พฤศจิกายน 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
14 พฤศจิกายน 2557

เชียงคาน ขออยู่นานๆได้ไหม ตอนที่ 3 ภูทอก ชมหมอกขาวๆ ดุจปุยนุ่น

18 ตุลาคม 2557

เช้าวันที่้ 2 เราตื่นกันตั้งแต่ตีห้า เพราะมีนัดกับหนุ่มสกายแลป คนเดียวกับที่มาส่งเราที่ที่พักนี่ละ ได้ขอนามบัตรกันไว้ แล้วก็เหมาๆไป 500 บาทค่ะ ไฮโซเว่อร์ 555+ วันนี้เราจะไปสามที่ ดูทะเลหมอกที่ภูทอก แก่งคุดคู้ และวัดพระพุทธบาทภูควายเงิน เขาจะรอจนกว่าเราจะพอใจ ไม่มีจำกัดเวลา ทั้งหมดนี้สามารถขับมอเตอร์ไซต์ไปได้ หรือถ้าจะไปแค่ดูทะเลหมอก สามารถโบกรถสกายแลปไปได้ 100 บาท ไป-กลับ เขาจะรอรับด้วยนะ

ตื่นเช้ามาอากาศเย็นสบายมาก ถึงขั้นหนาว ยิ่งนั่งรถลมโกรกนี่สุดยอด หมอกจางๆอยู่ในซอยในเมืองเลย นั่งไปเรื่อยๆทางค่อนข้างมืดมาก ใครขับรถมาเอง ขอบอกว่าไม่มีไฟทางนะจ้า 

ระหว่างทาง เจอหมอกแบบนี้เลยจ้า ถามว่าตอนที่ไปหนาวมั้ย? บอกเลยว่าไม่หนาว แต่เย็นสบายมากๆ ควรมีเสื้อคลุมใส่ตอนเช้า ถ้าจะนั่งลมโกรกแบบนี้ มีแข็งจ้า



มาถึงปุ๊บ เขาจะให้จอดแค่ตีนภูทอกเท่านั้น จะมีรถกระบะ ดัดแปลงเป็นรถสองแถว พาขึ้นไป ต้องซื้อตั๋ว 25 บาท ไป-กลับ


แสงแรกของเช้านี้




ตอนแรกเราก็ไม่ได้คาดหวังนะว่าจะได้เห็นหมอกในเดือนตุลาคม แต่ก็ว้าว !! มาไม่เสียเที่ยวเลย ได้เจอหมอกนุ่มๆ ปกคลุม จนไม่ให้รถที่วิ่งขึ้นเขามาเลย ปลื้มปริ่มมาก

จากนั้นเราก็กระโดดขึ้นสกายแลป ไปแก่งคุดคู้ต่อ ตอนฤดูหนาวน้ำลง จะมองเห็นเป็นเกาะแก่งสามารถเดินไปเดินมาได้เลย แต่มาปลายฝนต้นหนาว ก็จะน้ำเต็มปริ่มแบบนี้ล่ะจ้า  



ภาพที่เห็นคือมันสวย แต่เราไม่รู้จะถ่ายยังไงให้สวย คงต้องมาดูด้วยตัวเอง

มีล่องเรือพาชมแก่งคุดคู้ด้วยนะ ราคาเท่าไรไม่ทราบจ้า ไม่ได้ใช้บริการนะ




ของฝากขึ้นชื่อของแก่งคุดคู้ คือ มะพร้าวแก้วจ้า แบบเกรดเอนะ อร่อยมาก เป็นแบบนิ่ม อร่อยที่สุดเลย

แล้วก็มาวัดพระบาทภูควายเงินจ้า ทั้งสามที่นี้ เขามีประวัติคู่กันนะคะ อ่านตำนานเชียงคาน แก่งคุดคู้ รอยพระพุทธบาท และภูควายเงิน คลิกที่นี่ ค่ะ

