Bloggang.com : atruthoflife10 : ธรรมชาติและวัฒนธรรม(56)...ผจญภัยใจสีเขียว เที่ยวธรรมชาติ เมือง"สระแก้ว"

ธรรมชาติและวัฒนธรรม(56)...ผจญภัยใจสีเขียว เที่ยวธรรมชาติ เมือง"สระแก้ว"

ผีเสื้อแสนเชื่องที่ปางสีดา

ต้นฤดูฝนเช่นนี้ ความชุ่มฉ่ำจากน้ำฝนก็ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติต่างๆจำพวกป่าเขาลำเนาไพร แม่น้ำลำธาร น้ำตก ทุ่งหญ้า กลับมาสดชื่น เขียวขจี มีชีวิตชีวาอีกครั้ง

สำหรับที่จังหวัด"สระแก้ว" ชายแดนฝั่งตะวันออกที่ "ตะลอนเที่ยว" ขอแนะนำในทริปนี้ ก็เป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่ยามหน้าฝน มนต์เสน่ห์ของธรรมชาติที่นี่จะเปล่งศักยภาพความงามออกมามากมาย ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบในธรรมชาติได้เดินทางไปสัมผัสชื่นชมความงามกันตามใจปรารถนา

ผีเสื้อนานาพันธุ์ที่ปางสีดา

*ตะลุย 2 ป่าใหญ่ในมรดกโลก

สระแก้วเป็นจังหวัดโชคดีมาก เพราะที่นี่มีผืนป่าใหญ่ที่เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกเขาใหญ่-ดงพญาเย็นอยู่ถึง 2 แห่งด้วยกัน คือ อุทยานแห่งชาติตาพระยา และ อุทยานแห่งชาติปางสีดา

"อช.ตาพระยา" (ต.ทัพราช อ.ตาพระยา) มีลักษณะเป็นที่ราบโอบล้อมด้วยขุนเขา มีความอุดมสมบูรณ์ของพืชพรรณและเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ป่าหลายชนิด อาทิ ช้างป่า เสือ กระทิง วัวแดง เก้ง กวาง และนกมากกว่า 300 ชนิด

จุดเด่นของอช.ตาพระยา คือ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติทำไว้รองรับนักท่องเที่ยวหลายเส้นทาง เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบการเดินป่าศึกษาธรรมชาติ โดยมีสถานที่น่าสนใจอย่าง จุดชมวิวผาแดง เขายักษ์ ป่าสลัดได เป็นต้น

น้ำตกปางสีดา

ส่วน "อช.ปางสีดา" (บ้านคลองน้ำเขียว ต.ท่าแยก อ.เมือง) วันนี้คือผืนป่าใหญ่ที่กำลังมาแรง เพราะเป็นมรดกโลกอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯที่ยังมีธรรมชาติอันพิสุทธิ์ ดึงดูดให้ผู้รักธรรมชาติเดินทางไปค้นหา สัมผัส ในความงาม

อช.ปางสีดา มีไฮไลท์อยู่ที่ "น้ำตกปางสีดา" ที่อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานเพียง 800 เมตร เป็นน้ำตกขนาดกลางสูงประมาณ 10 เมตรไหลลดหลั่นลงมาจากผาหินเป็นชั้นๆ สู่แอ่งน้ำด้านล่าง อีกทั้งยังมีโขดหินให้นั่งชื่นชมความงามท่ามกลางความร่วมรื่นเขียวครึ้มของต้นไม้รอบๆบริเวณ

ใครที่ชอบเดินป่าศึกษาธรรมชาติ อช.ปางสีดา มี "เส้นทางศึกษาธรรมชาติ หัวใจดงพญาเย็น" (ระยะทางประมาณ 2 กม.)ที่มากไปด้วยระบบนิเวศอันหลากหลาย อีกทั้งยังมีนางเอกแห่งป่าปางสีดาอย่าง "ผีเสื้อ" แมลงปีกสวยจำนวนมากบนเส้นทางสายนี้บริเวณชายป่าตรงทางเข้าถนนทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งถือเป็นจุดดูผีเสื้อชั้นเยี่ยมของอุทยานฯ

สำหรับ อช.ปางสีดา มีผีเสื้อนานาพันธุ์กว่า 400 ชนิด จนได้รับฉายาว่าเป็น "เมืองผีเสื้อแห่งผืนป่าตะวันออก" โดยช่วงต้นฤดูฝนไปถึงกลางฤดูฝนราวถือเป็นช่วงเวลาทองในการดูผีเสื้อเลยทีเดียว

นกงู พระเอกแห่งอ่างเก็บน้ำพระปรง

*ยลนกน้ำ ตามนกงู

สระแก้วมีอ่างเก็บน้ำพระปรงหนึ่งในโครงการพระราชดำริ เป็นอ่างเก็บน้ำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด ใหญ่จนแทบจะเรียกว่า"เขื่อน"เลยทีเดียว

