|
|||
เค้กช็อคโกแลตหน้านิ่มสูตรคุณปูขาเก เซมารู เค้กก้อนนี้เป็นเค้กก้อนแรกในชีวิตเลยค่ะ หลังจากพึ่งถอยเตาอบมาสดๆร้อนๆ รูปร่างหน้าตาอาจจะไม่ค่อยงามเท่าไหร่ ยังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ ถือโอกาสส่งการบ้านคุณปูขาเก เซมารูเลยละกันค่ะ เชิญติชมได้ตามสบายเลยนะคะ ส่วนผสมแป้งเค้ก (ส่วนที่ 1) แป้งสาลีเอนกประสงค์ 3 ถ้วย น้ำตาลทราย 2 ถ้วย unsweetened cocoa powder 1 ถ้วย เบคกิ้งโซดา 2 ชช. เกลือ 1 ชช. (ส่วนที่ 2) น้ำมันพืช 3/4 ถ้วย น้ำร้อน 2 ถ้วย น้ำส้มสายชู 2 ชต. กาแฟผง 1 ชต. เพียววานิลา 1 ชต. ส่วนผสมตัวฟรอสติ้ง เนยชนิดจืด 113 กรัม น้ำตาลทราย 1 1/2 ถ้วย Unsweetened Baking Chocolate 4 ออนซ์ เกลือ 1/8 ชช. เฮฟวี่ครีม(วิปปิ้งครีม) 1 1/4 ถ้วย ซาวครีม 1/4 ถ้วย กาแฟผง 1 ชช. วานิลา 1 ชช. ส่วนผสมแป้งเค้กค่ะ ก่อนอื่นต้องร่อนแป้งก่อนนะคะ แล้วตวงให้ได้ตามสูตร จากนั้นก็เอาผงโกโก้มาร่อนแล้วตวงเช่นกันค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นเม็ดเวลาผสมกัน ช่วงนี้วอร์มเตาอบไว้ก่อนเลยค่ะ เปิดที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ 180 องศาเซลเซียส (แต่ในภาพเปิดแค่ 175 เพราะเชื่อพนักงานขายบอกให้เอา 350 หาร 2 จะได้ 175 ผลคือขนมสุกช้ากว่าปกติมากๆค่ะ ) เปิดทั้งไฟบนและไฟล่าง ประมาณ 20 นาทีค่ะ (ในรูปรู้สึกจะเปิดผิดอีกเหมือนกันแต่รู้ตัวทันเลยรีบปรับเป็นไฟบนไฟล่าง มือใหม่ก็อย่างนี้แหล่ะค่ะ)นำส่วนผสมส่วนที่หนึ่งผสมให้เข้ากันแล้วพักไว้ค่ะ นำส่วนผสมส่วนที่ 2 มาผสม คนให้เข้ากันค่ะ เทส่วนที่ 2 ผสมกับส่วนที่ 1 คนให้เข้ากัน อย่าคนแรงมากนะคะ เดี๋ยวจะเป็นฟองอากาศเยอะ อ้อ! อย่าลืมเตรียมพิมพ์เค้กโดยเอาน้ำมันทาให้ทั่วและเอากระดาษไขลองก้นเค้กนะคะ จะได้เอาเค้กออกจากพิมพ์ง่ายๆ จากนั้นเทใส่พิมพ์ เอาไม้จิ้มฟันคนไล่ฟองอากาศ เอาเข้าเตาอบใช้เวลาประมาณ 35 นาที โดยใช้ไฟบนไฟล่าง(แต่เราใช้เวลาไป 50 นาทีได้ กว่าเค้กจะสุกเพราะเปิดอุณหภูมิเตาผิดไป 5 องศาค่ะ) *พอเตาส่งสัญญาณว่าอบเสร็จแล้ว ลองขยับพิมพ์เล็กน้อย ถ้าเค้กยังกระเพื่อมอยู่ แสดงว่ายังไม่สุก ต้องอบต่อค่ะ แต่ถ้าไม่ขยับแล้ว ลองเอาไม้จิ้มฟันจิ้มดูค่ะ ถ้าไม่มีเนื้อเค้กติดขึ้นมาก็แสดงว่าใช้ได้แล้วค่ะ จากนั้นเรามาทำส่วนฟรอสติ้งกันค่ะ ให้เอาช็อคโกแลตกับเนยจืดมาละลายรวมกัน โดยใช้วิธีตุ๋นค่ะ (อย่าตั้งไฟโดยตรงนะคะ ช็อคโกแลตจะไหม้) ให้ละลายในอ่างผสม แล้วเอาอ่างผสมวางบนหม้อที่มีน้ำต้มอยู่ค่ะ ระวังอย่าให้อ่างผสมโดนน้ำร้อนนะคะ จากนั้นหันมาผสมส่วนผสมที่เหลือโดยตั้งไฟคนจนกว่าน้ำตาลละลายหมด จากนั้นก็เอาส่วนผสมครีมเทใส่ช็อคโกแลตที่ละลายไว้แล้ว คนให้เข้ากัน เท่านั้นก็เรียบร้อยค่ะ เรามาดูขนมเค้กกันบ้าง หลังจากอบอยู่นาน ก็สุกซะที พออบเสร็จให้เอาพิมพ์เค้กกระแทกเล็กน้อยเพื่อให้เค้กอยู่ตัวและวางทิ้งไว้ให้เย็นพักใหญ่ๆค่ะ จากนั้นเอาสเปตูล่าแซะข้างๆพิมพ์และวางคว่ำไว้บนตะแกรง ทิ้งไว้จนเย็น แล้วค่อยราดช็อคโกแลตกันค่ะ ทีนี้เราก็มาราดช็อคโกแลตกันเลยค่ะ โดยใช้สเปตูล่าปาดให้เรียบ (แต่ก็ไม่ค่อยเรียบเท่าไหร่ ผลเลยได้อย่างที่เห็นค่ะ พอดีในตู้เย็นมีสตรอเบอรี่อยู่เลยเอามาแต่งหน้าเพื่อความสวยงามค่ะ เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ ที่เราเลือกทำเค้กช็อคโกแลตสูตรนี้ เพราะดูทำง่ายไม่ยุ่งยากอะไร ส่วนผสมก็หาง่าย มือใหม่หัดทำได้สบายค่ะ แต่ด้วยความกลัวว่าจะทำไม่สำเร็จเลยลองลดส่วนผสมแค่ครึ่งเดียวของเจ้าของสูตรนะคะ เลยได้เค้กครึ่งปอนด์ 2 ก้อนค่ะ สุดท้ายนี้ขอขอบคุณคุณแม่ปูนะคะ ที่ให้คำแนะนำเป็นอย่างดี แวะมาชิมค่ะ blog น่ารักจังเลย :)
โดย: luvammie IP: 203.154.236.2 วันที่: 20 มกราคม 2549 เวลา:15:31:34 น.
โอ๊ย...ดูเหมือนทำง่าย...อยากลองเอาไปทำบ้างจังเลย
แต่สงสัย...ต้องไปถอยตู้อบมาก่อน.... โดย: อยากลองทำบ้าง (จิ้งจอกสาวฝึกหัด ) วันที่: 20 มกราคม 2549 เวลา:15:46:10 น.
ขอบคุณค่ะคุณ luvammie ที่มาแวะเยี่ยมชมบล็อคเราค่ะ
สูตรนี้ไม่ยากจริงๆนะคะคุณจิ้งจอกสาวฝึกหัด ไม่ต้องกลัวว่าจะตีไข่ไม่เข้าที่ด้วย หนับหนุนให้ถอยเตาเลยค่ะ โดย: Trippy วันที่: 20 มกราคม 2549 เวลา:17:57:06 น.
เนื้อเค็กเป็นแบบไหนคะ นุ่มหนุบหนับ รึว่านุ่มฟู ดูเหมือนไม่ค่อยฟูมากนัก แต่ทำง่ายจริงๆน้อ ไว้ลองมั่ง
โดย: น่าน IP: 203.113.36.12 วันที่: 20 มกราคม 2549 เวลา:22:26:05 น.
น่าหม่ำจังค่า มีโอกาสต้องลองสูตรนี้มั่งแย้ว
ปล.บล๊อคสีหวานแหววจัง ชอบค่า โดย: บาบิฯ IP: 58.64.127.106 วันที่: 20 มกราคม 2549 เวลา:22:52:47 น.
