประพฤติที่เลวดังนั้น จึงเป็นความผิดที่ใจเสาะต่อความทุกข์ ความไม่อดกลั้น หรือความโกรธต่อทุกข์ไม่อาจจะขจัดทุกข์ได้ ตรงกันข้าม มันเพิ่มความยุ่งยากขึ้นทีละน้อยๆ
เพิ่มความเลวร้ายและทำให้สถานการณ์ทรุดลง จนไม่อาจจะยอมได้ สิ่งที่จำเป็นก็คือ ไม่โกรธหรือใจเสาะแต่เป็นการเข้าใจปัญหาของความทุกข์มันเกิดมีมาได้อย่างไร และมันดับได้อย่างไร
และเมื่อนั้น ทำงานด้วยความอดทนด้วยปัญญา ด้วยตั้งใจจริง และพละกำลังมีคัมภีร์พุทธเก่าๆ อยู่สองคัมภีร์คือ เถรคาถาและเถรีคาถาซึ่งบรรจุคำอุทานอันประกอบด้วยความยินดีของบรรดาสาวกของพระพุทธเจ้า
ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงผู้พบสันติและความสุขในชีวิตด้วยคำสอนของพระองค์ครั้งหนึ่ง พระเจ้าโกศลได้ทูลพระพุทธเจ้าว่า ไม่เหมือนสาวกของระบบศาสนาอื่นๆผู้ซึ่งดูแล้วเหนื่อยหน่ายไม่แจ่มใส ซีด เฉื่อยชา ไม่น่าเพลิดเพลิน แต่สาวกของพระองค์
เป็นผู้เอิบอิ่ม รื่นเริง (๑) แสดงออกซึ่งความเป็นผู้ชนะและขยัน (๒) ยินดีชีวิตด้านจิตใจ (๓) มีอินทรีย์อันน่ายินดี (๔) อิสระจากความกลัว (๕) เยือกเย็น (๖) สันติ (๗) และมีชีวิตอยู่ด้วยจิตใจที่แช่มชื่น (๘)
พระพุทธศาสนามีลักษณะตรงกันข้ามกับลักษณะที่เศร้าโศกเสียใจความกลัว และความสนใจที่ทึมๆซึ่งถือว่าเป็นนิวรณธรรมต่อการตรัสรู้สัจธรรม กล่าวอีกอย่างหนึ่งควรสนใจที่จะจำไว้ ณ ที่นี้ว่าความปีติเป็นหนึ่งในบรรดาโพชฌงค์หรือองค์ธรรมเพื่อการตรัสรู้ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่จะต้องปลูกให้เกิดขึ้นในการทำพระนิพพานให้แจ้ง
จากกัลยาณมิตร(ดับลิว ราหุลเถระ) เสียงประกอบ //www.palungjit.com
Create Date : 08 มกราคม 2554 |
Last Update : 8 มกราคม 2554 18:46:30 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1268 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|