บางครั้งโลกแห่งความจริงไม่สวยงาม...เฉกเช่นความฝัน แต่รู้สึกและจับต้องได้
Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
4 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
รักเอย(34)...ถ้าคิดจะรัก(6)-คนนึงรักมากมาย อีกคนทำไมน้อยลง?






วันเวลาที่ผ่านมา ชั่วระยะเวลาหนึ่งของชีวิต ผู้คนมากมายผ่านเข้ามา บางคนผ่านมาเพียงเพื่อจะผ่านไป แต่กลับบางคนกลับไม่เป็นเช่นนั้น... จากคนแปลกหน้า กลายเป็นคนรู้จัก คนคุ้นเคย ล่วงเลย ไปถึงกลายเป็นคนรักกัน

เวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน สถานภาพทางความรู้สึกของเราก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย บางคนยังคงความเป็นคนแปลกหน้ายังรักษาระยะห่างของการเป็นคนรู้จักคนคุ้นเคย หรือ คนรักกันไว้ได้อย่างคงที่… บางคน เปลี่ยนแปลงจากคนแปลกหน้า กลายเป็นคนคุ้นเคย… จากคนเคยคุ้น กลายมาเป็น คนรักกัน ....

ทำลายระยะห่างของความรู้สึกให้สั้นลงอย่างรู้สึกได้ … และเมื่อนั้น เรื่องราวดี ๆ สวยงามทางความรู้สึกจึงเกิดขึ้น ... แต่ในทางกลับกัน...

ระยะห่างของบางคน อาจห่างไกลออกไปจนสุดหูสุดตา จากคนเคยรัก คนเคยคุ้น ....กลายเป็นแค่คนเคยรู้จัก ... กลายเป็นคนแปลกหน้าทางความรู้สึกไป ...

แน่นอนว่า ระยะห่างของคนรู้จัก กับ คนรัก ย่อมไม่เท่ากันเป็นแน่ แต่นั่นแหละ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปได้เสมอ... ฉันเชื่อในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของเวลา พอ ๆ กับเชื่อในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของความรู้สึก... ไม่มีมาตราวัดใด ๆ ที่จะใช้วัดระยะห่างของความรู้สึกได้ และระยะห่างในแต่ละสถานภาพทางความรู้สึกในแต่ละคนก็คงจะไม่เท่ากัน...

เราระบุชัดไม่ได้ว่า 1 เท่ากับ 1 ในความรู้สึกของอีกคน 1 ในความรู้สึกของคนหนึ่ง อาจจะเป็น 100 ในความรู้สึกของอีกคนก็เป็นได้ ...

และในเมื่อการคบหากันเป็นปฏิสัมพันธ์ของคนสองคน .... เราจึงมองเห็นความไม่ลงตัว เห็นระยะห่างที่ไม่เท่ากันของคนสองคนได้เสมอ… กับคนบางคน เราอยากเป็นมากกว่าคนรู้จัก เราก็จะพยายามที่จะทำให้ระยะห่างของเรามันสั้นลง

กับคนบางคน เราอยากเป็นน้อยกว่าที่เป็นอยู่ . ...เราก็จะพยายามที่จะทำให้ระยะห่างของเรายาวไกลออกไป... แต่กลับบางคนเรากลับอยากจะรักษา ระยะห่าง ตรงกลาง ไว้ให้คงที่ ไม่ให้ห่างหาย จางหนี หรือ เข้ามาใกล้จนเรารู้สึกอึดอัด....

เคยรู้สึกใช่ไหมว่า ... ขณะที่เราเดินเข้าหา บางคนกลับกำลังเดินหนี กับบางคนเรากำลังเดินหนี บางคนกลับเดินตาม…

กับบางคนเราก็ต้องการระยะห่างประมาณหนึ่ง ไม่ต้องใกล้มาก แต่ไม่ต้องการห่างหายไปไหน... ขณะที่บางคนวิ่งตาม ล้มลุกคลุกคลาน…เจ็บปวดกับระยะห่างของอีกคนที่ทิ้งไว้ตรงหน้า

ขณะเดียวกันกับที่อีกคนก็วิ่งหนี โดยไม่คิดจะหันกลับมามองความเจ็บปวดของอีกคน อะไรก็เกิดขึ้นได้ กับความรู้สึกคน...

เหนื่อยแสนเหนื่อย ล้าแสนล้า ....แต่สุดท้ายก็ยังพยายาม พยายามที่จะยื้อยุดฉุดดึงอยู่เช่นนั้น บางคนปล่อยความรู้สึกของอีกคนไว้ บนความห่าง ห่างจนลับตา ... ไม่เคยหันกลับมามองหรือรับรู้ความเป็นไปของอีกคน ไม่เคยรับรู้ว่า ...