วัดพระพุทธบาทภูควายเงินทางขึ้นจะชันมากๆ แคบมากๆ เขาไม่แนะนำให้ขับขึ้นไปเอง ชันมากจริงๆ จะมีรถให้บริการอยู่ มีเบอร์โทรศัพท์ติดไว้ ที่ต้นไม้ ?? 555+ อ่านไม่ผิดนะจ้า ต้นไม้ (ลืมถ่ายรูปมา) โทรตามได้ จะมีคนลงมารับ ไปกลับ 25 บาทจ้า




วัดนี้จะมีกระต่ายเพียบเลยค่ะ เลี้ยงแบบธรรมชาติ วิ่งไล่กันเหมือนหมาแมว กระโดดโลดเต้น ร่าเริงสุดๆ สามารถซื้ออาหารมาโปรยให้น้องๆกินได้ค่ะ


ขอจบตอนนี้ด้วยภาพน้องกระต่ายนะคะ 

และนี่ก็เป็นการเที่ยวครึ่งวันเช้าของเราค่ะ เหนื่อยเหมือนกันนะ ขนาดไม่ค่อยได้ใช้พลังงานเท่าไร แดดเริ่มมาแล้วก็ร้อนเป็นธรรมดาค่ะ กลับไปพักผ่อนกันก่อน เดี๋ยวจะกลับบ้านแล้วจ้า มีเรื่องระทึกด้วย 555+ เดี๋ยวมาเล่านะ

มาต่อๆ....

  มาพูดคุยเรื่องอาหารการกินบ้าง นอกจากจะทานพวกส้มตำ ต้มแซ่บ ตามแบบฉบับอีสานแล้ว เราก็ได้ลองกินอาหารท้องถิ่นด้วย เป็นการกินครั้งแรก อร่อยกว่าที่คิดไว้นะ นั่นก็คือ ข้าวเปียกเส้น จ้า กินเข้าไป ความรู้สึกแรก คือ ข้าวต้มทรงเครื่อง เปลี่ยนจากข้าวเป็นเส้นเหนียวๆแทน อร่อยอ่ะ ชอบๆ


และขาดไม่ได้เลยคือ ไข่กะทะ ชอบมาก 555+ กินตลอด

อยู่เชียงคาน เราใช้ชีวิตช้าๆ มาก รู้สึกสบายใจสุดๆ กลางวันก็นอนเล่น กินข้าว แล้วก็ปั่นจักรยานชมริมโขง รู้สึกอยากอยู่ต่ออีกสัก 2-3 วันเลยด้วยซ้ำ ยังไม่จุใจเลย





18 ตุลาคม 2557

เราตื่นเช้าๆมาสูดบรรยากาศบริสุทธิ์ริมโขงอีก ว้า ต้องกลับแล้วหรือนี่ ยังอยากอยู่ต่อเลย ไม่วายปั่นจักรยานอีกแล้วจ้า บ้าปั่นกันมาก 555+ จากนั้นเราเก็บข้าวเก็บของออกจากเกสเฮ้าส์ แล้วเรียกพี่สกายแลปไปส่งที่ท่ารถ น่าจะ 30 บาท ถ้าจำไม่ผิด 

ขามา เรามาสองแถว ขากลับ เรากลับรถบัสจ้า ราคา 38 บาท แพงกว่าขามา 3 บาทเอง ข้อดีคือ เร็ว ประมาณ 45นาที - 1 ชั่วโมง ข้อเสียคือ ออกเป็นรอบๆ สิ่งที่เราค้นพบก็คือ มันมาถึงเมืองเลยเที่ยงกว่าๆพร้อมกับสองแถว 555+ เพื่อ???

