บางครั้งโลกแห่งความจริงไม่สวยงาม...เฉกเช่นความฝัน แต่รู้สึกและจับต้องได้
Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
4 มกราคม 2554
 
All Blogs
 

รักเอย(39)...ถ้าคิดจะรัก(11)-ความรักในอีกแง่มุมหนึ่ง









ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับความรักที่พบบ่อยที่สุดอย่างหนึ่งคือ " ถ้ารักกันแล้วเราขาดกันไม่ได้ " ยกตัวอย่างกรณีที่เราจะพบเสมอทันทีที่รู้ว่าคน (ที่เรา) รักจากไปสู่ที่ชอบๆ ...คือไปอยู่กับคนที่เขาชอบมากกว่าเราและที่ชอบของ เขาเป็นที่ไม่ชอบของเรา ไม่ว่าหญิงหรือชายจะเกิดอาการกินไม่ได้นอนไม่หลับ จะเป็นจะตายหลายรายถึงกับ สำเร็จความตายด้วยตนเอง... คิดว่าเป็นการบูชาความรัก

ตัวอย่าง คนไข้สาวรายหนึ่งแฟนหนุ่มมีอันต้องจำพรากจากไป... อยู่กับสาวอื่นแทน เธอพรอดพร่ำรำพันต่อหน้าจิตแพทย์

" หนูไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้ว หนูอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเขา " เธอลืมไปว่าก่อนที่จะมีเขา
เธอก็ยังมีชีวิตอยู่ได้

" หนูรักเขามากค่ะ...คุณหมอขาคุณหมอคงเข้าใจใช่ไหมคะว่าหนูรักเขามากแค่ไหน" ถ้อยคำมากมายพรั่งพรูจากปากของเธอขณะที่กระแสน้ำตาที่คลอเบ้าหลั่ง ล้นท้นท่วม จนกระดาษทิชชูที่มีอยู่ไม่เพียงพอ

จิตแพทย์เริ่มคิดถึงวัสดุผ้าที่มีคุณสมบัติในการซึมซับของเหลวได้มากกว่า...

" คุณเข้าใจผิดเสียแล้วล่ะครับ คุณไม่ได้รักแฟนคุณหรอก
" จิตแพทย์พูดบ้าง หลังจากฟังมานาน

" คุณหมอหมายความว่ายังไง ก็หนูเพิ่งพูดไปแหม่บๆ ว่าถ้าขาดเขาเสียแล้วชีวิตของหนูก็อยู่ไม่ได้ น้ำเสียงเธอแสดงความไม่พอใจ จิตแพทย์พยายามอธิบาย

"สิ่งที่คุณพูดมาทั้งหมดไม่ได้เรียกว่าความรักหรอกครับเขาเรียกว่า...ภาวะกาฝาก ตราบใดที่คุณยังต้องพึ่งใครสักคนเพื่อความอยู่รอดของคุณ คุณก็ทำตัวเหมือนพยาธิ ในลำไส้ของเขา... มันทำให้ชีวิตคุณไม่มีทางเลือกและขาดอิสรภาพ มันกลายเป็นภาวะจำเป็นมากกว่าความรัก "

คนไข้สาวช็อคไปชั่วขณะ นึกว่าจะได้รับคำปลอบใจที่มีคุณภาพสูงกว่า ที่เคยได้จากเพื่อนๆ แต่หมอยังพูดต่อทั้งๆ ที่คนไข้กำลังนั่งนิ่งตะลึงด้วยความมึนงง เหมือนจงใจ " ซ้ำเติม " ปัญญาสู่จิตอันขลาดเขลา

" ความรักที่แท้ต้องมีอิสรภาพ... คนสองคนจะรักกันได้ก็ต่อเมื่อเขาทั้ง สองสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามลำพังอย่างไม่เป็นทุกข์ แต่เขาทั้งสองก็เลือกที่จะใช้ชีวิตร่วมกันเพื่อความสุขที่มากขึ้น "

ฉับพลันทันใดในดวงใจของหญิงสาว... พุทธิปัญญาก็ปรากฏตัวขึ้นอย่างพวย พุ่ง ดวงตาเห็นธรรมเป็นแสงสว่างส่องทางชีวิตให้หลุดพ้นจากหุบเหวห้วงอารมณ์อันมืดมิด...เธอใช้เวลาตั้งสติพักหนึ่ง สีหน้าเริ่มสงบ คิ้วผ่อนคลายขมวดรอยยิ้ม น้อยๆ ปรากฏที่มุมปาก ก่อนเปล่งวาจา

"คำพูดของคุณหมอเปรียบเสมือนแสงตะวันที่สาดส่องทะลุทำลายกำแพงเมฆ หมอกแห่งมิจฉา ทิฐิของดิฉัน บัดนี้ดิฉัน ได้เห็นแล้วซึ่งสัจธรรม ต่อแต่นี้ไปจะขอดำเนินชีวิตที่เหลือตามรอยแห่งพุทธะ...สาธุ "

จิตแพทย์ที่กล้าพูดเตือนสติแทนการพูดประคองใจท่านนี้ คือ Dr.Scott Peck ซึ่งได้เขียนบรรยายเหตุการณ์เรื่องนี้ในหนังสือขายดิบขายดีชื่อ The Road Less Traveled ซึ่งท่านได้ให้แนวคิด เรื่อง "ภาวะพึ่งพิง " (Dependency) ไว้ด้วยความหมายว่า

