|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
คาถาธรรม(34)...จิตแยบคาบ
ทำอย่างไรเอ่ย ที่เราจะเป็นผู้มีจิตแยบคายขึ้นเสมอๆ เราคบกับสัตบุรุษได้ฟังพระสัทธรรม แล้ว เมื่อฟังพระสัทธรรมแล้ว เราฟังจนเข้าใจ เราฟัง จนเกิดความศรัทธา เกิดความศรัทธาแล้ว เราก็จะต้องลงมือปฏิบัติ เมื่อปฏิบัติเกิดศรัทธา ที่เกิดศรัทธา ก็เพราะมีศีล ที่เกิดศีล ก็เพราะมี พาหุสัจจะ จึงเป็นศรัทธาที่บริบูรณ์ ด้วยองค์นั้น ขึ้นมาอีก เมื่อเกิดศรัทธา มีศีลบริบูรณ์ขึ้นมา มีพาหุสัจจะ พหูสูตบริบูรณ์ ขึ้นมา
เป็นพระธรรมกถึกบริบูรณ์ขึ้นมา เป็นผู้ที่เข้าสู่บริษัทบริบูรณ์ขึ้นมา เป็นผู้แกล้วกล้า อาจหาญ ที่จะแสดงธรรมแก่บริษัท เป็นองค์สมบูรณ์ ของศรัทธาขึ้นมา เป็นผู้ที่ทรงวินัย เป็นผู้ที่รู้จักอยู่สงบ ทำความสงัดได้ และเป็นผู้ที่ได้โดยไม่ยาก โดยไม่ลำบาก ในฌานทั้ง ๔ เป็นผู้ที่มีเจโตวิมุติ มีปัญญาวิมุติอันสมบูรณ์ สิ้นอาสวะ ผู้นั้นแล เป็นผู้ที่เกิดศรัทธา เพราะฉะนั้น องค์คุณแห่งการจะเป็นอาหาร ให้แก่ จิตแยบคายนั้น จึงไม่ใช่เรื่องตื้นเขิน
ผู้ที่จะมีจิตแยบคาย จึงต้องเป็นผู้ที่พบกับสัตบุรุษ ฟังสัทธรรม ฟังสัทธรรมให้เกิดศรัทธา และการเกิดศรัทธา ไม่ใช่เรื่องเชื่อดายๆง่ายๆเท่านั้น จะมีองค์คุณแห่งการเกิดศรัทธานั้น สรุปแล้ว ต้องมีทั้งศีล สมาธิ และปัญญา อันเป็น ญาณทัสนะ ที่เป็นญาณทัสนะ มีวิมุติ อันสมบูรณ์พร้อม จิตเราจะแยบคายขึ้นตามลำดับ แห่งความสามารถ ในการประพฤติ ปฏิบัติขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อจิตแยบคาย เราจะเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ เมื่อเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ เราจึงจะเป็น ผู้ที่มี การสำรวมอินทรีย์ ทั้ง ๖ ได้ดี กายกรรม วจีกรรม มโนกรรมของเรา จึงจะสุจริต พร้อมกระนั้น สติปัฏฐาน ๔ ก็ดี โพชฌงค์ ๗ ก็ดี จึงจะเป็นองค์คุณที่สมบูรณ์ เพื่อความ สู่ความมีวิชชาทั้งสิ้น มีวิมุติทั้งสิ้น สมบูรณ์อย่างสูงสุด
คาถาธรรมจากครูอาจารย์
Create Date : 02 มกราคม 2554 |
Last Update : 2 มกราคม 2554 10:08:54 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1210 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|