ในการอบเค้ก อุณหภูมิเตาอบสำคัญมาก ยิ่งเตาเล็กๆอย่างนี้จะมีปัญหาเรื่องอุณหภูืมิมากค่ะบางทีร้อนเกินไป บางทีก็ร้อนไม่พอต้องคอยระวังเป็นอย่างมากเลยค่ะ
ส่วนคำถาม ปรกติที่แม่ปูทำ ด้านข้างที่เราใช้มีดแซะๆนั้นก็จะมีเศษแป้งเพียงเล็กน้อยติดมาค่ะ ไม่ถึงกับเยิ้ม ตอนเราเอาเค้กออกมานั้น ให้ัพักเค้กให้อยู่ตัวก่อนประมาณ ๑0 นาที ถึงแซะออกจากพิมพ์นะคะ ถ้าตัวเค้กยังเยิ้มอยู่แสดงว่ามีปัญหาในการทำบางอย่างค่ะ(อะไรล่ะ ฮี่ๆ) คำถามที่สอง เค้กที่อบได้มันจะไม่หนืดๆ ไม่เยิ้มค่ะ แต่ว่ากินได้อร่อยก็โอเคแล้วอ่านะ ไม่ได้ถ่ายรูปเนื้อเค้กด้านในไว้เหรอคะ แม่ปูอยากดูว่าเนื้อเนียนหรือเปล่าค่ะ โดย: ปูขาเก เซมารู วันที่: 21 มกราคม 2549 เวลา:0:30:57 น.
my god !!~~
ทำเองหรอเนี่ย ขนาดก้อนแรกนะเนี่ย น่ากินมากมายอ่า โดย: ปลาวาฬทราย IP: 58.10.131.178 วันที่: 31 มกราคม 2549 เวลา:22:28:32 น.
เนื้อเค้กมันจะออกแนวหนุบหนับอ่ะค่ะคุณน่าน
ขอบคุณค่ะคุณบาบิฯ สีบล็อคหวานเหมือนเจ้าของบล็อคเลยนะคะ 55555 แหมขอบคุณคุณปลาวาฬทรายมากๆค่ะ ที่ชม คนทำจะได้มีกำลังใจทำมากขึ้น ตอนนี้ทำเค้กเพิ่มมา 2 สูตรแล้ว แต่ยังไม่ว่างลงบล็อคซักที T_T โดย: Trippy วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:17:37:42 น.
มาทักทายยามบ่ายค่ะ สวัสดีเดือนแห่งความรัก มีความสุขมากๆนะคะ โดย: plezilla (plezilla ) วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:13:56:13 น.
cake น่าทานมากๆ ครับ ถ้ามี pepsi อีกสักแก้วก็แจ๋วเลยk
โดย: =SILVER EYE= IP: 210.86.146.165 วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:15:28:05 น.
แวะมาชิมเค๊กครับ ...
น่าอร่อยนะครับเนี่ย... โดย: Love...Story วันที่: 22 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:38:24 น.
สตอร์เบอร์รี่ กับ ชอคโกแลต
เป็นอะไรที่น่าทานมากๆ ครับ โดย: ้้hamaan1 IP: 117.47.31.24 วันที่: 23 เมษายน 2551 เวลา:12:26:19 น.
|
Trippy
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog Friends Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
1. ตอนที่เค้กอบเสร็จแล้วลองเอาไม้จิ้มเค้กดู เค้กก็ไม่ติดแล้ว แต่ทำไมตอนแซะพิมพ์เค้ก มันยังมีความเยิ้มติดสเปตูล่าอยู่คะ หรือเป็นเพราะว่าเค้กยังร้อนอยู่ ต้องรอให้เย็นตัวกว่านี้ก่อน
2. พอทำอันที่ 2 ก็รอให้เค้กเย็นนานกว่าพิมพ์อันแรก และอบนานกว่าชิ้นแรก พอแซะพิมพ์ก็ยังมีความเยิ้มติดอยู่บ้างแต่น้อยลงกว่าอันแรก พอคว่ำพิมพ์ออกมารู้สึกเค้กด้านก้นก็จะมีความหนืดๆอยู่เหมือนกัน ลองชิมเค้กมันก็สุกนะคะ เลยไม่แน่ใจว่า มันเป็นแบบนี้อยู่แล้วหรือต้องอบให้สุกกว่านี้คะ
รอคำตอบแม่ปูอยู่นะคะขอบคุณค่ะ