 Dead Line ของเราคือ 17.00 น. เราต้องไปถึงสนามบินอุดร เพื่อขึ้นเครื่องกลับบ้าน ความฮามันอยู่ตรงที่ เราไปไม่ทันรถ อุดร-เมืองเลย เที่ยว 12.00 น. รถจะออกทุกๆ ต้นชั่วโมง ทำให้เราต้องรอเที่ยว 13.00 น. ลุ้นแบบเยี่ยวเล็ดเลยจ้า ลุ้นทุกป้ายที่จอดเลยจ้า พอใกล้ๆสี่โมงนี่ยิ่งร้อนรน...กลัวไปไม่ทัน จะเกิดอะไรขึ้น !!! แนะนำว่าถ้าไม่อยากฉุกละหุก ออกจากที่พัก สัก 9 โมง น่าจะชิลๆ ไม่ต้องระทึกใจแบบนี้ 

เรานั่งดูแผนที่ในไอโฟนไปด้วย คือ นั่งส่องตลอดว่าอีกกี่กิโลเมตร อีกกี่นาที ถ้าเราไปลงขนส่งอุดร ก็ต้องหารถไปสนามบินอีกซึ่งเสียเวลา!! และอาจไม่ทัน !! เกือบสี่โมงเย็นแล้ว ร้อนรนมากๆ เห็นสนามบินในแผนที่ ก็เลยเดินไปถามพี่คนเก็บตั๋วว่า รถคันนี้ผ่านสนามบินใช่มั้ยคะ?  เลยถามว่าจะช่วยจอดได้ไหม เขาบอกจอดได้ แต่ไม่เข้าไปนะ จอดตรงแยกเข้าสนามบิน ไม่ถึงกิโลร็อก!! เดินได้!! โอเคค่ะพี่ งั้นช่วยจอดหน่อยนะคะ 

พอเราลงมาเท่านั้นแหละ แม้เจ้า!!! เหมือนโดนปล่อยเกาะ มันช่างว่างเปล่า !!! มันโคตรไกลเลยล่ะ ในใจตอนนั้น จะไหวเหรอว่ะ อยู่ดีๆมีรถสวรรค์ส่งมาจอดตรงหน้า เลยถามลุงว่า ลุงๆ ไปสนามบินป่าว ลุงบอกไป นาทีนั้นกี่บาทไม่รู้ แต่รีบขึ้น เพราะ 16.30 น. เห็นจะได้ล่ะ แล้วเราก็ค้นพบว่า มันไม่ไกลนะ แต่มันเดินไม่ได้หรอก แต่ก็มีรถสองแถวผ่านอยู่นะ  ดีๆ ดีกว่าต้องนั่งรถไปถึงขนส่ง แล้วนั่งรถออกมา อ้อมไปอ้อมมานะ ณ ตอนนั้น นอกจากเราจะระทึกเรื่องจะทันหรือไม่แล้ว เศษเงินในกระเป๋ายังหมด ทั้งสองคน วิ่งหาที่กดเงินกันจ้าละหวั่น ลุงก็น่ารักมาก นั่งรอเงินไม่บ่นสักคำ เลยขอถ่ายรูปภาพรถที่สวรรค์ส่งมาหน่อย รู้สึกจ่ายคนละ 30 หรือ 40 บาท ไม่แน่ใจ 



สุดท้ายเราก็ถึงสนามบินอุดรโดยเรียบร้อย และมาก่อนบิน 20 นาที เดชะบุญ เราเช็คอินมาก่อนแล้ว และยิ่งกว่านั้น ไฟลท์ดีเลย์ 50 นาที สรุปว่าโชคดีแบบหวุดหวิดจริงๆ ทริปนี้สนุกมาก ทั้งเพลิดเพลิน ทั้งตื่นเต้น ครบรส 
"การเดินทาง ไม่ใช่แค่ไปหาเป้าหมาย แต่เรื่องราวระหว่างทางต่างหากที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย"

แล้วเจอกันใหม่ทริปต่อไปจ้า...



Create Date : 14 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 17 ธันวาคม 2557 20:55:05 น. 1 comments
Counter : 4972 Pageviews.  

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2557 เวลา:3:41:06 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

I trust Severus Snape
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชอบกิน ชอบเที่ยว ฟังเพลงสากล อ่านหนังสือเด็ก วรรณกรรมเยาวชน เลี้ยงแมว
[Add I trust Severus Snape's blog to your web]