"อ่างเก็บน้ำพระปรง" (ต.ช่องกุ่ม อ.วัฒนานคร) เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่นอกจากจะน่ายลไปด้วยทิวทัศน์อันสวยงามแล้ว ยังมีกิจกรรมน่าสนใจให้เลือกทำ อาทิ นั่งเรือ ล่องแพชมทิวทัศน์ ตกปลา เดินป่า และกิจกรรมดูนก ซึ่งอ่างเก็บน้ำแห่งนี้มีนกให้ชมมากมาย ทั้ง นกน้ำ นกป่า นกทุ่ง และนกน้ำขนาดใหญ่ที่ใกล้สูญพันธุ์อย่าง "นกงู" ที่ถือเป็นพระเอกของที่นี่

นกงูหรือนกอ้ายงั่ว มีขนาดลำตัวยาวประมาณ 90 เซนติเมตร ลำคอยาวเรียวดูคล้ายงู ยามล่องเรือเราจะเห็นนกงูเกาะอยู่ตามต้นไม้ ตอไม้แห้ง หรือมันเห็นบินร่อน บินโฉบ บิน take off ตีปีกขึ้นจากผิวน้ำ หรือถ้าโชคดี อาจจะได้เห็นมันว่ายน้ำ ดำน้ำ จับปลา โดยลำตัวทั้งหมดจมอยู่ใต้น้ำมีเพียงส่วนหัวและลำคอที่ชูขึ้นมาเหนือน้ำ มองคล้าย ๆ งูกำลังว่ายน้ำ สมดังชื่อ "นกงู"

แพนำเที่ยวที่อ่างเก็บน้ำพระปรง

*ท่องโลกใต้พิภพ

หลายคนไม่รู้ว่าสระแก้วมีถ้ำน่าสนใจอยู่หลายแห่ง สำหรับถ้ำที่ "ตะลอนเที่ยว" ขอแนะนำ เป็น 3 ถ้ำอันโดดเด่น ใน อ.คลองหาด ประกอบด้วย

ถ้ำแรกคือ "ถ้ำน้ำเขาศิวะ" (บ้านเขาตาง็อก ต.คลองไก่เถื่อน)ที่เหมาะสำหรับผู้รักการผจญภัย และรักธรรมชาติ การเข้าไปชมความงานภายในถ้ำน้ำแห่งนี้ต้องเดินลุยน้ำเข้าไป และเมื่อถึงจุดลึกก็ต้องลอยคอหรือว่ายน้ำ

สิ่งที่น่าสนใจและเป็นกลายเป็นชื่อของถ้ำแห่งนี้คือ หินงอกหินย้อยที่มีลักษณะคล้ายกับแท่นพระศิวะ ซึ่งสวยงามระยิบระยับมาก ถัดมาอีกครึ่งทางจะเห็นหินงอกหินย้อยที่มีลักษณะคล้ายกับงวงช้าง มีน้ำไหลลงมาชาวบ้านเชื่อว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ดื่มแล้วจะช่วยแก้อาการปวดเมื่อยตามตัว

ถ้ำน้ำเขาศิวะ ต้องลุยน้ำเข้าไป

อีกหนึ่งถ้ำที่น่าสนใจ คือ "ถ้ำเพชรโพธิ์ทอง" (บ้านเขาเลื่อม ต.คลองหาด) เป็นถ้ำขนาดกลางอยู่ในภูเขาที่ทอดยาวขนานไปกับพื้นดิน การเข้าไปชมถ้ำต้องเดินทางขึ้นภูเขา ผ่านป่าจันผาที่ชุมชนได้ร่วมอนุรักษ์ปลูกเพิ่มเติมจากเดิมที่กำลังจะสูญพันธุ์ พร้อมชมผืนป่าที่เริ่มพลิกฟื้นให้อุดมสมบูรณ์ดังเดิม นั่งพักเหนื่อยที่ปากถ้ำรับลมเย็นๆที่พัดผ่านช่องเขาเข้าไปในถ้ำ ทำให้ในถ้ำเย็นสบายตลอดทั้งปี

ภายในถ้ำจัดแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน จุดแรกก้าวเท้าสู่ประตูถ้ำเพชรโพธิ์ทอง ที่หันหน้าไปทางห้องโถงใหญ่ จุดที่สองนี้นักท่องเที่ยวจะรู้สึก ถึงอากาศที่เย็นสบายตลอดเวลา มีแสงแดดสาดส่องเข้ามาทางด้านทิศเหนือ จุดที่สามเดินทางสู่ห้องมุขประดับเพชรเป็นห้องขนาดใหญ่ และเป็นจุดที่สำคัญ เป็นที่มาของชื่อถ้ำ มีหินงอกหินย้อยเป็นมุขทรงเจดีย์หรือทรงรูปไข่สีขาว ส่วนจุดสุดท้าย เป็นประตูปราสาทถ้ำเพชรโพธิ์ทอง เป็นพื้นต่างระดับ มีหินปากประตูสีนวลขาวเรียบเนียน มีหินงอกรูปร่างคล้ายพระพุทธรูป

