การทำสมาธิ คือการชำระกิเลสในจิตใจ
เบื้องต้น เบื้องกลางจนถึงกิเลสเบื้องลึกในจิตใจ
หลังจากเราเคร่งเครียดกับการงาน
และสภาวะทางสังคมรอบด้าน
จิตใจของเราก็จะวุ่นวายขุ่นมัวเศร้าหมอง
จากสิ่งต่างๆที่เข้ามากระทบ
การทำสมาธิก็เพื่อขัดจัดนิวรณ์ ความกังวล
ความตึงเครียดเหล่านี้ออกไปจากจิตใจ
ทำให้จิตใจของเราสะอาดผ่องใสเป็นปรกติ
ดีต่อหน้าที่การงานดีต่อสังคมส่วนรวม
การทำสมาธินั้น สามารถทำได้
ทุกชื้อชาติ ทุกศาสนาไม่มีการแบ่งแยก
ทุกชาติ ทุกศาสนา ล้วนต้องใช้ สมาธิใช้สติ
ในการทำกิจการงาน ในการดำรงชีวิต
ถ้าหากขาดสมาธิ "ขาดสติ"
ก็จะใช้ชีวิตเป็นปรกติไม่ได้
หรือเรียกว่าคนบ้านั้นเอง
ถ้าหากเราขับรถอยู่แล้วขาดสมาธิ ขาดสติ
ก็จะพากันตายโหงเอา.. จริงไหม..?
ชื้อชาติและศาสนา คือ การสมมุติ เป็นสิ่งสมมุติขึ้นมา
มัน เกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วก็เสื่อมไปตามกาลเวลา
ความจริงคนเราทุกคนก็เหมือนๆกันหมด
ฝรั่งกินเกลือเขาก็ว่าเค็มคนไทยกินเกลือเราก็ว่าเค็ม
มีไหมฝรั่งกินเกลือแล้วว่าหวาน
ไทยกินเกลือแล้วว่าหวาน
ถ้าใครกินเกลือแล้วกว่าหวาน นั้นก็คนบ้าละ
ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็น พุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินดู
ทุกคนล้วนต้องใช้ สติ สมาธิในการงาน
การทำสมาธิสามารถทำได้ทุกเชื้อชาติทุกศาสนา
เพราะ สมาธินั้น"เป็นของกลาง" ไม่ได้แบ่งแยก
๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๙