ระยะห่างที่เขาทิ้งไว้อีกคนมันสร้างความเจ็บปวดได้ประมาณไหน แต่ก็มีบางคนที่เหนื่อยล้ากับระยะห่างที่พยายามรักษาไว้เพียงแค่นั้น ไม่ต้องห่างไป แต่ เข้าใกล้กว่านี้ไม่ได้ ... ต้องการเพียงเส้นขนานที่ไม่มีทางมาบรรจบ …

การทำลายระยะห่างของคนสองคนอาจไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ได้ง่ายดายนักสำหรับอีกหลาย ๆ คน… บางคนพยายามมาเกือบทั้งชีวิต....ระยะห่างที่ว่าก็ยังคงห่างอยู่เช่นเดิม.... ขณะที่บางคนอยู่นิ่ง ๆ ไม่วิ่งหนี ไม่วิ่งตาม ปล่อยทุกอย่างให้เป็นหน้าที่ของเวลาไม่เรียกร้องให้เกิดความคาดหวัง ไม่ปล่อยละเลยจนเหมือนชาเฉย… ระยะห่างนั้นกลับขยับเข้ามาใกล้ราวปฏิหาริย์...

เอาใจช่วยสำหรับคนที่กำลังพยายามเดินเข้าหา...ให้อีกคนหันกลับมามองบ้าง ระยะห่างจะได้สั้นลง พยายามต่อไป เพราะวันหนึ่งคุณอาจรู้สึกว่าความพยายามของคุณมิได้ไร้ค่า … ….ร้องขอสำหรับคนที่กำลังเดินหนี

ให้หันกลับมามองความรู้สึกของอีกคนบ้าง เพราะบางทีคุณอาจจะสูญเสียอะไรดี ๆ ไปเพราะระยะห่างที่คุณทิ้งไว้ให้อีกคน เห็นใจกับการรักษาระยะห่างให้คงที่สำหรับบางคน เพราะบางทีมันก็ทรมานมากกว่า การพยายามเดินเข้าใกล้หรือห่างหนี...เสียอีก...

แล้วคุณ ๆ เล่า …เคยนึกย้อนกลับมามอง ระยะห่าง ของคุณกับผู้คนรอบตัวกันบ้างไหม... เคยรู้สึกไหมว่า…บางที ความห่างไกล ...กับ ระยะห่างของความรู้สึกเป็นกลับเป็นตัวแปรผกผันกัน

เคยรู้สึกได้ถึงระยะห่างทั้งที่ตัวอยู่ใกล้ๆ หรือรู้สึกใกล้กันแล้วทางความรู้สึกทั้งที่ตัวอยู่แสนไกล กันบ้างไหม....เคยคิดกันบ้างไหมว่า …ระหว่างคนพยายามเดินหนี คนที่พยายามเดินตาม และคนที่พยายามยังไงระยะห่างกลับเท่าเดิม คนไหนเจ็บปวดไปกว่ากัน...

จาก Mail ฉบับหนึ่ง

เวลาและระยะทางใจ

ค่ำคืนหนึ่งในป่าอันกว้างใหญ่ อากาศอันหนาวเหน็บ มีเม่นอยู่ 2 ตัว ซึ่งทั้ง 2 ต้องการไออุ่นจากกันและกัน มันสองตัวจึงพยายามจะอยู่ใกล้ชิดกัน เพื่อแลกไออุ่นซึ่งกันและกัน

แต่ด้วยตัวที่เต็มไปด้วยหนาม ทำให้มันโดยทิ่มแทง เกิดความเจ็บปวด พวกมันจึงต้องอยู่ห่างกันเพื่อไม่ให้เจ้าหนามนั้นทิ่มแทงให้เกิดความเจ็บปวด แต่ด้วยความหนาวมันจึงเดินเข้าหากันอีกครั้ง

แต่อยู่ในระยะที่ไออุ่นส่งถึงกันและไม่โดนหนามทิ่มแทงเลย และแล้วมันก็รู้ว่า ช่วงเวลาและระยะห่างที่พอดีจะทำให้มันได้รับไออุ่นและความรักที่เหมาะสม

จาก Mail ฉบับหนึ่ง

เมื่อแรกคบกันต่างคนต่างคิดว่าใช่ บางคู่ก็เป็นเช่นนั้น แต่อีกหลาย ๆ คู่ก็ไม่ใช่ แม้แต่ที่คิดว่าใช่ หรือใช่ไปแล้ว ก็หนีไม่พ้นกฏแห่งความเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เมื่อความรักจืดจางลง และไม่เหลือแม้แต่ความผูกพัน บทเพลงแห่งรัก และบทเพลงแห่งความเจ็บปวดจึงเกิดขึ้นมาคู่กันเสมอ ๆ ดังนั้นถ้าคิดจะมีความรัก ก็ต้องยอมรับความเจ็บปวดที่ตามมาด้วย….ทัสนะ





Create Date : 04 มกราคม 2554
Last Update : 4 มกราคม 2554 17:55:29 น. 0 comments
Counter : 520 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

atruthoflife10
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




กลับคืนสู่ธรรมชาติ ด้วยสุขภาพที่ดีกว่า

ไตรลักษณ์
เกิดขึ้น 26 พ.ย.2553

ดับไป....???

Friends' blogs
[Add atruthoflife10's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.