ลวดลายธรรมชาติในถ้ำเพชรโพธิ์ทอง

จากถ้ำทอง ก็มาดูถ้ำเพชรกันบ้าง ถ้ำนี้มีชื่อว่า "ถ้ำเพชรหาดทรายแก้ว" (บ้านเขาเลื่อม ต.คลองหาด) เป็นถ้ำขนาดเล็ก ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อย ที่เกิดจากแนวเขาเดียวกับถ้ำเพชรโพธิ์ทอง แต่จุดเด่นเป็นถ้ำที่มีหน้าผาสูงประมาณ 25 เมตร และมีกิจกรรมโรยตัวจากหน้าผาดึงดูดนักผจญภัยให้เดินทางมาที่นี่ หินงอกหินย้อย เพดานถ้ำและผนังถ้ำสวยงามด้วยหินทราย เมื่อใดมีแสงตบกระทบ จะเกิดการสะท้อนเป็นแสงระยิบระยับ รูปร่างแปลกตา

กิจกรรมโรยตัวในถ้ำเพชรหาดทรายแก้ว

*สัมผัสอันซีนแผ่นดินยุบ

สระแก้ว จังหวัดนี้มีแหล่งท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์ขึ้นชื่ออยู่หนึ่งแห่ง นั่นก็คือ ละลุ (บ้านคลองยาง ต.ทัพราช อ.ตาพระยา)หนึ่งในความแปลกประหลาดน่าทึ่งของธรรมชาติ

"ละลุ" เป็นภาษาเขมร แปลว่า ทะลุ ในภาษาไทย เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากการยุบตัวและพังทลายของดิน ก่อนถูกลม ฝน กัดเซาะ เป็นเวลายาวนาน เกิดเป็นเสาดินรูปร่างแปลกตาบนพื้นที่รวมกันถึง 60 ไร่(ข้อมูลจาก อสท. ฉบับที่เดือนส.ค.46) ได้รับฉายาว่าเป็น“แคนยอนเมืองไทย”(ลักษณะคล้าย แพะเมืองผี จ.แพร่ โป่งยุบ จ.ราชบุรี เสาดินนาน้อย จ.น่าน)

ละลุ อันซีนไทยแลนด์ขึ้นชื่อแห่งสระแก้ว

สำหรับการเที่ยวชมละลุ ชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านที่นี่จะจัดให้นักท่องเที่ยวนั่งรถอีแต๊ก แล้วพาไปจอดในลานละลุ ที่มีป้ายเขียนว่า "ละลุ ดินแดนมหัศจรรย์" เพื่อให้เราเดินเท้าชมละลุอย่างใกล้ชิดและทั่วถึง ซึ่งเทคนิคการชมละลุให้สนุกก็คือ ต้องคอยจินตนาการว่าดินตรงจุดนี้มีรูปร่างคล้ายอะไร เหมือนอะไร เพราะเจ้าละลุที่เห็นนั้นมันเป็นประติมากรรมธรรมชาติชวนพิศวงรูปร่างแปลกตาจำนวนมาก ชวนให้จินตนาการไปตามรูปลักษณะของละลุแต่ละก้อน แต่และแท่ง แต่ละแผง ไม่ว่าจะเป็น กำแพง หอคอย ปราสาท สัตว์ประหลาด ปะการัง เจดีย์ เป็นต้น

ยิ่งช่วงหน้าฝนเช่นนี้ ยิ่งช่วยสร้างบรรยากาศในการชมละลุในน่าเพลิดเพลินยิ่งขึ้น เพราะในพื้นที่ละลุมีแปลงนาข้าวเขียวขจีอยู่ด้วย ในขณะที่ 2 ฟากฝั่งในเส้นทางนั่งรถอีแต๊กไปชมละลุนั้นก็น่ายลไปด้วยทุ่งนาข้าวเขียวขจีเช่นกัน

นั่งอีแต๊ก ชมละลุ

และนั่นก็คือมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติในจังหวัดสระแก้วที่รอคอยให้ผู้สนใจไปเที่ยวชม ภายใต้ข้อแม้และกฎกติกาว่า ต้องไม่ทำลายธรรมชาติ ฝากไว้เพียงรอยเท้า เก็บมาเพียงภาพถ่ายและความทรงจำที่มีต่อจังหวัดชายแดนแห่งนี้

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สอบถามข้อมูลที่พัก การเดินทาง และสถานที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติมในจังหวัดสระแก้วได้ที่ ททท.นครนายก(ดูแลพื้นที่สระแก้วด้วย)โทร.0-3731-2282, 0-3731-2284

เรื่องและภาพจาก ผู้จัดการออนไลน์
เสียงประกอบ //www.palungjit.com/

Create Date : 08 มกราคม 2554

Last Update : 8 มกราคม 2554 15:16:11 น.

0 comments

Counter : 1645 Pageviews.