เป็นภาวะที่เราไม่สามารถดำเนินชีวิตโดยปราศจากการดูแลเอาใจใส่จาก บุคคลอื่น ในภาวะปกติเราอาจต้องพึ่งพิงขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นในกรณีที่เรา ได้รับบาดเจ็บ หรือกำลังป่วยแต่หากเรามีสุขภาพร่างกายที่ดีแล้วยังต้องพึ่งพิงผู้อื่นทางจิตใจ เพื่อช่วยให้ เราเป็นสุขี แสดงว่าสุขภาพทางจิตของเรากำลังย่ำแย่ ่ เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ เวลาที่ผ่านไปจะช่วยเยียวยาบาดแผลให้สมานจนหายสนิท พร้อมภูมิต้านทานทางใจที่มากขึ้น...

คนที่มีสุขภาพจิตดีจะให้ความรักแก่ตัวเองเป็นและดำเนินชีวิตได้โดย ไม่ต้องพึ่งพิงใครแต่อาจพึ่งพาในบางกรณี เพราะคนเราไม่ได้เก่งหรือทำเป็นหมดทุกอย่าง แต่ถ้าคุณถึงขั้น " ขาดเขาไม่ได้ " ...จงอย่าเอาคำว่า " รักเขามากเหลือเกิน " มาลวงหลอกใจตัวเอง ยิ่งต้องถึงคิดฆ่าตัวตาย...ยิ่งแสดงว่า "แม้แต่ตัวเอง ก็ยังไม่รัก "

หลายคนคิดว่าถ้าฉันฆ่าตัวตาย จะทำให้เขารู้สึกผิดกับการกระทำของเขาที่ทิ้งเราไปตั้งวัตถุประสงค์ของกิจกรรมว่า " เขาจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต" ...คิดอย่างนี้ส่วนใหญ่มักตายฟรีปัจจุบันผู้หญิงไทยมีการศึกษา มีการงานและความสามารถไม่แพ้เพศชายไม่จำเป็นต้องอาศัยเพศชายเป็นผู้นำของชีวิต เหมือนหญิงไทยสมัยโบราณ... การอยู่เป็นโสด เป็นหม้าย
หรือหย่าร้างไม่มีผลถึงกับทำให้วิญญาณต้องหลุดออกจากร่าง

ผู้หญิงทั้งหลายจึงสามารถใช้ชีวิตด้วยตนเองได้อย่างมีความสุขและภาคภูมิใจ ในเกียรติของผู้หญิงและหากได้พบชายใดที่เราเห็นว่าทำให้ชีวิตเรามีความสุขมากขึ้นและดี ขึ้นกว่าการ อยู่คนเดียว คุณก็อยู่ในฐานะที่มีโอกาสเลือก...ไม่ใช่จำเป็นต้องเลือก หรือจำใจเลือกเขามาเป็นคู่ชีวิต ขอกล่าวทวนประโยคเดิมที่จิตแพทย์ Dr.Scott Peck พูดกับคนไข้ด้วยภาษาต้นฉบับ

" Love is the free exercise of choice.
Two people love each other only
when they are quite capable of living without each other
but choose to live with each other "

แต่หากคุณรู้สึกว่าจำยาก อาจท่องจำเป็นคำกลอน ร้อยกรองต่อไปนี้ก็ทำให้ง่ายขึ้น

" แม้ต่างคนต่างอยู่ก็อยู่ได้

ถึงห่างไกลใจยังสุขทุกวสันต์

จะอยู่ใกล้หรืออยู่ไกลไม่สำคัญ

แต่ขอเลือกอยู่ด้วยกันฉันและเธอ "

จาก mail ฉบับหนึ่ง
เสียงประกอบ //www.palungjit.com/




 

Create Date : 04 มกราคม 2554
4 comments
Last Update : 4 มกราคม 2554 19:02:01 น.
Counter : 710 Pageviews.

 

ชอบเรื่องนี้จังเลยค่ะ เตือนสติได้ดีจัง
แต่อย่างว่าแหละคนเราบางทีก็ชั่ววูบละนะ
พอคิดได้อาจจะสายไป

พึ่งกลับจาก ตจว เลยมาทักทายช้าไปหน่อย ไปทัวร์อีสานมา 5วัน4คืน หนาว2คืน ไม่หนาว2คืน กลับมาเดี้ยง เจ็บคอเลย

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: aitai 4 มกราคม 2554 21:06:27 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: สาวสะตอใต้ 4 มกราคม 2554 22:14:05 น.  

 

 

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะค่ะ

และขอให้มีความสุขเช่นกันค่ะ

 

 

โดย: Gunpung 5 มกราคม 2554 6:40:50 น.  

 

ขอบคุณที่แวะเข้ามาทักทายครับ

 

โดย: ทัสนะ (atruthoflife10 ) 5 มกราคม 2554 18:09:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


atruthoflife10
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




กลับคืนสู่ธรรมชาติ ด้วยสุขภาพที่ดีกว่า

ไตรลักษณ์
เกิดขึ้น 26 พ.ย.2553

ดับไป....???

Friends' blogs
[Add atruthoflife10's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.